ตอนที่ 13 คุณหึงหรอ
ฉินอีหลินถูกลี่โม่อวี่กึ่งประคองกึ่งลากออกมาจากโรงแรม แต่ในหัวของเธอยังคงสับสน
ครั้งแรกที่เธอได้พบเขาอย่างเป็นทางการคือที่บาร์เสน่ห์หา ครั้งที่สองคือสำนักงานเพื่อจดทะเบียนสมรส ต่อมาก็พากลับคอนโดด้วยกัน
เธอพบว่า ตั้งแต่ต้นเป็นตัวเธอเองที่เข้าใจไปเองว่าเขาทำอาชีพอะไร ตัวเขาไม่เคยเอ่ยออกมาเลยสักครั้ง ตัวเธอเองเพราะความซื่อจึงคิดว่าเขาเป็นคนทำงานกลางคืนแบบนั้นและไม่เคยถามเขาเลยสักครั้ง
ในตอนที่เดินออกมา มีชายในชุดสูทสีดำลงจากรถด้วยท่าทางนอบน้อม เปิดประตูรถให้ทั้งสอง
“คุณเป็นประธานกรรมการH&Jกรุ๊ป ไม่ใช่ผู้ชายทำงานกลางคืนแบบนั้น”
ฉินอีหลินมองไปยังโรลซ์รอยซ์คันหรูนั้น ใบหน้าสับสนมองไปยังลี่โม่อวี่ ลังเลอยู่พักใหญ่สุดท้ายจึงตัดสินใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
แม้ว่าแค่โรลซ์รอยซ์คันดียวตระกูลฉินไม่ใช่จะซื้อไม่ไหว แต่การจะรักษารถนั้นมีมูลค่าสูงกว่ามาก
ดูจากท่าทางที่ไม่ยี่หระของลี่โม่อวี่ เธอรู้ สำหรับเขาแล้วไม่ได้ประสีประสาอะไรเลย
“ขึ้นรถ”
ลี่โม่อวี่ปล่อยมือ บอกใบ้ทางสายตาให้เธอรีบขึ้นรถ ไม่สนใจตอบคำถามไร้สาระของเธอ
ยกมือขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้ออกรถได้ ลี่โม่อวี่ค่อยเปิดปากถามกลับ
“ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทำให้คุณเข้าใจว่าผมทำอาชีพแบบนั้น ขอคุณนายลี่ช่วยอธิบาย”
ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันไปจ้องฉินอีหลินที่อยู่ใกล้ๆ แววตาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
มองหญิงสาวที่ตั้งแต่รู้ฐานะที่แท้จริงของเขาแล้วเอาแต่จมดิ่งอึดอัดใจ ลี่โม่อวี่อารมณ์ดี
มือหนึ่งค้ำอยู่ที่เบาะ อีกมือวางไว้บนขา เขาเอียงตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย หรี่ตามองติ่งหูขาวสะอาด ลำคอนวลขาวของฉินอีหลิน สองจุดนี้ของเธอนั้นไวต่อความรู้สึกที่สุดแล้ว
ลี่โม่อวี่โน้มตัวเข้ามาใกล้ทำให้เธอต้องพิงไปด้านหลังอย่างอัตโนมัติ ผู้ชายคนนี้ช่างชอบรุกรานซะจริง อยู่กับเขาแต่ละครั้ง เป็นเธอที่ทนไม่ไหวอยากจะหนีหายไปทุกครั้ง
ได้ยินเสียงเรียก “คุณนายลี่” นั้น เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่เล็กน้อย
แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาในนามของเขา ในความเป็นจริงเธอก็อยู่ในฐานะภรรยาของเขาจริงๆ แต่ก็ไม่ยังไม่กล้ายอมรับว่าเธอเป็นภรรยาของเขา
เธอรู้ว่าไม่มีทางหนีจากสายตานี้ของเขาได้ เธอได้แต่กลืนน้ำลาย ตอบอย่างตะกุกตะกัก
“คืนนั้น ฉันไปหาคุณที่บาร์เสน่ห์หา ฉันได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดว่าเจอคุณแล้ว เธอยังชื่นชม…ว่าลีลาบนเตียงของคุณไม่ธรรมดา”
พอพูดถึงเรื่องบนเตียง เธอก็นึกถึงบนเตียงนั้น ลมหายใจที่ก่อกวนไม่หยุด จูบดูดดื่ม การเคลื่อนไหวที่ร้อนแรง ตลอดจนการต่อต้านที่ไม่เป็นผลของเธอ แก้มของเธอก็แดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว
“คุณหึงหรอ”
แน่นอนว่าเขาไม่พลาดที่เห็นความไม่ปกติบนหน้าของหญิงสาว ตั้งใจพูดหยอกเย้าเธอ
“แล้วลีลาบนเตียงของผมมันดีจริงๆหรือเปล่า ไม่ใช่คุณหรอที่จะรู้ดีกว่าใคร”
ฉินอีหลินได้ยินแบบนั้น ร่างกายเธอพลันวูบวาบขึ้นมาทันที เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนาจึงหันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ปรากฏว่านี่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดของเธอนี่
“เรากำลังจะไปไหน ไม่ใช่ทางกลับนี่นา”
ระหว่างที่เธอหันกลับมา ลี่โม่อวี่พิงไปที่พนักพิง หลับตาและแกล้งหลับไปทันที
สักพัก เธอพบว่าคนข้างๆไม่มีการตอบกลับมาแล้ว จึงยอมแพ้ แก้มแนบกระจกและมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง
มองดูคนข้างๆที่เงียบไป ฉินอีหลินนึกว่าลี่โม่อวี่หลับไปแล้ว จึงใช้ความกล้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อสังเกตใบหน้าของคนหลับอย่างละเอียด
ผมด้านหน้าที่เอียงไปอยู่อีกฝั่งเผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนหน้าผากอย่างชัดเจน เธอจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆสภาพแวดล้อมแบบไหนที่ทำให้เขาได้รับบาดแผลนี้จนเกือบจะต้องเสียดวงตาไปมันจะเป็นอย่างไรนะ ถึงได้เป็นแผลเป็นที่สลักอยู่ตรงนี้
ในยามที่เขานอนหลับนั้นยังคงเม้มริมฝีปากแน่นตลอดเวลาเหมือนว่าในฝันนั้นไม่อาจผ่อนคลาย เธออยากจะยื่นมือออกไปแตะตรงริมฝีปากของเรา แล้วบอกเขาให้ปล่อยวาง ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว
หัวใจค่อยๆเต้นแรง ฉินอีหลินยกมือขึ้นมานวดคลึงบริเวณหัวใจ กดใจที่เต้นเหมือนจะกระเด็นออกมาจากอก
พยายามทำให้ตัวเองสงบลง ค่อยๆดึงสติของตนเองคืนมา
เวลานี้ฉินอีหลินค้นพบว่าความรู้สึกที่มีต่อลี่โม่อวี่นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเธอกับเขาเป็นเพียงแค่คนที่มีข้อตกลงร่วมกัน บางครั้งเธอเผลอคิดว่า ทั้งสองจะอยู่กันแบบนี้ตลอดไป
เธอรู้ ความนึกคิดแบบนี้มันอันตรายมากเพียงใด เพราะลี่โม่อวี่เองไม่เคยต้องขาดผู้หญิงเลย
ไม่ว่าจะเป็นตอนนั้นที่เจอเขาที่บาร์เสน่ห์หา หรือว่าตอนเจอเขาที่จิวเวลมอลล์ ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างลี่โม่อวี่ล้วนเพียบพร้อมไปด้วยหน้าตาที่สะสวย หุ่นอวบอัด รูปร่างสูงเพรียว
รูปร่างแบบนั้นอย่างเธอที่ยังดูไม่มีความเป็นผู้ใหญ่จะไปเทียบอะไรได้
แอนตัวไปด้านหลัง เหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เธอจะต้องจดจำฐานะของตัวเองไว้ให้ดี
เธอกับลี่โม่อวี่เหมือนอยู่กันคนละโลก ถึงวันนี้เธอจะโดนตระกูลฉินทอดทิ้ง สูญเสียความบริสุทธิ์ เธอเหลือเพียงแค่หัวใจดวงนี้ เธอจะทำให้หัวใจดวงนี้หายไปไม่ได้ แบบนั้น เธอก็คงจะไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ
ฉินอีหลินย้ำเตือนตัวเองอยู่ซ้ำๆ ลี่โม่อวี่ เขาไม่มีทางจะเป็นสามีของเธอได้
เมื่อพบว่ารถกำลังเลี้ยวเข้าสู่สถานที่ที่ราวกับราชวัง ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด เพียงลมพัดผ่าน ราวกับว่าดอกไม้ทั้งสวนกำลังขยับ เหมือนคลื่นมวลหมู่ดอกไม้
ตรงกลางลานบ้านยังมีน้ำพุดนตรีขนาดใหญ่ เมื่อมาถึงประตูคฤหาสน์รถจึงหยุดลง
ฉินอีหลินพบว่าสองฝั่งของคฤหาสน์ มีสาวใช้ที่ถูกฝึกมาคอยยืนต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง หน้าตาสะสาย เครื่องแบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โค้งคำนับเล็กน้อย
เธอกัดริมฝีปากและหันกลับมามองคนที่กำลังหลับสนิท ลี่โม่อวี่ยังคงหายใจสม่ำเสมอไม่ขยับตัว
“สวัสดีค่ะ คุณคะ ฉันจะกลับคอนโด ช่วยไปส่งฉันด้วยนะคะ”
เห็นว่าลี่โม่อวี่ยังไม่ได้สติ เธอจึงรีบหันไปบอกกับคนขับรถอย่างนุ่มนวล
คนขับรถมองผ่านกระจกหลังไปยังลี่โม่อวี่ที่ยังไม่มีการตอบสนอง จึงได้แต่ส่งสายตาขอโทษขอโพยไปให้ฉินอีหลิน
ในเมื่อลี่โม่อวี่ไม่ได้เอ่ยปาก ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าให้เขาไปส่งกลับคอนโด แน่นอนว่าเขาไม่กล้าตัดสินใจเองเป็นแน่
ลี่โม่อวี่แบ่งแยกการลงโทษและให้รางวัลอย่างชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร เขาไม่มีทางขัดคำสั่งของเจ้านายแน่นอน
เห็นท่าทางของคนขับรถ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคำสั่งลี่โม่อวี่ที่ไม่ให้เธอไป ขมวดคิ้วและส่งสายตามมองคนที่กำลังหลับสนิทอย่างเดือดดาล
“พาฉันมาที่นี่แล้วคุณก็หลับสบายจังนะ”
ฉินอีหลินบ่นพึมพำ ยื่นมือไปเปิดประตูรถ มือที่กำลังจะถึงประตู ทันใดนั้นลี่โม่อวี่ก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือขวาของเธอไว้
“คุณจะไปไหน”