บทที่ 406 ไม่มีหวังแล้ว
ความโกรธกระจายออกมาจากร่างของชายชรา
คิ้วของชายชรากระตุกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น “ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังกล้าทำเรื่องแบบนี้”
บุคคลสำคัญของจีนทั้งสองเมื่อได้เอ่ยออกมาแล้ว ทั้งเมืองตี้ตูจนต้องสั่นสะท้าน ถึงขั้นมีคนกล้ามีคนลักพาตัวคนในครอบครัวของพวกเขา ความโกรธที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาได้ปะทุขึ้นแล้ว
ตอนนั้นเองชายชราก็ต่อสายหาลูกน้องที่เลี้ยงไว้มานานหลายปี คล้ายกับกองทัพทหารทั้งประเทศต่างก็ได้รับคำสั่งจากชายชราอย่างทั่วถึง กองทัพทหารทั้งเมืองตี้ตูไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
ชายชราเองก็เปลี่ยนชุดเครื่องแบบที่ไม่ได้สวมมานานหลายปีแล้ว นั่งรถไปด้วยกันกับลี่อานโก๋ มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
เรื่องราวพวกนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเผชิญหน้าในทุกโรงพยาบาลยังคงมีอยู่ พวกเขายังไม่รู้ว่าโลกข้างนอกตอนนี้กำลังวุ่นวายเพราะสถานการณ์นี้
ลี่จิ่งรู้ว่าถ้ายังถ่วงเวลาแบบนี้ต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่ ต้องมีคนประกาศออกไปด้านนอกแล้วเป็นแน่ เขาตื่นเต้นจนเหงื่อซึมทั่วไรผม ปืนในมือที่วางอยู่ถูกเขายกขึ้นมาอีกครั้ง
“ไป”ลี่จิ่งเอ่ยเสียงต่ำกับลูกน้องทั้งสองของเขา ทั้งสองได้ยินแล้วก็เคลื่อนตัวเข้าไปในลิฟต์
เขาไม่ใช่ไม่เชื่อมั่นในคนของอีกฝ่าย แต่เขาเชื่อมั่นในตัวคนของตัวเองมากเท่านั้นเอง หลงอี้เซวียนได้ยินดังนั้นแล้ว พยักหน้าให้ความร่วมมือ
ชายชุดดำสองคนยกปืนในมือขึ้นมา อุ้มฉินอีหลินและหลงจิ่นเซวียนเอาไว้ รีบเดินตามเข้าไปในลิฟต์
ลี่จิ่งยังคงยืนอยู่ตรงนั้น มือกำปืนแน่น เพียงแค่สองคนตรงหน้าขยับตัว เขาก็จะยิงโดยไม่ลังเลทันที
ลี่จิ่งค่อยๆก้าวถอยออกไป มุ่งตรงไปยังลิฟต์ มองเห็นลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล ลี่จิ่งหันไปมองลี่โม่อวี่แล้วบอก “ต้องขอโทษด้วย ฉันไปก่อนล่ะ” เอ่ยจบก็หมุนตัวเดินเข้าลิฟต์ไป
“ตอนนี้แหละ” เสียงทุ้มของลี่โม่อวี่บอก เอ่ยด้วยเสียงที่เบา มีเพียงเขาคนเดียวที่ได้ยิน ในขณะเดียวกันกับที่เขาพูด เขาขยับตัวรวดเร็ว ทำให้หลงอี้เซวียนไม่ทันรู้ตัว
รอเขามีสติแล้ว ลี่โม่อวี่ก็วิ่งไปถึงข้างลิฟต์แล้ว แม้จะมีระยะห่างเพียงสิบเมตร แต่ความรวดเร็วของลี่โม่อวี่ก็ทำให้คนตกใจได้
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ตรงเข้าไปในลิฟต์ เขารู้ว่าลี่จิ่งกำลังรอให้เขาติดกับ เขาแนบชิดไปกับผนัง กดเอาไว้ไม่ให้ลิฟต์ข้างๆได้ปิดเข้า
ในลิฟต์ลี่จิ่งพึ่งก้าวเข้าไป ความกดดันในใจลดน้อยลงไปมาก เขาคิดว่าลี่โม่อวี่คงไม่สามารถพึ่งเข้ามารวดเร็วได้ในระยะสิบเมตร ก่อนหน้านี้เขาคำนวณในทุกย่างก้าวเอาไว้แล้ว ทว่าประตูกลับปิดลงไม่ได้ ขมับของลี่จิ่งมีเหงื่อซึมออกมาอีกครั้ง
เขาไม่กล้าเดินออกมา เพราะเขารู้ว่าในเวลาที่ตนกำลังลังเลอยู่นี้ อีกฝ่ายได้เข้ามาแล้ว เขาส่งสายตาให้ชายชุดดำข้างๆ ชายชุดดำแสดงออกชัดว่าไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องทำ ควักปืนของตัวเองและเดินออกมา ฉินอีหลินถูกเขาปล่อยเอาไว้ในลิฟต์
ลี่โม่อวี่ที่อยู่ด้านนอกนั้นจับจ้องอยู่ที่ประตูลิฟต์นิ่ง เปิดประสาทรับรู้ในทุกๆทาง ความจริงระยะห่างของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ได้มาก มีเพียงกำแพงกั้นเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้นั้นแทบได้ยินทุกอย่าง
หลงอี้เซวียนก็อาศัยจังหวะนี้รีบเข้ามา เลียนแบบท่าทางของลี่โม่อวี่ เขามาอยู่ที่ด้านข้างลี่โม่อวี่ หายใจเบาๆ มีสมาธิ
ราวกับสัมผัสได้ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ลี่โม่อวี่ยื่นมือขวาตัวเองออกมาทั้งที่ยังแนบชิดผนังอยู่ พอดีกับปืนของชายชุดดำที่โผล่ออกมา
ในขณะที่ชายชุดดำยังไม่ทันรู้ตัว มือขวาของลี่โม่อวี่ก็กำแน่นเข้าที่ข้อมือของเขา
ไม่รอให้เขาได้ขัดขืน ลี่โม่อวี่ออกแรงหักข้อมือเขาจนเกิดเสียง จากนั้นตามมาด้วยเสียงร้องทรมาน ปืนในมือถูกลี่โม่อวี่ยึดไปแล้ว
ลี่โม่อวี่ไม่ทำเพียงเท่านั้น เขาออกแรง ดึงร่างชายชุดดำที่มีน้ำหนักเกือบร้อยกิโลกรัมออกมาจากลิฟต์ ชายชุดดำร่างใหญ่คล้ายกับถุงกระสอบทราย ถูกลี่โม่อวี่จับกระแทกลงบนพื้น จ่อปืนที่พึ่งยึดมาได้เล็งเข้าไป จากนั้นชายชุดดำก็ไม่ส่งเสียงอะไรออกมาอีก นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นไม่มีเสียงแล้ว
ทุกอย่างเกินขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่เพียงแค่ชายชุดดำที่ไม่รู้ตัว ขนาดหลงอี้เซวียนที่อยู่ข้างกายเขาตลอดยังไม่ทันรับรู้ ว่าชายชุดดำได้ล้มลงไปบนพื้นแล้ว พร้อมเสียงหนักๆดังขึ้น
เมื่อจัดการทั้งหมดแล้ว ลี่โม่อวี่ก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาพาปืนพุ่งเข้าไปในลิฟต์
เวลานี้ลี่จิ่งและชายชุดดำอีกคนยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ จากนั้นศีรษะของลี่จิ่งก็มีปลายกระบอกสีดำจ่อเข้ามาที่ขมับ
ความเย็นของปืนทำให้ร่างกายของลี่จิ่งเย็นวูบ มองตามกระบอกปืน เขาก็มองเห็นเจ้าของของมัน คือใบหน้าที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ร่างนั้นบดบังสายตาของเขา ความตึงเครียดพุ่งเขามา ลี่จิ่งสูญเสียความรู้สึกต่อต้านไปชั่วขณะ
“คุณไม่ควรทำแบบนี้”
ร่างนั้นบอกเสียงเย็น ใบหน้าหล่อเหลาไร้อารมณ์ เต็มไปด้วยไอสังหาร
ขณะเดียวกันที่ลี่โม่อวี่เคลื่อนไหว หลงอี้เซวียนก็ตามมาด้านหลังติดๆ พุ่งเข้ามา มองเห็นชายชุดดำที่กำลังอุ้มหลงจิ่นเซวียนกำลังจะชักปืนออกมา เขาก็เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว เท้าข้างหนึ่งลอยขึ้น ถีบเข้าไปที่อกของขายชุดดำ เกิดเสียงดังขึ้น
คนชุดดำเจ็บปวด ไม่สามารถตอบโต้ได้อีก และประตูลิฟต์ก็ปิดลงหลังจากทั้งสองเข้ามา เริ่มเคลื่อนตัวลงไป
ยังไงซะหลงอี้เซวียนก็เป็นคนเชื้อสายหลัก ดังนั้นภายใต้การปกครองของหลงเซี่ยวเทียน ฝีมือของเขาก็นับว่าไม่เลว ไม่นานก็สามารถควบคุมชายชุดดำเอาไว้ได้
ตั้งแต่เข้ามาลี่โม่อวี่ก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน มีเพียงจ่อปืนอยู่ที่ศีรษะของชายชุดดำ เขาก็ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนไปเลย คล้ายกับว่ารู้ว่าหลงอี้เซวียนจะรีบเข้ามาช่วยทันเวลา
“แกไม่มีหวังแล้ว ยอมแพ้เถอะ” ลี่โม่อวี่บอกกับลี่จิ่งเสียงเย็น ปลายกระบอกปืนดำยังคงเล็งไปที่ขมับของอีกฝ่าย
ลี่จิ่งพ่นลมหายใจ เดิมยังมีความหวังฝากไว้กับลูกน้องอีกคน แต่ตอนนี้เงียบยังกับเป่าสาก เขารู้ว่าเขาหมดโอกาส แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า ฝีมือของลี่โม่อวี่จะร้ายกาจถึงเพียงนี้
“จะฆ่าจะแกงก็เชิญ” ลี่จิ่งไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เพียงแต่เห็นจากท่าทางของเขาได้ชัดเจนว่าไร้สิ้นหนทางและไม่อยากยอม
หลงจิ่นเซวียนถูกชายชุดดำวางไว้ที่พื้น อีหลินก็นั่งอยู่ที่พื้นเช่นกัน ลิฟต์กว้างเกิดความเย็นเยือกปกคลุม เย็นยะเยือกจนน่ากลัว
แต่ลิฟต์ก็ยังค่อยๆเคลื่อนตัวลงต่อไป…