ตอนที่ 46 ช่วยชายอื่นเลี้ยงลูก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉินอีหลินไม่สามารถปฏิเสธฉินตงไห่ได้
ในบ้านตระกูลฉิน ก็มีเพียงแค่พ่อของเธอคนเดียวเท่านั้นที่ดีกับเธอ
แม้ว่าต่อมาเธอจะแต่งงานกับลี่โม่อวี่โดยได้ขออนุญาตพ่อ จนกระทั่งทำให้ฉินหลันซูได้รับบาดเจ็บ แม้ผลกรรมจะตามสนองเธอ แต่พ่อก็ยังคง ไม่ดุด่าเธอรุนแรงมากนัก
เขามักจะติดตามดูตัวเธออย่างเงียบๆ
คิดไตร่ตรองอยู่สักพัก เธอก็มาถึงร้านอาหารที่พ่อเธอบอก
ผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาที่ร้านอาหารของโรงแรมหัวซิงแห่งนี้ เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ฉินอีหลินก็มองเห็นรถยนต์คันหรูจอดอยู่ที่หน้าประตู คว้ากระเป๋าถือไว้ในมือ ยกเท้าเดินเข้าไปด้านใน
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าจองไว้รึเปล่าคะ?”
พนักงานต้อนรับหญิงเปิดประตูให้เธอพร้อมทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล กล่าว
“เรือนดอกโบตั๋น”
“ได้ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ ฉันเดินไปเองก็ได้ค่ะ”
ฉินอีหลินก้มศีรษะเล็กน้อยกล่าวขอบคุณ หลันซูชอบบรรยากาศของโรงแรมหัวซิงมาก และมักจะโวยวายเพื่อที่จะมารับประทานอาหารที่นี่ เพราะเหตุนี้ที่นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวพวกเขามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกันบ่อยครั้ง อีกทั้งประจวบกับห้องดอกโบตั๋นก็ยังเป็นห้องที่ฉินอีหลินชื่นชอบ
นึกถึงพฤติกรรมที่ทำกับแม่และฉินหลันซูเธอไม่รู้ว่าจะเข้าไปทำตัวยังไง
กัดเบาๆที่ริมฝีปาก ฉินอีหลิน.พยายามฉีกรอยยิ้มออกมา ผลักประตูเข้าไปในห้อง
แต่เมื่อมองไปรอบๆ ฉินอีหลิน.กลับตะลึงเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าเป็นงานเลี้ยงครอบครัว แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่รู้กลับไม่รู้จัก
พิจารณา 2 คนตรงหน้าอย่างเงียบๆ ทางด้านซ้ายเป็นผู้หญิงที่ดูสง่างาม ตามด้วยบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังเป็นชายต่างชาติ
ไม่ให้เวลาฉินอีหลินได้คิด ฉินตงไห่ทักทายลูกสาวตัวเองอย่างกระตือรือร้น
“.ฉินอีหลินลูก รีบเข้ามานี่ นี่คือคุณป้าอานหน้า”
“คุณป้า คุณลุง”
ฉินอีหลินทักทายสองคนตรงอย่างมีมารยาท เธอสังเกตได้ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตรงหน้าเธอดุโดดเด่นกว่าใคร ดูเหมือนอายุราวๆ 40 ปี บุคลิกสง่างาม
เพียงแค่เอ่ยเรียกชื่อเธอว่า ป้า ออกมา บุคคลผู้นั้น ก็มีสีหน้าที่ปิดไม่มิด ราวกับว่าไม่ชอบที่โดนเรียกแบบนี้
ฉินอีหลินสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนตรงหน้า เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตัวเองเสียมารยาทตรงไหน
จ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยความสับสน ไม่รอให้ฉินตงไห่เอ่ยคำอธิบาย ผู้หญิงที่สุภาพเยือกเย็นคนนั้นก็ทักทายเด็กสาวให้นั่งลงข้างตัวเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อีหลิน นั่งลงเถอะ ช่วงนี้เป็นไงบ้าง งานยุ่งรึเปล่า ฉันและพ่อของเธอสั่งอาหารที่เธอชอบกินทั้งนั้นเลยนะ รีบกินสิ กินเยอะๆ”
หลังจากที่ฉินอีหลินนั่งลง ผู้หญิงที่ชื่ออานหน้า ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสำรวจมองไปรอบๆฉินอีหลินอีกทั้งยังสั่งอาหารโปรดให้เธออีกด้วย
“ช่วงนี้ก็ดีค่ะ เพราะอากาศเริ่มหนาวขึ้น ร้านดอกไม้ก็ค่อนข้างเงียบ ไม่ยุ่งมากมายเท่าไหร่”
ฉินอีหลินมองดูผู้หญิงที่กระตือรือร้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้เป็นห่วงเป็นใยเธอ เธอกินอาหารในจานอย่างมีมารยาท เธอทำได้แค่เพียงยิ้มรับมือสถานการณ์ตรงหน้า
“อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยมาก สุขภาพร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ”
“อืม ฉันรู้แล้วค่ะ”
ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฉินอีหลินถูกผู้หญิงที่ชื่ออานหน้าจูงมือออกมาจากห้อง
จริงๆเธอไม่คุ้นเคยกับการกระทำที่สนิทสนมแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า แต่เพื่อรักษาเกียรติของผู้เป็นพ่อ เธอจึงปฏิเสธไม่ได้
“คุณพ่อครับ ครั้งหน้ายังจะพาผมมาอีกไหม?”
ขณะที่ฉินอีหลินและอานหน้าเดินออกมาจากห้องอาหาร บังเอิญกับที่ลี่โม่อวี่จูงมือมู่เนี่ยนอวี่ออกมาจากสวนดอกลิลลี่ตรงข้ามเดินออกมาที่นี่
ทันทีที่เงยหน้า ลี่โม่อวี่มองเห็นผู้หญิงของตัวเองที่ไม่ได้เจอหน้ามาหลายวัน เท้าหยุดชะงัก เขาอยากพุ่งเข้าไปกอดภรรยาที่ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อมู่หลิงเดินมาถึงข้างกายเขา เขาพบว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ทักทายฉินอีหลิน
“คุณพ่อครับ ทำไมไม่เดินต่อละครับ”
มู่เนี่ยนอวี่เห็นว่าลี่โม่อวี่ก้าวเท้าหยุดเดิน ก็เงยหน้าซักถามอย่างสงสัย น้ำเสียงเจี๊ยวแจ๊วดึงดูดให้ฉินอีหลินที่ยืนรออยู่หันไปมองตรงนั้น
ฉินตงไห่ยิ้มฟังผู้หญิงในครอบครัวสองคนคุยกัน ได้ยินเสียงภายใต้จิตสำนึกจึงหันไปมอง ทันทีที่มองเห็น เขากลับตกตะลึง
บุตรเขยตัวเองจูงมือเด็กคนหนึ่ง มีผู้หญิงยืนอยู่ข้างกายอย่างใกล้ชิดสนิทสนม แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับตัวเขาคือ เด็กคนนั้นเรียกเขาว่า “พ่อ”
สายตาฉินตงไห่ดูแข็งกร้าวขึ้นมาทันที
เมื่อก่อนเคยติดต่อพูดคุยกับลี่โม่อวี่มาสองสามครั้ง ฉินตงไห่ยังคิดว่าผู้ชายคนนี้ปกป้องลูกสาวของเขาได้ และวางใจที่จะฝากฝังให้ดูแล อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่ากู้เหวินเฉิง
แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ทั้งสองคนก็คงไม่ต่างกัน
มองดูลูกสาวด้วยความสงสัย สายตาของฉินตงไห่ดูไม่สบายใจ
ฉินอีหลินได้รับข้อความจากผู้เป็นพ่อทางสายตา เธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามนี้ยังไง
หรือบอกพ่อไปว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของสามีเธอ อีกทั้งยังมีลูกกับเขา ตอนนี้ทั้งสองคนกลับมาแล้ว ตัวเองต้องคืนตำแหน่งนั้นให้กับเธอ
ยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมก้มหน้าลงต่ำ เธอทำได้เพียงเงียบ ตอบรับสายตาที่มองอย่างตั้งคำถามจากผู้เป็นพ่อ
มือลูบเข้าที่หน้าท้องโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนเธอรู้สึกได้ถึงชีวิตเปราะบางตรงหน้าท้อง ภายในใจเต็มไปด้วยความทุกข์
ลี่โม่อวี่ลูกของคุณกลับมาแล้ว ลูกของฉันล่ะควรทำยังไง?
มองดูพ่อลูกสื่อสารผ่านทางสายตา อานหน้ามองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ายกคิ้วขึ้น ด้วยสายตาที่พูดไม่ออก ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตาของเธอจ้องมองลี่โม่อวี่และเด็กคนนั้นอย่างไม่ลดละ
“หือ นั้นมันสามีของอีหลินไม่ใช่เหรอ? ดูแล้วก็คงไม่ฉลาดเท่าไหร่ ช่วยผู้ชายอื่นเลี้ยงดู ที่คิดไว้ไม่เหมือนคนทั่วไป
พูดจบ โดยไม่สนใจใบหน้าที่เรียบนิ่งของลี่โม่อวี่ เธอหันกลับมามองฉินอีหลินที่อยู่ข้างกาย
“ลูก ไม่สนว่าหนูจะตัดสินใจยังไง ไม่สนว่าทุกคนจะเข้าใจหรือไม่ เมื่อไหร่หนูต้องการความช่วยเหลือ มาหาฉันได้ตลอดเวลา”
.ฉินอีหลินได้ยินน้ำเสียงเรียบเย็นของอานหน้าก้นบึ้งหัวใจกลับเต้นผิดปกติ แต่เธอยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้นสัญญาด้วยความจริงใจ
ฉินอีหลินยิ้มอย่างสุภาพ กำลังปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูด ก็ถูกขัดจากผู้หญิงตรงหน้า
“ฉันรู้ว่าหนูจะพูดอะไร แต่อีหลินระหว่างเราไม่มีอะไรที่ต้องเกรงใจ”
อานหน้าดึงคนที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอเดินผ่านไปทางด้านหลังลี่โม่อวี่เพราะในใจของฉินอีหลินอึดอัด ทำให้ต้องหลบสายตา
“ฉันไม่ได้กลับมาที่ประเทศจีนนานมากแล้ว เดี๋ยวหนูก็ลางาน พวกเราไปเที่ยวด้วยกันนะ”
ฉินตงไห่ยังคงจับจ้องลี่โม่อวี่อย่างไม่ลดละ แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลตระกูลฉินจะไม่มากมายเท่าH&J แต่ถ้าลี่โม่อวี่กล้าหลอกลวงลูกสาวของเขา เขาไม่มีทางยอมให้ปล่อยไปง่ายๆอย่างเด็ดขาด
อีหลินเดินมาถึงหน้าประตูร้านอาหาร เห็นว่าอานหน้าขึ้นรถไปก่อนแล้ว ฉินตงไห่ถึงเรียกลูกสาวที่มีท่าทางผิดแปลกไปจากเดิม
“หนูเชื่อใจอานหน้าได้ ลูกรัก แม้ว่าโลกทั้งใบนี้ทำร้ายหนู แต่เธอไม่มีวันที่จะทำร้ายหนูอย่างแน่นอน”