ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 271

ตอนที่ 271

บทที่ 271 จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว

“พวกเราจะไปที่ไหนกัน”

หลังจากออกจากตระกูลซือ ฉินอีหลินก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดปกติ ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งเธอก็รู้สึกยังไม่ค่อยชิน

“กลับบ้านตระกูลลี่”

ลี่โม่อวี่ลูบผมฉินอีหลินอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นก็พูดตอบ

“บอกพวกเขารึยัง”

“ไม่รู้ว่าจะได้ออกจากตระกูลซือตอนไหน ผมเลยยังไม่ได้บอกพวกเขา”

ลี่โม่อวี่กวักมือเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วจึงพาภรรยาตัวเองขึ้นรถไป

หยางผิงกลับมาจากเมืองกั่งซื่อนานแล้ว เธอรอฟังข่าวลูกชายของเธออยู่ที่บ้านมาโดยตลอด แม้ว่าท่านลี่และลี่อานโก๋จะไม่ได้ว่าอะไร เพราะเธอก็ผู้หญิงที่มาจากตระกูลใหญ่ ซึ่งเธอก็รับรู้ถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตแบบนี้

“โม่อวี่เหรอ”

เธออยู่ที่บ้านทั้งวันก็ค่อนข้างอุดอู้ ในเวลานี้จึงคิดอยากจะออกไปผ่อนคลาย แต่เมื่อเธอเพิ่งจะออกจากบ้านเขตประตูใหญ่บ้านพักทหาร ก็เห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดอยู่ ซึ่งทำให้เธออึ้งไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอยู่พักหนึ่ง

“น้าหยาง”

ฉินอีหลินควงแขนลี่โม่อวี่เดินไปทางหยางผิง เธอยิ้มอย่างอบอุ่น เดิมทียังรู้สึกกังวล ไม่รู้ว่าจะผ่ายจากการตรวจสอบยังไง แต่ตอนนี้ง่ายแล้ว มีภรรยาของลี่อานโก๋ จะมีใครกล้าขัดขวางล่ะ

“กำลังจะโทรหาให้ออกมารับพวกเราพอดีเลยค่ะ”

ฉินอีหลินเห็นลี่โม่อวี่ยังคงอึดอัดเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกตลก เวลานี้เธอจึงต้องปล่อยมือจากสามีตัวเองไป แล้วไปควงแขนหยางผิงไว้อย่างเป็นกันเองแทน

“รีบเข้ามา รีบเข้ามา”

หยางผิงเชื้อเชิญทั้งสองคนไปพลาง และแอบมองลี่โม๋อวี่ไปพลาง

ฉินอีหลินที่อยู่ข้างๆก็รู้สึกเศร้าใจ ทั้งๆที่เป็นลูกชายของตัวเอง แต่กลับยังต้องแอบมองอย่างระมัดระวังอย่างนี้

“พวกเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”

ทหารยามที่หน้าประตูทำความเคารพ หยางผิงก็หันไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเธอ

“เขาออกมาอาทิตย์กว่าแล้ว เรื่องนั้นก็คลี่คลายได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เพราะเพิ่งจะเรียบร้อย ก็เลยล่าช้าไปนิดหน่อยค่ะ”

หยางผิงฟังแล้วก็พยักหน้า เธอรู้อยู่แล้วว่าฉินอีหลินหมายถึงอะไร องค์กร“K”และตระกูลเก่าแก่ที่ลึกลับที่มีเครือข่ายสมาชิกจำนวนมาก มันเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงคนที่มีความจงรักภักดี ถ้าในช่วงเวลาหนึ่งไม่สามารถตรวจสอบเจอได้ ก็จะเสี่ยงต่อการถูกทำร้าย

แต่ยังไงตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเขาปลอดภัยดี ในที่สุดเธอจึงสามารถวางใจได้แล้ว

ลี่โม่อวี่เดินตามผู้หญิงทั้งสองคนโดยไม่พูดอะไร เมื่อได้ฟังที่พวกเธอคุยกัน เขาก็รู้สึกมีความสุข แบบนี้สิถึงจะเป็นครอบครัวจริงๆ

เมื่อมาถึงประตูใหญ่ หยางผิงก็ตะโกนเรียกลี่อานโก๋ บอกว่าลูกชายเขากลับมาแล้ว

เมื่อลี่โม่อวี่ได้เห็นลี่อานโก๋วิ่งมาอย่างรีบร้อน ในใจเขาก็รู้สึกอิ่มเอมใจ

แต่ไหนแต่ไรมาผู้ชายคนหนึ่งที่จะไม่ร้องไห้แสดงความรู้สึกเสียใจ และไม่ใช้คำพูดแสดงความรู้สึกของตัวเอง แต่ทุกการกระทำของเขาก็บอกความรู้สึกออกมา

ลี่อานโก๋เป็นทหารคนหนึ่ง เขาให้ความสำคัญกับในภาพลักษณ์ และให้ความสำคัญกับกิริยาท่าทางมาก แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบ แม้ว่าจะเดินจนขาพันกัน แต่เขาก็ไม่สนใจ เขาเพียงแค่อยากเจอลีโม่อวี่คนเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก “กลับมาแล้วก็ดี”

คำพูดเดียวที่ว่า “กลับมาแล้วก็ดี”มันแฝงไปด้วยความเศร้าและความพอใจ แม้ลี่อานโก๋ไม่ได้พูด แต่ทุกคนเข้าใจ

“เข้าไปข้างในเถอะๆ จะยืนบื้ออยู่ตรงนี้กันทำไม”

หยางผิงยกมือขึ้นปาดน้ำตา หลังจากนั้นก็ทักทายฉินอีหลินด้วยรอยยิ้มและให้เธอเข้าไป ลี่โม่อวี่ได้ยินแล้วก็เดินไปตามด้วย ผู้ชายทั้งอ่อนวัยและสูงวัยสองคนเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ

“พวกลูกกินอะไรกันมารึยัง กินอาหารค่ำที่นี่เถอะนะ ไม่ต้องไปไหนแล้ว”

หยางผิงพูดเว้าวอน การต้องแยกจากกันครั้งนั้นทำให้ใจเธอเป็นทุกข์มาโดยตลอด เธอได้แต่หวังว่าลี่โม่อวี่จะได้กลับมา ให้เธอได้เจออีกครั้ง แค่ไม่กี่นาทีก็ได้

“น้าหยางคะ ถึงคุณไม่ขอร้อง เราก็จะไม่ได้ไปไหนแล้วค่ะ”

ฉินอีหลินเห็นท่าทางผู้หญิงตรงหน้าเธอ ในใจก็รู้สึกเศร้า เธอเป็นแม่ ย่อมรู้ใจหัวอกคนเป็นแม่ดี

“ไม่ไปแล้วเหรอ”

เมื่อหยางผิงได้ยินก็ตะลึง จากนั้นก็รู้สึกปลื้มใจ จนไม่รู้จะวางไม้วางมือไว้ตรงไหนดี “งั้นแม่จะไปเก็บห้องให้นะ ไม่นานก็เสร็จ ไม่นานก็เสร็จ”

ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้วมองผู้หญิงตรงหน้า ไม่รู้ว่าในใจเป็นอะไร เขายืนขึ้นดึงหยางผิงที่กำลังจะไปเก็บห้องไว้ และพูดว่า “แม่ครับ แม่ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวพวกเราทำเอง”

“ลูกเรียกแม่ว่าอะไรนะ” หยางผิงหันกลับมามองลี่โม่อวี่อย่างอึ้งๆ ดวงตาปริ่มไปด้วยน้ำตา

เมื่อลี่อานโก๋ได้ยินเขาเรียกอย่างนั้นก็ตกใจ ความสุขที่เคยหายไปก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พูดตามจริง เขาไม่คิดว่าลี่โม่อวี่จะยอมรับพวกเขาได้เร็วอย่างนี้ ตอนนั้นพวกเขาเป็นพ่อแม่ที่ไม่ดีเลย ตอนนี้เขายกโทษให้กับความผิดพลาดของพวกเขาแล้ว

“แม่ครับ แม่ไม่ต้องทำ เดี๋ยวผมกับอีหลินจะเก็บห้องเอง อาหารค่ำกินแบบสบายๆก็พอ ผมไม่ค่อยหิว”

ลี่โม่อวี่แสดงออกไม่เก่ง เขาไม่รู้ว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้น้ำตาไหลได้ยังไง เขาแค่พูดออกไปด้วยความจริงใจอีกครั้งว่า “แม่” กลับทำให้ฉินอีหลินน้ำตาไหล

“แม่”แค่คำเดียว ที่พวกเขารอคอยมานาน

“งั้นแม่จะไปเตรียมผลไม้ให้ลูก พวกลูกคุยกันไปก่อนนะ”

หยางผิงกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วทำให้ร้องไห้ขึ้นมา เธอจึงเช็ดน้ำตาไปพลางและเดินไปทางห้องครัว เธอไม่สามารถร้องให้ให้ลูกชายรำคาญได้ ถ้าลูกรำคาญ แล้วเขาไม่ยอมรับเธออีกจะทำยังไง

“เรื่องทางตระกูลซือจัดการเรียบร้อยแล้วรึยัง”

ตอนนี้ใบหน้าของลี่อานโก๋ก็มีน้ำตา แต่เขาเป็นผู้ชาย ไม่สามารถเปิดเผยความอ่อนแอได้ เขาจึงหันไปมองฉินอีหลิน และถามขึ้น

“จัดการเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ”

ฉินอีหลินก็ตอบพร้อมกับดึงให้ลี่โม่อวี่นั่งลง

เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของลี่โม่อวี่

ไม่มีใครไม่ปรารถนาความรักของพ่อแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาที่เติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต้องพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง เมื่อยามที่ไม่มีใครให้พึงพา เขาก็จะยิ่งปรารถนาครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข

แต่เมื่อครอบครัวจริงๆปรากฏ เขากลับเริ่มรู้สึกไม่คุ้นชิน วันเวลาแบบนี้เขารู้สึกไม่คุ้นเคย เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง

โดยเฉพาะลี่โม่อวี่ที่อยู่ในชนชั้นต่ำของเมืองกั่งซื่อได้ไต่เต้าไปอยู่ในจุดยอดของพีรามิดได้ ผู้ชายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เย็นชา เขาย่อมกลัวความอบอุ่นมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป

นี่คือการฝึกฝนสัญชาตญาณของพวกเขาที่ใช้ในสังคม ความโดดเดี่ยวเท่านั้นที่จะไม่ทรยศพวกเขา

ฉินอีหลินได้เป็นข้อยกเว้นของลี่โม่อวี่แล้ว ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่า คนบ้านตระกูลลี่ก็จะได้รับการยอมรับจากเขาจริงๆ

ท้ายที่สุดเธอแค่หวังที่จะให้เขามีความสุข

ลี่โม่อวี่และลี่อานโก๋คุยกันอยู่นาน ก็ไม่เห็นลี่จิ่งจะออกมา เขาขมวดคิ้ว และถามด้วยเสียงเบาว่า “ทำไมไม่เห็นลี่จิ่งล่ะครับ”

ด้วยไหวพริบของฉินอีหลินที่สังเกตเห็น เดิมทีลี่อานโก๋ที่มีอารมณ์สนุกสนานอยู่ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นทันที

ไม่นาน ลี่อานโก๋ก็ปรับอารมณ์ให้สงบลงได้ เขาพยายามอย่างมากที่จะควบคุมให้ตัวเองบอกความจริงไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด

“จิ่งเอ๋อเจอแม่ที่แท้จริงของเขาแล้ว”

ฉินอีหลินได้ยินแล้วก็ตกใจ เธอหันมองไปทางลี่โม่อวี่ด้วยความตกใจ เขาจึงลูบหลังมือของเธออย่างใจเย็น และถามต่ออย่างใจเย็นว่า “แม่ที่แท้จริงของเขาคือใครเหรอครับ”

แววตาของลี่อานโก๋ไม่แสดงออกว่ารู้สึกอะไร เขาเอนหลังเล็กน้อย และพูดออกมาสองสามคำ

“ตระกูลหลี่ ที่เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ลึกลับ ”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท