บทที่254 ไม่รู้จักเจียมตัว
ฉินอีหลินสะดุ้งตกใจกับเสียงร้องอันกะทันหันจนเหงื่อท่วมตัว ตอนแรกเธอเองก็รู้สึกปวดหัวอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งปวดหัวหนักไปอีก
“โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน นาฬิกา เครื่องประดับเอาออกมาให้หมด!”
ชายฉกรรจ์สี่คนที่นั่งอยู่แถวที่นั่งที่หนึ่งและที่สองยืนขึ้น หนึ่งคนในจำนวนนั้นของพวกเขาใช้มีดจ่อตรงคอของคนขับรถ ส่วนอีกสามคนรีบหยิบถุงดำสองใบออกมา และถือเดินบีบบังคับให้นักท่องเที่ยวนำทรัพย์สินมีค่าทิ้งลงในถุง
“พี่อีอี ฉันกลัว”
เสี่ยวเซี่ยคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เธอกลัวจนขดตัวหลบอยู่ข้างฉินอีหลิน จนร่างกายสั่นเทา
“ไม่เป็นไร”
ฉินอีหลินพูดปลอบโยนเด็กผู้หญิงที่ตัวสั่นเบาๆ ขณะเดียวกันก็แอบมองประเมินชายฉกรรจ์สามคนเบื้องหน้าด้วย
ชายฉกรรจ์ที่เป็นพี่ใหญ่มีรูปร่างสูงเกือบสองเมตร ร่างกายกำยำแข็งแรง แต่บริเวณมุมตาข้างขวามีรอยแผลจากมีดเบี้ยวยาวลงมาถึงมุมปากด้านขวา ซึ่งดูแล้วน่าหวาดกลัวมาก
ส่วนสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา ถึงแม้ไม่มีรูปร่างกำยำแข็งแรงเหมือนเขา แต่บนเอวมีมีดสั้นขนาดเล็กเสียบอยู่ เพียงแค่เหลือบมองก็รู้ว่าเคยฝึกการใช้มีดมาก่อน
ฉินอีหลินรู้ตัวว่าไม่สามารถขัดขืนได้ เลยตัดสินใจถังแตก เพราะถึงยังไงข้อมูลที่หลงเซี่ยวเทียนให้กับเธอ เธอได้ฉีกทิ้งหมดแล้ว และในโทรศัพท์ก็ไม่มีข้อมูลที่สำคัญด้วย
“โอ้ พี่ใหญ่ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก”
เมื่อชายผมทองทั้งหัวเหลือบเห็นฉินอีหลินก็กระโจนเข้าไปกระซิบบอกกับผู้ชายที่มีร่างกายกำยำอย่างรวดเร็วทันที
“อืม เป็นสาวสวยจริงๆ”
จากนั้นคนนั้นก็เดินเข้ามาดูฉินอีหลิน พวกเขาผลัก เสี่ยวเซี่ยออกไปข้างหลัง แล้วยิ้มแย้มและเดินเข้ามานั่งเบียดเสียบข้างฉินอีหลิน : “สาวน้อย ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?”
ฉินอีหลินเห็น เสี่ยวเซี่ยถูกผลักไปข้างหลัง เธอหุบปากเงียบไม่ขยับเขยื้อน ตอนนี้พื้นที่บนรถทัวร์แคบลงมากแล้ว จนเธอแทบไม่มีวิธีทางเอาชนะผู้ชายเหล่านี้ นอกจากพูดเกลี้ยกล่อมให้ทั้งสี่คนลงจากรถ เธอถึงจะมีโอกาสหนี
“พี่อีอี ! พวกคุณจะทำอะไรหรอ ไม่ใช่ว่าต้องการเงินหรอกหรอ แต่เงินก็ได้หมดแล้ว พวกคุณก็รีบลงจากรถสิ!”
เมื่อ เสี่ยวเซี่ยเห็น ฉินอีหลินกำลังจะถูกลวนลาม เธอก็กระโจนเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน แต่กลับถูกผู้ชายผมทองตบหน้าหนึ่งที : “นังผู้หญิงอัปลักษณ์ แกไม่เห็นหรอว่าพี่ใหญ่ของพวกฉันกำลังจีบสาวสวยอยู่ หน้าตาอย่างแกกล้าคิดจะเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของพี่ใหญ่หรอ อย่างแกต่อให้คุกเข่าร้องขอ กูก็ไม่เอาแกหรอก กล้ามากจะไปหาพี่ใหญ่”
เสี่ยวเซี่ยไม่ได้มีหน้าตาสะสวย และมีความสูงไม่ถึงหนึ่งเมตรหกเซนติเมตรด้วย แต่มีน้ำหนักหนึ่งร้อยกิโลกรัมสามสิบกรัม แถมมีผิวพรรณคล้ำ จมูกหัก และบนแก้มมีรอยด่างดำด้วย
ต่อให้มีรูปร่างแบบนี้ แต่เมื่อถูกผู้ชายผมทองตบหนึ่งทีแบบนี้หลับหมดสติได้
เมื่อฉินอีหลินเห็น เสี่ยวเซี่ยถูกทำร้าย เธอก็รู้สึกประทับใจในความกล้าหาญของเธอ เพราะบนรถมีผู้ชายร่างกายกำยำแข็งแรงอยู่ แต่พวกเขาเลือกที่จะเมินเฉย ทั้งที่ เสี่ยวเซี่ยเป็นเพียงผู้หญิง แต่กลับกล้าหาญกระโจนเข้ามาช่วยเธอ
“ไม่รู้จักเจียมตัว”
คนนั้นถมน้ำลายออกมา จากนั้นก็ยิ่งขยับเข้ามานั่งข้างฉินอีหลิน : “น้องสาว อย่ากลัว พี่ชายเป็นคนอ่อนโยนมาก”
ฉินอีหลินแกล้งแสดงสีหน้าและท่าทางหวาดกลัวออกมา ทั้งยังแกล้งแอบน้ำตาซึมด้วย
“น้องสาวอย่ากลัว”
เมื่อคนนั้นเห็นท่าทางของฉินอีหลินก็รู้สึกเอ็นดู ขณะเดียวกันก็ยื่นมือจะจับมือของฉินอีหลิน
สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทนเห็นไม่ได้คือสภาพของผู้หญิงบอกบางและอ่อนแอ ผู้หญิงแบบนี้ไม่เพียงยิ่งทำให้ผู้ชายอยากจะปกป้อง แต่ส่วนใหญ่พวกเธอยิ่งทำให้ผู้ชายอยากจับสะโพกเล่น
“ขอร้องล่ะ พวกคุณปล่อยฉันเถอะนะ”
ฉินอีหลินสะบัดมืออย่างรีบร้อน พร้อมเผยสายตาหวาดกลัว และพยายามขยับตัวหนีชิดหน้าต่างรถ แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีได้
“น้องสาว เล่นสนุกเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ พี่ชายจะถะนุถนอมน้องสาวเอง สัญญาว่าจะทำให้น้องสาวรู้สึกติดใจจนร้องขออยากเล่นกับพวกพี่อีก”
คนนั้นเริ่มพูดลามปามมากขึ้นแล้ว ขณะเดียวกันก็ยื่นมือดึงผู้หญิงด้านข้างเข้ามาในอ้อมกอด ส่วนผู้ชายผมทองก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน
เมื่อ เสี่ยวเซี่ยได้ยินแบบนี้ก็เผยสีหน้าเศร้าใจ พร้อมกระโจนเข้ามาทำร้ายผู้ชายผมทอง แต่ผู้ชายผมทองไม่มีจิตสำนึกและความเห็นใจผู้หญิง เมื่อเห็น เสี่ยวเซี่ยกระโจนเข้ามา เขาก็เตะเข้าตรงท้องของ เสี่ยวเซี่ยหนึ่งที ขณะเดียวกันก็มีคนจับเธอผลักลงบนพื้น : “หาเรื่องใส่ตัว คิดว่าพวกกูไม่กล้าทำร้ายผู้หญิงหรอ?”
ผู้ชายผมทองถีบใส่ตัว เสี่ยวเซี่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เด็กผู้หญิงคนนั้นนอนฟุบบนพื้นเย็น พร้อมส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด
“อย่าทำร้ายเธอเลย ขอร้องล่ะ อย่าทำร้ายเธอเลย”
เมื่อฉินอีหลินเหลืองเห็น เสี่ยวเซี่ยถูกทำร้ายก็น้ำตาไหล พร้อมกับยื่นมือจับแขนของคนนั้นโดยอัตโนมัติ
คนนั้นไม่เคยเห็นหญิงสาวแบบฉินอีหลินมาก่อน แถมเธอยังตั้งใจแสดงท่าทางบอกบางแบบนี้ด้วย ถ้าหากลี่โม่อวี่เห็นสถานการณ์แบบนี้ เขาต้องผลักลูกตาของพวกเขาออกมาแน่ เพราะเขายังไม่เคยเห็นฉินอีหลินแบบนี้เลย
“แล้วสาวน้อยจะขอร้องพี่ยังไงหรอ?”
เขาหลับตาและสัมผัสถึงเนื้ออ่อนนุ่มที่กระทบบนแขน จากนั้นเขาก็รู้สึกร้อนรุ่มอย่างทนไม่ไหว
“ไม่…ไม่เอาที่นี่ไม่ดี ที่นี่คนเยอะ……”
ฉินอีหลินสะอึกสะอื้นอย่างไร้เสียง ขณะเดียวกันก็พูดออกมาด้วยความระมัดระวัง
ถึงแม้ฉินอีหลินรู้ว่าทำแบบนี้จะทำให้คนหลงใหล แต่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกหลงใหลมากแค่ไหน
ในตอนนี้ฉินอีหลินเหมือนกับปีศาจที่มีพลังเย้ายวนชวนคนหลงใหล เพราะภายใต้ภาพลักษณ์ที่ใสบริสุทธิ์แอบซ่อนเสน่ห์อยู่ แต่กลับไม่รู้ว่าแบบนี้ยิ่งทำให้คนหลงใหล
“ลงจากรถ!”
คนนั้นตะโกนร้องดังขึ้น จากนั้นก็อุ้มฉินอีหลินเดินลงจากรถ เขาทนรอไม่ไหวแล้ว ปีศาจตนนี้ เขาอยากทำให้เธอจากเขาไม่ได้!
ฉินอีหลินร้องตกใจขึ้น พร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างโอบคอของคนนั้น จากนั้นเธอก็ถูกอุ้มเดินลงจากรถ
“พี่อีอี…..”
เสี่ยวเซี่ยนอนหดตัวบนพื้นด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันก็เหลือบมองผู้ชายเหล่านั้นเดินจากไป และตรงหางตาก็มีน้ำตาไหลออกมา ในตอนนี้เธอไม่มีโทรศัพท์ แม้แต่แจ้งตำรวจก็ทำไม่ได้…..
ส่วนฉินอีหลินถูกผู้ชายรูปร่างกำยำแข็งแรงอุ้มเดินเข้าในป่าลึก แต่จู่ๆก็หยุดฝีเท้าลง เขาหันหน้ามองสถานที่ไกลที่ว่างเปล่า จากนั้นก็ก้มหน้ามองลงฉินอีหลินที่อยู่ในอ้อมอก จากนั้นแขนก็ค่อยๆปล่อยลงอย่างหมดแรง
ฉินอีหลินรีบกระโดดลงออกจากอ้อมกอดของคนนั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเผยสายตาแหลมคมออกมา
“พี่ใหญ่?”
ตอนที่ผู้ชายผมทองที่เดินนำหน้าสองคนเดินตามมาถึง และเห็นสถานการณ์แบบนี้ เขาก็ยื่นมือตบบนบ่าของพี่ใหญ่อย่างสงสัย จากนั้นชายฉกรรจ์ที่มีความสูงเกือบสองเมตรก็ฟุบตัวลงบนพื้นจนเกิด “ตูม” ขึ้น
ชั่วพริบตาผู้ชายผมทองเปลี่ยนสีหน้าทันที และเดินเข้ามาพลิกตัวของเขา
จากนั้นก็เห็นชายที่มีรูปร่างกำยำแข็งแรงเผยสายตาไม่อยากจะเชื่อ และตรงคอของเขามีแผ่นมีดที่บางเฉียบเสียบอยู่
ส่วนผู้ชายอีกสามคนยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาจะถูกผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เบื้องหน้าเอาชีวิต!
ฉินอีหลินกวาดตามองผู้ชายสามคนที่นั่งคุกเข่าบนพื้น จากนั้นเธอก็กวาดตามองที่บนใบหน้าผู้ชายผมทอง
พร้อมยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงเข้มครึ้ม
“แกอยู่ก่อน คนอื่นใส่หัวออกไป”