ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 195

ตอนที่ 195

บทที่ 195 มิใช่การลาจากชั่วนิรันดร

จึงเป็นเหตุให้ฉินอีหลินต้องไปเมืองหลวงพร้อมกันกับลี่อานโก๋ ครั้งนี้นอกจากลี่โม่อวี่แล้ว หลงเซี่ยวเทียนยังพาเธอไปส่งให้ลี่อานโก๋ด้วยตัวเองอีก

หลงเซี่ยวเทียนอุ้มหลานสาว พลางมองลูกสาวของตัวเองที่เขาเป็นคนมาส่ง ก่อนจะรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมาก แต่ในเมื่อเขาเป็นพ่อ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเคารพในตัวเลือกที่ลูกสาวของเขาได้เดิน

แต่หลงเซี่ยวเทียนก็กลับมาทำสีหน้าเป็นปกติ ฟื้นกลับเป็นสีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่นักธุรกิจหัวกะทิควรจะมีเหมือนเดิม อย่างรวดเร็ว

เขาเป็นหัวใจสำคัญของตระกูลหลง ดังนั้นไม่ว่าจะพบเจอเรื่องอะไรก็ตามแต่ เขาต้องเป็นโล่ที่แข็งแกร่งให้กับลูกสาวของเขา คอยปกป้องลูกสาวจากภัยอันตรายทุกอย่าง และต้องให้ลูกสาวของตัวเอง มีความสุขของตัวเองให้ได้

“แม่ แม่จ๋า อย่าไปเลยนะแม่ นะคะ?” หลงจิ่นเซวียนที่อยู่ในอ้อมกอดของหลงเซี่ยวเทียน รู้สึกได้ว่าแม่ของตัวเองกำลังจะจากไปในที่ๆ แสนไกล จึงร้องไห้ขึ้นมายกใหญ่

พอมองเห็นลูกสาวของตัวเธอเองที่น้ำตานองหน้าอยู่ตอนนี้ ฉินอีหลินก็รู้สึกใจอ่อน แม้แต่ฟ้าก็ยังรู้ว่าเธออยากจะอุ้มลูกสาวของเธอมากแค่ไหน แถมยังพูดกับเธอว่า : “แม่ไม่ไปไหนหรอกจ้ะ แม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ แม่จะคอยดูแลลูกทุกวัน แม่จะเฝ้ามองดูลูกเติบโตอย่างมีความสุขนะจ้ะ”

แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอก็อดกลั้นความรู้สึกนั้นเอาไว้ ตอนนี้เธอไม่สามารถเอาแต่ใจตัวเองได้อีกแล้ว

“เป็นเด็กดีนะ แม่ไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ลูกเป็นเด็กดีอยู่กับคุณตาที่นี่นะจ้ะ อย่าไปเที่ยวเล่นซุกซนอะไรล่ะ ไม่อย่างนั้นพอแม่กลับมา แม่จะไม่ชอบลูกแล้วนะจ้ะ”

“แล้วก็อย่าร้องไห้ด้วย แม่ชอบเด็กที่แข็งแกร่งนะจ้ะ!” ฉินอีหลินปลอบหลงจิ่นเซวียนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น เธอยกมือขึ้นลูบหน้าผากของลูกสาวตัวเองไปมาเบาๆ พลางปลอบลูกของเธอไม่ให้ร้องไห้ แต่ให้เธอพยายามเข้มแข็งให้มากที่สุด

หลงจิ่นเซวียนก็พยายามกลั้นเอาไว้ พร้อมทั้งสูดน้ำมูกที่ไหลออกมา เป็นเพราะความรักที่แม่มีให้เธอ เธอจึงมองแม่ของเธอด้วยใบหน้าที่สวยสดงดงาม ก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่น : “ถ้าอย่างนั้นแม่ต้องกลับมาเร็วๆ ด้วยนะคะ!”

ตอนนั้นเอง ลี่อานโก๋ที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่ลูกที่บาดหู ก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจโดนฉีกเป็นชิ้นๆ

แต่เขาก็พยายามอดกลั้นความสงสารไว้ในใจ เขาหันไปมองลี่โม่อวี่ที่ยืนไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆ ก็รู้ว่าในใจของลี่โม่อวี่ตอนนี้นั้น ต้องรู้สึกทุกข์ใจอย่างสุดซึ้งอยู่แน่ๆ

แต่เขาเป็นทหาร แถมต่อจากนี้ก็จะเป็นพ่อคนอีก

จริงๆ แล้วการที่ครั้งนี้ลี่โม่อวี่ไม่ยอมที่จะกลับไปกับเขาด้วย ในใจของเขาต้องรู้สึกเสียใจมากแน่ๆ

ในใจของเขาน่าจะรู้สึกผิดกับเด็กคนนี้อย่างมาก เขาหวังว่าอาจจะมีโอกาสที่ได้รู้จักกับเขามากกว่านี้อีกหน่อย จะได้ชดใช้ให้กับความรู้สึกผิดในใจของเขาเอง แต่ด้วยนิสัยของเขานั้น ทำให้ยากที่เขาจะพูดคำพวกนี้ออกมา

จนในที่สุด ลี่อานโก๋ก็เผยยิ้มมุมปากที่พบเห็นได้ยาก ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

จริงๆ แล้วการที่มีฉินอีหลินอยู่กับเขาแบบนี้ เขาเชื่อเลยว่าไม่ช้าก็เร็ว ลี่โม่อวี่ต้องกลับมาสักวันแน่ๆ

“เอาล่ะ หยุดร้องไห้กันได้แล้ว ไม่ใช่การจากลาตลอดไปสักหน่อย รีบไปกันเถอะ!” ลี่อานโก๋เร่งขึ้น

“อืม” ฉินอีหลินชักมือที่อยู่ข้างๆ ลูกสาวของตัวเองกลับมา ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วก็กลับมาทำสีหน้าปกติ

ขณะนั้นเอง ลี่โม่อวี่ที่ยืนนิ่งเงียบมาตลอดก็พูดขึ้น เขามองดูฉินอีหลินที่กำลังหันหลังเดินจากไป ด้วยแววตาที่เคร่งขรึม จริงๆ แล้วถ้าหากลองพินิจพิจารณาสายตานั้นให้ดีๆ ล่ะก็ ก็จะเห็นว่าในแววตาที่เคร่งขรึมนั้น แฝงไปด้วยความกังวลใจและความรักผูกพันอันลึกซึ้งด้วย

“ดูแลตัวเองให้ดีๆ ด้วยนะครับ…จิ่นเซวียนต้องสบาย หมิงเจ๋อเองก็เช่นกัน คุณวางใจได้เลยนะ…ถ้าหากมีอะไรลำบากตรงไหนล่ะก็ ต้องติดต่อหาผมทันทีเลยนะ ผมจะ…”

ลี่โม่อวี่คล้ายกับว่ามีคำอวยพรอยู่มากมายที่จะพูดออกมา แต่ก็ถูกฉินอีหลินพูดตัดบทขึ้นว่า : “ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ”

เธอพยายามอดกลั้นความรู้สึกในใจ อีกทั้งอารมณ์ที่สะเทือนใจไปมา ฉินอีหลินจึงพยายามใช้สีหน้าที่เรียบเฉยของเธอ ในการทำให้ผู้ชายตรงหน้ารู้สึกสงบใจมากขึ้น

พอเห็นความเข้มแข็งของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา ลี่โม่อวี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ก่อนจะช่วยเธอเปิดประตูให้อย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นก็แบกเอากระเป๋าเดินทาง วางไว้ที่กระโปรงหลังรถให้เธอ

“ไปกันได้หรือยัง?” ลี่อานโก๋พูดเร่งขึ้นอีกครั้ง

“ได้แล้วล่ะครับ”

รถที่พุ่งออกไปนั้น ราวกับว่าดึงใจของทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังตอนนี้ หลุดลอยตามไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น

“แม่จ๋า แม่ต้องกลับมาเร็วๆ ด้วยนะคะ!” หลงจิ่นเซวียนตะโกนใส่รถที่กำลังจากไปพร้อมด้วยทิวทัศน์ทะเลอันกว้างใหญ่ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่อาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง

คนที่ปล่อยวางความเศร้าของการจากลาได้ก่อนคือหลงเซี่ยวเทียน เขามองดูคนที่ยืนเหม่ออยู่ข้างกาย อีกทั้งทำสีหน้าที่ดูยุ่งเหยิงไปมา จึงอดไม่ได้ที่จะพูดหยอกว่า : “ฉันว่า นายควรจะทำตัวเหมือนคนสมัยก่อนนะ ที่สามีเฝ้ารอภรรยากลับมาที่บ้านน่ะ มายืนอยู่แบบนี้ เดี๋ยวนายก็ได้กลายเป็นหินเสียหรอก”

แต่หลงเซี่ยวเทียนนั้นยังไม่รู้ว่า จริงๆ ตั้งแต่ที่ลี่อานโก๋เป็นคนขับรถ แล้วเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปนั้น เขาก็รู้สึกเสียใจทันที

เดิมทีการที่เขาอยู่นี้เป็นเพราะเขาไม่อาจปล่อยหลงจิ่นเซวียนได้ ที่จริงเขาอยากจะส่งหลงจิ่นเซวียนกลับบ้าน แล้วรีบกลับไปที่บริษัททันที เพราะที่บริษัทยังมีกองงานอีกพะเนินเทินทึกให้เขาต้องจัดการ

ดังนั้นหลังจากที่ลี่อานโก๋รับปากกับเขาแล้วว่า ไม่มีทางที่จะทำให้ความปลอดภัยของฉินอีหลินมีอันตรายใดๆ แล้วนั้น เขาก็เลือกที่จะให้ลูกสาวของเขาเอง ไปกับลี่อานโก๋

แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น ตอนนี้จึงยากที่จะอดกลั้นความรู้สึกไม่สงบใจในใจ

เขารู้ดีว่าเขาต้องรู้สึกอาลัยอาวรณ์และลำบากใจกับการจากไปของฉินอีหลิน แต่กลับคิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันที่ฉินอีหลินจะจากไปได้นาน เขาก็เริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของฉินอีหลินขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อว่าลี่อานโก๋ไม่มีทางทำร้ายฉินอีหลินก็ตาม แต่ลี่อานโก๋เองก็เป็นทหาร และทหารก็มักจะทำตามคำสั่งจนกว่าชีวิตจะหาไม่เสมอ

ถ้าหากว่าเขาไม่สนใจความรู้สึกของฉินอีหลินแล้วทำให้ฉินอีหลินได้รับความไม่เป็นธรรมขึ้นมาล่ะ?

และที่นั่นก็เป็นกองทหารปกป้องประเทศ ถ้าหากมันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ ล่ะก็ ฉินอีหลินจะติดต่อเขาได้อย่างไรกัน ถึงแม้เขาจะรู้ว่าฉินอีหลินเกิดอันตรายก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ในขณะที่ฉินอีหลินได้รับบาดเจ็บนั้น เขาจะเป็นคนแรกที่ไปถึง

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ฉินอีหลินเข้มแข็งแบบนี้ การที่เธอไปพบเจอกับอันตรายเข้า สิ่งแรกที่คิดถึงก็น่าจะเป็นการเอาตัวเองไปแบกรับเอาไว้ โดยไม่ให้ญาติสนิทมิตรสหายมาเป็นห่วงเธอแน่นอน

อีหลินนะอีหลิน คุณรู้ไหมว่าที่คุณเป็นแบบนี้ มันทำให้ผมเป็นห่วงคุณมากขึ้นไปอีก?

หลังจากคิดไปคิดมา ไม่ถึงสองนาที ลี่โม่อวี่ก็ตัดสินใจแน่วแน่ได้ว่า เขาต้องอยู่ข้างกายของฉินอีหลินให้ได้ เพียงแค่ได้อยู่กับเธอ เขาก็จะสามารถปกป้องเธอเวลาไหนก็ได้ ให้ผู้หญิงที่ภายนอกดูอ่อนแอ แต่ข้างในแข็งแกร่งคนนี้ ไม่ให้ได้รับความลำบากอะไร

เขาเชื่อว่าหลงเซี่ยวเทียนต้องดูแลหลงจิ่นเซวียนเป็นอย่างดีแน่นอน แล้วเขาก็เชื่ออีกว่าลูกน้องที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างดี ต้องจัดการบริษัทให้อย่างแน่นอน ไม่ว่าเห้อห้าวกับเซียวน่ายจะดูแลธุรกิจที่เมืองกั่งซื่อได้หรือเปล่า แต่เขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้ฉินอีหลินไปเจออันตรายอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน

ดังนั้น ตอนนี้เขาต้องตามฉินอีหลินไปให้ได้!

ลี่โม่อวี่ไม่สนใจคำหยอกล้อของหลงเซี่ยวเทียนแต่อย่างใด เขาดึงความคิดของเขากลับมา ก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่ เรื่องที่จะไปด้วยกันกับฉินอีหลิน หลังจากที่เขาให้หลงเซี่ยวเทียนดูแลหลงจิ่นเซวียนแล้ว เขาก็เรียกรถแท็กซี่แล้วรีบตามไปทันที

หลงเซี่ยวเทียนมองดูลี่โม่อวี่ที่เดินจากไปอย่างร้อนรน แววตาก็ฉายแววที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ถึงแม้ว่าปกติหลงเซี่ยวเทียนจะแสดงท่าที ให้ลี่โม่อวี่เห็นว่าเขาดูไม่พอใจก็ตาม หรือแม้กระทั่งคำพูดก็ยังดูเหน็บแนมเขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้ทำไปเพราะอยากจะคัดค้านลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินหรอกนะ แต่แค่อยากจะเสียดสีเขาแค่นั้น

หลงเซี่ยวเทียนมักจะมีคติประจำใจเสมอว่า ‘หากผู้ชายยอมเชื่อฟังได้ หมูก็คงปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้ว!’ ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นลูกเขยเขาก็ตาม ไม่ว่าคนนั้นจะโดดเด่นมากแค่ไหน แต่ก็ต้องทนรับการเสียดสีเหน็บแนมของเขาให้ได้

หากมองจากปัจจุบัน ผู้ชายคนนี้เกือบเหมือนว่าจะทำให้เขา วางใจได้ที่จะยกลูกสาวเขาให้ไปอย่างไรอย่างนั้นล่ะ

“ไปกันเถอะ จิ่นเซวียนอยากจะกินอะไร เดี๋ยวตาพาไปกินนะ!”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท