บทที่ 98 อย่าทำให้เกลียดเลย
ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เงียบฉี่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เยือกเย็น อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่กดดันแฝงมาในอากาศด้วย ทำให้ฉินอีหลินบอกไม่ถูกจริงๆ
ฉินอีหลินสูดหายใจเข้าลึก เธอกะจะทำลายบรรยากาศเงียบๆ แบบนี้ขึ้นก่อน เธอส่งสายตาไปมองลี่โม่อวี่ก่อนจะเก็บสายตากลับมา น้ำเสียงเธอรู้สึกได้เลยว่ามันสั่นเครือและสับสนไปด้วย
“สิ่งที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้วนะ หวังว่าหลังจากนี้พวกเราจะต่างคนต่างเดิน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกนะคะ”
มาถึงตอนนี้ทุกอย่างมันควรต้องพอได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วมันจะดีอะไร? ระหว่างพวกเธอสองคนไม่มีอะไรที่เป็นไปได้อีกแล้ว ฉินอีหลินรู้สึกว่ามันช่างเหนื่อยเสียเหลือเกิน ไม่คิดอยากจะเป็นแบบนี้อีกต่อไป
ฉินอีหลินลุกขึ้นยืนก่อนจะยิ้มขึ้น เหมือนอย่างปรกติทุกที : “ถ้าอย่างนั้นก็แค่นี้แล้วกันนะ ลาก่อนนะ แล้วก็คงจะไม่ได้เจอกันอีก”
ลี่โม่อวี่ได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นทันที ตอนนี้เขาเหมือนกับลมหนาวที่พัดความเย็นมาไม่หยุดเป็นพันๆ ปี สายตาที่เก็บอยู่ภายใต้ขนตานั้น ทำให้มองไม่ออกว่าเขามีอารมณ์อย่างไรในตอนนี้ เพียงแต่รอยบาดแผลบนใบหน้าของเขานั้น กลับเหมือนว่ามันมีชีวิตอยู่เลย
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรสักคำเลย
ฉินอีหลินไม่ได้ยินเขาตอบอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งขึ้นนิดหนึ่ง ความเจ็บปวดที่ฝ่ามือของเธอทำให้เธอมีสติได้ ก่อนจะเดินมุ่งออกไปด้านนอกทันที หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ระหว่างพวกเธอทั้งสองคนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก
เรื่องราวหลังจากนี้ต่อไปจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก แล้วก็ไม่ต้องไปจดจำมันด้วย
ขณะที่ฉินอีหลินกำลังเดินออกไปอย่างหนักแน่นนั้น ลี่โม่อวี่ที่นั่งเงียบมาตลอดก็ยันกายลุกขึ้น พลางดึงแขนเธอไปทันที ก่อนจะโอบกายเธอไว้แล้วผลักเธอลงไปที่โซฟาอย่างรุนแรง
ความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงแบบนี้ ทำให้ฉินอีหลินไม่ทันได้ตอบสนองอะไร พอเธอถูกผลักให้ล้มลงไปบนโซฟา เธอก็รีบดิ้นรนลุกขึ้นยืนทันที พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธอย่างควบคุมไม่ได้ : “ลี่โม่อวี่ คุณบ้าไปแล้ว!”
ลี่โม่อวี่เห็นว่าเธอพยายามที่จะลุกขึ้น เขาก็กดตัวของเขาไปข้างหน้า ก่อนจะกอดฉินอีหลินไว้แน่น จนร่างกายของเขาติดแนบแน่นกับเธอทั้งตัว
ถึงบนใบหน้าของฉินอีหลินจะมีแต่ความโกรธ แต่มันจะทำอะไรได้ล่ะ? ยังไม่ทันที่ฉินอีหลินจะได้คิดไตร่ตรองอะไร พลันมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ แถมยังรู้สึกหน้าอกที่สั่นสะท้านไปมาของลี่โม่อวี่ได้เลย
“แค่ผมได้พบกับคุณ ผมก็เป็นบ้าไปแล้วล่ะ”
เหมือนกับรถไฟขบวนหนึ่งที่พุ่งผ่านใจของเธอไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังแผ่ซ่านครอบคลุมทั่วทั้งใจของเธออีกด้วย
แค่เธอเหม่อไปเสี้ยววินาที เธอก็ถูกลี่โม่อวี่อยู่เหนือกว่าเธอทันที เขารู้ว่าฝีมือของฉินอีหลินแค่ช่วงไม่กี่ปีมานี้เก่งกาจขึ้นมา เพื่อการป้องกันตัวแล้ว ลี่โม่อวี่จึงถอดเนคไทออกมารัดร่างของเธอไว้อย่างรวดเร็ว
ฉินอีหลินรู้สึกได้ว่าข้อมือของเธอเองถูกมัดไว้ เธอจึงพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่มือทั้งสองข้างกลับถูกมัดรวมไว้ด้วยกัน : “นี่คุณจะทำอะไรน่ะลี่โม่อวี่?”
ลี่โม่อวี่รู้สึกได้ถึงการดิ้นรนและความหวาดกลัวของฉินอีหลินได้อย่างชัดเจน เขาใช้ขาทั้งสองข้างกดผู้หญิงตรงหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเอามือค้ำไว้ข้างๆ ตัวของฉินอีหลินทั้งสองข้าง ก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้ๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของฉินอีหลินอย่างช้าๆ
“คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าผมจะทำอะไร?”
ใบหน้าอันหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ ทำให้ฉินอีหลินเหมือนกับว่าอยู่ในความฝันเมื่อห้าปีก่อน โดยที่ยังไม่ตื่นขึ้นพบความจริง เธอดิ้นรนมากขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ขยับไม่ได้ เพราะขาของเธอถูกลี่โม่อวี่กดทับไว้อยู่
ไม่ว่าฉินอีหลินจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางสลัดคนที่อยู่บนตัวเธอได้เลย เธอมองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างทุกข์ใจ
ลี่โม่อวี่ อย่างไรพวกเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ
“ปล่อยฉันไป!
ลี่โม่อวี่กลับมองดูเธอดิ้นรนแบบนั้นอย่างเยือกเย็น อีกทั้งยิ้มด้วยริมฝีปากที่เรียวบาง พลางมองเข้าไปในแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธอ คล้ายจะบอกความคิดของเขาทั้งหมด ทั้งเหมือนคำตอบ อีกทั้งเหมือนจะรับรองอะไรบางอย่างด้วย : “ฉินอีหลิน ทั้งชีวิตของผม ผมไม่สามารถปล่อยให้คุณไปได้จริงๆ”
“ปล่อยฉันนะ เจ้าคนบ้า!”
ความเกรี้ยวกราดพวยพุ่งออกมาเต็มใบหน้าของฉินอีหลิน เพียงแค่เธอกระพริบตา ริมฝีปากของลี่โม่อวี่ก็เข้ามาประกบกับปากของเธอทันที ทำให้เธอหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึง
ลี่โม่อวี่ไม่อยากได้ยินคำพูดที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจของฉินอีหลินอีก ช่วงหลายปีมานี้เขาไม่เคยไปแตะต้องผู้หญิงคนอื่นเลย อีกอย่างผู้หญิงที่สุดยอดมาอยู่ในอ้อมกอดเขาแบบนี้ จึงสูญเสียสติสัมปชัญญะไปทันที : “อย่าขยับฉินอีหลิน”
ร่างกายที่กำยำของลี่โม่อวี่ จมูกที่สัมผัสกันของพวกเขา แววตาที่ตอนนี้มองเห็นแค่อีกฝ่ายเท่านั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเข้ามาขัดขวางพวกเขาได้ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะอดทนสิ่งที่น่ายั่วยวนใจแบบนี้ได้ ลี่โม่อวี่จูบเธออย่างรุนแรง แต่ในระหว่างนั่นเอง ริมฝีปากเขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดก่อนจะได้กลิ่นเลือดท่วมไปทั่วปากของเขา
ลี่โม่อวี่ลุกขึ้นยืนออกห่างจากเธอเงียบๆ ฉินอีหลินมองมาที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ ในใจของเธอตอนนี้นอกจากความโกรธแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นแฝงอยู่เลย
ฉินอีหลินคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ให้ความเคารพคนอื่นบ้างเลย ทั้งๆ ที่เธอก็แสดงออกให้เห็นชัดเจนแล้ว แต่ลี่โม่อวี่ก็ยังคงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ลี่โม่อวี่ ฉันเป็นคนนะ ฉันก็รู้สึกทุกข์ รู้สึกโกรธเป็น
แล้วเมื่อไหร่คุณจะเริ่มมีความคิดที่ใส่ใจฉันจริงๆ บ้างสักทีล่ะ?
แววตาของลี่โม่อวี่นิ่งขรึมมากขึ้นไปทุกที ริมฝีปากที่ถูกกัดนั้นค่อยๆ มีเลือดซึมออกมา เขาแลบลิ้นออกมาเลียอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทีแบบนี้ทำให้ตัวเขาดูเหมือนเป็นปีศาจไปเสียอย่างนั้น ก่อนที่เขาจะเข้ามากดทับตัวของฉินอีหลินอีกรอบ ฉินอีหลินเห็นแบบนั้นก็รีบหันหน้าหนี ไม่อยากที่จะให้เขาเข้ามาจูบเธออีก
“ฉินอีหลิน คุณไม่มีทางตัดขาดความสัมพันธ์ไปจากผมได้หรอกนะ เพราะคุณจะเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวของผมเท่านั้น”
ลี่โม่อวี่กดริมฝีปากเข้าใกล้หูของเธอ น้ำเสียงเร่าร้อนจนแทบจะเผาทำลายฟ้าดินได้เลย
ลมหายใจที่เร่าร้อนของลี่โม่อวี่สัมผัสเข้ากับหูของฉินอีหลิน ทำให้ใจของเธอเต้นไม่เป็นระส่ำทีเดียว
เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูน ชีวิตในห้าปีที่ผ่านมาของเธอทำให้เธออดคิดถึงเรื่องในแต่ล่ะวัน แต่ละค่ำคืนที่เคยผ่านมาไม่ได้
ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั่ว ทำให้ทั้งสองคนตอนนี้พยายามอดกลั้นที่จะไม่สบตามองกันและกัน
ลี่โม่อวี่ก้มลงงับใบหูของฉินอีหลิน พลันคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนที่พอเขาทำแบบนี้เธอก็หน้าแดงขึ้นมา เธอด่าเขาอย่างเขินอาย พลางรับรู้ทุกๆ ส่วนของเขาไปด้วย แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว เขารู้ว่าเธอกำลังปฏิเสธอยู่ในใจ แต่ลี่โม่อวี่ก็ยังต้องทำแบบนี้ต่อไปเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองสำคัญต่อฉินอีหลินจริงๆ
แต่ดูฉินอีหลิน ดูเหมือนว่าคุณยังเอาใจใส่ผมอยู่เลยนะ
ตอนนี้ใบหน้าของฉินอีหลินแดงก่ำไปหมด เธอค่อยๆ เผยอนิมฝีปากที่แดงฉาดออกมาเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเขินอาย
ลี่โม่อวี่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเธอแล้ว เขาก็ยิ้มพูดขึ้นเสียงแผ่วราวกับว่าโล่งอก : “คุณดูตัวคุณสิ ร่างกายของคุณยังซื่อสัตย์กว่าคุณอีกนะเนี่ย”
ฉินอีหลินจ้องลี่โม่อวี่เขม็ง ก่อนจะแค่นเสียงด่าผ่านไรฟันออกมา : “หน้าไม่อาย!”
ลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากนัก การด่าแบบไม่แสบไม่คันแบบนี้ยิ่งทำให้เขามีอารมณ์มากยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็สัมผัสไปยังส่วนต่างๆ ที่อ่อนนุ่มตามร่างกายของฉินอีหลิน อย่างแผ่วเบาและผ่อนคลาย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะลี่โม่อวี่! อย่าทำให้ฉันเกลียดคุณมากไปกว่านี้เลย!” ฉินอีหลินพูดด้วยความโกรธ แต่สีหน้ายังดูเรียบเฉยแบบนั้น