บทที่ 358 พวกคนชั่วของตระกูลหลง
ซือเซี่ยรายงานไม่ผิด “ท่าน” ที่ลึกลับนั่นคือผู้กุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง อำนาจนี้เป็นของตระกูลที่เก่าแก่มากและมีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านการทหารของประเทศMเยอะมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขากล้าเผชิญหน้ากับตระกูลหลงและลงมือครั้งนี้
“คุณลุง คุณปู่ ไม่ต้องห่วงนะครับ โม่อวี่ได้ระดมกำลังคนโจมตีกลับแล้ว เราควรอยู่ที่นี่คอยช่วยเหลือเขาด้วย”
ซือเซี่ยรีบบอกจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ของเขา เพราะศัตรูสามารถใช้กำลังทหารได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ เพียงพึ่งแค่พละกำลังของตระกูลซือ เขาเพียงสามารถยึดตระกูลโบราณเหล่านั้นได้สองสามตระกูลเท่านั้น แต่ลี่อานโก๋สามารถสั่งการกองกำลังนานาชาติให้มาควบคุมทหารประเทศMได้ “เสี่ยวเซี่ยไม่ต้องห่วง เรื่องเกี่ยวกับต่างประเทศยกให้ฉันเลย เราต้องมั่นใจว่าทางฝ่ายโมอวี่ได้รับแรงต้านทานน้อยลงเรื่อยๆ” ลี่อานโก๋กล่าวอย่างหนักแน่น
“เข้าใจครับ!” ซือเซี่ยพูดให้ความร่วมมือ
หลังจากกล่าวลาลี่อานโก๋ สายตาของซือเซี่ยก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องการใช้กองกำลังทั้งหมดไปช่วยลี่โม่อวี่
ตระกูลลี่ก็เริ่มส่งกองกำลังของตัวเองไปช่วยเหลือพวกเขา
…
ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินอยู่ในบ้านไม้รอให้คนของซือเซี่ยมารับพวกเขา
เพื่อระวังไว้ก่อน ลี่โม่อวี่ป้องกันทั้งสี่รอบด้านอย่างระมัดระวัง ไม่นานก็รถออฟโรดสีเงินสองคันขับมาจากทุ่งนามาทางพวกเขา
ลี่โม่อวี่รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งคนขับของรถคันแรกคือคนฮั๋วเซี่ย
ชายชาวฮั๋วเซี่ยทั้ง 4 คนลงจากรถออฟโรด ดูจากลักษณะของพวกเขาแล้วเห็นได้ชัดว่าชายเหล่านี้ต้องเป็นทหารที่ผ่านการฝึกหัดมา
“พวกคุณคือคุณลี่กับคุณฉินรึเปล่าครับ?” ชายผู้เป็นหัวหน้าถามด้วยสีหน้าแข็งๆไร้รอยยิ้ม
“ใช่ ซือเซี่ยส่งคุณมาใช่มั้ย?” ลี่โม่อวี่ถาม
“ครับ คุณชายส่งพวกเรามารับคุณ”
ชายคนที่พูดเปิดประตูรถออฟโรดที่อยู่ข้างหลังให้พวกเขาเข้าไป หลังจากขึ้นรถเสร็จลี่โม่อวี่ถึงจะโล่งใจ การมีที่ปลอดภัยซักที่เป็นเรื่องที่ดีเสมอ
รถคันข้างหน้าขับนำ ส่วนรถที่ลี่โม่อวี่นั่งตามหลังมาอย่างกระชั้นชิดมุ่งตรงสู่ถนนกว้าง
บางทีอีกฝ่ายอาจยอมแพ้ในการตามล่าพวกเขา พวกเขาไม่พบชายชุดดำตลอดทาง
ที่อยู่ของตระกูลซือในประเทศMเป็นเขตคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ที่นี่ล้วนเป็นคนในตระกูลซือ รถออฟโรดสีเงินขับผ่านประตูที่มีการป้องกันที่แสนเข้มงวดอย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นยามที่แน่นหนารอบๆ ฉินอีหลินก็เบาใจ
“คุณลี่ นี่คือสถานที่เราจัดให้คุณครับ”
ทหารพาทั้งคู่เดินไปยังบ้านพักที่ไม่เด่นสะดุดตาก่อนจะยื่นกุญแจในมือส่งให้ลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินเข้าไปในบ้านแล้วมองการตกแต่งรอบๆ ถ้าหากมีสงครามเกิดขึ้น เขาเดาได้เลยว่าตรงไหนมีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือการติดต่อกับเหล่าพี่น้อง เดิมทีคนจากฮั๋วเซี่ยจะต้องมาถึงสนามบินตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว
แต่พวกเขาไม่สามารถติดต่อเขาได้ คนมากมายขนาดนั้นเขานึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง คิดได้เท่านี้ลี่โม่อวี่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา
ครั้งนี้คนที่พาคนสามร้อยคนของลี่โม่อวี่มาเป็นทหารผ่านศึกชื่อหยางเฟิง ลี่โม่อวี่แต่งตั้งให้เขารับผิดชอบจัดการคนกลุ่มนี้ เขาซึ้งใจในตัวเขา
หยางเฟิงได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับลี่โม่อวี่ก็ไม่พูดอะไรมาก เขารีบเรียกพี่น้องของเขาขึ้นเครื่องบินมาทันที
“ฮัลโหลหยางเฟิง นี่ฉันโม่อวี่นะ”
เสียงปลายสายดูตื่นเต้นแล้วพูดอย่างดีใจว่า “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น? ฉันติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้เลย”
“เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยน่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว นายกับพี่น้องอยู่ไหนกัน?”
“ฉันติดต่อกับนายไม่ได้เลยพาพี่น้องของฉันไปพักก่อน จะได้ไปฟังข่าวของนาย”
“อืม พวกนายรออยู่ที่นั่นก่อน ฉันจะติดต่อพวกนายไปตอนที่ฉันต้องการ พยายามจัดการเงียบๆล่ะ” ยังไงซะที่นี่ก็คือประเทศM ลี่โม่อวี่กำชับให้หยางเฟิงจัดการเงียบๆ หยางเฟิงเข้าใจความหมายของเขาทันที
หลังจากติดต่อกับหยางเฟิงได้ ลี่โม่อวี่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไป๋หลางอยู่แอฟริกา ในเวลาสั้นๆแบบนี้ต้องมาไม่ทันแน่ เขานั่งครุ่นคิดบนโซฟาว่าจะทำยังไงต่อไป
…
เมื่อแผนการของลี่โม่อวี่กำลังจะเป็นไปในทางที่ถูกต้อง มู่ชุนกับหลงเจี้ยนก็มาที่ห้องโถงตระกูลหลงอีกครั้ง
“หลงเซี่ยวเทียน ไม่คิดเลยนะว่าลูกเขยนายจะเก่งขนาดนี้ ลูกน้องฉันหลายคนก็ไม่สามารถจับเขาได้” เพราะไม่สามารถจับลี่โม่อวี่ได้ สีหน้ามู่ชุนจึงดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
เหล่าคนเชื้อสายหลักขมวดคิ้วเมื่อเห็นมู่ชุนเป็นครั้งแรก แต่พอได้ยินว่าลี่โม่อวี่ยังไม่ถูกจับ สีหน้าทุกคนก็ผ่อนคลายลง
ยังไงซะลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินก็คือความหวังสุดท้ายของพวกเขา
“หึ! พวกแกคิดว่าแค่พวกเขาสองคนจะทำอะไรได้งั้นหรอ?” ใบหน้าสับปลับของมู่ชุนเต็มไปด้วยความดูถูก
แต่เหล่าคนเชื้อสายหลักไม่สนใจสายตาถูกของเขา ทุกคนต่างทำสิ่งที่ตัวเองทำไป ไม่มีใครตอบเขา
มู่ชุนรู้สึกหงุดหงิดที่พวกเขาเมินใส่
ถ้าไม่ใช่เพราะ “ท่าน” สั่งไม่ให้แตะต้องคนเชื้อสายตรง มู่ชุนคงจะทนไม่ไหวลงมือไปตั้งนานแล้ว
แต่เมื่อนึกถึงวิธีการของ “ท่าน” เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้ เขาหันตัวออกไปอย่างไม่เต็มใจเหมือนหนูที่ล้มเหลว
หลงเจี้ยนมองพวกเขาด้วยท่าทางเยาะเย้ย ขณะที่เขากำลังจะหันหลังจากไป หลงเซี่ยวเทียนที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาว่า “หลงเจี้ยน แกมันเป็นคนชั่วของตระกูลหลง”
หลงเจี้ยนหันกลับมาแล้วส่งเสียงหึเบาๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หลงเซี่ยวเทียน มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันหลงเจี้ยนควรทำยังไง ฉันรู้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะตอนแรกแกโหดร้ายกับคนเชื้อสายรองแล้วมันจะมีวันนี้ได้หรอ?” หลงเจี้ยนถามกลับ
หลงเซี่ยวเทียนไม่ได้ตอบเขา เมื่อถึงเวลาที่อันตรายไม่ยอมหันหลังกลับจะต้องตายอย่างน่าสลด
“หลงเซี่ยวเทียน แกไม่จำเป็นต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ การทำแบบนี้อย่างน้อยฉันก็สามารถเป็นผู้นำตระกูลได้ แล้วแกล่ะ ก็ล้มเหลวแล้วไง” หลงเจี้ยนพูดจบก็ยิ้มอย่างมีชัย จากนั้นก็หันหลังออกจากห้องโถงไป
หลังจากหลงเจี้ยนจากแล้ว คนเชื้อสายหลักทั้งหมดก็ตกอยู่ในห้วงความคิด พวกเขากำลังรอการมาถึงของลี่โม่อวี่
…
ในห้องหนังสือของหลงเซี่ยวเทียน ตอนนี้ “ท่าน” คนนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่หลงเซี่ยวเทียนมักจะนั่งเป็นประจำ เขาเพิ่งได้รับข่าวจากทางทหารและสายจากหลายตระกูลที่ร่วมมือด้วย ตอนนี้เขาขมวดคิ้วขึ้น
คนเหล่านั้นล้วนถูกกดดันจากที่ต่างๆในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องดี
แต่พอคิดว่าเขาควบคุมตระกูลหลงได้แล้ว แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาแล้วยังไง ดีเลยจะได้มีคนแบ่งผลประโยชน์น้อยลง
มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มมีชัยออกมา จากนั้นก็พูดกับตัวเองว่า “ตระกูลหลงมันก็แค่นั้นแหละ ดูเหมือนว่าฉันจะมองหลงเซี่ยวเทียนสูงเกินไป”
“มานี่!” เขาตะโกนทางหน้าต่าง
จากนั้นร่างหนึ่งก็เปิดประตูเข้าไป