บทที่ 251 พวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว
เจิ้งซู ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนี้คนนี้มาจากไหน แถมยังกล้าล่วงเกินเขาอีก ไว้รอให้เขาจัดการลี่โม่อวี่ก่อน เดี๋ยวจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รู้จักความร้ายกาจ
“ใช่ไหม? ฉันเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน”
เมื่อฉินอีหลินได้ยินคำชื่นชมจากคนเบื้องหน้า อารมณ์ก็ดีขึ้นทันที เธอยื่นมือโอบแขนของลี่โม่อวี่ด้วยท่าทางสง่างาม
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจิ้งซูก็สั่นเทาเล็กน้อยจนแทบยืนไม่มั่นคง
ขณะที่ เจิ้งซู คิดจะหักหน้าเขานั้น เขาก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาทางพวกเขา
“คุณ หยินเจิ้ง คุณต้องการอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อ เจิ้งซู เห็น หยินเจิ้ง เดินตรงเข้ามาหาเขาก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน
ในตอนนี้ หยินเจิ้ง เป็นผู้มีชื่อเสียในวงการการแพทย์ในเมืองกั่งซื่อ และในอนาคตบริษัทของพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเขาด้วย ซึ่งกว่าเขาจะเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ เขาเชิญหลายครั้งมาก ดังนั้นเขาเลยต้องต้อนรับอย่างดีเป็นพิเศษ
แต่ หยินเจิ้ง กลับทำเหมือนไม่เห็น เจิ้งซู เลย เขาเดินตรงมาเบื้องหน้าของฉินอีหลินและลี่โม่อวี่ จากนั้นก็ก้มโค้งคำนับเล็กน้อย และกล่าวทักทายว่า : “สวัสดีครับ คุณหนูหลง คุณลี่”
การกระทำของเขาสร้างความตกตะลึงต่อคนในงานมาก
ใครบ้างจะไม่ทราบว่า หยินเจิ้ง เป็นดาวดวงใหม่ที่มาแรงแซงโค้งอย่างฉับพลันในวงการการแพทย์ของเมืองกั่งซื่อ ซึ่งปกติเขาเป็นคนโอหังถือตัวมาก ขนาดพวกเขาต้องการอยากให้เขาช่วยตรวจร่างกายสักหน่อยยังต้องนัดล่วงหน้าเลย อีกอย่างหากเขามีอารมณ์ไม่ดีเมื่อไหร่ก็จะอาจผิดนัดไปเลย ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องปกติมาก
และหากใครแสดงพฤติกรรมขุนเคืองออกมา ในอนาคตหากจะไม่ได้รับการนัดล่วงหน้าจากบริษัทไหนอีก
แต่คนแบบนี้ ในตอนนี้กลับแสดงการกระทำอ่อนน้อมถ่อมตนกับบุคคลที่กำลังจะถูกตัดออกจากวงการสังคมที่มีชื่อเสียง เช่นนี้จะให้คนเหล่านี้ทำใจยอมรับได้อย่างไร
“ที่แท้เป็นหมอหยิน นี่เอง”
เมื่อลี่โม่อวี่ เห็น หยินเจิ้ง ก็ยักคิ้วเล็กน้อย เขาจำได้ว่า เมื่อก่อนตอนที่เขาตรวจบาดแผลสองบริเวณให้กับฉินอีหลิน เขาเรียกว่า คุณนายฉิน แต่ในตอนนี้เขากลับเรียกว่า “คุณหนุหลง” แทน
ช่างเป็นคนเฉลียวฉลาดคนหนึ่งจริงๆ
ในเมืองกั่งซื่อตระกูลฉินเริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆแล้ว และตอนนี้งานเลี้ยงของสังคมสูงส่ง ฉินตงไห่ก็ไม่ได้รับการถูกเชื้อเชิญด้วย หากเขาเรียกว่า “คุณนายฉิน” ฐานะทางสังคมของพวกเขาก็จะตกต่ำลง แต่ตระกูลหลงดูมีอิทธิพลมากกว่า
ไม่ขอพูดถึงความเกรียงไกรของตระกูลหลงแข็งแกร่งเพียงไหน พูดเพียงแค่ในเมืองกั่งซื่อก็พอ หลังจากที่หลงเซี่ยวเทียนรับตำแหน่งบังคับบัญชาก็มีอำนาจยิ่งใหญ่คับฟ้าทันที
การเรียกคุณหลง เป็นการสื่อถึงความมีเกียรติอย่างล้นเหลือ
ทั่วเมืองกั่งซือ นอกจากคุณ TOTEM มีใครที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเรียกว่า “คุณหนูหลง”
“คุณกำชับให้ฉันอย่าขยับมาก แต่ฉันกลับไม่ฟังคำพูดของคุณ ช่างน่าอายเสียจริง”
เมื่อฉินอีหลินเห็นท่าทางให้เกียรติของ หยินเจิ้ง ก็ทำเป็นเหมือนคนบ้านเดียวกัน และไม่ได้ปฏิบัติตัวเหมือนกับที่ปฏิบัติตัวกับ เจิ้งซู เมื่อกี้นี้
“หากเทคนิคการแพทย์ของผมปราดเปรื่องกว่านี้สักหน่อย คงไม่ต้องทำให้คุณต้องลำบาก”
หยินเจิ้ง คงเคยได้ยินข่าวเรื่องที่ฉินอีหลินมีอาการบาดแผลฉีกขาดก่อนหน้านี้มาไม่มากไม่น้อยแน่ แต่ในตอนนั้นเขาอยู่ต่างประเทศ อีกอย่างหลงเซี่ยวเทียนก็โกรธเคืองที่เขารักษาลูกสาวไม่หายด้วย เลยไม่ได้เรียกเขากลับมา และเขาก็ไม่มีโอกาสเจอเธอด้วย
“ท่านนี้คือคุณหนูของตระกูลหลงหรอครับ?”
ในที่สุด เจิ้งซู ก็เข้าใจสักทีว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงกล้าพูดแบบนั้น ที่แท้เป็นคนของตระกูลหลง ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์กล้าอวดดีด้วย
“ใช่ครับ”
หยินเจิ้ง พยักหน้าเพื่อยืนยัน
เริ่นอีไห่ที่เอาแต่ชมความสนุกสนาน ก็เพิ่งทราบว่าฉินอีหลินเป็นคนของตระกูลหลงที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่
หลายปีมานี้เขาได้ยินมาจากผู้หญิงที่โง่เขลาของเขาแต่เพียงว่าฉินอีหลินคบกับผู้ชายมากหน้าหลายตา แต่กลับไม่เคยบอกเขาเลยว่า ฉินอีหลินเป็นลูกสาวของหลงเซี่ยวเทียน
หากเมื่อกี้เขาไม่เอาแต่ชมความสนุกสนาน แต่ช่วยออกหน้าให้กับลี่โม่อวี่ ในอนาคตเส้นทางธุรกิจของเขาคงก้าวไกลแน่ๆ
“ทำไมฉันถึงไม่เคยทราบข่าวแต่งงานของคุณหนูหลงกับประธานลี่เลยล่ะค่ะ คุณหนูหลง คุณทำแบบนี้น่าขายหน้ามากเลยนะครับ คุณไม่รู้สึกอายหรอ?”
ซูลี่ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีภูมิหลังที่ดีมากขนาดนั้น เลยเกิดความรู้สึกอิจฉาและโกรธเคืองภายในใจขึ้น รูปร่างหน้าตาของเธอก็ดี แต่ทำไมถึงจับบุคคลผู้มีอิทธิพลอย่างลี่โม่อวี่ไม่ได้ อีกทั้งไม่ได้เกิดมาในตระกูลที่ดีแบบนั้นด้วย
ทำไมเรื่องดีๆทุกอย่างถึงเกิดแต่กับผู้หญิงคนนั้นด้วย
เมื่อลี่โม่อวี่ได้ยินแบบนี้ก็เผยสีหน้ามืดครึ้ม พร้อมกับเผยสายตาแหลมคมจับจ้องไปที่ ซูลี่ เหมือนกับเห็นคนตาย กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิงของเขา งั้นก็ต้องได้รับบทเรียนในสิ่งที่กระทำ
เมื่อ ซูลี่ เห็นสายตาแหลมคมอันฉับพลันจากลี่โม่อวี่ก็ถึงกับสะดุ้งตกใจชั่วขณะ จากนั้นก็ฉีกปากยิ้มให้กับผู้ชายที่อยู่ไม่ไกลเพื่อหลบตา
“โม่อวี่ เดียวฉันเป็นคนพูดเอง”
ดูเหมือนฉินอีหลินไม่ค่อยสนใจคำพูดแดกดันของ ซูลี่ สักเท่าไหร่ อีกอย่างเธอแทบไม่อารมณ์อยากโต้เถียงกับเธอด้วย
เสือตัวหนึ่งทีน่าเกรงขาม มันไม่เสียเวลามาต่อกรกับหนูตัวเล็กต่ำต้อยหรอก
เมื่อลี่โม่อวี่ได้ยินแบบนี้ก็เกิดความสงสัยภายในใจ แต่ยังคงเผยภาพลักษณ์มั่นคงหนักแน่นเหมือนเดิม เขาดึงสายตาจาก ซูลี่ กลับมา แล้วหันหน้ามองผู้หญิงของตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าเธอมีแผนการอะไร และจะพูดอะไร?
แต่เขาไม่ถือสา หากฉินอีหลินต้องการทำ เขาก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่
“ถ้าหากเธอไม่พูด ฉันจะถือว่าเธอยอมรับก็แล้วกัน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินอีหลินก็โอบแขนของลี่โม่อวี่ พร้อมเผยสีหน้าแดงระเรื่อเขินอายออกมาเหมือนสาวน้อยบอกบาง
“พวกเรากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ค่ะ”
พวกเราจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ค่ะ
พวกเราจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ค่ะ
……
ในหัวสมองของลี่โม่อวี่เหมือนกับถูกวางระเบิด จนทำให้เขาเสียสติ
พวกเขาจะแต่งงานกันแล้วหรอ?
พวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว
จู่ๆลี่โม่อวี่ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขาจะได้แต่งงานกับเธอจริงๆหรอ
ลี่โม่อวี่หรี่ตาจ้องมองฉินอีหลิน พร้อมกับเผยสายตาเป็นประกายริบหรี่ออกมา ในตอนนี้เขาแทบไม่สนใจว่า เจิ้งซู อยากเล่นงานเขาหรือเปล่า หรือว่าเขาควรขอบคุณเขาที่ต้องการเล่นงานตัวเอง
ถ้าหากไม่ใช่เพราะ เจิ้งซู ผลัก เขาคงไม่สามารถได้รับการยืนยันความสัมพันธ์จากฉินอีหลิน
คนอื่นอ่านความรู้สึกของลี่โม่อวี่ไม่ออก แต่ฉินอีหลินอ่านออก เธอสัมผัสถึงอารมณ์ดีใจของลี่โม่อวี่ได้ ฉินอีหลินรู้ว่าเขาทำเพื่อตัวเองมากแค่ไหน ในตอนนี้ถึงเวลาที่เธอควรทำเพื่อเขาบ้าง
เมื่อคิดถึงตรงนึก ฉินอีหลินก็แกล้งแสดงท่าทางเหมือนทำผิด : “โม่อวี่ อย่าโทษฉันเลยนะ คุณมีความสามารถขนาดนี้ ฉันกลัวว่าจะมีผู้หญิงอื่นแย่งคุณไปจากฉัน”
ท่าทางของฉินอีหลินทำให้ผู้คนตกตะลึงอีกครั้ง
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ลี่โม่อวี่เกี่ยวดองกับตระกูลหลงถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ตอนนี้ลี่โม่อวี่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงล้มละลายอยู่
ฉินอีหลินไม่เพียงแสดงจุดยืนของตระกูลหลง แถมยังแสดงท่าทางเชื่อฟังผู้ชายคนนั้นด้วย
แล้วแบบนี้จะมีผู้ชายคนไหนไม่รู้สึกอิจฉาบ้าง?
ฉินอีหลินสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้คน เลยหัวเราะในใจเบาๆ
ผลลัพธ์ที่เธอต้องการคือแบบนี้
เธอต้องการให้คนทั่วเมืองกั่งซื่อรู้ว่า ตระกูลหลงเป็นกำลังสนับสนุนเบื้องหลังที่แข็งแกร่งที่สุดของลี่โม่อวี่ ซึ่งนี่ไม่ใช่เพราะลี่โม่อวี่ “ปราณนา” แต่เป็นความต้องการของเธอเอง
ลี่โม่อวี่เป็นผู้ชายของเขา ดังนั้นเธอต้องเห็นเขาเป็นคนสำคัญ!
