บทที่ 362 ไม่ได้ตกใจจนโง่ไปแล้วใช่มั้ย
“ไว้ชีวิตเชลย!”
Geoffreyเห็นลี่โม่อวี่กำลังบีบคอศัตรูคนสุดท้ายจากไกลๆ ขณะที่กำลังยกชายคนนั้นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงGeoffreyดังขึ้น จึงโยนชายคนนั้นทิ้งลงพื้นไว้ชีวิต
“ขอโทษที่ฉันมาสาย” Geoffreyเดินไปหาลี่โม่อวี่แล้วกล่าวความตำหนิตัวเอง
ตอนนี้ลี่โม่อวี่โกรธมากที่ฉินอีหลินถูกจับตัวไป เมิ่งจื่อกับเสี่ยวเป้ย ก็สละชีวิตตัวเอง เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่มาพูดจาสุภาพหรือต้อนรับขับสู้ใคร
Geoffreyรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสังหารที่เข้มข้นบนตัวลี่โม่อวี่ในตอนนี้ เขามองออกว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อลี่โม่อวี่อย่างมาก แต่เขาไม่รู้ว่าควรปลอบลี่โม่อวี่อย่างไรดี
ตอนนั้นเองหลงจิ่นเซวียนที่ถูกลูกน้องของGeoffreyเปิดประตูรถปล่อยเธอออกมาก็รู้สึกกลัวเมื่อเห็นศพจำนวนมากในที่เกิดเหตุ พอเห็นพ่อยืนอยู่ตรงนั้น เด็กตัวเล็กก็เดินโซเซเข้าไป
“พ่อจ๋า จิ่นเซวียนกลัว!” หลงจิ่นเซวียนพูดอย่างหวาดกลัวพลางกอดขาลี่โม่อวี่แน่น
ลี่โม่อวี่ที่มีสีหน้าอยู่อายสังหารได้ยินเสียงลูกสาวของเขา อายสังหารบนตัวก็หายไปทันที เขาอุ้มหลงจิ่นเซวียนด้วยความรัก
“โอ๋ ไม่กลัวนะ พ่ออยู่นี่แล้ว” ลี่โม่อวี่กอดหลงจิ่นเซวียนไว้ในอ้อมแขนแน่น
“พ่อจ๋า แม่ล่ะ? แล้วทำไมลุงอีกสองคนถึงล้มล่ะคะ?” หลงจิ่นเซวียนมองที่เกิดเหตุแล้วถามอย่างสงสัย เธอไม่ใช่ไม่เคยเห็นความตาย แต่เธอไม่เข้าใจว่าความตายคืออะไร
“แม่ไปหาคุณตาแล้วครับเดี๋ยวแม่ก็กลับมา ลุงทั้งสองเหนื่อยแล้วเลยนอนพัก ไม่เป็นไรนะ” ลี่โม่อวี่ไม่อยากให้หลงจิ่นเซวียนรู้มากตั้งแต่เด็ก
“อ้อ…” เด็กน้อยพยักหน้าราวกับเข้าใจ จากนั้นก็เอาหัวมุดในอ้อมแขนลี่โม่อวี่ไม่พูดอะไร
ลี่โม่อวี่กวาดสายตามองรอบๆที่เกิดเหตุ พอสายตามองผ่านศพของเมิ่งจื่อกับเสี่ยวเป้ย เขาที่เข้มแข็งโดยตลอดก็มีสีหน้าเสียใจ
“รบกวนคุณฝังพวกเขา” ลี่โม่อวี่ชี้ไปที่ศพของเมิ่งจื่อกับเสี่ยวเป้ย
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำให้” Geoffreyเคารพชายผู้เสียสละเช่นนี้มาก
“ฉันขอกลับไปก่อน หากฉันเริ่มเคลื่อนไหวแล้วจะรีบแจ้งให้คุณทราบ”
ลี่โม่อวี่อุ้มหลงจิ่นเซวียนเข้าไปในรถอีกครั้งอย่างไร้ความรู้สึก เพียงแต่คราวนี้เขานั่งที่ตำแหน่งคนขับ
Geoffreyถอนหายใจ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งมาก ถึงสามารถลักพาตัวฉินอีหลินในถิ่นของเขาได้
ทันใดนั้นเขาก็กลับมาเย็นชา Geoffreyพูดกับลูกน้องว่า “เอาตัวคนนี้ไป ส่วนศพทั้งสองนั้นเอาไปฝัง ส่วนที่เหลือเอาไปให้หมากิน”
“ครับ” ลูกน้องได้ฟังก็เริ่มลงมือทำตาม
Geoffreyยื่นปืนในมือให้ลูกน้องแล้วเขาก็ขึ้นรถแล้วกลับไป
…
ย้อนกลับไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ ณ ห้องโถงตระกูลหลง มู่ชุนที่เพิ่งออกไปได้ไม่นานเปิดประตูเข้ามาพร้อมหลงเจี้ยน
หลงเจี้ยนไม่รู้ว่ามู่ชุนจะอีกครั้งทำไม เขานึกว่าเป็นมู่ชุนเตรียมจะพาหลงเซี่ยวเทียนกับอานหน้าไป แต่มู่ชุนไม่ทำเช่นนั้น
เขาได้รับคำสั่งจาก “ท่าน” ให้เขาพาหลงหมิงเจ๋อหลานชายของหลงเซี่ยวเทียนไปที่ห้องทดลอง
มู่ชุนไม่ได้ถามอะไร เขารับคำสั่งจาก “ท่าน” จริงๆแล้วเขาก็เป็นเหมือนสุนัขเฝ้าบ้านของ “ท่าน” เท่านั้น แต่เพราะเคยมีเรื่องบาดหมางกับหลงเซี่ยวเทียน เขาถึงถูกส่งให้ออกหน้า
“ไป เอาตัวปีศาจน้อยตัวนั้นมา” มู่ชุนจ้องหลงหมิงเจ๋อที่อยู่ท่ามกลางคนเชื้อสายหลักด้วยใบหน้าไร้ความรู้สคกแล้วพูดกับหลงเจี้ยน
หลังจากได้ฟังมู่ชุน หลงเซี่ยวเทียน อานหน้า รวมทั้งคนเชื้อสายหลักต่างก็มีสีหน้าโกรธ พวกเขาไม่รู้ว่ามู่ชุนจะเอาตัวหลงหมิงเจ๋อไปทำอะไร แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆเขาก็ไม่เว้น
“มู่ชุน ไอ้สัตว์เดรัจฉาน” อานหน้ากอดหลงหมิงเจ๋อไว้ในอ้อมแขนพลางสาปแช่งด้วยความโกรธ
มู่ชุนกลับแสดงสีหน้าไม่ใส่ใจแล้วส่งสัญญาณให้หลงเจี้ยนก้าวไปเอาตัวหลงหมิงเจ๋อมา
เมื่อหลงเจี้ยนเห็นสายตาที่ไม่อาจคัดค้านได้ของมู่ชุน เขาก็เดินเข้าไปทางเหล่าคนเชื้อสายหลัก
หลงอี้เซวียน หลงเซี่ยวเทียนและหลงเสี้ยวตี้ยืนขึ้นปกป้องคนอื่นๆข้างหลังทันที พวกเขาจ้องหลงเจี้ยนด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อหลงเจี้ยนปะทะกับสายตาที่ทรงพลังของทั้งสามคนก็มีท่าทีอ่อนลงทันที เขาถอยกลับแล้วพูดกับมู่ชุนอย่างประจบประแจงว่า “ท่านครับ ท่านก็รู้ด้วยว่าฝีมือของพวกเขาไม่ธรรมดา ผมจะต่อสู้คนเดียวได้อย่างไร”
มู่ชุนเหลือบมองเขาอย่างดูถูกจากนั้นโบกมือให้คนข้างหลัง ชายในชุดดำ 5 คนก็เข้ามาจากข้างนอกประตู
“ไป เอาตัวปีศาจน้อยนั่นมา” ชายในชุดดำวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่พวกหลงเซี่ยวเทียนทั้งสามคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่มีความกลัว
“หลงเซี่ยวเทียน ฉันไม่แนะนำให้คุณต่อต้านพวกเขานะ เพราะพวกเขามีปืน ถ้าอาจไม่ทำให้คุณบาดเจ็บ แต่ถ้าทำคนอื่นเจ็บคงไม่ดีแน่” มู่ชุนยิ้มอย่างเย็นชา ความรู้สึกที่ได้ขู่หลงเซี่ยวเทียนช่างดีจริงๆ
หลงเซี่ยวเทียนทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ยังไม่ขัดขืน ปล่อยให้ชายชุดดำพาหลงหมิงเจ๋อไป
ที่น่าแปลกคือหลงหมิงเจ๋อไม่ได้ร้องไห้ ใบหน้าที่ยังอ่อนวัยมีสีหน้าสุขุมที่คนอายุเท่าเขาไม่ควรมี
“เด็กน้อยคงไม่ตกใจจนโง่ไปแล้วใช่มั้ย” มู่ชุนมองสีหน้าไร้อารมณ์ของหลงหมิงเจ๋อด้วยความประหลาดใจ
ไม่คิดเลยว่าหลงหมิงเจ๋อจะโต้กลับ “คุณมันเลวจริงๆ ตาของฉันแข็งแกร่งกว่าคุณร้อยเท่า”
มู่ชุนไม่ชอบให้คนอื่นพูดว่าเขาสู้หลงเซี่ยวเทียนไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นความจริงก็ตาม แต่เพราะอานหน้าทำให้เขาจึงไม่พอใจเวลาคนอื่นพูดเช่นนี้
เมื่อนึกได้ว่า “ท่าน” ไม่ให้ตัวเขาทำร้ายหลงหมิงเจ๋อ มู่ชุนก็เก็บความคิดที่จะลงมือ ใบหน้าที่หม่นของเขาก็บิดเบี้ยว
เขาถลึงตาใส่หลงหมิงเจ๋อแล้วออกจากห้องโถงโดยไม่หันกลับมาอีก ชายในชุดดำก็พาตัวหลงหมิงเจ๋อตามไป
หลงเจี้ยนก้มหน้าแล้วตามหลังแล้วล็อกประตูห้องโถง
“พ่อ พวกเขาเอาหมิงเจ๋อไปทำอะไร?” หลังจากมู่ชุนออกไปแล้ว หลงอี้เซวียนมีสีหน้าเกลียดชังแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
หลงเซี่ยวเทียนหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาเขาดูกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉันคิดว่าพวกเขาสนใจร่างกายหมิงเจ๋อ”
…
หลังจากเหตุการณ์ในห้องโถงจบลงเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฉินอีหลินถูกพาตัวไป
มือของไอผีแดงหนักมากจนฉินอีหลินไม่ฟื้นขึ้นแล้ว ขณะที่ไอผีแดงกลับไปบ้านตระกูลหลง หลงหมิงเจ๋อก็ถูกเอาตัวไปได้สองชั่วโมงแล้ว
ไอผีแดงได้รับคำสั่งจาก “ท่าน” จึงไม่ได้พาฉินอีหลินไปที่ห้องหนังสือ แต่ยังคงพาฉินอีหลินที่ยังไม่ฟื้นไปยังตึกที่แม้แต่หลงเจี้ยนก็ไม่รู้
หลังจากเคาะประตูเบาๆ คนที่แต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สวมหน้ากากก็มาเปิดประตู เมื่อเห็นไอผีแดงแบกคนมาบนบ่า จึงปล่อยให้เขาเข้าไปได้เลย
หลังจากเข้าไปในห้อง ฉินอีหลินถูกปลุกด้วยน้ำเย็นที่ไอผีแดงสาดใส่ พอฉินอีหลินลืมตาขึ้นแล้วมองสถานการณ์รอบๆ เธอก็รู้ว่าเธอถูกอีกฝ่ายพาตัวมา
แต่พอฉินอีหลินมองไปยังกระจกโปร่งใส อารมณ์ที่แสดงออกของเธอก็เปลี่ยนเป็นกลัวและโกรธแค้นทันที