ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 29

ตอนที่ 29

ตอนที่ 29 คำสัญญาทุกอย่างล้วนหลอกลวง

ลี่โม่อวี่โอบประคองเธอมายังริมทะเลหลังโรงแรม สัมผัสถึงความชื่นจากลมทะเล ละอองน้ำทะเลที่เกลียวคลื่นซักสาด อีกทั้งท้องนภากว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด

ฉินอีหลินมองน้ำทะเลที่เปลี่ยนสีเข้มจากความมืดปลกคลุม ท่าทางของเธอสับสน ส่ายหัวไปมาไม่ให้ตัวเองคิดถึงเรื่องไม่จำเป็น ที่เป็นอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

พยายามส่งยิ้มสดใสออกมา ปลดมือเขาที่กอดไว้ เตะรองเท้าออกไป เดินมุ่งหน้าไปที่ทะเลกว้าง

เม็ดทรายตอนนี้ไม่ร้อนเหมือนตอนกลางวัน สัมผัสที่ปลายเท้าทำให้เธอพอใจระบายลมหายใจออกมา เดินลึกลงไป ระลอกคลื่นซัดสาดผ่านหลังเท้า เม็ดทรายที่ฝ่าเท้าเย็นชื้น

“ไม่ต้องเดินต่อแล้ว ระวังชุดจะเปียก”

ลี่โม่อวี่ก้มลงเก็บรองเท้าที่เธอเตะออกไป รอยยิ้มอบอุ่นสว่างไสว เขาตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนที่นิ่งขรึมน่าหลงใหล เขาเป็นเพียงแค่สามีของฉินอีหลิน

“คุณมานี่เร็ว มาเร็ว”

ฉินอีหลินสางผมที่ถูกลมทะเลพัดปลิว วิ่งกลับไปดึงมือลี่โม่อวี่

เขามองชุดของหญิงสาวตรงหน้าที่พัดปลิว รู้สึกได้ลิ้มรสถึงรสชาติของความสุข

พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก้าวเท้ายาวเดินไปยังเคียงข้างภรรยาของตน บีบแก้มเธออย่างรักใคร่เอ็นดู

“ลี่โม่อวี่”

ฉินอีหลินเดิมที่ยิ้มอย่างมีความสุขแต่พอเห็นความเอ็นดูจากชายตรงหน้า เธอจึงอยากถามเขา

เธอกัดปากเบาๆ เธอรู้ สิ่งที่ติดอยู่ในใจเธอถ้าไม่ได้ถามออกมา มันจะกลายเป็นความหวาดกลัวที่ติดอยู่ในใจ

“ที่คุณพูดเมื่อตอนบ่ายนั้นหมายความว่ายังไง ที่บอกว่า ใช้ชีวิตต่อไปด้วยกันเถอะ”

กลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร พอถามจบจึงเสริมประโยคข้างหลังให้

“ความหมายก็ตามตัวหนังสือ”

ลี่โม่อวี่เห็นว่าหญิงสาวใส่ใจในคำพูดของเขา พลันรู้สึกดี

“งั้น…..ถ้าเราเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วมู่หลิงล่ะ?”

พอได้ยินชื่อมู่หลิงพลันชะงักกึก รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆเลือนหาย ดวงตาคู่คมเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง

“มู่หลิงชื่อนี้ ใครบอกคุณ”

ฉินอีหลินไม่นึกว่าผู้ชายที่มองเธออย่างรักใครเอ็นดูเมื่อสักครู่จะเปลี่ยนเป็นเย็นชาได้ทันที

เธอกัดปากแน่น ดวงตาของเธอพร่ามัวอย่างควบคุมไม่ได้

“ไม่มีใครบอกฉัน”

ค่ำคืนมืดสลัว ร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า เรียกหาราวกับละเมอ อารมณ์ดั่งสัตว์ร้าย

เธอบอกเขาไม่ได้ว่าได้ยินเขาพูดออกมาเองในตอนที่เขาเมา

ลี่โม่อวี่จ้องเขม็งไปยังหญิงสาวตรงหน้า สายตาคมราวกับจะเจาะทะลุร่างของเธอ มองทะลุไปยังความคิดของเธอ

ฉับพลัน ลี่โม่อวี่โยนรองเท้าในมือทิ้งหมุนตัวเดินจากไป

ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั้น เธอไม่อาจเข้าใจได้

ฉินอีหลินมองรองเท้าตัวเองที่ถูกโยนทิ้งบนผืนทราย อีกทั้งชายตรงหน้าที่หันหลังกลับไปโดยไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ไม่เหลียวมองเธออีกเลยสักครั้ง เธอรู้สึกว่า ทะเลตอนกลางคืนช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน

ฝืนยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย เธอสวมรองเท้า เดินเล่นอยู่บริเวณใกล้ๆ ปิ้งย่าง อาหารทะเล กำไลเปลือกหอย จนกระทั่งผู้คนมากมาย

เดินเข้าไปในถนนคนเดินครึกครื้นใกล้ๆ แต่เธอกลับพบว่า เธอไม่สามารถเข้าถึงความสุขของคนเหล่านั้น

ในหัวไม่สามารถสลัดเงาลี่โม่อวี่ที่เดินจากไปได้ ตอนนั้นเธออยากจะรั้งเขาไว้ แต่ไม่รู้ทำไม เธอกลับไม่สามารถเอ่ยออกไปได้

หาร้านนั่งทานอะไรสักหน่อย ไม่ลืมจะซื้อขนมไปเผื่อลี่โม่อวี่ ตามนิสัยเขาแล้ว เขาคงไม่ทานข้าวก่อนกลับไปแน่

แต่ฉินอีหลินไม่คาดคิดในตอนที่เปิดประตูห้องเข้าไป ห้องทั้งห้องมืดสนิท ทุกสิ่งยังเหมือนตอนที่เดินออกไป

ลี่โม่อวี่ไม่ได้กลับมา

หญิงสาวนิ่งงันดวงตาลบความผิดหวังออกไปไม่ได้ เธอคิดว่าทั้งคู่จะไม่เหมือนกันแล้ว ไม่คิดว่า…

ไม่ว่าจะอย่างไร วันนี้ยั้งสติไม่อยู่แล้ว

ทุกคนล้วนมีอดีตของตัวเอง ล้วนมีสิ่งที่ไม่อยากให้แตะต้อง มู่หลิงอาจจะเป็นอดีตที่พูดออกมาไม่ได้ วันนี้เธอกลับพูดออกมาเปิดแผลเขาโดยไม่ตั้งใจ

และความสัมพันธ์ของเธอกับเขาพึ่งมีการพัฒนา ยังไม่ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อโดยไร้ช่องว่างระหว่างกัน

สิ่งที่เอ่ยออกไปนั้น เธอทำผิดไปจริงๆ

คิดมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินวางขนมไว้บนโต๊ะน้ำชา นั่งลงบนโซฟารอลี่โม่อวี่กลับมา

เธอต้องขอโทษเขาด้วยตัวเอง เธอไม่ใช่คนที่ทำผิดแล้วไม่กล้ารับผิดแบบนั้น

เวลาเริ่มดึก แม้แต่ร้านข้างถนนก็เริ่มเก็บของแล้ว ภายนอกนั้นเริ่มเงียบสงบ ดวงจันทร์ก็หลบหลังก้อนเมฆไปแล้ว

ลี่โม่อวี่ยังคงไม่กลับมา

เช้าวันต่อมา

แสงแดดค่อยๆส่องสว่างขึ้น ฉินอีหลินมองนาฬิกาแขวนผนังอย่างสะลึมสะลือ หกโมงครึ่งแล้ว

ในใจรู้ว่าเขาคงไม่กลับมา เธอยิ้มขืนเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำไป แล้วเปิดประตูออกจากห้องไป

เธอไม่ได้เป็นของใคร เมื่อไม่มีใครแล้ว เธอจะผ่านมันไปได้ด้วยดี

พอเปิดประตู ฉินอีหลินพบว่าน้องสาวของเธออยู่ในท่ากำลังจะเคาะประตู ร่างบางขมวดคิ้วมุ่น

“พี่สาว เมื่อคืนพี่เขยได้กลับมาหรือเปล่า พวกพี่ทะเลาะกันหรอ”

ฉินหลันซูเห็นสภาพไร้วิญญาณของฉินอีหลิน ในใจนั้นมีความสุข กระตุกหางคิ้ว รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้น แต่เอ่ยปากออกมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย

เธอเห็นว่าเมื่อหญิงสาวตรงหน้าได้ยินคำถามของเธอ แววตาหม่นมัวไม่สดใส แววตาฉินหลันซูเปล่งประกายชัยชนะ ปากพ่นคำพูดออกมา

“เมื่อคืนตอนที่ฉันกับกู้เหวินเฉิงกลับมา เห็นผู้ชายที่รูปร่างเหมือนพี่เขยกอดกับผู้หญิงสวยคนหนึ่งขึ้นตึกมา”

ฉินอีหลิน เราใช้ชีวิตต่อไปด้วยกันเถอะ

ในหัวเธอคิดถึงคำพูดประโยคนั้นโดยไม่สามารถควบคุมได้ พลันส่งเสียงหัวเราะออกมา นี่หรอที่เรียกว่าชีวิต นี่หรอที่เรียกว่าด้วยกัน คำสัญญาบ้าๆนั่น หลอกลวงสิ้นดี

ราวกับมีมือโหดร้ายยื่นมาบีบรัดหัวใจเธอแน่น ฉินอีหลินรู้สึกหายใจติดขัด เธอใช้กำลังทั้งหมดประคองร่างตัวเองให้มั่นคง ไม่ให้สั่นระริก

ยืดอกขึ้น แม้ใบหน้าจะซีดเซียว แต่กลับไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆออกมา เธอยังมีความทะนงตนอยู่

แปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมา ฉินหลันซูนึกว่าเธอจะตอบโต้อะไรมาบ้าง ไม่อยากจะเชื่อหรืออาละวาดออกมา แต่เธอไม่คิดว่า ฉินอีหลินจะยังเย่อหยิ่งทะนงอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้

แต่ว่า แม้ว่าเธอจะประคองเกียรติศักดิ์ศรีที่น่าขันของเธอไว้ ยังไงก็ปกปิดความจนตรอกในตอนนี้ไม่ได้

สามีที่พึ่งแต่งงานกัน ไม่กลับมาทั้งคืนแถมยังขึ้นห้องไปกับผู้หญิงคนอื่นในช่วงฮันนีมูน

เหอะ ฉินอีหลินนะฉินอีหลิน สีหน้าของเธอมันแสดงออกชัดตั้งนานแล้ว

ถึงแม้ฉินหลันซูจะเอ่ยแสดงความเสียใจต่อพี่สาวของเธอยังไง พอมองไปยังใบหน้าไร้สีเลือดนั้น เธอพบว่าการมาวันนี้ ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท