ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 28

ตอนที่ 28

ตอนที่ 28 เราใช้ชีวิตต่อไปด้วยกันเถอะ

ได้ยินแบบนั้น สมองเธอพันขาวโพลน ไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ เอ่ยออกมาอย่างไม่ทันได้คิด

“ลี่โม่อวี่ คุณชอบฉันแล้วหรือเปล่า”

พอพูดจบ พลันมีสติปิดปากตัวเอง เลือดสูบฉีด แม้แต่คอของเธอก็กลายเป็นสีแดงไปหมด

“เมื่อกี้ฉันล้อเล่น แค่ล้อเล่น….คุณอย่าเก็บมาใส่ใจเลย ฉันผิดไปแล้ว”

ลี่โม่อวี่เห็นคนตรงหน้ากำลังเขินอายพลันอารมณ์ดี มุมปากยกยิ้ม แววตาอบอุ่นขึ้นทันที

แขนยาวยื่นออกไป ดึงเอาฉินอีหลินเข้าสู้อ้อมกอดแน่น ปลายจมูกแหลมเกลี่ยไปที่แก้มร้อนผ่าว การกระทำสนิทสนมนี้ยิ่งทำให้แก้มของหญิงสาวแดงและร้อนมากขึ้น

“ลี่โม่อวี่ คุณปล่อยฉันนะ”

ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำแบบนี้ และไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเขากอดแบบนี้ แต่สถานการณ์วันนี้แตกต่างออกไปอยู่บ้าง

สมองเธอเต็มไปด้วยคำพูดที่เธอพึ่งพูดออกไป ตอนนี้ยังได้รับการปฏิบัติด้วยแบบนี้ รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

ลี่โม่อวี่ทำราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงคนในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาคลอเคลียอยู่ใกล้ใบหูเลื่อนลงไปที่ลำคอระหง สองมีเริ่มอยู่ไม่นิ่งสำรวจไปทั่ว

“ปล่อยนะ”

ฉินอีหลินถูกผู้ชายตรงหน้าทำให้อ่อนระทวย เธอพยายามต่อต้านเขา แต่เสียดายแรงอันน้อยนิดของเธอยิ่งผลักดันยิงเหมือนเชิญชวนเขา

“ฉินอีหลิน”

ลี่โม่อวี่รู้สึกถึงความเขินอายของหญิงสาวในอ้อมแขน แววตาเปล่งประกายรอยยิ้ม ริมฝีปากโน้มเข้าใกล้ใบหูเล็ก น้ำเสียงกดต่ำชวนให้สับสน

“เราใช้ชีวิตต่อไปด้วยกันเถอะ”

ฉินอีหลินได้ยินพลันเบิกตาโพลง ถ้าบอกว่าประโยคเมื่อกี้ทำให้เธอตกใจละก็ งั้นประโยคจริงจังนี้ยิ่งทำให้เธอตื้นตันใจและไม่อยากจะเชื่อ

ในสายตาของเธอ ลี่โม่อวี่คือผู้ชายไม่มีหัวใจมาตลอด เขาเป็นคนที่ไม่เคยมอบหัวใจให้ใครมาก่อน เขาที่มีเสน่ห์ ไร้ความรู้สึก มีอำนาจ

เธอเคยเจอเขาในหลายรูปแบบ และเพราะเคยเจอมาเยอะ เธอจึงไม่เข้าใจเขา

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดฝันว่าผู้ชายเพียบพร้อมคนนี้จะชอบตัวเอง เพียงแต่มีผู้หญิงมากมายที่เคยคาดฝันเหมือนกับเธอ เธอไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะเป็นคนที่โชคดีนั้น

“คุณบอกว่า……..พวกเรา?”

ลมหายใจของเธอหอบถี่ เธอไม่กล้ามองสองมือที่กำลังอ้อยอิ่งอยู่บนร่างของตัวเอง

“ใช่ พวกเรา”

ไม่เปิดโอกาสให้ฉินอีหลินได้พูดอีกต่อไป ลี่โม่อวี่โฉบครอบครองปากเล็กหยอกเย้าลิ้นเล็กของหญิงสาว จูบเธอพร้อมยกอุ้มเธอเดินเข้าห้องนอน

โยนเธอลงบนเตียงนอนกว้าง เขาไม่รีบร้อนเอาแต่ใจ ใช้ปลายลิ้นร้อนเล้าโลมปลอบประโลมสำรวจไปบนผิวละเอียดของคนใต้ร่างอย่างรักใคร่

ฉินอีหลินสมองขาวโพลน เธอกอดยึดผมนุ่มของเขา ไม่รู้ว่าต้องผลักออกหรือทำให้เขาแนบชิดมากขึ้น

ลาดไหล่ กระดูกไหปลาร้า ท้องน้อย เธอสัมผัสได้ถึงลิ้นร้อนที่ถูกกั้นด้วยผ้าขนหนูนั้นอย่างอ้อยอิ่ง

เธอต้องการมากกว่านี้

ทนไม่ไหวยกตวัดสองขาขึ้น ฉินอีหลินกัดริมฝีปากล่างแน่นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา

ลี่โม่อวี่สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวใต้ร่าง รู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จในการเล้าโลม

ค่อยๆปลดผ้าขนหนูออก เขาใช้ความนุ่มนวลที่ไม่เคยมีมาก่อนปลอบประโลมเอาอกเอาใจตอบสนองความปรารถนาของทั้งคู่

เวลานี้ นุ่มนวลอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

หกโมง เสียงโทรศัพท์ปลุกให้สองร่างที่กำลังตระกองกอดกันนั้นตื่นจากการหลับใหล ฉินอีหลินยกมือขยี้ดวงตา พบว่าร่างของทั้งคู่นั้นเปลือยเปล่าใบหน้าพลันแดงระเรื่อ มองไปยังโทรศัพท์พบว่าเป็นฉินหลันซู

จึงกดรับสาย ในหัวของเธอขบคิดถึงคำพูดของลี่โม่อวี่ที่พูดออกมาเมื่อตอนบ่าย

เชาบอกว่า ฉินอีหลิน เราใช้ชีวิตต่อไปนี้ด้วยกันเถอะ

เสียงที่ส่งผ่านมาทางโทรศัพท์นั้นรีบร้อน เธอฟังไม่ชัดฉินหลันซูกำลังพูดอะไร สายก็ตัดไป เธอได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของลี่โม่อวี่

ฉินอีหลินจ้องเขม็งไปยังผู้ชายข้างๆ “หัวเราะอะไร”

จริงๆเธออยากถามเขามาก สิ่งที่เขาพูดเมื่อตอนบ่ายนั้นหมายถึงอะไร แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

ลี่โม่อวี่โอบกอดหญิงสาวข้างกายไว้ มองดูเธอที่ยังเหม่อลอย นัยน์ตาฉายแววเอ็นดู จริงๆชีวิตแบบนี้มันดีจริงๆ

“ยังจะเหม่ออีก อีกหน่อยฉินหลันซูก็เร่งรัดคุณอีก”

เคาะปลายจมูกเธอเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ฉินหลันซูกำลังยืนคุยกับกู้เหวินเฉิงที่หน้าประตูลิฟท์ เห็นว่ากู้เหวินเฉิงส่งสัญญาณ บอกใบ้ว่าข้างหลังมีคน

เธอหันกลับไปมอง ฉินหลันซูเห็นฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่เดิมตามกันมามุ่งหน้ามาทางเธอ

ตกใจมองรอยช้ำแดงบนคอของฉินอีหลินอย่างวิเคราะห์ เธอรู้สึกว่ารอยแดงพวกนั้นกระแทกตาเธอจนเจ็บปวด

ทำไมเป็นแบบนี้ ที่แท้ความสัมพันธ์ของลี่โม่อวี่กับฉินอีหลิน ไม่ได้เป็นแบบที่เธอคาดเดา?

ขณะที่ฉินหลันซูกำลังสับสนอยู่ในใจ กู้เหวินเฉิงหรี่ตามองฉินอีหลินตรงหน้าอย่างเงียบเชียบเช่นกัน ใบหน้ายังคงไว้ด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่รู้ว่าในใจนั้นคิดอะไรอยู่

ฉินหลันซูรีบปรับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว เก็บแววตาฉงนเอาไว้ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเดินเข้าไปจับมือพี่สาวตัวเอง

“พี่สาว เราไปทานข้าวกันก่อน ค่อยไปสปาต่อ จริงสิ ได้ยินว่าที่นี่มมีการแสดงคาบาเร่โชว์ เดี๋ยวเราไปดูกันนะคะ”

ราวกับเด็กติดพี่สาว เจื้อยแจ้วบอกแผนการของตนเอง

กลับไม่รู้ว่า ท่าทางสนิทสนมของเธอกับสายตาของลี่โม่อวี่และฉินอีหลินนั้นช่างตลกสิ้นดี

ลี่โม่อวี่ราวกับกำลังดูตัวตลกก็ไม่ปาน นัยน์ตาเย็นชาปราดมองหญิงสาวที่มีแผนการคนนั้น

ฉินอีหลินถูกน้องสาวลากลงลิฟท์ไป ความกระตือรือร้นจนเกินไปของหญิงสาว เธอเพียงรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

จนถึงตอนนี้ฉินอีหลินก็ยังไม่เข้าใจ ฉินหลันซูรู้ได้อย่างไรว่าคิดร้ายกับเธอแล้ว ยังทำราวกับไม่มีอะไรแล้วยังเรียกเธอว่าพี่สาว

หันไปมองลี่โม่อวี่ ฉินอีหลินอยากปฏิเสธ เธอไม่ใช่แม่มารี ที่ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาแล้วยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่อยากให้ความขัดแย้งของทั้งคู่นั้นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นพี่น้องกัน

ลี่โม่อวี่แน่นอนว่าเข้าใจความรู้สึกของฉินอีหลิน ริมฝีปากยกยิ้ม ช่วยฉินอีหลินออกจากมือของผู้หญิงคนนั้นอย่างนุ่มนวล

โอบไหล่ผู้หญิงของเขา บีบจมูกเธออย่างเอ็นดู เอ่ยอย่างเสียดาย

“ถ้ารู้ว่าแผนการของพวกคุณน่าสนใจขนาดนี้เราคงไม่เตรียมมาก่อนล่วงหน้าหรอก แต่เมื่อกี้เราวางแผนตารางของเราไว้แล้ว คงไม่ไปร่วมกับพวกคุณแล้ว หลันซู เหวินเฉิง ขอให้พวกคุณสนุกนะครับ”

พูดจบไม่รอให้ฉินหลันซูตอบกลับ ลี่โม่อวี่โอบประคองคนในอ้อมแขนเดินแยกออกไปทันที

ฉินหลันซูกัดฟันแน่นมองทั้งคู่ที่เดินโอบประคองกันออกไป แววตาไม่ปกปิดความริษยาไว้เลยสักนิด สายตาเย็นชาของกู้เหวินเฉิงมองดูฉินหลันซู แววตาเย้ยหยัน

“กระวนกระวายกินเต้าหู้ร้อนไม่ได้ คุณคิดว่าเขาโง่หรือไง”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท