บทที่ 109 ทำไมมีคนจีบคุณเร็วขนาดนี้
ฉินอีหลินพยายามรีบแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลาเกือบสี่สิบนาทีกว่าจะถึงสนามบิน
พึ่งลงจากรถ ฉินอีหลินเกรงว่าอ้ายหลุนจะรอนาน มองหาไปรอบทิศ กำลังจะโทรหา ก็โดนสวมกอดจากด้านหลัง ฉินอีหลินมึนงงอยู่ชั่วขณะ ลมหายใจพลันชะงัก
หันกลับไปมอง ถ้าไม่ใช่อ้ายหลุนแล้วจะเป็นใคร
ด้านหลัง อ้ายหลุนกระซิบข้างหูฉินอีหลิน “ฉิน ผมคิดถึงคุณ คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า”
แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นรอยแดงรอบคอฉินอีหลิน ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดก็หม่นลง ยังดีที่มีแว่นกันแดดปกปิดเอาไว้ ไม่มีใครสังเกตเห็น อ้ายหลุนรู้สึกหงอยเหงา เขารีบมาขนาดนี้ ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว
ใบหน้าของฉินอีหลินเจื่อนลง เธอเข้าใจความหมายของอ้ายหลุน แต่ตอนแรกเธอก็พูดชัดเจนแล้วไม่ใช่หรอ เธอนึกว่าอ้ายหลุนจะยอมถอย แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงเมืองจีน
ฉินอีหลินไม่ได้ตอบอ้ายหลุน เธอเปลี่ยนหัวข้อ เอ่ยถาม “ทำไมอยู่ๆคุณถึงมาจีนได้ ไม่บอกก่อนสักคำ”
“ก็เซอร์ไพรส์คุณไง” อ้ายหลุนเถียง
ฉินอีหลินเบะปาก นี่เซอร์ไพรส์ที่ไหน แตกตื่นละสิไม่ว่า
“คุณลุงอ้ายหลุน” เสียงอ่อนวัยสองเสียงดังมาจากบนรถ ใบหน้าเล็กพองขึ้นด้วยความโกรธจ้องอ้ายหลุนเขม็ง
พอมาถึงก็กอดแม่ ไม่สนใจพวกเขาเลย หมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนใช่ว่าจะโกรธใครง่ายๆ ก็พวกเขาถูกลืมสนิทเลย
อ้ายหลุนก้มลงบีบแก้มเล็กน่ารัก ถอดแว่นกันแดดและหมวกออกแล้วส่งยิ้มน่าหลงใหลให้ “เจ้าหญิง เจ้าชาย สวัสดี”
เด็กทั้งสองส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ กระโดดพร้อมยื่นมือให้อ้ายหลุนกอด อ้ายหลุน ก็ไม่รีรอ กอดเด็กทั้งคู่แล้วพาหมุนรอบ เมื่อหยุดแล้วจึงบอก “อืม ไม่เจอกันนาน พวกเธอหนักขึ้นไม่เบาเลย”
เมื่อมองเด็กทั้งสองที่กระโดดโลดเต้นอยู่ในอ้อมแขนของอ้ายหลุน ดูมีความสุขสนุกสนาน คำพูดที่ฉินอีหลินอยากพูดออกมาก็ต้องกลืนลงไป พูดไม่ออก จึงเชิญอ้ายหลุนขึ้นรถ
รถเคลื่อนตัวไปสักพัก เด็กทั้งสองเล่นสนุกมากพอแล้ว ฉินอีหลินค่อยเปิดปากถาม “อ้ายหลุนคุณมายังไม่จองโรงแรมใช่ไหม”
พออ้ายหลุนได้ยินก็เปิดปากกว้าง เสียงดังขึ้น “สวรรค์ ฉิน คุณคงจะไม่ใจร้ายขนาดนั้นใช่ไหม ผมเป็นเพื่อนจากแดนไกลนะ ไม่มีประสบการณ์และความคุ้นเคย คุณจะให้ผมไปพักข้างนอก”
ฉินอีหลินยิ้มอย่างอึดอัด จะให้เธอตอบยังไง เธอไม่ได้ขอให้เขามาสักหน่อย
“อยากมากฉันก็ได้แค่เลี้ยงข้าวคุณ” ฉินอีหลินบอกอย่างช่วยมี่ได้
อ้ายหลุนใบหน้าน้อยใจ ดวงตากระพริบปริบๆราวกับเด็กน้อย พูดอย่างน่าสงสาร “ฉิน คุณใจร้ายมาก ผมอยู่ข้างนอกคนเดียว สวรรค์ให้ใบหน้าที่งดงามกับผมขนาดนี้ คุณไม่กลัวว่า……ผมจะโดนลวนลามหรอ”
ฉินอีหลินแทบกระอักเลือด ไม่เจอกันไม่กี่เดือนทำไมอ้ายหลุนถึงเป็นแบบนี้ไปแล้ว “พูดให้มันดีๆหน่อย”
“ก็ได้” อ้ายหลุนต้องวางมืออย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าหัวเราะด้วยความสนุกสนานพูด “ฉิน ผมมาหาคุณโดยเฉพาะเลยนะ ถ้าคุณสะดวก ผมก็จะไปพักด้วย”
ฉินอีหลินคล้ายเตรียมปฏิเสธ ใครจะรู้ว่าเด็กทั้งสองจะเอ่ยขึ้นก่อน “สะดวก สะดวก ยินดีต้อนรับคุณลุงอ้ายหลุน ที่บ้านมีห้องว่างเยอะมาก”
ฉินอีหลินทำอะไรไม่ได้ อ้ายหลุนหันมามองฉินอีหลิน รอคำตอบจากเธอ
มาขนาดนี้แล้วฉินอีหลินยังพูดอะไรได้อีกละ เธอสูดหายใจเข้าลึก ตั้งใจขับรถต่อไป
อ้ายหลุนและหมิงเจ๋อนั่งอยู่เบาะหลัง ทั้งคู่ซุบซิบกันเบาๆไม่รู้คุยอะไรกัน ต่อมาอ้ายหลุนก็หยิบของขวัญออกมาให้เด็กๆ ไม่นานในรถก็ครึกครื้นสนุกสนาน
“ขอบคุณครับคุณลุงอ้ายหลุน ผมชอบรถที่สุดเลย” หมิงเจ๋อรื้อของขวัญออกมา ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉินอีหลิน หลังจากนั้นปืนขึ้นบนตัวอ้ายหลุน จุ๊บไปหนึ่งที
จิ่นเซวียนก็ไม่น้อยหน้า น่าเสียดายที่นั่งด้านหน้าติดเข็มขัดนิรภัยไปไม่ได้ อ้ายหลุนก็ใส่ใจยื่นตัวมาด้านหน้าให้จุ๊บหนึ่งที
ด้านในรถ อ้ายหลุนและเด็กๆเล่นกันวุ่นวาย แม้ไม่ได้เจอกันนาน ทั้งสามก็ไม่มีความเคอะเขิน ฉินอีหลินขับรถไป ฟังเสียงเจี๊ยวจ๊าวไปด้วย ความกังวลลดลงไปไม่น้อย
เพียงแต่ว่า ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่สามารถปฏิบัติกับอ้ายหลุนเหมือนเพื่อนทั่วไปได้เลย เป้าหมายของอ้ายหลุนที่มาในวันนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่รู้ทำไม เธอถึงนึกถึงลี่โม่อวี่ขึ้นมา สักพักก็มีอาการร้อนใจอยู่ไม่สุข
ฉินอีหลินเลือกเพลงนุ่มนวล เพื่อปรับอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง ตั้งใจขับรถ
ด้านหลัง หมิงเจ๋อกอดคออ้ายหลุน ทั้งคู่เล่นกันสนุกสนาน อ้ายหลุนถามเรื่องของฉินอีหลินกับหมิงเจ๋อ
“ช่วงนี้มีใครอยากเป็นพ่อของหมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนบ้างรึเปล่า” อ้ายหลุนถามไปเรื่อย
ใครจะรู้ว่าหมิงเจ๋อแอบเหลือบมองฉินอีหลินแล้ว ก่อนจะพยักหน้าหนักๆ
ความจริงอ้ายหลุนคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่พอเห็นหมิงเจ๋อพยักหน้า แววตาของเขาก็มีความเจ็บปวดแวบเข้ามา นึกถึงรอยแดงที่คอฉินอีหลิน แววตาของอ้ายหลุนก็หม่นลง
เขามาช้าไปหรอ ฉิน มีคนมาจีบคุณเร็วขนาดนั้นเลยหรอ
หมิงเจ๋อเห็นว่าอ้ายหลุนไม่พูดอะไร จึงถอนหายใจเลียนแบบผู้ใหญ่ตบไหล่อ้ายหลุน “เอาน่า ผมเข้าใจคุณ คุณอยากรู้อะไรผมจะบอกให้ ต่อมาหมิงเจ๋อจึงกระซิบข้างหูอ้ายหลุน “คุณลุงอ้ายหลุนที่จริงผมชอบคุณที่จะมาเป็นพ่อของผมกับน้องมากกว่านะ”
อ้ายหลุนขมวดคิ้วมองหน้าหมิงเจ๋อ ดวงตามีรอยยิ้ม “จริงหรอ”
หมิงเจ๋อพยักหน้า ให้คำมั่นสัญญาแบบน้ำเสียงของผู้ใหญ่บอก “คุณวางใจเถอะ คุณดีกับพวกเรามาก ผมกับน้องจะช่วยคุณแน่ๆ”
คำพูดของเด็กๆ อ้ายหลุนไม่คิดจริงจัง แต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นมาก ไม่เสียแรงที่เขารักและเอ็นดูพวกเขา อ้ายหลุนหยิกแก้มยุ้ยของหมิงเจ๋อเบาๆพร้อมหัวเราะ “เด็กน้อยทำไมถึงได้รู้ไปหมดแบบนี้”
หมิงเจ๋อได้ยินแบบนั้น ไม่พอใจ “แน่นอนอยู่แล้ว” ความต้องการของคุณผมรู้ตั้งนานแล้ว แค่ไม่ได้พูดออกมา”
อ้ายหลุนได้ยินดังนั้น จึงอดไม่ได้หัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ตอนนี้หมิงเจ๋อท่าทางจริงจัง คล้ายกับผู้ใหญ่
เขาอดไม่ได้ถามตัวเองในใจ เขาแสดงออกมาชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ กระทั่งเด็กตัวน้อยคนนี้ก็ยังดูออก ทำไมถึงอีหลินถึงไม่เข้าใจล่ะ
ฉินอีหลินตั้งใจขับรถ ได้ยินเสียงหัวเราะ จึงมองทั้งคู่ผ่านกระจกมองหลัง ถามยิ้มๆหมิงเจ๋อคุยอะไรกับคุณลุงอ้ายหลุน ถึงได้อารมณ์ดีกันขนาดนั้น
อ้ายหลุนสบตากับหมิงเจ๋อ เอ่ยเสียงดังบอกฉินอีหลินพร้อมเพรียงกัน “ความลับ”
ได้ยินดังนั้น ฉินอีหลินจึงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ อ้ายหลุนยังเป็นเหมือนเด็ก “โอเค ความลับก็ความลับ แม่ไม่ถามแล้ว”
หลังจากนั้น เด็กและผู้ใหญ่ด้านหลังก็แปะมือกันเบาๆ ดวงตาคู่โตมองคู่เล็ก คนหนึ่งจริงจัง อีกคนหนึ่งมีความเชื่อใจเต็มเปี่ยม