บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1093

ตอนที่ 1093

บทที่ 1093 แสดงถึงความซื่อสัตย์

รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย เกลียดใครคนหนึ่งแม้แต่กำแพงที่เขาอาศัยอยู่ก็ถูกเกลียดไปด้วย

ซ่านเชียนหยวนถูกอ๋องจิ้งไล่ออกจากจวนไป นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมานานหลายปีแล้ว มีครั้งที่เขาจำฝังใจที่สุดก็คือ ตอนที่เสด็จอาประคบประหงมซูพ่านเอ๋อไว้ในมือ และพัวพันกับกู้อ้าวเวยอย่างไม่ชัดเจน

กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องผิง เขาก็แค่เล่าความจริงให้ฟัง กลับถูกฉีหรัวโกรธจนถูกขับไล่ให้ไปอยู่ด้านนอก

“ตำแหน่งฮ่องเต้นี้ ถ้าสำคัญกับเขามาก ก็ให้เขาไปแย่งเลย”

คนที่อยู่ด้านในพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย ซ่านเชียนหยวนที่อยู่ด้านนอกกลับพูดอะไรไม่ออก อ้ำๆอึ้งๆอยู่ตั้งนานก็ยังไม่รู้จะพูดปลอบยังไง เขากล่อมผู้หญิงให้ร่าเริงเหมือนอย่างฉีหลินไม่เป็น บวกกับตั้งแต่แรกที่ฉีหรัวคบกับเขา ก็เคยรังเกียจสถานะที่ตนเป็นองค์ชาย

สำนักเยียนหยู่เก๋อตระกูลฉี ถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนเหยียน ไปมาห่สู่กับราชวงศ์อยู่บ่อยๆ การระมัดระวังเป็นสิ่งที่พวกเขาพึ่งกระทำ คบค้ากับราชวงศ์มาตั้งแต่เล็กจนโต ฉีหรัวอคติกับพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้ว

ในหมู่คนมากมาย ก็มีเพียงกู้อ้าวเวยคนเดียวที่เข้าตานางได้

เหมือนอย่างที่นางพูดในตอนนั้นว่า “หากเจ้าสามารถทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนได้ ข้าก็จะเชื่อใจเจ้าเหมือนอย่างที่เชื่อใจนาง”

สูตรยาของกู้อ้าวเวยมีเพียงตระกูลของนางที่ได้ครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็จะวางใจให้นางหรือฉีหลินไปทำ หยินเชี่ยวเข้ามาอยู่ด้วยนางยิ่งวางใจ เทียบกับผู้ชายคนอื่น ระหว่างกู้อ้าวเวยกับฉีหรัวถือเป็นการสามารถวางใจไม่สงสัยซึ่งกันและกัน แต่เมื่อผ่านเรื่องมามากมาย สะสมกันมานานหลายปี มิตรภาพนี้ก็กลายเป็นปมเงื่อนซับซ้อน

ในเมื่อคิดดีแล้ว ซ่านเชียนหยวนก็พูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ในเมื่อเสด็จอาจะแย่งชิงบัลลังก์ ยังไงก็เป็นการทำเพื่อกู้อ้าวเวย ตอนนั้นเพื่อความฝันที่อยากเป็นหงส์ของซูพ่านเอ๋อ เขาพยายามปีนป่ายไต่เต้าขึ้นไปบนที่สูง ตอนนี้ก็จะต้องทำเช่นนั้นเพื่อกู้อ้าวเวย บางทีเขาเองก็อาจจะมีความลำบากใจ”

“เจ้าเชื่อใจเสด็จอาของเจ้า ข้าก็เชื่อว่ากู้อ้าวเวยเกลียดชังพระราชวัง”

ฉีหรัวที่อยู่ด้านในพูดขึ้นด้วยเสียงเบา โต้ตอบคำพูดเมื่อกี้ของซ่านเชียนหยวนอย่างเรียบเฉยว่า “ความรักไม่ใช่เพียงสิ่งที่ตนเองคิดเท่านั้น อ๋องจิ้งกับกู้อ้าวเวยเป็นเช่นี้ เจ้ากับข้าก็เป็นเช่นนี้”

“ข้าไล่เจ้าไปอยู่ด้านนอก ก็เพียงเพราะเจ้ากับข้ามีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เบื่อที่จะเจอกัน ไม่ต้องเจอกันยังดีกว่า”

เบื่อที่จะเจอกันหรือ

ซ่านเชียนหยวนแน่นไปทั้งหน้าอก สุดท้ายแล้วก็ถอนหายใจออกมา สะบัดชายแขนเสื้อแล้วก็จากไป

ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินหายเงียบไปแล้ว ประตูเรือนก็ถูกปิดสนิท แม่บ้านมาบอกว่าเป็นคำสั่งของอ๋องจิ้ง เหตุเพราะพระชายาอ๋องจงผิงไม่เคารพผู้อาวุโส พูดจาสามหาว จึงสั่งให้กักบริเวณ ห้ามออกจากเรือนเป็นเวลาครึ่งเดือน

กระทำกันแบบนี้ ทำให้ฉีหรัวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

นางไม่ยอมฟังซ่านเชียนหยวนพูดแก้ตัวให้กับอ๋องจิ้ง เพราะรู้แก่ใจดี กลัวว่าถ้าปล่อยให้เขาพูดมากไปกว่านี้ นางอาจจะไม่สามารถเชื่อใจเขาได้อีกต่อไปแล้ว

ตอนนี้มีคำสั่งกักบริวณ นางไม่ได้คิดว่าเป็นการกระทำของซ่านเชียนหยวน แต่ก็จะไม่ยอมถอย

นางพูดกับแม่บ้านผ่าน ประตูที่ถูกกั้นไว้ว่า “ไปบอกท่านอ๋อง รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วยนั้น ข้าทำไม่ได้ เมื่อเกลียดใครคนหนึ่งแม้แต่กำแพงที่เขาอาศัยอยู่ก็เกลียดไปด้วย ข้าก็ทำไม่ได้ หากเพื่อนของข้าไม่ได้รับความอิสระ ข้าก็จะไม่ยอมรับฟังชื่อของคนคนนั้น การกักบริเวณครึ่งเดือนนี้ ข้าไม่เสียใจ สำนักเยียนหยู่เก๋อนี้ ข้ายกให้เขาทั้งหมด”

บานประตูถูกแย้มออกเล็กน้อย แล้วกล่องไม้อันหนึ่งก็ถูกโยนออกมา

แม่บ้านรีบเข้าไปรับเอามา ภายในกล่องไม้เป็นตราสัญลักษณ์และกุญแจของสำนักเยียนหยู่เก๋อ แม่บ้านตกใจจนมือทั้งคู่สั่นเทา แต่ฉีหรัวพูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า “ปิดล็อกประตูเรือนไว้ อย่ารอช้า”

แม่บ้านเหงื่อไหลท่วมตัว ถือกล่องไม้เดินผ่านเรือนในจวนไปตลอดทาง เสียงซุบซิบคุยกันดังอยู่ในหู

เห็นทีท่านอ๋องกับพระชายาก็ไม่ได้รักใคร่อะไรกัน

มุ่งหน้าเดินมาถึงห้องหนังสือ แล้วเอากล่องไม้วางไว้บนโต๊ะ ซ่านเชียนหยวนฟังแม่บ้านพูดทุกคำพูดออกมาให้ฟัง ข้ารับใช้ทุกคนต่างก็ก้มหน้าก้มตารอคอยรับความโกรธของท่านอ๋อง สุดท้ายกลับมีเพียงเสียงถอนหายใจยาว

ซ่านเชียนหยวนยกมือปิดกล่องไม้นี้ไว้อีกครั้ง บีบนวดหว่างคิ้วด้วยความเป็นกังวล

“เสด็จอาเอ๋ยเสด็จอา ท่านกำลังคิดอะไรอยู่อีกกันแน่?”

วันนี้ เขาก็เริ่มสงสัยอีกแล้วว่าตนเองเป็นเชื้อสายตระกูลซ่านจริงๆหรือ

ทำไมเชื้อสายตระกูลซ่านล้วนมีเสน่ห์ ความคิดรอบคอบ เขากลับยังต้องฟังฉีหรัวพูดให้ฟังทุกคำ ทำให้เขาดูทุกอย่าง

ตลอดชีวิตนี้ฉีหรัวไม่เคยปล่อยวางกิจการสำนักเยียนหยู่เก๋อ ตอนนี้กลับยกทุกอย่างให้กับเขา แสดงให้เห็นว่าไว้เนื้อเชื่อใจ

รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วยไม่ได้ เกลียดใครคนหนึ่งแม้แต่กำแพงที่เขาอาศัยอยู่ก็เกลียดไปด้วยก็ไม่ได้

คำพูดนี้ ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น

“ท่านอ๋อง เรื่องที่ถูกกักบริเวณ สามารถลดเวลาใช้วิธีอื่นเป็นการลงโทษ…”แม่บ้านเงยหน้าขึ้นถามอย่างสั่นเทา แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกสายตาเยือกเย็นของซ่านเชียนหยวนจ้องมองจนตัวสั่น ไม่กล้าพูดอีก

ผลักกล่องไม้ไปข้างหน้า นิ้วเคาะโต๊ะอยู่หลายที

“คำสั่งของเสด็จอา ข้ากับพระชายาไม่ทำตามไม่ได้ แต่ข้าทนเห็นหรัวเอ๋อร์ทุกข์ทรมานไม่ได้ ตราสัญลักษณ์สำนักเยียนหยู่เก๋อถือเป็นเรื่องใหญ่ ส่งคนไปเชิญคุณชานหลินมา ให้เข้าออกจวนได้ตลอดเวลา คอยดูแลงานในเรือนตามคำสั่งของรัวเอ๋อร์”

“ท่านอ๋อง หากเสด็จอ๋องจิ้งรู้ว่าท่านปกป้องเช่นนี้ เกรงว่าจะ…”

“ข้าไม่แย่งไม่ชิง ขอเพียงผู้หญิงคนเดียว เสด็จอายังจะอคติกับข้าหรือ”

เขายกฝ่ามือโต๊ะลงตบอย่างแรง จนทุกคนในห้องตกใจปิดปากสนิท แม้แต่คนทั้งเรือนต่างก็รู้เรื่องนี้ เดิมคิดว่าเมินต่อความกดดันของเสด็จอ๋องจิ้ง รักใคร่เข้าข้างคุณหนูฉี ต่อไปจะได้ไม่มีใครดูแคลน

เมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว ฉีหลินรีบมาถามอย่างร้อนใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉีหรัวฟังแล้ว ก็ใช้ตำราฟาดหัวของเขา พร้อมพูดว่า “แทนที่จะมาคิดเรื่องนี้ เอาเวลาไปคิดสิว่าจะดูแลจัดการบ้านนี้ยังไง ตอนนี้สำนักเยียนหยู่เก๋อมีสาขาอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ต้องให้เจ้ากับลูกของหยินเชี่ยวสืบทอกกิจการนี้ต่อ ในฐานะที่เจ้าเป็นพ่อ ไม่ควรที่จะศึกษาเรียนรู้ให้ดีหรือ?”

“ไม่บอกก็ไม่บอกสิ เปลี่ยนพูดเรื่องพวกนี้ทำไม”ฉีหลินกุมหัวบ่นขึ้น แล้วก็ถูกฟาดอีกยกหนึ่ง

อีกด้านของกำแพง ซ่านเชียนหยวนฟังเสียงโอดคราญของฉีหลิน แล้วก็ทำได้เพียงยิ้ม

ช่างเถอะๆ ถึงแม้จะเป็นข้าวใหม่ปลามันไร้ความอบอุ่น แต่ยังมีเวลาอีกนาน ไม่เร่งรีบเอาในตอนนี้

เทียบกับจวนอ๋องจงผิงที่เงียบสงบ ตอนนี้จวนอ๋องจิ้งกับจวนฉูเป็นเหมือนดั่งแอ่งน้ำนิ่ง

จางเหยียงซานไปช่วยกู้อ้าวเวยหาซื้อสิ่งของมากมายด้วยตัวเอง เพราะในฐานะที่เขาเป็นหมอจึงควรที่จะเป็นคนจัดการ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่ซ่านจินจื๋อต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง

จากจวนฉู ไปยังจวนอ๋องจิ้ง

เฉิงซานมองดูรอบๆภายในห้องหนังสือไม่มีคนนอก แล้วก็คิดถึงคำพูดที่เมื่อวานสองอาหลานคุยกัน จึงโน้มตัวถามขึ้นว่า “ถึงเฉิงซานจะเป็นแค่บ่าว แต่ก็มีความรับผิดชอบในการตักเตือน อยากเรียนถามว่าเมื่อกี้ท่านอ๋องพูดจริงหรือเท็จ?”

“ประโยคไหน?”ซ่านจินจื๋อนั่งลง แล้วก็หยิบจดหมายที่วางด้านข้างขึ้นมาดู

“ประโยคที่ไร้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรม”เฉิงซานพูดอย่างกระชับและรัดกุม

เฉิงซานไม่ได้ปฏิบัติต่อซ่านจินจื๋ออย่างเคารพแบบนี้มานานแล้ว ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาลง สายตากลับเรียบเฉย

มือของซ่านจินจื๋อหยุดชะงัก แรงกดดันรอบๆ ก่อขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ไร้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมยังไง?” ซ่านจินจื๋อมองดูเขาอย่างเย็นชา พร้อมพูดว่า “ที่ข้าทำ ก็เพื่อขจัดความวุ่นวายและเรียกคืนความสงบเรียบร้อยตามปกติ ในเมื่อเมื่อก่อนประเทศนี้เป็นของบรรพษุรุษตระกูลหยุนตระกูลยู่ คืนเขาไปก็เป็นเรื่องที่สมควร”

“อย่าพูดถึงสิ่งเก่าๆ”เฉิงซานสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“ข้ายอมทิ้งแผ่นดินเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง หากเสด็จพี่รักยู่จุนจริงๆ ต่อไปข้ารับปากว่าหลังจากที่พวกเขาตายแล้ว ข้าจะช่วยฝั่งไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นการชดเชยความเป็นพี่น้องกันมานานหลายปี”

พูดจบ ซ่านจินจื๋อโบกมือเรียกองครักษ์ลับมาหลายคน มองดูเฉิงซานพร้อมถามว่า “หรือว่าเจ้าไม่ยินยอมที่จะจงรักภักดีต่อข้าอีกต่อไป?”

“เฉิงซานเพียงแค่เชื่อว่า ยังไงท่านอ๋องก็ยังเป็นท่านอ๋อง”

โน้มโค้งตัวทำความเคารพ แสดงถึงความจงรักภักดี

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท