บทที่ 388 เธอยังไม่ยอมแพ้
ที่โรงพยาบาลแห่งนี้สามารถที่จะเรียกว่าได้โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง ไม่ได้แค่เพราะว่ามีเครื่องมืออุปกรณ์การรักษาที่ดี เหตุผลหลักก็เพราะผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้
ผู้อำนวยการคนนี้เป็นแพทย์แผนจีนที่สืบทอดกันมา เดิมก็ไม่มีชื่อเสียง แต่เพราะในการรักษาครั้งหนึ่ง ได้รักษาโรคของคนคนนั้นที่ป่วยมาหลายปีให้หายดี
พอคนคนนั้นหาย ก็ได้ขอร้องให้เขามาทำงานที่เมืองตี้ตู เพราะแบบนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนไข้คนนั้น ผู้อำนวยการก็ได้ค่อยๆ พัฒนาจากคลินิกเล็กๆ ในเมืองตี้ตูจนได้ก้าวมาเป็นโรงพยาบาลในตอนนี้
ทุกคนได้ถูกผู้อำนวยการห้ามให้อยู่ด้านนอกห้องตรวจ เขากับศาสตราจารย์อาวุโสอีกกี่คนเริ่มตรวจอาการของฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อในทุกๆ ด้าน
เชื้อไวรัสYเป็นเชื้อไวรัสที่ลึกลับที่สุดของวงการแพทย์ในระดับสากล เพราะว่าไม่มีคนที่จะสามารถทนฤทธิ์การโจมตีของเชื้อไวรัสYได้เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง
แต่ว่าตอนนี้ฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อ ได้ทนต่อสู้กับเชื้อไวรัสYมาไม่รู้กี่วันแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในวงการแพทย์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกี่คนได้ตรวจอาการของคนไข้ทั้งสองในห้องเสร็จ ทุกคนก็ได้จับกลุ่มปรึกษากัน พวกเขาได้แปลกใจกับสภาพร่างกายของทั้งสองเอามากๆ
พอตรวจแล้วพบว่าในตัวของทั้งสองคนมีเชื้อไวรัสYที่เขาว่ากัน ผู้เชี่ยวชาญกี่คนก็ได้อึ้งไปทันที ทั้งหมดได้ปรึกษาหารือกันข้างในเสร็จก็ได้ออกมา
บรรยากาศเคร่งขรึมมาก
“ผู้อำนวยการแพทย์หลิว อาการคนไข้เป็นยังไงบ้าง?” เพราะว่าเป็นหมอทีซือเซี่ยเป็นคนเตรียมมา เพราะงั้นเจ้าตัวต้องรู้จักเขาอยู่แล้ว
“ท่านชายซือ พูดแบบไม่ปิดบังครับ เหตุการณ์แบบนี้ผมพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก”
ผู้อำนวยการแพทย์หลิวได้เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาสามารถที่จะรับรู้ได้ว่าอำนาจของคนที่อยู่หน้าตัวเองนั้นน่ากลัวขนาดไหน แค่ความกดดันที่พวกเขามอบให้ตนนั้น เขาก็รู้สึกหวั่นใจแล้ว
“อ้อ ผู้อำนวยการแพทย์หลิวคุณพูดออกมาให้ชัดเจนเถอะครับ พวกเรารับได้”
ท่านลี่ได้เปิดปากพูดออกไป เห็นว่าคนที่อายุมากกว่าตนได้เป็นคนพูดออกมา ผู้อำนวยการแพทย์หลิวก็ได้รีบพยักหน้า
“ไวรัสที่ทั้งสองได้รับเป็นไวรัสYที่อันตรายถึงชีวิต เดิมทีคนที่ได้รับไวรัสนี้จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ว่าจากอาการของคนไข้แล้ว เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ ครับ”
พูดถึงตรงนี้ ผู้อำนวยการแพทย์หลิวก็ได้หยุดไปสักพัก แล้วก็พูดต่อไปว่า “คิดไม่ถึงว่าพวกเขานั้นได้ควบคุมจิตใต้สำนึกของตัวเองมาต่อต้านเชื้อไวรัสนี้มาตลอด”
ผู้อำนวยการแพทย์หลิวได้อธิบายเรื่องนี้ออกไปชัดเจน เขาได้ถอนหายใจเบาๆ
พวกเขาฟังแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก มีแค่ลี่โม่อวี่เท่านั้นที่หน้าไม่เปลี่ยนสี
พวกนี้ เขาได้รู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่เขาไม่อยากที่จะรู้
“ในสากลไม่มีเคสที่หายดีเลยเหรอ?”
ลี่หยินหูถาม ถึงแม้ว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นทำให้เขาตกใจ แต่เขาก็ยังพูดออกไปอย่างใจเย็น ยังไงซะคุณท่านก็ได้มีอายุมานานขนาดนี้แล้วเหตุการณ์แบบไหนบ้างที่เขายังไม่เคยเจอ
“จะว่ามีมันก็มีครับ แต่ว่ารอดมาแล้วก็กลายเป็นคนที่เหมือนหุ่นหมด ไม่มีความคิดขยับไม่ได้” ผู้อำนวยการแพทย์หยางก็ได้บอกเขาไปตรงๆ
คุณท่านได้ยินก็ได้พยักหน้าอย่างพิจารณา ที่จริงเมื่อก่อนคุณท่านก็เคยเจอกับเชื้อไวรัสYมาก่อน ได้มาจากมือของคนประเทศหมู่เกาะ ตอนนั้นประเทศหมู่เกาะจะใช้มาต่อกรกับฮั๋วเซี่ย แต่ถูกคุณท่านจับได้ก่อน
รู้ถึงอาการของอีหลินกับหมิงเจ๋อแล้ว ทุกคนก็ใจหาย ยังไงซะตอนที่พวกเขาจากไปไม่ได้อยู่ในสภาพที่นอนบนเตียงแบบนี้
คุณท่านได้หึในลำคอให้ผู้อำนวยการลี่ไป จากนั้นก็ได้ตรงออกไปจากโรงพยาบาล
ลี่อานโก๋ได้รีบตามเข้าไป เดิมที่ลี่โม่อวี่ก็คิดที่จะตามไป แต่ก็ถูกหยางผิงห้ามไว้ก่อน หยางผิงได้หันไปเล็กน้อย เป็นการบอกให้เขานั้นไปดูแลลูกและอีหลิน
การตรวจคราวนี้ถึงแม้จะพูดได้เลยว่าไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรมาก แต่ว่าได้รับคำรับประกันจากผู้อำนวยการแพทย์หลิว
ผู้อำนวยการแพทย์หลิวพูดว่าดูจากอาการของทั้งสองคน สามารถที่จะต่อต้านได้ค่อนข้างนาน
ลี่โม่อวี่รู้สึกว่าเรื่องที่เขาได้ยินนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดการไว้
เขาได้อุ้มหลงจิ่นเซวียนเดินเข้าไปที่ห้องพักผู้ป่วย ท่าทางที่หลับตาของฉินอีหลินเขามองแล้วรู้สึกว่าสวยแล้วสงบ และหลงหมิงเจ๋อให้ความรู้สึกว่าสงบมากๆ
หยางผิงไปแล้ว ก่อนที่จะไปได้บอกกับลี่โม่อวี่ว่าต้องกลับบ้าน ลี่โม่อวี่พยักหน้า
อีกด้านก็เป็นซือเซี่ยกับซือเอ๋อ คนหน้าได้มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เขารู้ว่าซือเซี่ยยังรอแผนการใหญ่ของตนอยู่ ก็ได้ยิ้มไปให้ซือเซี่ย
ไหนๆ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ได้เข้าใจอาการของอีหลินกับหมิงเจ๋อ เพราะงั้นลี่โม่อวี่ก็ได้ยกเลิกความคิดที่จะพาพวกเขากลับบ้านในตอนแรกไป เขาตัดสินใจพักในโรงพยาบาลแห่งนี้ไปสักพัก
เพราะว่าเป็นเพื่อนของท่านชายซือ การที่จะเข้าพักในโรงพยาบาลก็ได้จัดการให้อย่างรวดเร็ว
ฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อก็ได้ถูกย้ายไปอยู่ในห้องพักที่ดีที่สุด ได้มีพยาบาลที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบดูแล จริงๆ แล้วลี่โม่อวี่ก็ได้เฝ้าอยู่ข้างๆ พวกเขาอยู่ตลอด
แต่เวลาเดียวกันที่ลี่โม่อวี่กลับมาที่ฮั๋วเซี่ยนั้น พวกคนที่มีฐานะในเมืองตี้ตูส่วนใหญ่ก็ได้ข่าวที่เขาจะกลับประเทศ คนชั้นสูงของเมืองตี้ตูนั้นก็ได้ดีใจกันหมด
เรื่องที่ลี่โม่อวี่ได้จัดการกับองค์การวิจัยทางชีววิทยาของเจียหม่านั้นทุกคนต่างรู้กันหมด ลี่โม่อวี่ได้กลายเป็นคนดังขึ้นมาเลยทันที
อีกอย่างเขายังหนุ่ม หน้าตาก็หล่อมากๆ สามารถที่ทำให้สาวๆ หลายคนใจเต้นได้
ในนั้นแค่ทางหยางผิงก็ได้รับคำเชิญของแม่สื่อแล้วไม่น้อย แต่ว่ารู้ว่าฉินอีหลินกับลี่โม่อวี่รักกันมากๆ หยางผิงก็ได้ตอบปฏิเสธไปหมดถูกคน
ถึงแม้เป็นแบบนั้นก็ไม่สามารถที่จะหยุดผู้คนไม่มาตามจีบลี่โม่อวี่ได้ กับเรื่องนี้ลี่โม่อวี่ก็แค่พูดกับพวกเขาไปประโยคหนึ่งว่า
“ชาตินี้ของผมไม่ใช่ฉินอีหลินก็ไม่แต่ง”
นี่เป็นคำมั่นสัญญาของเขากับฉินอีหลิน เขาที่เป็นลูกผู้ชายจะผิดสัญญากับเธอไม่ได้
ถึงแม้ได้ยินในสิ่งที่เขาตอบออกมา มีบางคนก็ได้ตื้นตันกับการรักเดียวใจเดียวของเขา แต่ว่ายังมีบางคนที่ยังไม่ยอมที่จะล้มเลิก พวกเขาบอกลี่โม่อวี่ว่า ฉินอีหลินไม่มีทางที่จะตื่นขึ้นมาแล้ว ทำไมไม่หาใหม่คนหนึ่ง
แต่สิ่งที่พวกเขาได้เป็นคำตอบนั้นคือสายตาที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวของลี่โม่อวี่ ก็แค่แวบเดียวพวกเธอก็ได้มีเหงื่อเย็นผุดขึ้น สายตาไม่กล้าที่จะมอง แล้วก็หันหลังออกมาอย่างกลัวๆ
ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีคนกล้าที่จะพูดเรื่องนั้นต่อ
แต่ว่านี่ก็แค่ส่วนหนึ่ง ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ยอมละความพยายาม พวกเขายังรอ รอโอกาสที่จะเป็นของตน
ในห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาลตี้ตู ลี่โม่อวี่กำลังนั่งอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาสองแม่ลูก พยาบาลที่รับผิดชอบดูและคนไข้ทั้งสองมีหลิวหรูหยุน หน้าตาใช้ได้ เป็นนักเรียนดีเด่นที่จบจากคณะพยาบาลศาสตร์แห่งหนึ่ง
ที่เธอเลือกที่จะทำอาชีพนี้ก็เพราะสามารถที่จะรู้จักกับพวกกลุ่มคนชั้นสูง ถึงได้มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ครั้งนี้เธอนั้นได้เสนอตัวที่จะมาดูแลฉินอีหลินโดยเฉพาะ
ตอนที่เห็นลี่โม่อวี่ครั้งแรก ใจของหลิวหรูหยุนก็ได้เต้นอย่างแรง
เธอคิดไม่ถึงว่าบนโลกนี้จะมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบแบบนี้อยู่ ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างลี่โม่อวี่นั้นก็ได้มีชีวิตอยู่แค่ในความคิดเธอเท่านั้น ตอนนี้อยู่ๆ ก็ได้โผล่มาต่อหน้าของเธอ เธอได้สับสนไปหมด
เวลานั้น เธอได้กระซิบบอกตัวเองในใจ ผู้ชายคนนี้แหละ เธอต้องคว้าใจของเขามาให้ได้ ต่อให้เห็นถึงความใส่ใจของลี่โม่อวี่ที่มีให้ฉินอีหลิน เธอก็ไม่ยอมแพ้
และพวกนี้ ลี่โม่อวี่ไม่รู้เลย