บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1074

ตอนที่ 1074

บทที่ 1074 ปลอบใจ

เดิมทีอยากจะเผยธาตุแท้นิสัยของไทเฮา แต่ซ่านจินจื๋อก็ต้องการการปลอบใจ

แต่ตอนนี้นางมานั่งข้างกายซ่านจินจื๋ออย่างฟังความ มองเขาจัดการเรื่องทั้งหมด แล้วยิ่งต้องจัดการขุนนางเก่าแก่ที่สร้างรากฐานอำนาจในราชสำนัก ส่วนในห้องก็มีคนมากมาย ซ่านเชียนหยวนและฉีหรัวก็มายังตำหนักอ๋องจิ้งอย่างองอาจ บอกว่าจะมาปลอบใจอ๋องจิ้ง

กุ่ยเม่ยและโม่ซานก็นั่งคุยกัน เฉิงซานต้องออกไป เพราะต้องจัดการเรื่องคนภายในจวน

กู้อ้าวเวยรู้จักฟังความเช่นนี้ตั้งแต่ตอนไหน……

นางเหลือบสายตาไปมองหนังสือรายงานในมือซ่านจินจื๋อ แล้วก็ฟังเขาพูดกลับมาว่า “ดูไปแล้วมันมีประโยชน์ไหม? เดี๋ยวคืนนี้จะเอาขังไว้”

เสียงไม่ดัง แต่ทุกคนได้ยินหมด

ฉีหรัวก็อดขำออกมาไม่ได้ ก็ไม่คิดว่าจะเรียกนางไปนั่งข้างๆ ด้วย

กู้อ้าวเวยเก็บอาการโกรธ แล้วก็ยกขาเตะซ่านจินจื๋อไป “ข้าไม่นั่งข้างเจ้า”

“เจ้าลองดูสิ” ซ่านจินจื๋อมองขวาง

ก่อนหน้านี้เขาแค่ออกนอกบ้านไม่จัดการเรื่องแล้วไม่ได้กลับ นางก็กล้าที่จะเอาเรื่องโลงน้ำแข็งไปบอกคนอื่น แต่ไม่บอกเขา ต่อมาก็ปรึกษาเรื่องนี้กับโม่ซานและกู้ซวงแต่ไม่ได้บอกเขา ส่วนเขาไปจัดการเรื่องงานแค่สองชั่วยาม นางก็เร่ไปจัดการเรื่องนี้ต่อหน้าท่านแม่

ถึงแม้จะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว และเพราะว่าจะปะติดปะต่อเรื่องราว เอาเรื่องที่ท่านแม่ทำมาต่อกัน แต่สุดท้ายก็เคยตัวที่จะไม่บอกเรื่องอะไรกับเขา นึกจะทำอะไรก็ทำ

ถ้ามานั่งข้างๆ ฉีหรัว ก็ไม่รู้ว่านางจะได้รู้ข่าวอะไรเพิ่มขึ้นอีก

ตอนนี้กู้อ้าวเวยยังไม่กล้าหาเรื่องซ่านจินจื๋อ แล้วก็หาวนอน อยากจะพิงหลับไปอยู่ข้างๆ แต่ก็ถูกสายตาที่หยอกล้อของฉีหรัวจ้องมองอยู่ ทำให้นางทำตัวไม่ถูก

ไม่นาน นางก็หลับไป

ซ่านจินจื๋อได้ยินเสียงหายใจจากด้านข้างหู ก็ไม่อยากอ่านรายงานพวกนี้แล้ว แล้วก็อุ้มนางขึ้นมา แล้วก็พูดกับคนที่เหลือว่า “เดี๋ยวมาคุยกันต่อ”

ฉีหรัวตะลึงไป จริงๆ แล้วนางก็แค่อยากจะดูว่ากู้อ้าวเวยสบายดีไหม ไม่ได้มีอะไรอยากจะพูด

แต่ตอนนี้เห็นซ่านจินจื๋ออุ้มนางไปนอนในห้องข้างๆ ฉีหรัวก็หันไปมองกุ่ยเม่ย “ทำไมข้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนเปลี่ยนไป”

“อาจจะเป็นเพราะว่าพูดกันตรงไป” กุ่ยเม่ยโบกปัด แสดงถึงว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น

แต่ซ่านเชียนหยวนก็แจ๊ะปากดังขึ้น “ก่อนหน้านี้ท่านอาปฏิบัติกับนางดีเหมือนกับซูพ่านเอ๋อ ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องโหดกับนาง ก็เลยโหดขึ้นมา”

“เขาไม่กลัวทำผิดซ้ำซากเหมือนตอนแรกหรือ?” ฉีหรัวนึกถึงตอนแรกที่กู้อ้าวเวยแต่งงานเข้ามาตำหนักอ๋องจิ้ง ซ่านจินจื๋อก็ทำตัวแข็งทื่อ ทำท่าทางโหด ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับนาง

พอฟังเข้า ซ่านเชียนหยวนก็รีบลุกขึ้น “ไม่นะ!ตอนนั้นข้าก็ห้ามท่านพี่ไว้ไม่ได้!”

“ถึงแม้ไม่รู้ว่าพวกเจ้าคุยอะไรกัน แต่ข้าว่า…..นางก็ชอบที่ท่านอ๋องเป็นแบบนี้นะ” โม่ซานพูดเบาๆ “ถึงอย่างไรสำหรับข้าแล้ว นางจะพูดอะไร ท่านอ๋องก็ทำตามหมด แต่เรื่องส่วนใหญ่ที่นางคิดดีแล้วแค่ไหน แต่ทำออกมาก็มักจะกดดันตัวเอง ตอนนี้มาถูกควบคุมเสียหน่อย ก็ดีเหมือนกัน”

ทุกคนนิ่งไป ต่างก็เห็นด้วยกับมุมมองของโม่ซาน

ในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน สุดท้ายก็ยังมีแบ่งแยกหนักเบา แยกกันชัดเจนเช่นนี้ ก็ถือว่าส่งเสริมกันดี

ตัดมาในห้อง ซ่านจินจื๋อเพิ่งเอานางวางลงบนเตียง นางก็ดึงเขาลงไปทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ทำท่าค้ำลงไปที่ตัวนาง แต่ไม่ได้ทับตัว

“กู้เฉิงเองข้าก็ยังไม่ได้ลงมือหนัก” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นอย่างง่วงๆ แล้วมาซบข้างๆ คอของซ่านจินจื๋อ อีกมือก็เอามาลูบหลังเขา “ในเมื่อรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว ทำไมไม่มาให้ข้าปลอบ”

ผ่อนแรงหย่อนตัวลง ซ่านจินจื๋อหย่อนตัวลงไปกอดนาง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ปล่อยให้เขากอดไป กู้อ้าวเวยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น พลิกตัวทับตัวเขาที่ข้างเตียง

“นอนเป็นเพื่อนข้าหน่อย ง่วงมาก”

ท่าทางตอนนี้ เขาเองก็ไม่น่าจะดิ้นหลุดไปได้

ซ่านจินจื๋อรูปร่างสูงใหญ่ ขาทั้งสองข้างยังยาวลงมาที่พื้น แต่ก็ยังกอดกันนอนหลับไปได้

แต่ต้องลำบากคนในห้องโถง เดิมจะมาคุยกันเรื่องงานมากมาย แต่นึกไม่ถึง แค่คำว่า ประเดี๋ยว จะรอไปหนึ่งชั่วยาม เฉิงซานก็กลับมาดู แล้วไปบอกคนที่เหลืออย่างหน้าแหยๆ ว่า “ขอเชิญทุกท่านไปพักผ่อนก่อน ท่านอ๋องคง…….คงจะมาในตอนนี้เลยไม่ได้”

โม่ซานสำลักน้ำชา แล้วหยีตามองเฉิงซาน แต่ก็ไม่ได้พูดคำว่า ลามก ออกมา

ฉีหรัวที่รู้นิสัยของกู้อ้าวเวยดี ก็อึ้งไปเล็กน้อย เหมือนในภาพจำของนาง ทั้งสองคนมักจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมารบกวนเรื่องส่วนรวม พอเห็นซ่านเชียนหยวนข้างๆ ยังตั้งสติขึ้นมาไม่ได้ ก็เลยพูดว่า “เอาเถอะ เอาเถอะ บางเรื่องเอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้”

“แต่พวกเขานั้น…..”

ยังพูดไม่จบ ก็ถูกสายตาของฉีหรัวห้ามไว้

ซ่านเชียนหยวนรีบเดินตามฉีหรัวไป หลังจากงานแต่งหลายวันนี้ ฉีหรัวก็กังวลเรื่องที่กู้อ้าวเวยยังหาเบาะแสอะไรไม่เจอ แม้แต่กลางคืนก็นอนไม่หลับ แล้วยังไม่พบลูกอีกสองคน แล้วยังมี ฉีหลินที่กังวลต่อก้าวเวย มักจะมาหาฉีหรัวไถ่ถามเอาความ

ทำให้คนเป็นสามีอย่างเขา ข้าวใหม่ปลามันก็เครียดไปตามๆ กัน

พอเห็นฉีหรัวเดินเร็วขึ้น กู้อ้าวเวยดูเหมือนนอกจากร่างกายจะไม่ดีแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไร ก็เลยออกไปรับหน้า แล้วก็เกี่ยวนิ้วของนางเบาๆ

ฉีหรัวหูแดงแล้วไปมองเขา “เป็นอะไรไปหรือ?”

“พอเห็นพวกเขาสบายดี ก็พอใจแล้ว” ซ่านเชียนหยวนกระชับผ้าคลุมให้นางที่ไหล่ แล้วพูดว่า “รอเรื่องมันจบลง พวกเรากลับไปอินโจวกันดีไหม?”

“ข้าต้องรอกู้อ้าวเวย” ฉีหรัวจับมือเขากลับอย่างสุขใจ สองดวงตาก็เป็นประกาย “นางเป็นคนลากข้าออกมาจากในห้องที่ไม่เห็นอนาคต ตอนนี้ข้าก็ควรจะพานางไปดูโลกภายนอกบ้าง”

ซ่านเชียนหยวนพยักหน้ายิ้มๆ “จะว่าไป นางก็ดีกับข้าอยู่ เดี๋ยวรอสักหน่อยก็ไปรับหยินเชี่ยวและพวกหลานๆ มาด้วย พวกเราจะได้พร้อมหน้ากัน และอีกอย่างที่อินโจวก็มีคนดีคนเก่งมากมาย………”

“เจ้าก็อย่าเอาแต่พูดเล่นกับ ฉีหลิน ไม่ง่ายเลยที่ช่วงนี้เขาจะมีความเป็นพ่อขึ้นมาบ้าง”

ฉีหรัวออกแรงเตะเขาไป ซ่านเชียนหยวนก็ได้แต่เอามือมานวดขาอย่างน่าสงสาร แล้วก็เดินตามไป

โม่ซานอยู่ด้านหลังก็เบ้ปากใส่ “ราชวงศ์ตระกูลซ่านมีแต่พวกกลัวเมียหรือไร?”

กุ่ยเม่ยและเฉิงซานก็แกล้งไอพร้อมกัน แต่กุ่ยเม่ยเดินนำหน้าไปประจบหนึ่งก้าว “วันนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เช่นนั้น…..ข้าจะพาเจ้าไปชิมอาหารที่หม่านเทียนซิง”

“ดีสิ” โม่ซานรีบยิ้มตอบรับ

มีแต่เฉิงซานที่ส่ายหัวอย่างอาวรณ์ ได้แต่กลับไปรับคำสั่งต่อที่จวน

ถ้าทุกอย่างมันหยุดลงแค่นี้ จะดีไม่น้อยเลย

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท