ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 134

ตอนที่ 134

บทที่ 134 ตัวตลกทั้งสอง

ฉินอีหลินมองท่าทางของชายคนนั้นตกใจมาก น้อยคนนักที่จะใช้สายตาแบบนี้มองลี่โม่อวี่ ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น เพียงรอยแผลบนดวงตานั้นก็ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวแล้ว

แต่ชายคนนี้กลับไร้ความรู้สึก เขาจ้องมองลี่โม่อวี่อยู่แบบนั้น สองคนสอดประสานสายตา อุณหภูมิในห้องถูกกดลดต่ำลง

ฉินอีหลินหันไปมองลี่โม่อวี่ที่ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมา ทั้งสังเกตชายตรงหน้า

ดวงหน้าของเขาคล้ายลี่โม่อวี่มาก โดยเฉพาะลักษณะเฉพาะตัว คล้ายกับพิมพ์เดียวกัน สายตาของฉินอีหลินมองสลับสองคนตรงหน้าไปมา จากนั้นตัดสินใจอยู่เงียบๆ

ทว่าเห้อห้าวกลับไม่สงบนิ่งแบบฉินอีหลิน ยังไงคนนั้นก็เป็นคนที่เขาพามา หากเกิดอะไรขึ้นจริงๆ เขาก็คงจะเป็นคนแรกที่ต้องรับโทษ

เขาหันไปมองสังเกตพี่ใหญ่ของตนอย่างระมัดระวัง

แต่ลี่โม่อวี่ราวกับไม่รับรู้ถึงความกระสับกระส่ายของเขาในตอนนี้ ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นราวกับหินแกะสลัก เห้อห้าวเห็นสถานการณ์ตรงหน้า พลันถอนหายใจอย่างยอมรับชะตากรรม บรรยากาศคุกรุ่นนี้ทำให้เขาอึดอัด

บรรยากาศอึดอัดในห้องวีไอพีดำเนินไปนาน จนกระทั่งชายกลางคนคนนั้นสังเกตเรียบร้อย ค่อยเอ่ยออกมาช้าๆ

“แกคงจะรู้จักฉัน”

ฉินอีหลินเงยหน้าอย่างตกใจ เธอนึกไม่ถึงว่าประโยคแรกไม่ใช่ประโยคแนะนำตัว แต่กลับบอกว่าลี่โม่อวี่คงจะรู้จักเขา ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมและน้ำเสียงที่เหนือกว่า ทำให้เธอรู้สึกสนใจ ตอนนี้เธอเริ่มแปลกใจแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่

“รู้จัก ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ผู้อำนวยการลี่ผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ ใครจะไม่รู้จักกันล่ะ”

ลี่โม่อวี่ได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะออกมา สายตามีแววเย้ยหยัน เขายังคงนั่งนิ่ง แต่เมื่อตอนที่พูดว่า “ผู้อำนวยการลี่” ร่างกายเขาเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย คล้ายกับเหยียดหยาม

เห้อห้าวตกใจกับปฏิกิริยาของลี่โม่อวี่ เขาไม่เคยเห็นลี่โม่อวี่เป็นแบบนี้มาก่อน สายตามองสลับไปมาระหว่างทั้งสอง เขาเริ่มถามตัวเองอยู่เงียบๆ ครั้งนี้เขาทำอะไรพลาดไปหรือไม่

ฉินอีหลินยังไม่เข้าใจสถานการณ์ และไม่รู้ว่า “ผู้อำนวยการลี่” คนนี้ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่เมื่อมองท่าทีของคนตรงหน้า คล้ายออกมาจากเขตของทหาร

เมื่อลี่อานโก๋ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า เขาไม่โกรธ เขาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง สีหน้าเรียบนิ่ง

“ฉันนึกว่า แกมีอะไรอยากจะพูดกับฉันบ้าง”

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาคิดแบบนั้น ต้องขอโทษด้วย ผมไม่มีอะไรอยากพูดกับคุณ”

ลี่โม่อวี่คล้ายกับไม่พอใจมากที่อีกฝ่ายนั่งลงโดยไม่ได้เชิญ เขาขมวดคิ้วรังเกียจ ต่อมายื่นมือไปดึงฉินอีหลิน ให้เธอมานั่งลงข้างๆเขา คีบอาหารให้เธอตลอด “ทานเยอะๆหน่อย ดูคุณตอนนี้สิผอมลงไปขนาดนี้”

ฉินอีหลินนั่งลงข้างๆลี่โม่อวี่อย่างเก้ๆกังๆ เดิมเธอก็ไม่อยากมา แต่ตอนนี้ แต่หากไม่ไว้หน้าเขาคงเป็นการเลือกที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่

คิดได้ดังนั้น เธอจึงนั่งลงข้างๆเขา นั่งทานอาหารในชามเงียบๆ ไร้รสชาติ

ลี่โม่อวี่พึงพอใจที่ฉินอีหลินดูเชื่อฟังเขาในตอนนี้ เขายื่นมือไปโอบเอวเธออย่างอ่อนโยน มืออีกข้างปัดป่ายเส้นผมของเธอไปทัดหูให้

ฉินอีหลินเห็นท่าทางของลี่โม่อวี่ ร่างกายเธอแข็งเกร็ง แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ ทานอาหารต่อไป

สัมผัสถึงสายตาของ “ผู้อำนวยการลี่” ที่ถูกส่งมา ตอนนี้เธอแทบอยากโยนตะเกียบกระแทกลงที่โต๊ะ

เห้อห้าวนิ่งมองสถานการณ์ตรงหน้าอยู่อย่างนั้น เขาไม่เคยเห็นพี่สะใภ้ของเขาเชื่อฟังขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าไม่เคยเห็นพี่ใหญ่อ่อนโยนขนาดนี้เช่นกัน

ลี่โม่อวี่เห็นว่าผู้ชายตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะไป จึงมีน้ำเสียงไม่ชอบใจ “ผู้อำนวยการลี่ ทำไมวันนี้คุณถึงให้เกียรติมาเมืองเล็กๆอย่างกั่งซื่อของเราได้ หรือว่าตั้งใจมาหาผม ผมไม่คิดว่าคนที่ทำธุรกิจสีเทาอย่างผมจะมีอะไรต้องติดต่อกับคุณ”

สุดท้ายฉินอีหลินคีบผักกาดขึ้นมาให้ฉินอีหลิน เธอวางตะเกียบลงมองชายที่ยังคงตีหน้านิ่งอย่างเย้ยหยัน “คงไม่ใช่ว่าผมทำอะไรจนทำให้คนเบื้องบนทนดูไม่ได้ ส่งคุณลงมาปราบปรามผมหรอกนะ”

“ไม่หนิ”

ลี่โม่อวี่ตั้งใจทำหน้างงงวย จากนั้นหันไปมองเห้อห้าวที่ยืนอยู่หน้าประตู “เห้อห้าว ตอนนี้แกค้าประเวณี ค้ายา หรือค้าอาวุธแล้ว”

เห้อห้าวพูดไม่ออกชั่วขณะ สุดท้ายสายตาอ่อนโยนของลี่โม่อวี่เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ค่อยหาเสียงตัวเองเจอ “เปล่านะ พี่ใหญ่ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย…..”

“อ้อ”

ลี่โม่อวี่ทำท่าทางตื่นตระหนก สองแขนกอดอก น้ำเสียงตำหนิ “หรือว่าขายบริการให้ชนชั้นสูงคนไหน ไม่งั้นผู้อำนวยการลี่จะมาหาฉันได้ยังไง ผู้อำนวยการลี่ ผมดูแลไม่ดี ถ้าคุณจะพาเขาไปผมไม่ขัดแน่นอน”

“แค่ก..แค่ก…..”

เห้อห้าวคาดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ของเขาจะพูดแบบนี้ โดยเฉพาะยังมีพี่สะใภ้อยู่ข้างๆด้วย

ขนาดคนที่หน้าด้านอย่างเห้อห้าว ใบหน้าของเขาก็ยังแดงระเรื่อ แต่เพราะรู้จักพี่ใหญ่ดีจึงไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธ แต่ตั้งใจแสดงท่าทางตื่นตระหนกตามน้ำไป พลางพูดกับชายแปลกหน้าตรงหน้า “ผู้อำนวยการลี่ ผมผิดไปแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่อย่าถือสาผู้น้อยเลย ใจคอกว้างขวาง ไว้ชีวิตผมเถอะครับ”

ฉินอีหลินดังนั้นก็แทบพ่นอาหารออกมา เจ้าตัวตลกสองคนนี้………

ลี่อานโก๋ได้ยินบทสนทนาไร้สาระนั้นใบหน้าก็ยังคงเรียบนิ่ง นานทีเดียวค่อยเอ่ยออกมา “ไม่ผิดเลย นิสัยดื้อด้าน เหมือนฉันสมัยยังหนุ่ม”

ฉินอีหลินที่นั่งข้างๆสามารถเดาได้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ตอนนี้ได้ยินแบบนั้น ก็เข้าใจขึ้นมา เธอเงยหน้าขึ้นมองลี่โม่อวี่ที่อยู่ข้างๆ คิดว่าถ้ายังอยู่ต่อคงจะไม่ดี

ยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เธอก็ไม่เหมาะที่ยังคงอยู่ที่นี่

“ผู้อำนวยการลี่ พวกคุณคุยกันไปเลยนะคะ พอดีฉันมีธุระ ต้องขอตัวก่อน จริงสิเห้อห้าว คุณเอาข้อมูลให้ฉันหน่อย”

ฉินอีหลินลุกขึ้นเตรียมเดินออกไป คิ้วคมของลี่โม่อวี่ขมวดขึ้น ยื่นมือออกไปจับหญิงสาวข้างๆเอาไว้ “อย่าไป”

ฉินอีหลินรู้สึกมึนงงอยู่ชั่วครู่ตอนที่ถูกจับยึดเอาไว้ เธอต่อต้านเล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยออกมาอย่างงงงวย “ลี่โม่อวี่”

ลี่โม่อวี่ยื่นแขนออกไป โอบหญิงสาวเข้าสู้อ้อมกอด ฟังเสียงหายใจอย่างตระหนก เขาสูดกลิ่นหอมจากผมสวยอย่างพึงพอใจ

บอกใบ้คนในอ้อมกอดอย่าขยับ ตอนนั้นเองเขาค่อยขมวดคิ้วมองชายวัยกลางคนตรงหน้า น้ำเสียงแสดงถึงความไม่พอใจ “คนที่สมควรไปไม่ใช่คุณ แต่เป็นคนที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ผมไม่ไปส่งแล้ว เดินทางปลอดภัย ห้าวจี่ ส่งแขก”

เห้อห้าวชะงักมองเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน แต่ก็มีสติกลับมาโดยไว จัดการกับอารมณ์ เขาเดินเข้าไปหาคนนั้นอย่างมีมารยาท น้ำเสียงนุ่มนวลทว่าไม่มีข้อกังขา

“ผู้อำนวยการลี่ เชิญครับ”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท