ตอนที่ 18 กลับไป ณ จุดเริ่มต้น
ภายในรถ เห้อห้าวกำพวงมาลัยแน่น รู้สึกเย็นเยือกชาไปทั้งตัว เขาใส่เสื้อผ้าน้อยไปหรอ
มองผ่านกระจกมองหลัง เห็นสายตาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็งของลี่โม่อวี่ก็พลันเข้าใจ ดวงตาดำขลับภายใต้คืนฝนตกนั้นสะท้อนรังสีอันตรายออกมา ความเงียบเข้าปกคลุม รับรู้ถึงความกดดันอย่างชัดเจน
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทั้งๆที่เป็นลี่โม่อวี่เองที่นึกอยากมาดูฉินอีหลินที่ที่ทำงาน แต่กลับไม่ลงไปหา
นี่เป็นคืนฝนตกนะ เขาไม่คิดว่าพี่ใหญ่ของเขาจะนั่งมองฉินอีหลินที่ยืนรอรถ รอแล้วรอเล่า แถมยังปล่อยให้ชายอื่นเข้ามาทำคะแนนอีก
ฉินอีหลินหน้าตาก็ดูไม่เลว นอกจากรูปร่างแล้ว มีอะไรที่ไม่ดีอีกล่ะ ไม่รู้ว่าข้างนอกจะมีหมาป่ากี่ตัวที่คอยจ้องมองอยู่
เห็นๆอยู่ว่าเป็นห่วงเป็นใย แต่กลับไม่เข้าไปหา ที่แท้คือต้องการให้เธอโทรมาขอความช่วยเหลือหรอ
ดูเอาเถอะ ตอนนี้ลูกคิดนั้นหักงอไปแล้วล่ะสิ
ลี่โม่อวี่หรี่ตามองฉินอีหลินที่เดินขึ้นตึกไป สองมือกุมไปที่หน้าอกไม่ตอบสนองอะไรสักนิด
กระทั่งเห้อห้าวยังเริ่มทนไม่ได้ พี่ใหญ่ถ้าพี่จะรอต่อไปพี่ก็รอ แต่อย่ามาเสียเวลาเดตของผมสิ ลังเลอยู่สักพักค่อยเอ่ยปากพูด “พี่ใหญ่ พี่ว่า…”
ลี่โม่อวี่ไม่หันไปมองเห้อห้าวเลยด้วยซ้ำ เปิดประตูออกไป ก้าวเข้าสู่สายฝนมืดดำ หมุนตัวกลับมามองเห้อห้าวที่น้ำเสียงร้อนรน “พี่ใหญ่ ร่ม”
ตอนนี้ลี่โม่อวี่เป็นเหมือนเสือที่เก็บงำความโกรธไว้อย่างล้นหลาม เหมือนมีกองไฟที่สุมอยู่ในอก
ในใจเขาตอนนี้มีเพียงภาพของฉินอีหลินที่กอดเอวผู้ชายคนอื่น ยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าคลุมเสื้อของชายอื่น แถมยังยิ้มให้คนอื่นอย่างสดใสขนาดนั้น เธอไม่เคยมีรอยยิ้มแบบนั้นให้เขามาก่อน
เห้อห้าวจ้องมองแผ่นหนังแข็งแกร่ง ในใจซ่อนความกังวล
ราวกับไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับฉินอีหลิน ก็สามารถทำให้พี่ใหญ่ของเขาหลุดจากคาบผู้ชายเย็นชาได้ทั้งนั้น ไม่ได้กล่าวเกินจริงไปเลยสักนิด ตอนนี้ความรู้สึกของลี่โม่อวี่ได้ถูกฉินอีหลินควบคุมไปแล้ว ตัวลี่โม่อวี่เองยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
เห้อห้าวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ถ้าหากมีสักวันที่ฉินอีหลินจากไป ตอนนั้นแม้พี่ใหญ่จะรู้ใจตัวเอง มันก็คงจะสายเกินไปแล้ว
น่าเสียดายที่ตัวลี่โม่อวี่เองเป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น แต่เขาที่เป็นคนนอกมองเห็นแล้วจะทำอะไรได้
ฉินอีหลินกลับมาถึงห้องที่ว่างเปล่า อดไม่ได้ที่จะโกรธเคือง ลี่โม่อวี่ย้ายของทุกอย่างไปหมดแล้วจริงๆ
แม้จะไม่เปียกฝน แต่เธอก็ได้รับไอเย็นในคืนฝนตก เธอจำเป็นต้องรีบอาบน้ำอุ่นๆเพื่อนผ่อนคลายสักหน่อย และเสื้อผ้าของเธอและหลินเซิงเกอก็ต้องรีบซัก ไม่งั้นพรุ่งนี้เธอก็จะไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน
หมุนเปิดฝักบัว สายน้ำอุ่นๆตกกระทบร่างกาย อุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้น
“อืม”
เธอทอดถอนใจอย่างพอใจ ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายจากความหนาวความเหนื่อยล้า
จนกระทั่งเริ่มมึนหัวจากไอน้ำอุ่นเธอถึงยอมพันผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำ กำลังจะซักผ้ากลับพบว่าที่ประตูมีเงาของคนยืนอยู่ เธอตกใจกรีดร้องเสียงดัง
จนมองได้ชัดว่าเงานั้นเป็นลี่โม่อวี่ ใจของเธอจึงได้สงบลงก่อนเอ่ยถามออกไป
“คุณมาอยู๋ที่นี่ได้ยังไง”
ลี่โม่อวี่ไม่ตอบคำถามตรงดึงเข้าไปหาหญิงสาวกระชากข้อมือเธอ
ลี่โม่อวี่กักขังฉินอีหลินไว้ในอ้อมกอดแน่น มืออีกข้างกระชากผ้าเช็ดตัวของเธอทิ้งไปทำให้เกิดเสียงกรีดร้องแหลมคม
ฉินอีหลินรู้สึกหมดแรงไปชั่วขณะ
“ลี่โม่อวี่ คุณอย่าทำแบบนี้ เรามีข้อตกลงกันนะ สัญญาฉบับนั้น…”
“ผมเซ็นต์แล้วหรอ”
ดวงตาของเขาเมื่อได้ยินคำว่าสัญญา ความโกรธในใจก็เก็บไว้ไม่อยู่อีกแล้ว
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น “ถอดเสื้อเชิ้ตผมออก”
ฉินอีหลินถูกจูบนั้นสูบสำนึกคิดเธอไปจนหมด แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้เธอทั้งโกรธทั้งอาย ใครจะทำตามกัน ฮึ ฉันไม่ทำหรอก
มุมปากของลี่โม่อวี่ค่อยๆยกยิ้ม “ยังไม่รีบอีก ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”
สมองขาวโพลน เธอเหมือนถูกมนต์สะกด มือเล็กค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่หนึ่ง สอง สาม…
คืนทั้งคืน ฝนข้างนอกตกไม่หยุด เสียงอ่อนหวานดังไปทั่วห้องทั้งคืนไม่ได้หยุดหย่อน
เช้ามืด ฉินอีหลินถูกนาฬิกาปลุกให้ตื่น
หญิงสาวบนเตียงรู้สึกสึกถึงความปวดร้าวไปทั้งตัว พอพลิกตัวก็เห็นหน้าผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอมีความรู้สึกไม่แน่ใจแวบขึ้นมาชั่วครู่ นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ราวกับว่าในห้องนี้ยังเก็บกลิ่นอายบรรยากาศที่งดงามนั้นไว้ ฉินอีหลินอดไม่ได้ที่จะโกรธ
ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอนึกถึงเสื้อผ้าเมื่อคืนที่ไม่ได้ซัก วันนี้คงต้องเอามาใส่ไปก่อนอีกวัน
ผู้ชายข้างๆยังไม่ตื่น ฉินอีหลินถือโอกาสเดินตัวเปลือยเข้าห้องน้ำไป สักพักได้ยินเสียงน้ำไหลดังออกมาจากข้างใน
ลี่โม่อวี่ลืมตาตั้งแต่เธอลงจากเตียง วิวทิวทัศน์สวยงามสะท้อนอยู่ในตาของเขา โดยเฉพาะรอยกุหลาบที่เขาประทับไว้บนตัวของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ฟังเสียงน้ำไหลจากห้องน้ำ ลึกซึ้งเหมือนดวงตาดำขลับคู่นั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่