ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 183

ตอนที่ 183

บทที่ 183 ผู้หญิงคนเดียวยังจัดการไม่ได้

ฉินอีหลินมองชายคนนั้นที่ถือเข็มฉีดยาเดินเข้ามาเรื่อยๆ เธอก็ไม่หวาดกลัว เพียงแต่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ มองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น

แต่ชายคนนั้นไม่คาดคิดว่าเธอจะให้ความร่วมมือขนาดนี้ ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก้าวเท้ายาวเข้าไปหาเธอ

ฉินอีหลินกลั้นลมหายใจ มองชายตรงหน้าถือเข้มซึ่งมีสารเหลวอยู่ด้านในหันมาหาเธอ มุมปากยกยิ้มเย็น คว้ามือเขาเอาไว้

คนคนนั้นมองเธออย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวบอบบางคนนี้จะมีแรงเยอะขนาดนี้ เขาออกแรง เตรียมกดปลายเข็มลงที่แขนของเธอ แต่เข้าพบว่าเมื่อเขาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ เขากลับไม่ได้เปรียบเธอในด้านใดเลยสักนิด

บรรยากาศตึงเครียด รอการกระตุ้น

คนคนนั้นคล้ายกับรอต่อไปไม่ได้แล้ว เขามองสองคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆราวกับตายไปแล้ว ชั่วครู่ความโกรธก็พุ่งขึ้น “พวกแกสองคนจะยืนนิ่งอีกนานไหม ไม่รีบเข้ามาช่วยอีก ภารกิจล้มเหลวพวกแกรับผิดชอบไหวหรอ”

ชายชุดคลุมสีขาวสองคนนั้นค่อยมีสติกลับมา เข้าไปหวังจะช่วยเหลือคนของตัวเอง

ฉินอีหลินเห็นว่ามีลูกสมุนอีกสองคนเข้ามาช่วย ความเยือกเย็นสะท้อนผ่านเข้ามาในสายตา รีบปล่อยมีที่จับยึดผู้ชายคนนั้นเอาไว้ จากนั้นเคลื่อนเท้าไปอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำการทดลอง

รอทั้งสามตั้งสติกลับมา อุปกรณ์การทดลองทั้งหลายก็ย่อยยับอยู่ตรงหน้าพวกเขา

ยืนมองฉินอีหลินกวาดอุปกรณ์การทดลองลงบนพื้น ชายทั้งสามหยุดเท้าลงอย่างไม่รู้ตัว เหงื่อบนหน้าผากค่อยๆหยดลงมา ภารกิจครั้งนี้ล้มเหลวไม่เท่าไหร่ ยังมาบวกกับอุปกรณ์มูลค่ามหาศาลพวกนี้อีก พวกเขารับรู้ถึงความตายที่ย่างก้าวเข้ามาได้ทันที

ในตอนที่กำลังเคร่งเครียด ประตูใหญ่พลันถูกเปิดออก

สามคนนั้นหันหน้าไปทางประตูอย่างพร้อมเพรียง รอจนกระทั่งเห็นชัดว่าเป็นใคร เหงื่อในกายพลันท่วมท้น

ไม่มาเร็ว ไม่มาช้า แต่เข้ามาในจังหวะนี้

Abnerที่ได้รับการรายงานเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม สายตาไม่ได้ชายตาแลชายชุดคลุมสีขาวทั้งสามคนนั้นเลยสักนิด เขาเพียงจับจ้องอยู่ที่ฉินอีหลินที่ยืนกอดอกอยู่ตรงนั้น

เห็นดวงตาของเธอดูมีความสุขเมื่อคนอื่นเป็นทุกข์แล้ว ดวงตาอันตรายของเขาก็หรี่แคบ

แต่ครั้งนี้Abnerไม่ได้เดินเข้าใกล้เธอ ครั้งที่แล้วที่ผู้หญิงคนนี้อาละวาดถีบเขาจนบาดเจ็บในห้องทดลอง เขายังจดจำมาจนถึงตอนนี้อย่างชัดเจน ความเก่งกาจของผู้หญิงคนนี้เขาได้ประจักษ์มาแล้ว เข้าไปใกล้เขาก็หาประโยชน์ไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงตรงหน้า แค่มองสามคนตรงหน้าเขาก็รู้แล้ว

เขาจ้องมองฉินอีหลินอย่างเย็นชา ริมฝีปากยกยิ้มเย็น “คุณตกลงว่าจะให้ความร่วมมือไม่ใช่หรอ ตอนนี้มันหมายความว่ายังไง” สายตากวาดผ่านห้องทดลองที่เละไม่เป็นท่า น้ำเสียงแสดงถึงความโกรธอย่างปิดไม่มิด

คิ้วเรียวสวยของฉินอีหลินเลิกขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำถาม

“คุณคิดว่าผมไม่กล้าลงมือกับคุณจริงๆหรอ” ท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจของฉินอีหลินอยู่ในสายตาของAbner น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นขึ้นอีกหลายเท่า

หรือคิดว่าให้ความเกรงใจกับเธอแล้ว เธอจะไม่สนใจอะไรก็ได้หรอ

ตอนนี้ฉินอีหลินมองAbnerจอมเสแสร้งในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมา สองมือปล่อยออก เข็มฉีดยาในมือไม่เหลืออะไร น้ำเสียงของเธอเยือกเย็น แฝงไปด้วยการเย้ยหยัน “ไม่กล้าลงมือหรอ งั้นฉันคงต้องถามคุณว่านี่มันหมายความว่ายังไง”

Abnerมองชายสามคนที่ยื่นตัวสั่นอยู่ข้างๆ และคนคนนั้นก็รับรู้ถึงสายตาของเขา จึงเงยหน้าแทบไม่ขึ้น

ฉินอีหลินเห็นการตอบสนองของคนทั้งสาม ความยโสยิ่งเพิ่มขึ้น “คุณไม่ต้องมองพวกเขาหรอก อย่างน้อยพวกเขาก็มีความซื่อตรงกว่าคุณ ฉันตกลงจะให้ความร่วมมือกับคุณในการทดลอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะใช้ร่างกายตัวเองมาให้ความร่วมมือด้วย”

Abnerได้ยินน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยามจากฉินอีหลิน ความโกรธในใจเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่สามารถระบายออกมาได้

เจ้าโง่สามตัวนี้ ให้พวกเขาทำอย่างลับๆ ตอนนี้กลับถูกฉินอีหลินจับได้ แผนการต่อไปคงจะยากยิ่งขึ้น ถ้ารู้แบบนี้เขาคงลงมือด้วยตนเอง ไม่งั้นความลับคงไม่ถูกเปิดเผยขนาดนี้

สามคนนั้นได้ยินคำพูดของฉินอีหลิน ใบหน้านั้นสิ้นหวัง ใครไม่รู้บ้างว่าAbnerนั้นเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี ตอนนี้พวกเขาทำภารกิจที่รับมอบหมายมาจนเละเทะแบบนี้

บวกกับคำพูดของฉินอีหลิน ชีวิตของพวกเขาถือว่าจบสิ้นแล้ว

ดวงตาทะมึนของAbnerจ้องฉินอีหลินเขม็ง คำพูดของผู้หญิงคนนี้นั้นไม่ยอมถอยเลยสักนิด

ระหว่างนั้นเขาเม้มริมฝีปากแน่น คล้ายจะเอ่ยปากอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆออกมา ตอนนี้จริงอยู่ที่เขาไม่มีข้ออ้างมาจัดการกับฉินอีหลิน อีกทั้งต่อไปผู้หญิงคนนี้ยังมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงอีกด้วย

เขาเก็บกักความในใจเอาไว้ สะบัดมือ สั่งให้ลูกน้องพาฉินอีหลินออกไป

ฉินอีหลินต่อต้านลูกน้องสองคนของAbner จัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง หัวเราะเยาะ “ฉันเดินเองได้”

เดินไปได้สองก้าว เธอเหมือนพลันนึกอะไรขึ้นมาได้จึงหยุด ทว่าไม่ได้หันกลับมา บอกกลับไปทางห้องวิจัยด้วยน้ำเสียงไม่ถ่อมตัวและไม่ได้ยโสอะไร “ในเมื่อเราทำข้อตกลงกันแล้ว ฉันเชื่อว่าคุณจะรักษาและเคารพมันนะคะ ไม่งั้นฉันคงคิดว่าคุณมันเทียบไม่ได้แม้แต่ผู้หญิงเลยสักนิด”

“ตอนนี้คุณอยู่ในถิ่นของใคร ก็น่าจะรู้ดี ให้ดีเชื่อฟังหน่อย ไม่งั้นผมคงรับประกันไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” Abnerกัดฟันพูด

ฉินอีหลินทำราวกับไม่เข้าใจคำขู่ของAbner หาวออกมาแล้วเดินจากไป ไม่สนใจดวงตาทะมึนของAbner

เสียงหัวเราะเย้ยหยันของผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว Abnerสูดหายใจเข้าลึก สายตามองไปยังคนไร้ความสามารถสามคนนั้นอีกครั้ง

เขาเลี้ยงคนไม่มีประโยชน์สามคนแบบนี้ไว้ข้างๆได้ยังไงกัน

ดวงตาของAbnerรุนแรงขึ้น ทั้งสามคนรู้สึกว่าร่างกายของตนได้โดนแผดเผา

Abnerเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งสาม จ้องมองพวกเขาอยู่นาน ไม่สามารถกักเก็บไปที่ก่อขึ้นมาในใจเอาไว้ได้ หางคิ้วเลิกขึ้น ดวงตาเยือกเย็น “สมองทึ่ม ผู้หญิงคนเดียวยังจัดการไม่ได้ ฉันเลี้ยงพวกแกไว้ทำอะไรได้”

เมื่อทั้งสามคนได้ฟังดังนั้น จึงคุกเข่าลงอ้อนวอน พวกเขาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ผู้หญิงคนนั้นเก่งกาจจริงๆ

เมื่อAbnerได้ยินคำร้องของที่ไม่มีความเข้มแข็งของพวกเขา คิ้วคมยิ่งขมวดแน่นขึ้น “เข้ามา พาสามคนนี้ออกไป ยึดตามกฎเดิม”

คนอื่นๆเมื่อเห็นว่าเขาโกรธมากแล้วจริงๆ ยิ่งไม่กล้าอ้อนวอน กลัวว่าAbnerเกรี้ยวกราดขึ้นมาพวกเขาเองก็จะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้

รอบๆด้านสงบลงไม่น้อย

Abnerกวาดตามองผลงานของฉินอีหลินเมื่อสักครู่ หลับตาลง ปกปิดความเหนื่อยล้าเอาไว้ไม่มิด ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่รับมือยากธรรมดาจริงๆ หลายครั้งที่คิดจะลงมือกับเธอ ไม่เพียงตัวเองที่จะไม่ได้รับประโยชน์ แต่มักจะเป็นเขาเองที่ต้องสูญเสียยิ่งใหญ่

ตอนนี้การทดลองล้มเหลว ไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย เบื้องบนก็ไม่พอใจ อีกทั้งบริษัทยาก็ถูกปิดตัวลงเรื่อยๆอย่างแปลกประหลาด นี่จะเป็นเรื่องบังเอิญได้หรอ ทำไมจะเกิดขึ้นในเวลาสำคัญนี้

Abnerนวดหัวคิ้วอย่างปวดหัว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีอะไรเลย เขามักจะรู้สึกว่าอาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท