ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 70

ตอนที่ 70

บทที่ 70 ยิ่งหักห้ามใจยิ่งใส่ใจ

ฉินอีหลินวางตัวไม่ถูกมองไปยังลี่โม่อวี่ที่อยู่ในห้อง ยิ้มออกมาอย่างบิดบังความผิด “บังเอิญจัง บังเอิญจริงๆ”

ลี่โม่อวี่นอนยกยิ้มมุมปากอยู่บนเตียง เขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เอ่ยตามน้ำไป “บังเอิญจริงๆ”

ฉินอีหลินจ้องเขาตาเขม็ง ให้กับคนที่ตั้งใจพูดล้อเลียนเธอ มองข้ามมู่หลิงที่มีใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปโดยสิ้นเชิง

ก่อนที่อานหน้าจะเอ่ยปาก เธอก็รีบหันมาพูดกับแม่ตัวเอง “หนูจะไปขอเปลี่ยนห้องกับพยาบาล….”

“อืม”

ตอบรับเบาๆ อานหน้ากับลี่โม่อวี่ก็จ้องตากันเขม็ง นันย์ตาของผู้หญิงคนนั้นมีความเผด็จการ เธอจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ทำร้ายลูกสาวเธออีกแน่

อีกด้าน ลี่โม่อวี่มองตอบกลับอานหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ สายตายั่วยุบ่งบอกชัดเจน……..ฉินอีหลินเป็นผู้หญิงของเขาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

“ไม่มีห้องเหลือแล้วค่ะ เพราะเหตุจลาจลเมื่อครู่ ทำให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ ห้องพักผู้ป่วยเต็มหมดแล้ว ถ้าจะเปลี่ยน คงต้องไปเพิ่มเตียงที่ระเบียงทางเดิน

ไม่ให้โอกาสกับทั้งคู่ได้สบตากันนาน ฉินอีหลินมีสีหน้าลำบากใจเดินกลับมา เธอดึงชายเสื้อแม่ของเธอเบาๆ แล้วบอกออกไป

อานหน้าผงกหัวตอบรับอย่างไม่เต็มใจ บ่งบอกว่ายอมรับอย่างเงียบๆ

ลี่โม่อวี่มองกลุ่มคนเข้ามาในห้อง มองสังเกตฉินอีหลินที่ยืนอยู่ไม่ไกลไม่หยุด จนเห็นว่าท่าทางเธอไม่ได้รับอันตรายส่วนไหน ค่อยผ่อนลมหายใจออกมา

“ช่วงนี้คุณไปผิดใจกับใครมาหรือเปล่า?”

ลี่โม่อวี่เห็นฉินอีหลินวุ่นวายอยู่กับหลงอี้เซวียนจึงรู้สึกหึงหวง แต่เขาก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้หญิงของเขา

ในตอนนั้นเอง หลงเซี่ยวเทียนเดินเข้ามาในห้องพอดี เขาไม่คิดว่าพอเข้ามาในห้อง จะได้ยินเสียงของ “สามีเก่า” ของลูกสาวถามคำถามนี้ออกมา

แม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอลี่โม่อวี่ แต่เขาก็เคยเห็นในรูปมาบ้าง

อานหน้าและหลงเซี่ยวเทียนมองสบตากัน หลังจากนั้นเบนสายตาไปหาคนที่กำลังพูดอยู่อย่างลี่โม่อวี่

จริงๆตามความคิดของตระกูลหลง สิ่งที่ลูกสาวของเขาโชคร้ายที่สุดก็คือการรู้จักกับลี่โม่อวี่นี่เอง

ยาสลบ ลักพาตัว ยังมี…..เหล่านั้นล้วนไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนี้หรอ?

เมื่อสักครู่ที่ฉินอีหลินเดินออกไป ลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้ไว้หน้ามู่หลิงเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงซุปไก่ที่เธอเคี่ยวเลย

เธอนั่งทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างเตียงของเขาไม่พูดไม่จา พึ่งจะเห็นใบหน้าอบอุ่นของเขา ฉินอีหลินก็โผล่มาที่นี่อีกครั้ง

มู่หลิงก้มหน้าเล็กน้อย กลัวว่าลี่โม่อวี่จะเห็นสายตาโกรธเกลียดของเธอ

น่าโมโห ทำไมคนที่โดนกระสุนถึงไม่เป็นเธอ!

“รถพ่วงคันนั้น เดิมทีก็มุ่งทำร้ายคุณ”

ลี่โม่อวี่ไม่ได้สนใจสายตาของคนทั้งคู่ เขามองเพียงแต่ผู้หญิงของเขา คิ้วคมขมวดมุ่น

ถูกลี่โม่อวี่เตือน ฉินอีหลินค่อยนึกย้อนไปถึงความแปลกประหลาดของเรื่องเมื่อคืน

“เรื่องอะไรกันแน่?”

หลงเซี่ยวเทียนมองไปยังลูกสาวของตัวเอง เขาไม่ต้องการให้เธอปิดบังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองกับเขา เรื่องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเขาไม่มีทางจะรับมันได้อีกครั้ง

“เมื่อคืน….”

ฉินอีหลิงไม่รู้จะเริ่มอธิบายยังไง “เมื่อคืนหนูไปขับรถเล่น พอดีเจอกับลี่โม่อวี่…..”

“ขับรถเล่นหรือตั้งใจไปหาผม?”

ลี่โม่อวี่ฟังที่ฉินอีหลินบอกแบบนั้น จึงเอ่ยถามอย่างไม่กลัวตาย

“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าคุณอยู่ที่นั่น!”

ฉินอีหลินที่ไม่รู้จะตอบยังไงอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีชายหนุ่มที่คอยพูดแทรกอยู่ด้วย เธอจึงจ้องเขาเขม็ง

แต่ในสายตาของชายหนุ่ม สายตาแบบนี้ไม่เหมือนการเตือน เหมือนการหยอกล้อมากกว่า

“คุณขับรถไปถึงบ้านของผม ยังไม่รู้อีกหรอว่าผมอยู่ที่นั่น คุณกำลังล้อผมเล่นหรอ?”

เห็นท่าทางที่ฉินอีหลินตวาดเบาๆ ลี่โม่อวี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมามาก ยิ่งเธอปกปิด ก็เหมือนกันเธอยิ่งสนใจ

ยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี คนบนเตียงแกล้งเอ่ยขึ้นมา

“ลี่โม่อวี่!”

ฉินอีหลินได้ยินดังนั้นพลันรู้สึกหวาดกลัว เธอมองกลับไปหาพ่อกับแม่ตัวเอง กลัวว่าพวกเขาจะโกรธจนปิดประตูหนีไป บางทีอาจผิดหวังกับเธอมาก

มู่หลิงได้ยินว่ามีศัตรูอีกฝ่ายจับจ้องฉินอีหลินอยู่ เธอก็แอบดีใจ

แต่พอได้ยินทั้งสองแอบพูดคุยกัน สีหน้าของเธอพลันแย่ลง ฉินอีหลินเอาเธอไปไว้ที่ไหน?

เมื่อสักครู่ลี่โม่อวี่บอกว่า ฉินอีหลินอยู่หน้าบ้านเขา คฤหาสน์ตระกูลลี่เธอคงไม่ไปแน่นอน

คอนโดเก่า……..

มู่หลิงคาดไม่ถึง ที่ที่เคยเป็นของเธอตอนนี้ถูกฉินอีหลินยึดไปเป็นรังหมดแล้ว ในใจเธอแทบอยากจะทำลายสื่อรักของคนรักของตนกับผู้หญิงคนนั้นให้ราบคาบ

หลงเซี่ยวเทียนและอานหน้ามองเห็นใบหน้าร้อนรนของลูกสาวตัวเอง ได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาขุดคุ้ยเรื่องนี้

“รถพ่วงคันนั้นทำไม?”

หลงเซี่ยวเทียนไม่ยอมให้ลูกสาวต้องพูดยาก รีบถามถึงสิ่งที่สงสัย

“หนูมองเห็นรถพ่วงคันนั้น และหลบทางให้แล้ว แต่รถคันนั้นพุ่งตรงเข้ามาหาหนู ไม่ให้เวลาหนูคิดเลยสักนิด”

ได้ยินดังนั้น อานหน้าสับสนมองไปยังลี่โม่อวี่ ต่อมาลากฉินอีหลินออกมาจากห้อง หลงเซี่ยวเทียนรู้ว่าภรรยามีเรื่องจะคุยกับลูกสาว เขาจึงนั่งลงข้างๆและตรวจสอบบาดแผลของหลงอี้เซวียน

มู่หลิงเห็นสายตาที่ลี่โม่อวี่มองตามฉินอีหลิน ไม่หันมามองเธอแม้เพียงเล็กน้อย รู้สึกทนไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คิดไตร่ตรองอยู่สักพัก เธอจึงบอกชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยรอยยิ้ม “ฉันไปซื้ออะไรหน่อย เดี๋ยวกลับมา มีอะไรโทรหาฉันนะ”

อีกด้าน อานหน้าลากฉินอีหลินมาที่ทางหนีไฟ ถามออกมาตรงๆ “เธอเป็นอะไรกันแน่? ยังรักลี่โม่อวี่อยู่ใช่ไหม?”

ฉินอีหลินรู้อยู่แล้วว่าแม่ของเธอจะต้องถามคำถามนี้ แต่เธอไม่คิดว่า อานหน้าจะถามตรงๆแบบนี้ เธอเม้มริมฝีปากแน่น เธอหลบสายตาไม่กล้ามองผู้หญิงตรงหน้าตรงๆ

“เปล่าค่ะ”

อานหน้าเห็นท่าทางของลูกสาวตัวเองแล้ว ได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ เธอลูบใบหน้าฉินอีหลินเบาๆด้วยความรัก น้ำเสียงเจ็บปวด “อีหลิน เธออย่าลืมเรื่องเมื่อห้าปีก่อนสิ”

ความเจ็บปวดแวบผ่านในสายตาของฉินอีหลิน แต่เธอรีบเก็บมันไปอย่างรวดเร็ว

นึกถึงผู้หญิงสามคนที่ราวกับกิ้งก่าได้ทองนั้น แววตาของฉินอีหลินเยือกเย็น น้ำเสียงเย็นอย่างไม่รู้ตัว

“แม่คะ แม่วางใจเถอะ บัญชีเมื่อห้าปีที่แล้ว ฉันจะเอาคืนทุกคน คนแรกนั้นก็คือมู่หลิง”

มู่หลิงออกมาจากห้องพักผู้ป่วยแล้วจึงแอบตามฉินอีหลินมาตลอด

เธออยากรู้จุดอ่อนของผู้หญิงคนนั้น หรือว่าไปผิดใจกับใครมา เธอจะได้ไม่ร่วมมือกับคนคนนั้น แต่เธอไม่คิดว่า เธอจะมาได้ยินอะไรแบบนี้

นึกย้อนกลับไปในวันนั้นเมื่อห้าปีที่แล้ว คนต้นคิดดูเหมือนว่าจะเป็นเธอ

ความหวาดกลัวในสายตาเริ่มฉายชัดขึ้น เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฉินอีหลินคนนี้ยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองยังไง

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท