ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 269

ตอนที่ 269

บทที่ 269 คุณใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อ

“คุณนายน้อย!”

ลี่โม่อวี่คิ้วขมวด น้ำเสียงเหมือนไม่เข้าใจ

“เป็นคุณนายน้อยแค่ในนาม ฉันแค่เป็นห่วงคุณ!”

ฉินอีหลินกลัวว่าลี่โมอวี่จะคิดมาก โดยไม่สนใจตัวเองที่ตัวร้อนอยู่ ก็ลุกขึ้นมานั่ง แต่เพราะว่าเวียนหัว จึงล้มลงไปอีก

“อีหลิน”

ลี่โม่อวี่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะกระตือรือร้นขนาดนี้ ในใจรู้สึกแปลก ๆ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกทราบซึ้งมาก เขารีบกดฉินอีหลินให้อยู่บนเตียง แล้วก็ห่มผ้าให้เธอ จึงเอ่ยปากบอกว่า: “ผมเชื่อคุณ”

จริง ๆ แล้วในใจของลี่โม่อวี่นั้นถือเรื่องนี้มาก แต่เขาก็รู้ว่าผู้หญิงของเขานั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา จึงปลอบคนบนเตียงเบา ๆ ว่า: “เด็กดี อย่าคิดมากนะ รอให้หายดีแล้ว เราพาลูก ๆ ทั้งสองไปเที่ยวต่างประเทศกัน”

“ค่ะ”

ในขณะที่ทั้งสองมีความสุขกันนั้น ซือเซี่ยก็ได้โผล่มา

“เรื่องตระกูลเหล่านั้นดั้ดการหมดแล้ว พวกคุณปลอดภัยแล้ว”

ฉินอีหลินได้ยินแล้วก็มองตาของลี่โม่อวี่ แล้วก็ให้ลี่โม่อวี่พยุงเธอขึ้นนั่งและพูดว่า “ขอบคุณ”

แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่สบายแทบตาย แต่ว่าซือเซี่ยโดยแก่นแท้แล้วได้ช่วยเธอไว้อย่างยิ่งใหญ่

เมื่อจัดการเรื่องขององค์กร“K”แล้ว เธอก็นับว่าสามารวางใจไปได้เรื่องหนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้นเราไปตอนนี้เลย จะรบกวนพระราชวังซือตลอดไปก็ไม่เหมาะควร”

ฉินอีหลินแม้จะพูดจาฟังดูดี แต่จริง ๆ คืออยากรีบออกไปจากที่บ้านี่ ที่บ้าอะไรที่กลับไปใช้ชีวิตแบบคนโบราณ ตอนนี้เธอแทบจะกลับไปเป็นคนสมัยดึกดำบรรพ์แล้ว แล้วยังเป็นคนดึกดำบรรพ์ที่รู้กฎระเบียบวินัย

”ท่านชายซือ ต้องขอบคุณอย่างสูง เด็กที่บ้านอีกสองคนนั้นร้องหาแม่ ผมจะพาอีหลินกลับไปก่อน แล้วจะกลับมาเยี่ยมคารวะอีกครั้ง”

ลี่โม่อวี่จะยังไงเสียก็เป็นราชาบนผืนดินที่เมืองกั่งซื่อ เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม เมื่อชายคนนี้นิยมย้อนยุคแบบโบราณ เขาเองก็ใช่ว่าจะพูดจาแบบนั้นไมไ่ด้

“ทำไมรีบร้อนลืมบุญคุณกันขนาดนี้ล่ะ?”

ซือเซี่ยได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูดนั้นมีเพียงแต่ความหมายว่าอยากจะจากไป ก็ไม่ได้รำคาญ แต่แค่ชัดเจนว่ายังไม่ได้จะปล่อยคนไป

“เงื่อนไข”

เมื่อลี่โม่อวี่ได้ยินที่ซือเซี่ยพูด ก็พลันหรี่ตา แล้วก็พูดออกมาตรง ๆ ว่า เป็นคนตรง ๆ จริง ๆ เขาเองก็ยินดีที่จะเปิดอกคุย ไม่อย่างนั้นก็คงรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ เขาเองก็คงหลับไม่สนิทใจ : “ขอแค่เป็นเรื่องที่ผม ลี่โมอวี่ทำได้ ผมจะไม่มีวันบ่ายเบี่ยงเกี่ยงงอน”

ซือเซี่ยยักไหล่ แล้วก็นั่งลง เหมือนว่ามีเรื่องต้องคุยกันยาว

“ก็ไม่มีอะไรมาก” ซือเซี่ยยิ้ม และก็มองไปทางฉินอีหลิน แล้วพูดว่า: “ก็แค่ยืมผู้หญิงของคุณหน่อย”

เมื่อพูดคำนี้ไป ลี่โม่อวี่สายตาเย็นชา เสียงหัวเราะก็เย็นชา

”สภาพของผมตอนนี้ก็ไม่ได้พร้อมที่จะลำบากเท่าไหร่ ก็ตามที่คุณบอก พักต่ออีกสักหน่อย เพราะยังไงก็ไม่ต้องเสียค่ากินค่าอยู่” ฉินอีหลินรู้ว่าลี่โม่อวี่กำลังออกมา จะมาทำให้ซือเซี่ยไม่พอใจไม่ได้ จึงได้แต่อยู่ตรงกลาง: “ท่านชายซือคงไม่คิดค่ากินค่าอยู่ใช่ไหม?”

“แน่นอน”

ซือเซี่ยได้ยินแล้วก็ยิ้ม ดูผ่อนคลายขึ้นมาก

ลี่โม่อวี่เองก็รู้ว่าฉินอีหลินนั้นเป็นห่วง ตอนนี้สองมือของเธอก็บีบแขนเขาแน่น กลัวว่าเขาจะไม่เห็นด้วย

จริง ๆ แล้วด้วยนิสัยของเขา เขาคงจะไม่ยอมจริง ๆ ต่อให้ต้องเข้าไปอีกแล้วจะยังไง? แต่เขาจะปล่อยให้ฉินอีหลินต้องหวาดกลัวอีกไม่ได้

คิดถึงตรงนี้ ลี่โม่อวี่ไม่ได้พูดอะไร ก็ยอมรับไปโดยปริยาย

ในตอนที่บรรยากาศลำบากใจแบบนี้ เสียงของซือฉีก็ดังมาจากข้างนอก “คุณชายครับ ท่านปู่ให้คุณไปพบที่ห้องหนังสือ”

“ ฉันรู้แล้ว”

ซือเซี่ยตอบกลับไป แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป “ไม่ต้องกังวลใจ ไม่แค่กินนอนฟรี ยังออกไปเที่ยวด้วยกันได้อีกด้วย”

คำพูดนี้เหมือนพูดหยอกล้อ แต่ก็เป็นการบอกนัย ๆให้ทั้งสองคนว่า ขอแค่ไม่เกินไป เขาเองก็คงไม่ขัดขวางทั้งสองคน เพราะยังไงก็แยกกันมานานขนาดนี้ คงมีเรื่องให้คุยกันไม่จบ

หลังอาหารเย็น เนื่องจากฉินอีหลินที่คุกเข่ามาทั้งคืน ทำให้ร่างกายล้ามาก แต่โม่ลี่อวี่เองช่วงที่โดนกักขังก็ทุกข์ไม่แพ้กัน ทั้งสองจึงไม่ได้คุยอะไรมากมาย ต่างแยกย้ายไปนอนที่ห้องของตัวเอง

สำหรับฉินอีหลินแล้ว ก็ถือว่าเป็น “สามีภรรยากันมานาน” ก็คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรถ้าจะไม่ได้เติมความหวานกันในตอนนี้

แต่ในตอนที่เธอกำลังจะถอดเสื้อคลุม เตรียมจะพักผ่อน ที่หน้าต่างก็มีเสียงดังขึ้น

“ใคร!”

“คนที่จะมาเอาชีวิตแก!”

คนชุดดำคนนั้นก็พุ่งเข้ามา และเอามีดแทงไปที่หัวใจของฉินอีหลิน

ฉินอีหลินถึงแม้จะถูกลักพาตัวตามฆ่าอยู่บ่อยครั้ง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่โดนมีดแทง

ในชั่วพริบตา เธอก็หลบไปที่หลังฉากกั้นห้อง และก็ใช้แรงผลักฉากกั้นให้ล้มมาทางคนร้าย

คนนั้นเสียงเยาะเย้ยด้วยเสียงเย็นชา หลบไปแล้วก็เอามีดแทงมาอีกครั้ง

“ฉันกับคุณไม่มีความแค้นต่อกัน ทำไมต้องฆ่าฉันด้วย?”

เสียงที่ฉินอีหลินได้ยินนั้นเหมือนจะเป็นเสียงผู้หญิง และท่าทีก็เหมือนผู้หญิง โดยเฉพาะเพลงดาบของเธอ แม้ว่าจะมีท่าทีต้องการเอาชีวิต แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาจะเอาชีวิต

“เพราะแกเป็นคนเลว!”

แม้ว่าจะปิดบังใบหน้า แต่แววตาที่โกรธแค้นนั้นก็เผยให้เห็นอารมณ์โกรธในใจของเธอและพูดว่า: “คุณมีท่านพี่ใหญ่ซือยังไม่พอใจอีก ยังกล้าคบชู้อย่างโจ่งแจ้งในบ้าน ตระกูลซือฉัน! ฉัน……จะฆ่าแกไอ้คนเลว !”

คนร้ายที่มาพูดพร้อมด้วยเสียงสะอื้นไห้

”อีหลิน คุณเป็นอะไร?”

ลี่โม่อวี่รีบมา ตอนที่ผลักประตู ก็เห็นคนในชุดดำกำลังจะแทงฉินอีหลิน จึงเตะเก้าอี้ให้ไปโดนคนร้าย

ปัง

เด็กสาวคนนั้นโดนเก้าอี้เข้าไปอย่างจัง มีดในมือก็พลันหล่นลง

“คุณนายน้อย”

ซือฉีในตอนนี้ก็รีบมา

เด็กสาวนั้นเห็นคนมาเยอะขึ้น จึงได้โดดหนีออกไปทางหน้าต่าง แต่กลับโดดเข้าไปในอ้อมกอดที่คุ้นเคย

“ซือเอ๋อ คุณจะหนีไปไหน?”

ซือเซี่ย นั้นฮุบเด็กสาวไว้ในมือ ท่าทีอ่อนโยนและไม่รู้จะทำยังไง

“คุณซือเอ๋อเชิญนั่ง”

ซือฉีย่อขาทำความเคารพ แต่คนในชุดดำกลับไม่พอใจ

ฉินอีหลินยังไม่ทันตั้งสติ ภาพตรงหน้าเหมือนละครเกินไป เมื่อสักครู่ยังวิ่งไล่ทั่วบ้าน ตอนนี้กลับมาเป็นภาพรักใคร่กลมเกลียวของ “ครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา”

“ตื่น ๆ”

ลี่โม่อวี่ที่เห็นผู้หญิงของตัวเองในชุดนอนจีนโบราณ จึงเก็บเสื้อคลุมมาคลุมไหล่ให้เธอ แล้วก็จับแก้มเธอเบา ๆ

“ซือเซี่ย คุณใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อ!”

ฉินอีหลินตอนนี้เริ่มโมโห ถึงขนาดเอาชีวิตของเธอมาเล่น เพื่อที่จะหาตัวเด็กสาว

“ซือเอ๋อไม่ทำอันตรายกับเธอจริง ๆ หรอก”

ซือเซี่ย ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง เพียงแต่แกะผ้าคลุมหน้าของคนในอ้อมกอดลงอย่างอ่อนโยน

ฉินอีหลินมองดูคนนั้น ที่สูงไม่เกิน160 ใบหน้าเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา และเขินอาย ไม่รู้จะทำยังไง

ซือเอ๋อนั้นอายุคงไม่เกิน 18-19 ปี แต่ซือเซี่ยมองดูแล้วอายุคงไม่ห่างจากลี่โม่อวี่เท่าไหร่นัก

“ซือเซี่ย คุณนี่เป็นพวกโคแก่กินหญ้าอ่อนหรือ”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท