บทที่ 141 ผมจะไปกับคุณ
ลี่โม่อวี่ที่นิ่งเงียบมาตลอดได้ฟังดังนั้นก็โมโหขึ้นมา เขาจะยอมให้ฉินอีหลินต้องเป็นหยกที่เผารวมกับหินได้ยังไง
เลิกคิ้วมองลี่อานโก๋แล้วเอ่ยถาม “สุดท้ายความต้องการของคุณมันต่างจากแก๊งKนั่นยังไง คุณคิดว่าเธอเป็นอะไร หนูทดลองหรอ ผมไม่เห็นด้วยกับคำขอของคุณ…..”
ลี่โม่อวี่ยิ้มเย็น แต่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฉินอีหลินขัดขึ้น
เป้าหมายของฉินอีหลินคือต้องการให้ลี่โม่อวี่ใจเย็นลง แต่ลี่โม่อวี่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ มันแทบจะไม่เข้าหูเลยด้วยซ้ำ
สุดท้ายฉินอีหลินก็ไม่สนใจเขาแล้ว มองตรงไปที่ลี่อานโก๋ สายตามั่นคงไม่มีการลังเลบอกออกมา “ผู้อำนวยการลี่ คุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะช่วยลูกสาวฉันออกมาได้คะ”
เส้นเลือดบนหน้าผากของลี่โม่อวี่แทบจะระเบิดออกมา ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสมองหรือไง เขาอยากแย้งความคิดของฉินอีหลิน “ฉินอีหลิน คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังพูดอะไร คุณเป็นหมูหรอ คุณยังมีสมองอยู่หรือเปล่า”
ใบหน้าของฉินอีหลินยังคงเรียบนิ่ง ไม่สนใจการโวยวายของลี่โม่อวี่ เธอรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เธอถามขึ้นมาอีกครั้ง “ผู้อำนวยการลี่ เร็วสั้นที่สุดต้องใช้เวลาเท่าไหร่คะ”
ลี่อานโก๋มองเธอพยักหน้า ถือว่าเขาปล่อยวางภาระได้อีกอย่างหนึ่งแล้ว ตอนนี้จิตใจสงบไร้กังวล ไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ เขาไม่คิดจะโกหกเธอ จึงเอ่ยตอบ “นี่ต้องดูความร่วมมือของคุณ กับอีกฝ่ายจะติดกับหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างราบรื่น เวลาก็ไม่ต้องพูดถึง”
ครั้งนี้ ฉินอีหลินไม่ได้พูดอะไรต่อ สามารถช่วยลูกสาวออกมาได้นั่นเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า “ฉันทำตามแผนของผู้อำนวยการลี่ค่ะ”
“คุณคิดดีแล้วหรอ” ลี่อานโก๋ถามย้ำอีกรอบ ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ฉินอีหลินพยักหน้าอีกครั้ง
ใช่ว่าเธอจะไม่เคยคิด ยังไงการช่วยจิ่นเซวียนก็เป็นเรื่องสำคัญ แม้ความสำเร็จมีเพียงเล็กน้อยเธอก็ต้องลองดูสักครั้ง
แม้จะล้มเหลว เธออยู่อังกฤษก็สามารถขอความช่วยเหลือจากอ้ายหลุนได้ ดังนั้นคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
“ผู้อำนวยการลี่ คุณลองดูว่าเราสามารถหาสถานที่คุยกันให้ละเอียดชัดเจน คุณบอกแผนการอย่างละเอียดอีกรอบ นอกเหนือจากนั้น ฉันหวังว่าผู้อำนวยการลี่จะรับรองความปลอดภัยของครอบครัวฉันด้วย”
เธอไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง เรื่องนี้สำคัญมาก
ลี่อานโก๋ประหลาดใจในความใจเย็นและละเอียดรอบคอบของฉินอีหลิน เรื่องเล็กน้อยไม่ได้มากมายอะไร ลี่อานโก๋พยักหน้าให้ รับปาก “คุณวางใจได้ เบื้องบนจะส่งคนมาดูแลครอบครัวของคุณ สำหรับรายละเอียดแผนการ………”
ลี่อานโก๋บอกคร่าวๆไปหนึ่งรอบ เพียงแค่ให้ฉินอีหลินเป็นเหยื่อล่อ ล่องูออกจากถ้ำ สิ่งที่เธอจะต้องทำ คือการเป็นเหยื่อที่ดี ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่ต้องเป็นกังวล
ฉินอีหลินเห็นว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไรจึงตอบรับ
ลี่โม่อวี่ที่อยู่ด้านข้างนั้นร้อนใจ จับยึดฉินอีหลินเตรียมจะโดดลงจากรถอีกรอบ “ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีทางให้ฉินอีหลินเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพียงลำพังแน่”
ใครจะรู้ว่า ฉินอีหลินจะสะบัดมือของเขาออก ขมวดคิ้วมุ่น เขาถามกลับ “ลี่โม่อวี่ คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”
เดิมลี่โม่อวี่ก็โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินคำถามของฉินอีหลิน ความโกรธมีมากขึ้น เขาจ้องมองสบสายตาคู่นั้นด้วยความโกรธ ขึ้นเสียงกับเธอ “ฉินอีหลิน คุณรู้หรือเปล่าว่าเมื่อสักครู่คุณตอบรับข้อเสนอบ้าอะไรไป ผมรู้ว่าคุณอยากช่วยลูก นั่นก็เป็นลูกของผมเหมือนกัน แต่คุณจะใช้ตัวคุณเป็นเหยื่อล่อไม่ได้ คุณเคยนึกถึงผลที่ตามมาหรือเปล่า”
ถูกลี่โม่อวี่กล่าวเตือน ฉินอีหลินก็สงบลง เธอจ้องมองลี่โม่อวี่นิ่ง บอกอย่างจริงจัง “ลี่โม่อวี่ ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวล ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ แต่มันผ่านมานานแล้ว ถ้าเรามีวิธีจะต้องทำแบบนี้หรอ”
ลี่โม่อวี่พูดไม่ออก ใช่ พูดมาถึงตรงนี้ก็คือเขาไร้ความสามารถ ไม่มีความสามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาแม่ลูก ต่อมาเมื่อรู้แล้วว่าใครเป็นคนพาลูกสาวของตัวเองไป แต่กลับทำอะไรไม่ได้”
“ให้ตายสิ” ลี่โม่อวี่ทุบเข้าที่หน้าต่าง เขากำหมัดแน่น รับรู้ถึงเลือดที่พลุ่งพล่านในกาย ทำไมเขาถึงไร้ความสามารถขนาดนี้ ความโกรธวิ่งพล่านไปทั้งตัว ลี่โม่อวี่รู้สึกว่าร่างกายของเขาแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
ใช่ เขาหาคำตอบดีๆให้คำพูดของฉินอีหลินไม่ได้ แต่เขายังคงเกลี้ยกล่อมฉินอีหลิน
เมื่อเทียบกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้ ตอนนี้น้ำเสียงของเขานั้นแหบพร่า “อีหลิน จะต้องมีวิธีอื่นแน่ เราจะต้องมีวิธี”
ฉินอีหลินหัวเราะเบาๆ วิธีหรอ ถ้ามีวิธีจริงๆ ทำไมพวกเขาถึงต้องนั่งรอมานานขนาดนี้
“คุณวางใจเถอะ ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
ฉินอีหลินรู้ว่าลี่โม่อวี่กำลังเป็นห่วงตัวเอง คำพูดเมื่อสักครู่เธอก็เจ็บปวดเหมือนกัน
เธอคล้ายกับอยากพูดอะไร ทำให้ลี่โม่อวี่วางใจ แต่คำพูดมากมาย เมื่อมาถึงที่ปากแล้วก็พูดไม่ออก
“ฉันไม่ให้ตัวเองเป็นอะไรหรอก แน่นอน” สายตาหนักแน่น ราวกับกำลังรับปาก
ลี่โม่อวี่ “หึ”ในลำคอ คงต้องแล้วแต่การตัดสินใจของเธอ เกรงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแล้วก็ต้องฟังที่แผนของเขา “อีหลิน ผมหวังว่าคุณจะคิดดูอีกรอบ ถ้าคุณถูกจับไปด้วย แล้วหมิงเจ๋อจะทำยังไง”
เขาพูดจากความรู้สึก ทุกๆคำแฝงไปด้วยคำขอร้องอย่างโศกเศร้า เขาไม่อยากให้ฉินอีหลินไป แต่ก็ไม่รู้จะห้ามการตัดสินใจของเธอยังไง
ฉินอีหลินรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ คล้ายกับมีมีดค่อยๆปักลึกลงไปในอก ในตอนนั้น ดวงตาของเธอพร่าเลือน ทว่าเธอยังคงเม้มปากแน่น ไม่ให้ตัวเองแสดงความรู้สึกใดๆออกมา แม้เสียงของเธอจะเบา แต่มีความชัดเจน
“ถ้าฉันไม่ไป แล้วจิ่นเซวียนจะทำยังไง เพราะฉันปกป้องเธอได้ไม่ดี ชาตินี้ฉันคงอยู่อย่างสงบไม่ได้ ถ้าหากฉันเป็นอะไร….หมิงเจ๋อก็ยังมีคุณ”
ลี่โม่อวี่เงยหน้าขึ้น มองเธออย่างเลื่อนลอย ไม่พูดอะไรอยู่นาน
ใช่ เขาจะพูดอะไรได้อีก ถ้าหากคนที่พวกเขาต้องการจับตัวไปเป็นเขา ตัวเขาเองก็ยินดีเป็นเหยื่อล่อโดยไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ว่า……
ฉินอีหลินไม่อยากพูดอะไรมาก เธอตัดสินใจแล้ว
ดังนั้นจึงหันไปถามลี่อานโก๋ “เราจะเริ่มกันเมื่อไหร่คะ”
“ยิ่งเร็วยิ่งดี ให้ดีวันนี้ต้องเก็บของให้เรียบร้อย คุณไปเมืองหลวงกับผม อุปกรณ์ที่นั่นมีความก้าวหน้า เมื่อถึงเวลานั้นมันจะปลอดภัยเมื่อต้องติดตั้งกับตัวคุณ สิ่งที่ผมทำได้ คือดูแลความปลอดภัยของคุณให้ถึงที่สุด” ลี่อานโก๋บอก
พูดตามตรง เขาก็ไม่คิดว่าผู้หญิงบอบบางแบบนี้จะมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญได้ขนาดนี้ เผชิญหน้ากับเขาโดยไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด ไม่ว่าเวลาไหนก็ยังคงนิ่งสงบ
สำหรับลูกชายของเขานั้น….
ฉินอีหลินพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันจะกลับไปเก็บของตอนนี้เลย”
“ผมจะไปกับคุณ” ลี่โม่อวี่ใบหน้านิ่งขรึม เอ่ยประโยคนั้นอยู่ข้างๆ
เขารู้ว่าเรื่องราวมันไม่สามารถย้อนกลับไปได้ อีกทั้งยังไม่เกลี้ยกล่อมฉินอีหลินแล้ว
แต่ยังไงเขาก็ไม่มีทางให้ฉินอีหลินไปเสี่ยงอันตรายคนเดียว เธอไปไหน เขาก็จะไปด้วย