ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 124

ตอนที่ 124

บทที่ 123 เธอตอบตกลงแล้ว

ฉินอีหลินมองชิวหันเยียนอย่างเย็นชา ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเธอ จึงบอกกับหลงอี้เซวียน “เธอพาเขากลับไปก่อนแล้วถามดูอีกครั้ง ฉันจะไปดูที่บ้านของหล่อน”

“ฉินอีหลิน เธอหมายความว่ายังไง” ชิวหันเยียนได้ยินดังนั้นก็โมโหขึ้นมา น้ำเสียงแหลมคม ใบหน้าแดงก่ำไปหมด ท่าทางจนตรอกที่สุด

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้จิตใจของฉินอีหลินอยู่ที่เด็กๆ ไม่ได้ใส่ใจการโวยวายของผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด แล้วจึงบอกกับลี่โม่อวี่เสียงเรียบ “ไปเถอะ”

ลี่โม่อวี่พยักหน้า เสียเวลาอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ขณะเดินผ่าน เขาไม่อยากมองหน้าชิวหันเยียนเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่รู้ว่า ตอนแรกเขาให้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่บ้านของตัวเองได้ยังไง การรักใครสักคนไม่ใช่ข้อแก้ตัวไปทำร้ายคนอื่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เธอทำร้ายคือผู้หญิงที่เขารักที่สุด บัญชีนี้เขาต้องจัดการให้ดีแน่

ชิวหันเยียนรู้แล้วว่าลี่โม่อวี่ไม่ใช่คนที่จะช่วยเธอได้แล้ว ตอนนี้คงต้องพึ่งตัวเอง จึงต่อสู้อย่างสุดกำลัง หลงอี้เซวียนยิ้มเย็น “มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังคิดจะหนีไปที่ไหน”

“พวกแกกล้า” ชายหนุ่มกำยำจับยึดชิวหันเยียนเอาไว้แน่น ยิ่งทำให้เธอร้อนรนมากขึ้น

หลงอี้เซวียนทำมือส่งสัญญาณ เหล่าบอดี้การ์ดก็กรูเข้ามา ไม่นานก็ควบคุมชิวหันเยียนเอาไว้ได้ จากนั้นเยาะเย้ยเธอเบาๆ “เอาตัวไป ให้ดีบอกความจริงผมมาซะดีกว่า”

ต่อจากนั้น หลงอี้เซวียนจึงตามออกมา มองสองคนที่ขึ้นรถไปแล้ว หลงอี้เซวียนจ้องลี่โม่อวี่พร้อมเอ่ยเตือน “ลี่โม่อวี่ ถ้าเธอเป็นอะไรไป ผมจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

ลี่โม่อวี่ยิ้มมุมปาก คล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

น้าชายคนนี้ยังคงชอบข่มขู่เขา น่าเสียดายทุกครั้งที่ข่มขู่นั้นเหมือนจะไร้ประโยชน์

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหยอกล้ออีกฝ่าย ลี่โม่อวี่จึงพยักหน้าแล้วบอกกับหลงอี้เซวียน “วางใจเถอะ ฝั่งผมไม่มีปัญหา แต่ฝั่งของคุณ อย่าให้เกิดเรื่องล่ะ”

หลงอี้เซวียนใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง ไม่พูดอะไรต่อหมุนตัวเดินหนีไป

ฉินอีหลินเห็นพวกเขาโต้เถียงกันตั้งแต่ช่วงแรกเธอยังคอยห้ามอยู่แต่ตอนนี้เกิดเป็นความเคยชินไปแล้ว เธอรู้ดีว่าทั้งสองทำเพื่อเธอ แค่เธอไม่เป็นไร ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

จับตามองชิวหันเยียนขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว รถของลี่โม่อวี่ค่อยเคลื่อนตัวออกไป ทั้งสองมุ่งตรงไปที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว

ระหว่างทาง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของฉินอีหลิน ลี่โม่อวี่ตั้งใจเลือกเพลงสบายๆ เดิมฉินอีหลินกำลังหลับตาอยู่ หลังได้ยินเสียงเพลงแล้วจึงชำเลืองมองลี่โม่อวี่เล็กน้อย

ใบหน้าด้านข้างของลี่โม่อวี่เห็นสันกรามสวยงาม เขาที่เงียบสงบมักจะให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย มุมปากของเธอก็อ่อนโยนลงช้าๆ เวียนวนอยู่ในเสียงดนตรี

แน่นอนว่าลี่โม่อวี่รู้ว่าฉินอีหลินกำลังแอบมองตนเอง เขาหัวเราะ “ทำไม หล่อไหม”

ตอนแรกฉินอีหลินยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆกลับมา ตอนที่มองดวงตาของเขาคล้ายกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ใบหน้าแดงขึ้นฉับพลัน ตอบออกไปธรรมดา “ขับรถคุณไปดีๆ อีกนานไหม”

“ใกล้แล้ว คุณก็อย่ากังวลเกินไป” ลี่โม่อวี่เอ่ยปลอบนุ่มนวล บางทีอาจเพราะดนตรีทำให้ผ่อนคลายลง อารมณ์ของทั้งคู่จึงไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้าแล้ว ถึงแม้เรื่องจะอยู่ตรงหน้า ทั้งสองคนยังพูดคุยกันไปมาธรรมดา

“ครั้งหน้า ผมพาพวกคุณไปเที่ยวเองดีไหม” ลี่โม่อวี่ไม่ได้หันหน้ามา ก็พูดประโยคนั้นออกมา

คิดถึงเด็กๆ ดวงตาของฉินอีหลินก็มืดลง “ขับรถเถอะ”

“เชื่อผม” ลี่โม่อวี่รับประกัน ผ่านไปสักพัก เขาจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ผมคิดแบบนี้มาตลอด คิดถึงครอบครัวเราสี่คน แค่พวกเราไม่กี่คนอยู่ด้วยกัน”

ฉินอีหลินประหลาดใจ ในใจพลันอ่อนยวบลง ยังดีที่มีลี่โม่อวี่อยู่ด้วย เธอก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศตอนนี้ ในใจก็คล้ายกำลังเฝ้ารอ “รอให้เจอเด็กแล้วคอยพูด”

เธอตอบตกลงแล้วหรอ

รอยยิ้มบนใบหน้าของลี่โม่อวี่ชัดขึ้น เขาเหยียบคันเร่งเกือบสุด ลมเย็นที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น ถ้าหมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนอยู่ด้วย คงจะดีไม่น้อย

บางทีอาจจะเพราะทั้งคู่ไม่ได้หอบความหวังมามากเกินไป เมื่อไม่ได้อะไรจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ฉินอีหลินเองก็ไม่ได้แสดงอารมณ์รุนแรงเกินไป เธอยิ้มฝืน เดินนำออกไปจากบ้าน

ลี่โม่อวี่ไม่ยอมปล่อยผ่านไปแม้แต่น้อย ด้านบนและด้านล่างของตึกเขาค้นจนทั่วไปหนึ่งรอบ สุดท้ายก็ทำได้เพียงเดินออกไป

ฉินอีหลินย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยถูกจับตัวไป เรื่องราวเหมือนกับหนังที่ฉายขึ้นมาในดวงตาอีกรอบ เธอจมอยู่ในความทรงจำ กระทั่งลี่โม่อวี่มาโผล่อยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่เธอยังไม่รู้ตัว

ลี่โม่อวี่ยังคิดว่าเป็นเป็นกังวล กอดเธอเบาๆจากด้านหลัง เลียติ่งหูของเธอเบาๆ เอ่ยปลอบโยน “วางใจ จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น หากเป้าหมายของพวกเขาเป็นคุณจริงๆ พวกเขาจะติดต่อเรามา”

เรื่องมาถึงตอนนี้ ฉินอีหลินไม่มีน้ำตาให้ร้องไห้อีกแล้ว เธอรู้สึกเหนื่อยขึ้นมา จึงเอนตัวซบอยู่ในอ้อมกอดของลี่โม่อวี่อยู่แบบนั้น ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว

ทันใดนั้น ในหัวของฉินอีหลินก็มีแสงสว่างวาบ เธอหมุนตัวกลับกะทันหัน ดวงตาเปล่งประกายดีใจ

“ฉันคิดออกแล้ว ตอนแรกที่ชิวหันเยียนจับฉันมา เขามีผู้ชายอ้วนคนหนึ่งอยู่ด้านหลัง คุณเริ่มจัดการจากคนนั้นได้ไหม ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแก๊ง K ก็เป็นได้”

ลี่โม่อวี่ได้ฟัง ดวงตาก็น่าเกรงขามขึ้นมา ถ้าหาคนนี้เจอ เรื่องนี้ก็คงจะง่ายขึ้น

ดังนั้นจึงประคองฉินอีหลินขึ้นรถ ถามอย่างละเอียด “คุณลองคิดให้ละเอียด คนนั้นมีลักษณะพิเศษอะไรบ้าง ยิ่งละเอียดยิ่งดี ผมจะให้คนออกตามหา”

ฉินอีหลินพยักหน้า หลับตาลงคิดดูละเอียดอีกที คิดไปพร้อมทั้งบอกไปด้วย “ฉันจำได้ว่า คนคนนั้นไม่ค่อยสูง แต่ดูบึกบึน และอ้วนมาก อืม ค่อนข้างขาว ผมไม่เยอะ อืม ฉันลองคิดดูอีกที…..”

เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ อานหน้า อ้ายหลุนทุกคนล้วนนั่งอยู่บนโซฟา มองเห็นฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่เดินเข้ามา ทุกคนลุกขึ้นพร้อมกัน อ้ายหลุนถามอย่างทนรอไม่ได้ “ฉิน เป็นยังไงบ้าง”

ฉินอีหลินสบตากับลี่โม่อวี่สักพัก จากนั้นส่ายหน้า ผ่านมานานขนาดนี้ ไม่รู้จะเจอเจ้าอ้วนคนนั้นไหม ผู้คนมากมายคล้ายงมเข็มในมหาสมุทร

ความหวังในดวงตาของทุกคนหดหู่ลงทันที ฉินอีหลินอยากรู้ข่าวทางฝั่งชิวหันเยียน แต่หลงอี้เซวียนก็ถอนหายใจออกมา ส่ายหัวเบาๆ

เรื่องราวคล้ายกับเบาะแสต่างๆถูกตัดไปหมดแล้ว ในห้องเงียบสงัดไม่มีเสียงใดๆแม้แต่น้อย

อ้ายหลุนยังคงโทษตัวเอง สายตามั่นคงและจริงใจของเขามองฉินอีหลิน บอกอย่างคลายกังวล “ฉิน คุณวางใจ แม้ว่าตระกูลผมจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่การหาใครสักคนในอังกฤษก็มีกำลังมากพอ ผมให้ที่บ้านช่วยสืบหาแก๊ง K ที่อังกฤษแล้ว หากได้เรื่องแล้วจะรีบแจ้งผมมาทันที”

ฉินอีหลินมองอ้ายหลุนอย่างตกใจเล็กน้อย มองดวงตาสว่างไสวของอีกฝ่าย เดิมไม่อยากรบกวนอีกฝ่าย แต่ตอนนี้จะให้ปฏิเสธเธอก็พูดไม่ออก

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท