บทที่ 336 จะต้องมีแผนร้ายอะไรอย่างแน่นอน
หลงเสี้ยวตี้ไม่พูดอะไรอีกเมื่ออยู่ภายใต้ความน่าเกรงขามของซ่งชือยุ่น ทำเพียงทานอาหารตรงหน้าอย่างเงียบๆ
แต่หลงหลิงที่อยู่ด้านข้างกลับต่างออกไปตั้งแต่ลี่โม่อวี่ลุกขึ้นและเอ่ยคำพูดที่ดูมีพลังแล้ว สายตาที่มองลี่โม่อวี่ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
เหมือนตอนแรกที่ฉินอีหลินเอาชนะหลงว่านชิง สายตาของหลงหลิงที่มองไปยังลี่โม่อวี่ เต็มไปด้วยความนับถือ ระยิบระยับอยู่แบบนั้น
“พี่เขย ตอนที่คุณอยู่ตี้ตูคุณเก่งมากเลยใช่ไหม” หลงหลิงถามพรวดขึ้นมา
ทำให้ลี่โม่อวี่ที่กำลังตั้งใจทานข้าวไม่ทันได้เตรียมตัว เกือบจะพ่นข้าวในปากออกมา ยังดีที่เขากลั้นเอาไว้ได้ทัน
“เอ่อ…..ผมอยู่ตี้ตูก็เป็นแค่คนธรรมดาครับ” ลี่โม่อวี่ตอบออกไปง่ายๆ คนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ใครก็เดาได้ว่าลูกเขยที่จะทำให้หลงเซี่ยวเทียนยอมรับได้คงไม่ธรรมดาเลย
“อ่อ…..หรอคะ งั้นพี่เขยคุณทำงานอะไรคะ” หลงหลิงถามอย่างไม่ยอม
“ผมแค่ทำบริษัทเล็กๆของตัวเองครับ”
หลงหลิงคิดว่าลี่โม่อวี่กำลังถ่อมตัวและปกปิดอำนาจของตนเอง เธอยิ่งนับถือลี่โม่อวี่ขึ้นไปอีก ไม่ใส่ใจกับสายตาที่แทบอยากฆ่าคนที่อยู่ด้านข้างของฉินอีหลิน มองลี่โม่อวี่ด้วยสายตาที่หลงใหลเป็นที่สุด
ทนต่อสายตาของหลงหลิงที่มองมายังตนเองไม่ได้ ลี่โม่อวี่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไป นั่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรอีก
แต่หลงหลิงยังไม่ยอม เธอกะพริบตาปริบๆมองยิ้มๆ “จริงสิ พี่เขย มาครั้งแรก คงเตรียมของขวัญมาด้วยแล้วใช่ไหมคะ” เอ่ยจบแล้วยื่นมือไปหาพลางส่งสายตาคาดหวังไปให้
ลี่โม่อวี่ถูกหลงหลิงถามแบบนั้น พลันทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ก่อนหน้านี้มาด้วยความรีบร้อน เขาไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น เพียงแค่พาเด็กทั้งสองมาด้วยมือเปล่า แม้ว่าบนร่างกายจะมีทองมากมาย แต่คงไม่สามารถใช้ทองเป็นของขวัญได้หรอกใช่ไหม แต่ตระกูลหลงที่ยิ่งใหญ่ก็คงไม่ได้ใส่ใจกับเงินอันน้อยนิดในกระเป๋าของเขาเท่าไหร่
“เอ่อ……..” ลูบศีรษะอย่างกระอักกระอ่วน ลี่โม่อวี่พลันไม่รู้ว่าต้องอธิบายยังไง
นึกถึงความเย็นชาที่หลงเสี้ยวตี้มีให้ตนเอง ลี่โม่อวี่พลันเข้าใจขึ้นมาทันใด เขาเป็นเด็กมาด้วยมือเปล่า ไม่ได้เอาอะไรมาเลย มันไม่สมควร
ฉินอีหลินก็มองออกถึงความอึดอัดใจของลี่โม่อวี่ กำลังจะเอ่ยปากออกหน้าแทน แต่กลับโดนเด็กทั้งสองแย่งพูดไปก่อน
เด็กทั้งสองกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวเอง วิ่งมาหยุดอยู่ด้านข้างหลงหลิงยื่นมือเล็กน่ารักออกไป มองตาปริบๆไปยังหลงหลิงแล้วพูด “คุณน้า สวัสดีปีใหม่ ให้อั่งเปาเราด้วยครับ/ค่ะ”
เด็กทั้งสองที่โผล่มากะทันหันทำให้หลงหลิงทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะ คิดในใจ เด็กสองคนนี้ช่างรู้เวลาจริงๆ คงจะมาช่วยพ่อของพวกเขาแน่ๆ
ใบหน้าของลี่โม่อวี่ไม่เปลี่ยน แต่แอบยกนิ้วให้เด็กน้อยทั้งสองอยู่ในใจ สมแล้วที่เป็นลูกของเขา เข้าใจกู้หน้าให้พ่อได้ดีจริงๆ ลี่โม่อวี่ภูมิอกภูมิใจ
ผู้อาวุโสทั้งสามที่อยู่ข้างๆ หลงเซี่ยวเทียน หลงเสี้ยวตี้และซ่งชือยุ่นหัวเราะให้กับการกระทำของเด็กซนทั้งสองคน ใครก็ดูออกว่าเด็กทั้งสองกำลังกู้หน้าให้กับลี่โม่อวี่ แต่เด็กทั้งสองนั้นช่างฉลาดจริงๆ
……
ในขณะที่บนโต๊ะอาหารของคนเชื้อสายหลักกำลังหัวเราะสนุกสนาน ในห้องหนึ่ง คนเชื้อสายรองหลงเจี้ยน หวงจิ้งฝูที่ใบหน้าซีดเซียว และมีหลงเหรินกำลังหารือกันอยู่ ตั้งแต่ได้รับโทษให้ไปคุกเข้าที่ศาลบรรพชนของตระกูลหลงแล้ว เพราะความร้อนใจและกังวลเกินไปทำให้ผมของหวงจิ้งฝูขาวเร็วขึ้น ไม่ได้ทานข้าวหลายวัน จึงมีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าใบหน้าของหลงเจี้ยนยังคงเรียบนิ่ง มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้เขากระสับกระส่ายมากเพียงใด
หลายวันแล้ว เขานึกว่าหลงเซี่ยวเทียนแค่อยากตักเตือนพวกเขา คุกเข่าไม่กี่ชั่วโมงแล้วจะส่งคนมาเรียกพวกเขากลับไป แต่เขาไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้
มองไปยังลูกสาวที่เห็นได้ชัดว่าไม่สบาย สายตาของหลงเจี้ยนก็ทะมึนขึ้น
แต่หลงเหรินที่อยู่ข้างๆไม่ได้ใส่ใจกับอาการป่วยของหลงว่านชิงเท่าไหร่ แม้รู้ว่าหลงว่านชิงเป็นหลานสาวของตน แต่หลงเหรินก็ไม่ค่อยชอบหลานสาวคนนี้มากเท่าไหร่ เพียงแต่ยังต้องแสดงออกมาว่าเป็นห่วงเป็นใย
“พี่ใหญ่ เราจะทำยังไงต่อไป” หลงเหรินขยับขาที่เริ่มเหน็บชา ถามหลงเจี้ยน
หลงเจี้ยนยังคงท่าทางสงบนิ่ง สายตาทะมึนพร้อมยิ้มเย็น “ฉันต้องทำอะไรแน่”
หลงเหรินและหวงจิ้งฝูที่อยู่ด้านของได้ฟังดังนั้นแล้ว พลันดวงตาวาววับมองไปยังหลงเจี้ยน ทว่าหลงเจี้ยนก็ไม่ได้เอ่ยอะไร สีหน้าแสดงออกถึงชัยชนะที่อยู่ในกำมือ
……
ในขณะเดียวกัน คนเชื้อสายหลักที่ทานข้าวเช้าอิ่มแล้ว กำลังมีเสียงหัวเราะเฮฮาเพราะหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียน ทำให้รู้สึกอบอุ่นมากเมื่อเปรียบกับบรรยากาศเยือกเย็นของคนเชื้อสายรอง
ตอนนั้นเองที่ชายในชุดดำรีบวิ่งเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังหลงเซี่ยวเทียนแล้วกระซิบบอก จากนั้นถอยออกไป ใบหน้าของหลงเซี่ยวเทียนเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที
แน่นอนว่าหลงเสี้ยวตี้และลี่โม่อวี่มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหลงเซี่ยวเทียน ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างก็หุบยิ้มลง มองไปยังหลงเซี่ยวเทียน รอฟังหลงเซี่ยวเทียนอยู่เงียบๆ
“ข่าวมาจากศาลบรรพบุรุษ หลงว่านชิงเพราะถูกทำโทษให้คุกเข่าจนเป็นลมไปแล้ว คนเชื้อสายรองพากันล้อมอยู่ที่หน้าประตูศาล อยากพาหลงว่านชิงออกไปส่งโรงพยาบาล”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ทุกคนก็คาดเดาได้ว่าคนเชื้อสายรองกำลังเล่นลูกไม้อะไรอยู่เป็นแน่ พอเมื่อคิดดูให้ชัดเจนแล้วก็เข้าใจ แม้หลงว่านชิงจะถูกเลี้ยงเป็นคุณหนูมาตลอด แต่ในบ้านใช่ว่าจะไม่มีหมอส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น
หลงเซี่ยวเทียนมองนาฬิกาแขวนที่แขวนอยู่บนผนังเตาผิง ตอนนี้เจ็ดโมงตรง ไตร่ตรองเล็กน้อย หลงเซี่ยวเทียนพูดกับสาวใช้ด้านข้างง “ไปบอกกับคนเชื้อสายรอง บอกว่าตอนนนี้ผมยุ่งมาก อีกครึ่งชั่วโมงจะไปถึง บอกพวกเขาอย่าทำอะไรผลีผลาม ไม่งั้นจะลงโทษด้วยกฎครอบครัว”
สาวใช้ได้ยินแล้ว จึงเดินออกไปเงียบๆ ไปถ่ายทอดคำสั่งของหลงเซี่ยวเทียน
หลงเสี้ยวตี้ส่งสายตาชื่นชมคำสั่งที่หลงเซี่ยวเทียนสั่งออกไป ลี่โม่อวี่เองก็มีสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นรู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนว่าพ่อตาจะทำให้พวกนั้นเสียแผน
“พี่สอง ผมว่าคนเชื้อสายรองจะต้องมีแผนร้ายอะไรแน่” หลงเซี่ยวเทียนบอก
“ฉันรู้ ตอนนี้ทำได้แค่ค่อยเป็นค่อยไป รอดูความเคลื่อนไหวของคนเชื้อสายรอง เราถึงจะรู้ว่าเราควรเดินต่อไปยังไง”
หลงเซี่ยวเทียนขมวดคิ้วแน่น เริ่มไตร่ตรองอีกครั้ง
ลี่โม่อวี่รีบพาลูกทั้งสองมาอยู่ข้างๆตนเอง ไม่ไปรบกวนหลงเซี่ยวเทียน เพราะมาช้าเขาจึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวของคนเชื้อสายรอง แต่เขารู้ว่าคนเชื้อสายรองทำให้ฉินอีหลินแท้งลูก
เขาและอีหลินต้องสูญเสียลูกที่ที่ยังบริสุทธิ์ ลี่โม่อวี่ให้คำมั่นอยู่ในใจ เขาต้องให้คนเชื้อสายรองได้รับผิดชอบแน่
หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนมองออกถึงบรรยากาศที่แปลกไป นั่งอยู่ในที่นั่งของตนเองอย่างว่าง่ายไม่พูดอะไรอีก
เวลาผ่านไป กับบรรยากาศตึงเครียดไม่ปกติ