ตอนที่ 21 อย่าลืมว่าคุณมีสามีแล้ว
“อีหลิน ให้ผมไปส่งนะครับ”
ถึงเวลาเลิกงาน ทุกคนต่างพากันโบกมือและกล่าวลาเจ้าของร้าน
หลังจากฉินอีหลินช่วยเจ้าของร้านเก็บของเสร็จ ยืนมองเจ้าของร้านปิดร้านล็อกประตูช่วยกัน เธอเตรียบจะกลับบ้านแต่เจ้าของร้านเรียกเธอไว้และบอกจะไปส่งเธอกลับ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองดีกว่า”
ฉินอีหลินกระชับกระเป๋าตัวเองแน่น เงยหน้ามองคนตรงหน้า รอยยิ้มสดใสผลิบานบนใบหน้า
“คุณเป็นแบบนี้ ไม่กลัวจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรือไง เกิดเรื่องระหว่างกลับบ้านหลังเลิกงานก็นับว่าเป็นการบาดเจ็บระหว่างการทำงานนะ คุณจะให้ผมหาลูกสาวสวยขนาดนี้จากที่ไหนไปชดใช้ให้คุณลุงกับคุณป้าล่ะ”
หลินเซิงเกอเห็นฉินอีหลินที่พยายามทำตัวให้ปกติจึงได้แต่ถอนหายใจ โบกไม้โบกมือ เขาตั้งใจใช้น้ำเสียงจริงจังเพื่อแหย่ให้เธอยิ้ม
หลังได้ยินหลินเซิงเกอพูดแบบนั้น จากที่ยังลังเลเธอก็หัวเราะออกมา
“อืมมม งั้นคงต้องรบกวนเจ้าของร้านแล้วนะคะ”
มีคนไม่ส่งก็ดีเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นที่เขาพูดก็ถูก ตั้งแต่ได้ฟังสิ่งที่ชิวหันเยียนพูดใจเธอก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่
ตัวเองเป็นแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเธอก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
“งั้นคุณไปรอผมตรงนั้นก่อนนะ ผมจะไปเอารถออกมา”
พอฟังจบเธอก็หมุนตัวจะไปรอเขาอยู่ฝั่ง แต่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ เธอพึ่งจะหันกลับมากลับพบว่าเขายืนสูบบุหรี่ อยู่ใต้ไฟข้างถนนไม่ไกลปรากฏให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ ชั่วพริบตารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบตกอยู่ในความเดียวดาย
หัวใจของเธอราวกับมีมือใหญ่บีบมันไว้แน่น เจ็บปวดที่สุด
“ที่ที่เธออยู่ในตอนนี้ ก็คือรังรักของเขากับแฟนเก่ายังไงล่ะ เธอคิดว่าเธอเป็นอะไร….”
“กริ๊ง…..กริ๊ง”
คำพูดของชิวหันเยียนราวกับน้ำท่วมที่ล้นทะลักมุ่งเข้าหาเธอ ทั้งเรื่องที่คอนโดคืนนั้น ภาพลี่โม่อวี่ตอนเมาโผล่เข้ามาในหัวเธอ
ความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขานั้น กลับทำให้เธอรู้สึกสมเพชตัวเองแทน
ฉินอีหลิน เธอมันบ้าไปแล้วจริงๆ
เธอกำหมัดแน่น เล็บคมจิกฝังเข้าไปในฝ่ามือ ความเจ็บปวดราวกับมันจะสามารถโยนทิ้งออกไปได้
“ผู้หญิงโรคจิต ทำอะไรอยู่ ดูผู้ชายหรอ”
มองฉินอีหลินที่กำลังเหม่อลอย หลินเซิงเกอพลันรู้สึกว่าเธอน่ารัก
วางมือบนหัวเธอ ขยี้อย่างอ่อนโยนราวกับว่าเธอคือหมาน้อยน่ารักพร้อมเอ่ยถาม
เด็กคนนี้มาอยู่ที่ร้านก็นานแล้ว เขาพอจะรู้นิสัยเธอเป็นอย่างดี แม้ภายนอกจะดูบอบบาง บางครั้งแกล้งแหย่นิดหน่อยก็หน้าแดงแล้ว แต่พอถึงเวลาทำงานเธอก็ทุ่มเทเต็มที่
“เปล่าซะหน่อย”
ส่ายหัวไปมา ฉินอีหลินหันไปมองจุดที่ลี่โม่อวี่เคยยืนอยู่ หลังจากนั้นตีมือที่วางอยู่บนหัวตัวเองไป
“เปล่าอะไร น้ำลายไหลออกมาแล้วนั่น”
หลินเซิงเกอมองตามสายตาของเธอไป อดไม่ได้อยากรู้อยากเห็น
เห็นหลินเซิงเกอพูดด้วยท่าทางจริงจัง ฉินอีหลินจึงรีบยกมือขึ้นแตะไปที่ขอบปากตัวเอง แต่กลับไม่มีอะไร มุมปากเธอแห้งขนาดนี้
“คุณหลิน หลอกฉันอีกแล้วนะ”
ฉินอีหลินจ้องเขม็งไปยังเจ้าของร้าน แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและรอยยิ้ม
“คุณภรรยาครับ วันนี้เลิกงานเร็วจังเลย”
ในขณะที่ฉินอีหลินและเจ้าของร้านกำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น คนที่เดิมทียืนอยู่อีกฝั่งถนนกลับมาอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยน
ขณะที่เอ่ยก็โอบเธอเข้าหาอ้อมอกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เปิดโอกาสให้ฉินอีหลินได้ต่อต้าน
“คุณมาได้ยังไง”
ในเมื่อต่อสู้ไม่ไหว เธอจึงหันไปมองลี่โม่อวี่ตัวแข็งทื่อ เธอพบว่าสายตาของชายตรงหน้าช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
หลินเซิงเกอชะงักไปชั่วขณะ พลันทันเห็นสีหน้าและแววตาที่แข็งกร้าวถูกส่งมา
แต่ไม่นานเขาก็กลับมาเป็นปกติส่งรอยยิ้มกลับมา ยื่นมือไปจับกับลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่ทำตัวเหมือนปกติ ยื่นมือออกทักทายแสดงความเกรงใจต่อเขา แต่คนที่อยู่ตรงกลางระวังชายหนุ่มทั้งสองอย่างฉินอีหลินนั้นกลับรู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูก เธอรู้สึกว่าการจับมือทักทายระยะเวลาเพียงสองวินั้นราวกับเป็นการประลองไปแล้วหนึ่งยกของชายหนุ่มทั้งคู่ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
พอปล่อยมือลี่โม่อวี่แทบจะไม่มองหน้าคนตรงหน้า เขาโอบประคองฉินอีหลินหมุนตัวกลับออกไปทันที
“มือของอีหลินมีแผล กลับไปอย่าให้แผลของเธอโดนน้ำนะครับ”
ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินเดินออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงหลินเซิงเกอบอกเสียงดังตามมา
ลี่โม่อวี่หยุดชะงักเท้า ดวงตาฉาบไปด้วยความเย็นชา ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป เขาโอบประคองคนในอ้อมแขนมุ่งตรงไปยังรถทันที
ฉินอีหลินไม่สามารถต่อต้านเขาได้ ทำได้เพียงหันกลับไปบอกลาหลินเซิงเกอ ส่งสายตาเพื่อขอโทษเขา
“บ๊ายบายค่ะ”
ฉินอีหลินหันไปโบกมือให้กับเจ้าของร้าน อ่านปากของเขาที่พูดกับเธอ
“เฮ้อ….”
ฉินอีหลินถูกลี่โม่อวี่โยนข้าไปในรถ หลังจากขึ้นรถบังเอิญไปโดนแผลที่มือของเธอ เธออดทนต่อความเจ็บปวดนั้นมองไปยังคนตรงหน้า “คุณมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่โทรหาฉันล่ะ”
“ผมมาไม่ได้หรอ หรือกลัวว่าจะมาขัดขวางความรักของคุณกับเจ้าของร้านกันล่ะ”
พูดจบ ลี่โม่อวี่ที่มีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แล้วหันมองไปยังฉินอีหลินด้วยสายตาดูถูก ดวงตาคมลึก ใบหน้าเย็นชาจับข้อมือข้างที่มีแผลของเธอเอาไว้แน่น
“คุณพูดอะไร ความรักอะไร”
“ฉินอีหลิน คุณทำอะไรตัวคุณรู้ดีที่สุด ยังไงซะตอนนี้คุณก็ยังได้ชื่อว่าเป็นนายหญิงลี่ อย่าลืมว่าคุณมีสามีแล้ว”
มือของลี่โม่อวี่เพิ่มแรงบีบ มองไปยังใบหน้าของฉินอีหลินที่เผยความเจ็บปวดออกมา
ผู้หญิงคนนี้แสดงความแข็งแกร่งแบบนี้ออกมาตลอด แม้ว่าฝนตกก็ไม่ยอมโทรเรียกเขามารับ แม้ว่าตอนนี้จะเจ็บขนาดไหนก็ไม่ยอมขอร้องให้เขาปล่อย
ถอนหายใจลึกเบาค่อยๆสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เขาไม่อยากให้ระหว่างเขากับเธอต้องมามีปัญหาทะเลาะกันเพราะคนอื่น
“พ่อคุณโทรมา บอกว่าแม้จะไม่ได้จัดงานแต่งใหญ่โตแต่ก็ต้องพาคุณกลับบ้าน บอกว่าก่อนหน้านี้เคยโทรหาคุณ แต่หลายวันแล้วไม่เห็นคุณกลับไปเลยโทรมาหาผม ทำไมเรื่องสำคัญขนาดนี้ถึงไม่บอกผมสักคำ”
“ยังไงซะระหว่างเรามันก็แค่ข้อตกลงร่วมกัน จำเป็นต้องเล่นละครขนาดนั้นเลยหรอ”
ฉินอีหลินเจ็บจนต้องหายใจเข้าลึกเพื่อลดความโกรธ เชิดหน้ามองไปยังคนตรงหน้าอย่างดื้อดึง เธอไม่ยอมกลับไปฟังคำพูดดูถูกเหยียดหยามของคุณนายฉินและหลันซูยิ่งกว่านั้นเธอไม่อยากมีความเกี่ยวพันกับเขาไปมากกว่านี้แล้ว
ตอนนั้นเธอคิดว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายกลางคืน หนึ่งปีผ่านไปก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ต่างคนต่างไปตามทางของตัวเอง
แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเธอจะเจอกับพระองค์ใหญ่ขนาดนี้