บทที่ 127 อย่าลืมฉัน
คืนนั้น ฉินอีหลินนอนอยู่เคียงข้างหลงหมิงเจ๋อ กอดลูกเอาไว้แน่น กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
ในคืนนั้น ฉินอีหลินฝัน ฝันว่าจิ่นเซวียนจะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว จนเธอสะดุ้งตื่น เห็นว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดของเธอตื่นนานแล้ว ยื่นมือมาเล่นผมของตัวเอง
ดวงตาของฉินอีหลินอ่อนโยนขึ้น ลูบศีรษะของลูกเบาๆ เอ่ยถาม “หมิงเจ๋อ หลับสบายดีไหม”
หลงหมิงเจ๋อเห็นว่าแม่ตื่นแล้ว ชั่วครู่ใบหน้าก็ยิ้มหวานออกมา ศีรษะเล็กถูไปมาอยู่ในอ้อมแขนของฉินอีหลิน พยักหน้า พูดอย่างออดอ้อน “ต่อไปแม่นอนกอดหมิงเจ๋อทุกวันได้ไหมครับ”
“ได้สิครับ” ฉินอีหลินพยักหน้าให้ด้วยความรักล้นเอ่อ ตอนนี้เธอแทบไม่อยากปล่อยมือ อยากจะอยู่กับลูกในทุกๆวินาที
เมื่อได้รับคำตอบ หลงหมิงเจ๋อจึงจุ๊บลงบนใบหน้าของฉินอีหลิน ใช้น้ำเสียงอ่อนนุ่ม “แม่ครับ น้องล่ะ ทำไมไม่มานอนกับพวกเราครับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าฉินอีหลินชะงัก จากนั้นจึงพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดบอก “น้องยังไม่กลับมา เดี๋ยวอีกสักพักแม่ก็จะไปรับน้อง หมิงเจ๋ออยู่ที่บ้านต้องเชื่อฟังรู้ไหม”
หลงหมิงเจ๋อพยักหน้า ไม่สงสัยเรื่องเมื่อคืนเลยสักนิด “งั้นแม่รีบกลับมานะครับ”
เมื่อฉินอีหลินลงมาถึงด้านล่าง ทุกคนก็กำลังรวมตัวกันอยู่ในห้องครัว บนโต๊ะอาหาร มีเสียงหัวเราะของหลงหมิงเจ๋อ ใบหน้าของทุกคนเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง หัวใจพลันอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
หัวใจของพวกเขายังคงคาดหวัง หมิงเจ๋อไม่เป็นอะไร งั้นจิ่นเซวียน ก็จะต้องปลอดภัยเหมือนกันสินะ
ฉินอีหลินเทนมให้ลูกด้วยตัวเอง ใกล้ชิดมากกว่าแต่ก่อน ลูกสนใจเพียงกินอาหาร ไม่ได้สังเกตบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ยัดของกินเข้าเต็มปาก พูดไม่ชัด “ผมคิดถึงน้องแล้ว แม่ครับ แม่รีบไปรับน้องกลับมานะครับ”
ฉินอีหลินพยักหน้ายิ้มๆ ทว่าหัวใจกลับเจ็บปวด อ้ายหลุนลูบหัวหมิงเจ๋อเบาๆ พูดแทนฉินอีหลิน “หมิงเจ๋ออยู่บ้านไม่ดื้อนะครับ เดี๋ยวน้องก็กลับมาแล้ว”
หมิงเจ๋อพยักหน้าจริงจัง ยื่นมือออกมาทำท่ารับรอง “ผมจะไม่ดื้อครับ”
ทุกคนเห็นแบบนั้น จึงยิ้มออกมา แต่เมื่อสบตากับอีกฝ่าย จึงเก็บรอยยิ้มอึดอัดกลับคืน ทานไปพอประมาณแล้ว ฉินอีหลินจึงถามเรื่องของชิวหันเยียนกับลี่โม่อวี่ “จัดการเรียบร้อยหรือยัง”
ลี่โม่อวี่พยักหน้า “จัดการเรียบร้อยแล้ว ทานข้าวเสร็จเราก็ไป แต่คุณอย่าพึ่งคาดหวังเกินไป สิ่งที่ควรถาม เราก็ได้ถามไปแล้ว”
ฉินอีหลินพยักหน้า ที่จริงในใจนั้นเข้าใจดี แต่มีบางเรื่อง เธอคิดว่าต้องไปถามด้วยตัวเองสักหน่อย
อ้ายหลุนได้ยินแล้ว จึงบอกยิ้มๆ “วันนี้ผมเกรงว่าคงไปกับพวกคุณไม่ได้”
ฉินอีหลินชะงัก โพล่งคำพูดออกมา “ทำไม”
อ้ายหลุนใบหน้าสบายๆ ดื่มนมอึกหนึ่งแล้วจึงตอบ “ผมคิดว่าวันนี้จะกลับอังกฤษ จองตั๋วเครื่องบินแล้ว ตอนบ่ายนี่เอง”
ฉินอีหลินตกใจ ทำไมถึงกลับอังกฤษกะทันหัน
รอยยิ้มของอ้ายหลุนทำให้รู้สึกอบอุ่นอยู่แล้ว หลายวันมานี้เกิดเรื่อง ทำให้เขามีแววโศกเศร้า แต่ตอนนี้รอยยิ้มของอ้ายหลุนนั้นทำให้คนรู้สึกมีความสุข เขาอธิบายคร่าวๆ “ผมคิดว่า ผมกลับอังกฤษไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองจะดีกว่า ผมติดต่อคนฝั่งนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว พวกเราจะค้นหากันอย่างเต็มที่”
ความจริงอ้ายหลุนยังไม่ทันเอ่ยปาก ฉินอีหลินก็พอเจะเดาได้
เมื่ออ้ายหลุนพูดมันออกมา ฉินอีหลินจึงค้อมศีรษะให้อ้ายหลุนแสดงถึงมิตรภาพ เกรงว่าชาตินี้เธอคงตอบแทนไม่หมด
แต่ยังมีลูกอีกคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรม สามารถเกิดอันตรายได้ทุกเวลา เธอจึงไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของอ้ายหลุน
ตอนนี้ฉินอีหลินความรู้สึกจุกอยู่ในอก คล้ายมีถ้อยคำมากมายอยากจะเอ่ย ทว่ากลับพูดไม่ออก เธอปฏิเสธได้หรอ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ หลังจากที่เกิดความขัดแย้งอยู่ในใจ สุดท้ายฉินอีหลินก็ยังต้องเงยหน้าขึ้น จ้องมองดวงตาจริงจังนั้น กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อ้ายหลุนไม่ต้องการคำขอบคุณของฉินอีหลิน เขาโบกมือ บอกทุกคนไม่ต้องสนใจการไปของเขาในครั้งนี้ พูดล้อเล่น “ไม่เป็นไร ใช่ว่าผมจะไปแล้วไม่กลับ รอผมหาเด็กเจอแล้ว ผมก็จะกลับมาด้วย”
ฉินอีหลินหัวเราะออกมา เธอพยักหน้า “ได้สิ สัญญาแล้วนะ”
ลี่โม่อวี่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำ แม้ว่าในใจเขาจะอิจฉาและไม่ชอบอ้ายหลุน ครั้งนี้ก็รู้ดีว่าอ้ายหลุนไปเพราะลูก ทำเพื่อตัวเอง เขาไม่ได้แสดงออกเหมือนฉินอีหลิน ทำเพียงแสดงความขอบคุณผ่านสายตาส่งไป แล้วยัดขนมปังเข้าปาก
ถ้าเขายิ่งใหญ่มากพอ มีอิทธิพลมากพอ เขาคงไม่จำเป็นต้องยืมมือคนอื่นเพื่อปกป้องลูกและผู้หญิงที่เขารักหรอก
ลี่โม่อวี่คิดอยู่ในใจ เขาจะละความพยายามไม่ได้ ต้องรีบเพิ่มอิทธิพลของตัวเอง ทำให้คนพวกนั้นที่คิดจะทำร้ายฉินอีหลินต้องหวาดกลัว
สำหรับการประนีประนอมของลี่โม่อวี่ อ้ายหลุนยังรู้สึกแปลกใจ สายตามที่มองลี่โม่อวี่จึงอ่อนโยนขึ้น แต่ไม่ใช่จะมือยุติสงคราม รอหาเด็กเจอแล้ว เขาจะกลับมาอีก สู้กับลี่โม่อวี่อย่างยุติธรรม
เวลาบ่ายมาถึงสนามบิน ลี่โม่อวี่มาส่งอ้ายหลุนขึ้นเครื่อง พวกเขาคุยกันเล็กน้อย จากนั้นอ้ายหลุนจึงโบกมือให้กับทุกคน
เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จึงหันกลับมา กอดฉินอีหลินเอาไว้
อ้อมกอดนี้ ฉินอีหลินปฏิเสธไม่ได้ ร่างกายยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ยอมให้อ้ายหลุนกอดเอาไว้
อ้ายหลุนสูดกลิ่นหอมของเส้นผมเธอ กระซิบอยู่ข้างหู “ฉิน อย่าลืมผมนะ ไม่นานผมก็กลับมา”
มุมปากของฉินอีหลินยกยิ้ม ยื่นมือไปลูบหลังของเขา เธอจึงกอดอย่างมีมารยาทกลับไป ตอบอวยพรเบาๆ “เดินทางปลอดภัยนะคะ”
อ้ายหลุนยิ้มกว้าง เขาโอบฉินอีหลินเอาไว้ เป็นการเตือนลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่เห็นอ้ายหลุนกอดฉินอีหลินไม่ปล่อยก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้ยังเห็นสายตากล่าวเตือนของอีกฝ่าย หัวใจก็ยิ่งไม่พอใจ จะไปแล้ว ยังจะมาอ้อยอิ่งอยู่นี่อีก “อ้ายหลุน นี่ก็ได้เวลาแล้ว รีบไปเช็คอินเถอะ”
นี่เป็นความจริง อ้ายหลุนมองลี่โม่อวี่ด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ลี่โม่อวี่คล้ายกับไม่เห็นสายตาของอ้ายหลุน เมื่อเห็นเขาเดินไปพร้อมหันกลับมามองอยู่เรื่อยๆ ลี่โม่อวี่จึงเดินขึ้นไปโอบไหล่ฉินอีหลิน โบกมือให้อ้ายหลุน แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มยั่วยุ เขาจะคอยดู เป็นใครที่มีโอกาสกอดฉินอีหลินมากกว่ากัน
อ้ายหลุนโมโหไม่น้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังคงมองฉินอีหลินด้วยรอยยิ้มน่าหลงใหล
หลังจากอ้ายหลุนไปแล้ว ฉินอีหลินมองดูนาฬิกา พูดกับลี่โม่อวี่ “ไปกันเถอะ คุณพาฉันไปเจอชิวหันเยียนกัน”
ลี่โม่อวี่พยักหน้า เปิดประตูรถให้ฉินอีหลินด้วยตนเอง