ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 193

ตอนที่ 193

บทที่ 193 จะโจมตีหรือไม่

หลังจากเปลี่ยนไปสวมชุดคลุมสีขาวเรียบร้อย ฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่ที่สวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ด้วย ก็อุ้มเด็กน้อยวิ่งไปทางห้องทดลองทันที

“แม่จ๋า หนูกลัวเหลือเกิน” ทันใดนั้นหลงจิ่นเซวียนที่ขดตัวอยู่ในอ้อมอกของลี่โม่อวี่ ก็พูดออกมา ทำให้เธอรู้สึกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าจะถูกพวกนักวิจัยเหล่านั้นเจาะเลือดไปก็ตาม แต่เธอก็ไม่เคยทำท่าทีกลัวแบบนี้มาก่อน

แต่พอเกิดการระเบิดเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เหล่านักวิจัยทั้งหลายต่างก็ร้องระงมไปทั่วทุกที่ อีกทั้งห้องทดลองที่ถูกทำลายอย่างร้ายแรง มันก็พุ่งเข้าไปทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆ ของหลงจิ่นเซวียนเข้าเต็มๆ

หลงจิ่นเซวียนเบะปาก คล้ายกำลังจะร้องไห้ แต่เธอก็กลัวว่าจะสร้างความรำคาญให้กับแม่ของเธอ จึงทำท่าทางน้ำตาคลอเบ้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีอยู่แบบนั้น

“ไม่ต้องกลัวนะลูกรัก แม่อยู่นี่นะ” ฉินอีหลินกำมือของเด็กน้อยไว้แน่น เธอพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางเดินก้าวเท้ายาวไปด้วย

ลี่โม่อวี่เองก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเด็กน้อยอย่างไร จึงทำได้เพียงออกแรงกอดหลงจิ่นเซวียนให้แน่นขึ้น เพื่อเป็นการทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยนั่นเอง

“ระวัง!” ขณะที่กำลังจะถึงหน้าประตูของห้องทดลองนั้น ลี่โม่อวี่ก็รีบผลักฉินอีหลินออก จากนั้นก็รีบยกมืออีกข้าง ขึ้นบังหลงจิ่นเซวียนเอาไว้ทันที

ปัง!

พลันมีเสียงปืนดังสนั่นขึ้นอย่างฉับพลันในที่ๆ เงียบสงัดแห่งนี้ ลี่โม่อวี่เอี้ยวตัวหลบกระสุนนัดแรกได้ แต่นัดที่สองก็ตามมาอย่างทันที

เป็นเพราะว่าเขากลัวว่าหลงจิ่นเซวียนจะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงทำอะไรทุกอย่างให้ช้าลงกว่าเดิมมาก แถมยิ่งอยู่ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ด้วย

ขณะที่ฉินอีหลินถูกผลักไปอีกทางนั้น เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอขมวดคิ้วขึ้น ก่อนที่จะอาศัยโอกาสที่ชายผมทองสวมชุดขาวนั้น กำลังพุ่งความสนใจไปที่ลี่โม่อวี่ เธอก็พุ่งตัวออกไปราวกับลูกธนู ก่อนจะม้วนตัวยกขึ้นเตะไป

ชายผมทองคนนั้นเห็นว่าฉินอีหลินพุ่งเข้ามาหาตัวเอง จึงชักปืนกลับก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบไปต่อหน้าของเธออย่างรวดเร็ว

ฉินอีหลินที่เพิ่งจะชักเท้ากลับมา ยังไม่ทันที่จะยืนได้มั่นคงดี เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก แต่เธอก็หงายหลังหลบการโจมตีนั้นได้โดยสัญชาตญาณ โดยที่เห็นเท้าข้างนั้นผ่านหน้าเธอไป ทั้งที่ห่างจากหน้าเธอแค่นิ้วเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ล้มลงกับพื้น ฉินอีหลินก็กลิ้งตัวไป แต่หน้ากากอนามัยที่เธอสวมไว้อยู่ก็หลุดออกอย่างไม่รู้ตัว

“คุณฉิน!” พอชายผมทองคนนั้นเห็นว่าคนที่อยู่บนพื้นเป็นใคร ใบหน้าของเขาก็ฉายความยินดีขึ้นมาทันที พร้อมทั้งเปิดปากพูดด้วยภาษาจีนอย่างฉะฉาน ทำให้ลี่โม่อวี่ที่กำลังลุกขึ้นและฉินอีหลินต่างก็นิ่งอึ้งไปทันที

“คุณฉิน ผมชื่อหู่โถวอย่างไรล่ะครับ คุณจำผมได้ไหม?”

ผู้ชายที่ได้ชื่อว่า ‘หู่โถว’ นั้นส่ายหัวไปมาอย่างซื่อตรง ก่อนจะดึงวิกผมออก : “ใบหน้าที่ผมปลอมมาต้องล้างออกนะครับ ตอนนี้ยังเอาออกไม่ได้ อย่างไรก็ฟังเสียงที่ผมพูดเอาแล้วกันนะครับ คุณก็จะรู้เองว่าผมคือหู่โถว”

น้ำเสียงของหู่โถวแสดงถึงความร้อนรน เขากลัวว่าฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่จะเข้าใจเขาผิด จึงรีบโยนปืนในมือทิ้ง ขณะเดียวกันก็เดินไปหาฉินอีหลินด้วย

“ด้านนอกนั้นเป็นพวกไหนกันน่ะหู่โถว?” ก่อนหน้านั้นมีผู้ชายที่ได้รับฉายาว่า ‘หมาป่าฟ้า’ เปิดประตูเข้ามา เพียงแต่ในมือของเขายังคงถือปืนพกเอาไว้อยู่ : “คุณฉิน?”

พวกเขาเคยเห็นรูปภาพของฉินอีหลินมาก่อน จึงทำให้ไม่รู้สึกแปลกหน้าแต่อย่างใด

พอฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่ได้ยินเสียงแท้ๆ ของพวกเขานั้น ต่างก็หันมาสบตามอง ด้วยแววตาที่ยืนยันแน่นอน ฉินอีหลินจึงลดความระมัดระวังตัวลง ก่อนจะยิ้มพูดขึ้น : “ฉันเอง คิดไม่ถึงเลยนะว่าพวกนายจะมาที่นี่เร็วกันขนาดนี้”

“ทำไมจู่ๆ ถึงขาดการติดต่อไปล่ะครับ พวกผมตกใจแทบแย่” ผู้ชายที่เรียกว่าหมาป่าฟ้านั้นก็ลดความระมัดระวังลงเช่นกัน ก่อนจะพูดขึ้นพลางยิ้มอ่อนๆ

“พอดีฉันทำเครื่องสื่อสารหายน่ะ ขอโทษจริงๆ นะ ที่หาเรื่องวุ่นให้กับพวกนาย” ฉินอีหลินเอ่ยปากขอโทษ ก่อนจะยื่นมือไปอุ้มเด็กน้อย ในอ้อมกอดของลี่โม่อวี่มา พลันเธอก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติเลย

แต่เธอก็ยังคงสงสัยในบางอย่างอยู่เล็กน้อย ว่าในเมื่อหู่โถวเป็นคนที่ถูกกักขังอยู่ในห้องใต้ดิน แล้วผู้ชายที่อยู่ในเครื่องสูบเลือดนั่น ถูกเปิดเผยออกมาได้อย่างไรกัน?

ในขณะที่คนด้านในกำลังผ่อนหายใจโล่งอกกันนั้น อีกด้านหนึ่งอาโน่ก็พาคนของกลุ่มมังกร มาถึงที่ด้านนอกของฐานดังกล่าวแล้ว

อาโน่ขมวดคิ้วสำรวจศพที่กองระเกะระกะทั่วพื้นไปมา พลางวิเคราะห์บาดแผลที่เกิดขึ้นไปด้วย ก็รู้เลยว่าอาวุธของพวกนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่

“พวกเราจะโจมตีเลยหรือเปล่าครับหัวหน้า?” พลันมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ผิวสีดำ ถือสไนเปอร์ไว้ในมือ แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดพูดขึ้น

“เจ้านายบอกไว้ว่า ครั้งนี้ภารกิจของพวกเราคือการตามหาคนเท่านั้น เพราะฉะนั้นห้ามทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด กระจายข้อมูลให้ทุกคนทราบด้วย ว่าถ้าหากพบเจอคนที่น่าสงสัยแล้วล่ะก็ หากอ้อมหรือหลบได้ก็ให้ทำซะ” ตอนนี้ร่างกายของอาโน่ก็ไม่ใช่หนุ่มๆ แล้ว ถึงแม้ว่าเขาอยากจะรบมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็จำต้องทำตามคำชี้แนะของหลงเซี่ยวเทียน และทำตามคำสั่ง หากอยากได้ทรัพย์สินมากมายแล้วล่ะก็นะ

“ใครกัน?” ก่อนหน้านี้ที่ ‘โพจูน’ ได้พบกับ ‘หมาป่าฟ้า’ นั้น เขาก็ยังคงทำการสำรวจอยู่ด้านนอกตลอด ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังขึ้นไม่ไกลนัก ทำให้สัญชาตญาณความเป็นนักรบตื่นขึ้น ก่อนที่เขาจะตะโกนขึ้นเสียงดัง

แต่พอฟังตรงข้ามได้ยินเสียงคำถามดังกล่าวขึ้น ไม่เพียงแต่ไม่ตอบกลับมาเท่านั้น แถมยังไม่มีการเปิดฉากยิงอะไรเลยด้วย เสียงทุกอย่างก็เงียบหายไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

โพจูนโบกมือเพื่อให้คนอื่นเข้ามารวมตัวที่เขา พร้อมด้วยลูกระเบิดที่เขากำอยู่ในมือ เตรียมที่จะขว้างออกไป

“ผู้อำนวยการครับ ผมคือหู่โถว ผมพบตัวคุณฉินแล้วครับ ทราบแล้วเปลี่ยน” พอหู่โถวเห็นว่าทั้งร่างกายและสภาพจิตใจของฉินอีหลินครบสามสิบสอง เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบติดต่อกับลี่อานโก๋ทันที

“พวกนายอยู่ด้วยกันงั้นหรือ?” ลี่อานโก๋ก้มลงมองดูตำแหน่งจากจานดาวเทียมในมือของเขา ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ครับ”

“อยู่รอรับคำสั่งที่นั่นไว้นะ”

“ครับ”

ขณะที่ลี่อานโก๋เตรียมจะติดต่อกับกลุ่มเล็กๆ อีกกลุ่มหนึ่งนั้น โพจูนก็ติดต่อหาเขาเองทันที

“ผู้อำนวยการครับ กลุ่ม K ที่ล้อมกำลังอยู่ด้านนอกเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ดูๆ แล้วเหมือนกับเป็นกลุ่มทหารรับจ้าง ดูท่าทีราวกับว่ากำลังตามหาใครสักคนอยู่เลยครับ” ชายที่ถือลูกระเบิดอยู่ในมือนั้น รายงานผู้อำนวยการของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ขณะเดียวกันก็มองไปรอบๆ ด้วยท่าทีที่ระแวดระวัง

พอลี่อานโก๋ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น เขาครุ่นคิดไปมาอย่างรวดเร็วภายในสมอง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เปิดปากตอบไปว่า : “ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจพวกนั้น ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้มุ่งร้ายล่ะก็ ไม่ต้องเปิดฉากสู้ใดๆ ทั้งนั้น แต่ต้องอย่าลืมระวังไว้ตลอด แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บด้วย”

“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าจะช่วยเอาโทรศัพท์ดาวเทียมนั่นให้ผมใช้สักหน่อยได้หรือเปล่า? ผมอยากจะติดต่อหาใครบางคนหน่อยน่ะครับ” ในใจของลี่โม่อวี่ตอนนี้ยังคงคิดถึงแผนการที่เขากับหลงเซี่ยนเทียนวางไว้ก่อนหน้านี้ตลอด อีกอย่างในเมื่อตอนนี้พวกเขาต่างก็ไม่มีอันตรายแล้ว ก็เป็นเหตุผลสมควรที่เขาควรจะรายงานพ่อตาในอนาคตของเขาได้รับทราบ

หู่โถวเองก็ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ได้โดยปริยายว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา มีความสัมพันธ์เช่นใดกับผู้อำนวยการ เขาจึงชักโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเองของเขา ยื่นไปให้ลี่โม่อวี่อย่างไม่ลังเล : “ได้แน่นอนสิครับ”

“ขอบคุณครับ” ลี่โม่อวี่เองก็ไม่ได้อยากจะทำตัวเหนือผู้อื่นจึงกล่าวขอบคุณไป พอรับมาเขาก็รีบโทรเข้ามือถือของหลงเซี่ยวเทียนทันที : “คุณอาหลงครับ ตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้วครับ…เอ่อ โชคดีอยู่ครับที่ทหาร…อะไรนะครับ? คุณอาอยู่ที่หน้าประตูที่นี่แล้วงั้นหรือครับ?” คนที่ใจเย็นอย่างลี่โม่อวี่พอได้ยินเองก็ตกตะลึงไปเหมือนกัน เขากับฉินอีหลินหันมามองหน้ากันอย่างประหลาดใจ ก่อนจะรู้สึกใจเต้นไม่เป็นระส่ำขึ้นมา

สมมติว่าหากฉินอีหลินจากไปพร้อมกับหน่วยทหารรับจ้างพิเศษนั้นจริงๆ ล่ะก็ คงจะหลีกเลี่ยงชะตาชีวิตการทดลองเป็นคู่รักไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าหากไปกับหลงเซี่ยนเทียนล่ะก็ จะสามารถสะบัดลี่อานโก๋ให้พ้นทางไปได้ไหมนะ?

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท