บทที่ 356 เดี๋ยวก็ดีขึ้น
ชาวต่างชาติก็แสดงท่าทีที่เป็นมิตร
เดิมทีโม่อวี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะรบกวนทั้งสองคน เขากลัวว่าพวกเขาจะพลอยโดยลูกหลงไปกับเขาด้วย
แต่ผู้หญิงคนนั้นช่วยประคองฉินอีหลินที่อ่อนแออย่างใจดี จากนั้นก็เดินไปที่รถกระบะช้าๆ
ลี่โม่อวี่ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขามองชาวต่างชาติอย่างขอบคุณจากนั้นก็เดินตามไป
ลี่โม่อวี่นั่งข้างหลังดูแลฉินอีหลิน ชาวต่างชาติก็ขับรถแล้วพูดอย่างเป็นมิตร “ชาวตะวันออก ฉันชื่อเจี๋ยเค่อ ภรรยาฉันชื่อหม่าลี่ยินดีที่ได้รู้จัก”
ลี่โม่อวี่ตอบอย่างสุภาพ “ฉันชื่อโจวเฟิง ส่วนนี่ภรรยาฉัน เธอชื่อฉินเหวิน ขอบคุณพวกคุณมาก”
ตอนนี้พวกเขากำลังหนีตายอยู่ข้างนอกจึงต้องใช้ชื่อแฝงอย่างช่วยไม่ได้
เจี๋ยเค่อโบกมือบอกลี่โม่อวี่ว่าไม่ต้องเกรงใจมากขนาดนั้น ความเป็นมิตรของคนชนชั้นล่างนั้นชัดเจนมาก เขาพูดคุยกับลี่โม่อวี่อย่างเป็นกันเองตลอดทาง ซึ่งมันก็ช่วยบรรเทาความรู้สึกตึงเครียดของลี่โม่อวี่ได้
เมื่อถึงบ้านของเจี๋ยเค่อแล้ว หม่าลี่ก็มาช่วยประคองฉินอีหลินไปที่ห้องลูกสาวของหม่าลี่อย่างกระตือรือร้น ลูกสาวเธอไปบ้านคุณปู่ ดังนั้นตอนนี้ห้องจึงว่าง
หลังจากให้ฉินอีหลินนอนลงแล้ว หม่าลี่ก็เทน้ำร้อนให้เธอแล้วพยุงเธอที่อ่อนแอขึ้นมา
ฉินอีหลินหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างช้าๆ ตอนที่สายตาเธอมองไปที่รูปภาพลูกสาวของหม่าลี่แววตาเธอก็มืดลงอย่างเห็นได้ชัด เธออดที่จะนึกถึงหลงจิ่นเซวียนที่บาดเจ็บและหลงหมิงเจ๋อแห่งตระกูลหลงไม่ได้
เมื่อเห็นแววตาเศร้าของฉินอีหลิน หม่าลี่ก็รู้เลยว่าชาวตะวันออกสองนี้จะต้องมีความลับบางอย่างที่ปิดบังไว้ แต่เธอไม่ได้ถามอะไร เธอลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไปปล่อยให้ลี่โม่อวี่ดูแลฉินอีหลิน
หลังจากที่หม่าลี่ออกไป ลี่โม่อวี่ก็มาที่เตียงมองฉินอีหลินอย่างอ่อนโยน
อีหลินที่อยู่ตรงหน้ายังคงสวยมาก แต่ก็น่าสงสารเช่นกัน สองวันที่แสนตกอับมานี้ทำให้พวกเขาต้องผ่านอะไรมามากมาย แต่พวกเขาก็ยิ่งดูแลทะนุถนอมซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น
“อีหลินไม่ต้องห่วงนะ อีกไม่นานก็ดีขึ้น”
“อืม ไม่เป็นไร นอนพักก่อน กินอะไรสักหน่อยจะได้ดีขึ้น”
ฉินอีหลินร่างกายอ่อนแอเนื่องจากสองสามวันมานี้ขาดสารอาหาร แค่เพียงเพิ่มสารอาหารเข้าไปร่างกายก็จะดีขึ้น
ลี่โม่อวี่ห่มผ้าให้ฉินอีหลินอย่างอ่อนโยน เขาบอกให้เธอพักผ่อน จากนั้นเขาก็ปิดประตูออกจากห้องไป
เขาต้องระวังทุกคนรวมทั้งเจี๋ยเค่อกับหม่าลี่ด้วย ตอนนี้เขาจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดแม้เพียงนิด
คู่สามีภรรยาเจี๋ยเค่อกับหม่าลี่ไม่มีอะไรผิดปกติ พวกเขาทำอาหารกลางวันอย่างมีน้ำใจไมตรี
เมื่อเห็นลี่โม่อวี่ลงมาเจี๋ยเค่อก็วางของในมือลง หยิบเบียร์สองขวดออกจากตู้เย็น หลังดึงฝาออกแล้วก็ยื่นให้ลี่โม่อวี่ เขารับมันไปโดยไม่ลังเล
“พวกเราคุยหน่อยไหม?” เจี๋ยเค่อถาม
ลี่โม่อวี่พยักหน้า ชายทั้งสองคนนั่งบนโซฟาดื่มเบียร์ในมือ หม่าลี่ไม่บ่นพฤติกรรมของเจี๋ยเค่อ เพราะเธอรู้ว่านี่เป็นคุยกันระหว่างผู้ชาย เธอจึงจดจ่ออยู่กับการทำอาหาร
“ฐานะของพวกคุณคงไม่ธรรมดาสินะ?” เจี๋ยเค่อถาม เพราะก่อนหน้านี้เขาเห็นท่าทางที่ลี่โม่อวี่หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าเงินดูผิดปกติ ถึงแม้ว่าการแต่งตัวทั้งสองคนจะดูตกอับ แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถปกปิดนิสัยของชนชั้นสูงได้
ลี่โม่อวี่พูดโดยไม่ได้ปิดบัง “อืม เรากำลังเจอกับความลำบาก”
เจี๋ยเค่อไม่ได้ดูแปลกใจ แต่เขาก็พูดต่อว่า “ฉันเชื่อว่าพวกคุณเป็นคนดี คนดีจะต้องได้รับผลที่ดี”
ไม่คิดเลยว่าเจี๋ยเค่อจะรู้วัฒนธรรมของชาติตะวันออก ลี่โม่อวี่เลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
“จริงสิ คุณมีโทรศัพท์มั้ย แล้วสามารถขายให้ฉันได้มั้ย” ลี่โม่อวี่ถามขึ้นอย่างกะทันหัน
เจี๋ยเค่อหยิบโทรศัพท์ที่ค่อนข้างเก่าออกมาจากลิ้นชักโต๊ะแล้วส่งให้ลี่โม่อวี่
หลังจากรับโทรศัพท์ลี่โม่อวี่ก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าเงิน ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้เงินเจี๋ยเค่อสักหน่อย
แต่ยังไงเจี๋ยเค่อก็ไม่ยอมรับถึงขั้นพูดด้วยความโกรธ “ชาวตะวันออก อย่าคิดว่าคนอื่นช่วยคุณเพียงเพราะอยากได้เงินของคุณ ในจริงแล้วเพื่อนแท้ที่ให้ใจแก่กันน่ะสำคัญที่สุด”
แม้ภายนอกจะดูเรียบง่ายแต่กลับมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ ลี่โม่อวี่คิดว่าคำพูดของเจี๋ยเค่อมีเหตุผล ลี่โม่อวี่หยุดพูดแล้วยกขวดเบียร์ในมือ
เขาดื่มเบียร์ต่อหน้าเจี๋ยเค่อโดยไม่พูดอะไรสักคำจนหมด
เจี๋ยเค่อเห็นเช่นนั้นก็ยิ้ม “นี่เป็นเบียร์ที่ฉันหมักเอง ต้องค่อยๆดื่ม” เขาไม่ได้ดื่มพรวดเดียวแต่ค่อยๆจิบ
ลี่โม่อวี่ลูบหัวด้วยความเก้อเขิน
“ทั้งสองคนมัวทำอะไรตรงนั้น มากินข้าวเร็ว” เสียงของหม่าลี่ดังขึ้น
เจี๋ยเค่อได้ฟังก็คล้องคอลี่โม่อวี่ราวกับเป็นพี่น้องกันมานั่งที่โต๊ะอาหาร
หม่าลี่เตรียมอาหารหนึ่งชุดเตรียมเอาขึ้นไปส่งให้ฉินอีหลินที่ชั้นบน แต่ลี่โม่อวี่ยังคงระแวดระวัง “ฉันไปเอง ฉันจะดูแลเธอเอง เธอพักเถอะ”
หม่าลี่ส่งอาหารให้เขาแล้วเตรียมอาหารอีกชุดให้ลี่โม่อวี่ไปกินชั้นบน
ลี่โม่อวี่ถืออาหารที่ยังอุ่นขึ้นไปชั้นบนแล้วผลักประตูห้องฉินอีหลิน เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าเธอไม่ได้หลับและสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติ
เมื่อเห็นว่าอาหารมาแล้วฉินอีหลินก็รีบลุกขึ้นนั่ง
หม่าลี่เตรียมอาหารไว้พอสำหรับพวกเขา ฉินอีหลินค่อยๆกินช้าๆ เมื่อเห็นว่าเธอสามารถกินด้วยตัวเองได้แล้ว ลี่โม่อวี่ก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเริ่มกินเช่นกัน ต้องบอกว่าฝีมือการทำอาหารของหม่าลี่ดีมากๆ ทั้งสองคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
ขณะที่ทั้งสองคนกินอาหารได้ไปเยอะแล้ว ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ชั้นล่าง
ลี่โม่อวี่เปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง เขาเห็นเจี๋ยเค่อและหม่าลี่ถูกกลุ่มคนในชุดดำล้อมไว้ตรงกลาง
“ถามหน่อย คุณเห็นสองคนนี้ไหม?” ชายผิวดำร่างสูงที่เป็นผู้นำหยิบโทรศัพท์ที่มีรูปถ่ายของลี่โม่อวี่และฉินอีหลินออกมา
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ดูต่อ สถานการณ์ตอนนี้เขาจะมาลังเลต่อไปไม่ได้
หลังจากปิดประตูเขาก็ทำท่าให้ฉินอีหลินเงียบๆ จากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างที่ไม่ได้เปิดมานาน นี่คือชั้นสอง สำหรับลี่โม่อวี่แล้วมันไม่ได้ยากอะไร
หลังจากกระโดดลงมา ลี่โม่อวี่ก็มองขึ้นไปที่ฉินอีหลิน
ฉินอีหลินกินอาหารแล้ว ร่างกายก็ฟื้นฟูได้จนเกือบจะหายดีแล้ว จึงไม่ทำให้ลี่โม่อวี่ต้องกังวล เธอก็กระโดดลงมาอย่างง่ายดาย
หลังจากที่ฉินอีหลินลงมาแล้ว ลี่โม่อวี่ก็มองไปที่บ้านด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อนจากนั้นก็หายตัวไปบนถนนอย่างเด็ดขาดพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่เจี๋ยเค่อมอบให้เขาในกระเป๋าของเขา
ตอนนั้นเองเจี๋ยเค่อตอบกลับผู้นำในชุดดำอย่างลังเลว่า “ฉันไม่เคยเห็น”
ชายในชุดดำไม่เชื่อจึงจ้องหม่าลี่หม่าลี่ส่ายหัว
แต่ชายในชุดดำไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขามองไปรอบๆแล้วเดินตรงไปที่ห้องชั้นบนห้องนั้น เจี๋ยเค่อและหม่าลี่ที่อยู่ด้านข้างเริ่มกระวนกระวายทันที
โชคดีที่หลังจากหัวหน้าชุดดำเปิดประตูห้องพอพบว่าไม่มีใครอยู่จึงปิดประตูแล้วถอยออกไป
เจี๋ยเค่อและหม่าลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในใจหวังว่าชาวตะวันออกทั้งสองจะหนีไปได้