บทที่ 412 ขอให้คุณโชคดี
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลายวันมานี้ ลี่โม่อวี่อยู่ที่สนามยิงปืนตลอดเวลา ฝึกฝนวนไปในทุกๆวัน เตรียมพร้อมสำหรับการลอบสังหารที่จะมาถึง
เวลาพักผ่อน ชายแก่ก็จะยกเก้าอี้สองตัวมานั่งคุยกับลี่โม่อวี่ นอกจากชื่นชมฝีมือของเขาแล้ว ประหลาดใจในฝีมือของเขา และลี่โม่อวี่ก็รู้ฐานะของชายแก่แล้ว ชายแก่เมื่อสมัยยังหนุ่มนั้นเขาเป็นนักแม่นปืนของกองทัพ เมื่อแก่แล้วจึงขอมาดูแลที่นี่เอง สำหรับชายแก่คนนี้ ลี่โม่อวี่นับถือเขาอย่างมาก
และในระหว่างนี้ชิงเสวียนเองก็มาที่สนามยิงปืนทุกวัน เมื่อมาแล้วก็เรียนรู้การยิงเป้าจากลี่โม่อวี่บ้าง แม้อีกคนจะไม่ได้สอนเขา อีกเหตุผลก็เพื่อที่จะได้รายงานการเคลื่อนไหวของลี่โม่อวี่ให้ท่านนายพลฟัง
เมื่อต้องไปแล้ว ลี่โม่อวี่เก็บของของตัวเองให้เรียบร้อย
พูดให้ถูกก็คือ กล่องกระสุนที่มีทั้งหมดสามสิบนัด ตอนนี้ถูกเขาใช้ไปแล้วทั้งหมดยี่สิบเก้านัด เหลือไว้เพียงนัดเดียว เหตุผลก็เพื่อเขาไม่อยากให้ตัวเองมีโอกาสพลาด เขามั่นใจว่าตนเองจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน
ซือเซี่ยได้รับข่าวจากเขา แยกจากซือเอ๋อและขับออดี้สีดำไปรับเขา ลี่โม่อวี่ยังอยู่ในชุดกีฬาสีดำ ไหล่สะพายกระเป๋าใบนั้นเอาไว้ โบกมือลาชายแก่แล้วบอก “ท่านเหลย ผมไปแล้วนะครับ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมนะครับ”
ท่านเหลยยิ้มแล้วพยักหน้าให้เขา เขาเฝ้าสนามยิงปืนแห่งนี้มาแล้วยี่สิบปี แต่ไม่เคยรู้สึกดีใจแบบนี้มาก่อน
“คิดไม่ถึง ว่านายไปอยู่ที่ไหนก็จะได้รับความนิยมแบบนี้” เมื่อลี่โม่อวี่ขึ้นรถแล้ว ซือเซี่ยก็หยอกล้อ
ลี่โม่อวี่หัวเราะ “แน่นอน”
ซือเซี่ยได้ยินแล้วจึงยิ้ม จากนั้นสตาร์ทรถ เหยียบคันเร่ง ออดี้สีดำเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“เรากำลังติดตามการเคลื่อนไหวของหลี่ยี่เฟิง(ชื่อของผู้นำตระกูลหลี่) เมื่อเขาออกมาจากบ้านตระกูลหลี่ ก็จะมีคนโทรมารายงานฉัน” ซือเซี่ยเก็บรอยยิ้มตัวเองคืน ใบหน้าหล่อเหลาเยือกเย็น
“อืม ฉันรู้แล้ว” ลี่โม่อวี่เองก็หยุดหัวเราะ
“นายคิดจะจัดการเองจริงๆเหรอ” ซือเซี่ยถามถึงสิ่งที่กังวลอยู่ในใจ เพราะเขาขับรถจึงมองไม่เห็นท่าทีของลี่โม่อวี่
“นายวางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร” หลายวันมานี้ลี่โม่อวี่คุ้นเคยกับปืนกระบอกนี้ อีกทั้งฝีมือตัวเองที่ได้ฝึกฝนจนคุ้นเคย เขารู้สึกมั่นใจกับการลอบสังหารในครั้งนี้มาก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงนิ่งมาก
ซือเซี่ยได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก ทำเพียงตั้งใจขับรถต่อไป ขับรถมุ่งหน้าไปที่ที่หนึ่ง บรรยากาศภายในรถเข้าสู่ความเงียบชั่วขณะ
ถนนด้านหน้าศูนย์อาบน้ำหัวชิงเจริญรุ่งเรือง รถผ่านไปมา ตรงข้ามประตูศูนย์อาบน้ำหัวชิงเป็นอาคารสำนักงานสูงมาก ซือเซี่ยตั้งใจจัดการห้องหนึ่งในตึกนั้นให้กลายเป็นห้องที่ว่างเปล่า สำหรับให้ลี่โม่อวี่ใช้โดยเฉพาะ
ซือเซี่ยจอดรถ จากนั้นทั้งสองเดินลงมา เขาพาลี่โม่อวี่ลงมายังสถานที่ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ ชั้นนี้น่าจะเป็นชั้นยี่สิบห้า ลี่โม่อวี่ยืนอยู่ริมหน้าต่างยาวติดพื้น สำรวจถนนด้านล่างอย่างละเอียด
เมื่อได้ข้อสรุปกับตัวเอง มองนาฬิกาบนข้อมือ เวลาห่างจากการมาถึงของหลี่ยี่เฟิงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
โทรศัพท์ของซือเซี่ยดังขึ้น เสียงลูกน้องรายงานเข้ามา “รายงานครับพี่ใหญ่ เป้าหมายได้เคลื่อนตัวออกจากบ้านตระกูลหลี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ”
“ผู้ติดตามของเป้าหมาย” เมื่อได้ยินแบบนั้นซือเซี่ยจึงรีบถาม
“ออฟโรดทั้งหมดสามคัน หลี่ยี่เฟิงขึ้นคันตรงกลาง สถานการณ์ด้านในไม่ชัดเจนครับ”
ซือเซี่ยฟังจบแล้วก็กดวางสาย ใบหน้าจริงจังบอกกับลี่โม่อวี่ “เป้าหมายออกเดินทางแล้ว รถคันตรงกลาง ด้านในอาจมีการเล่นตุกติก” หลี่ยี่เฟิงเป็นคนเจ้าเล่ห์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็คงไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นว่าเขาขึ้นไปบนรถคันกลาง ซือเซี่ยคิดแบบนั้น
เมื่อลี่โม่อวี่ได้ฟังดังนั้น ใบหน้าตึงเครียด คำพูดของซือเซี่ยใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เขาพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ ฉันมั่นใจ” มองเห็นท่าทางมีแผนการในใจของเขาแล้ว ซือเซี่ยก็รู้สึกวางใจขึ้นมา แต่เขาไม่รู้ว่าครั้งนี้ลี่โม่อวี่มีกระสุนมาด้วยเพียงนัดเดียวเท่านั้น
ซือเซี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่นาน เขาทิ้งเครื่องมือสื่อสารไร้สายเอาไว้ให้กับลี่โม่อวี่ จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ลงไปยังด้านล่าง ต่อไปก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ลี่โม่อวี่ นี่เป็นเสมือนสงครามของเขา
หลี่ยี่เฟิงนั่งอยู่ในออฟโรด ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกไม่ดี เดิมไม่คิดจะออกจากบ้าน แต่มีการประชุมที่เขาไม่มาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงพาคนฝีมือดีมาด้วย ดูแลความปลอดภัยของตนเอง อีกทั้งที่นี่คือตี้ตู อีกฝ่ายจะลงมือกับเขาบนถนนแบบนี้เลยไม่ได้แน่ หลี่ยี่เฟิงหัวเราะ รู้สึกขำกับความกลัวอย่างแปลกประหลาดของตัวเอง
เป็นตามการรายงานของซือเซี่ย หลี่ยี่เฟิงนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังของรถคันกลาง รถทั้งคน นอกจากเขากับคนขับรถแล้วก็ไม่มีใครเลย
“เหล่าหวง ช่วงที่ผ่านประตูศูนย์อาบน้ำหัวชิงขับเร็วหน่อยนะ” หลี่ยี่เฟิงบอกกับคนขับรถ
“ครับ ท่าน” เหล่าหวงรับคำ ทว่าในใจกลับคิด รถคันนี้มีกระจกนิรภัยกันกระสุน ถ้ามีใครจะฆ่าท่านคงต้องใช้ระเบิดแล้วล่ะ แม้จะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมา
หลี่ยี่เฟิงพูดจบก็เงยหน้าพิงพนักที่นั่ง ปัดสิ่งที่เขากำลังกังวลอยู่ในหัวออกไป บรรยากาศในรถเคร่งเครียดมากขึ้น
ห้องว่างเปล่า ลี่โม่อวี่เลือกมุมยิงได้เรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งส่องรถที่ผ่านไปมาด้วยลำกล้อง ใบหน้าไม่เผยความกดดันใดๆให้เห็น
ในตอนนั้นเองหูฟังก็มีเสียงซือเซี่ยดังขึ้น “เป้าหมายกำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาแล้ว อีกประมาณสิบนาทีจะเข้าสู่ระยะการมองเห็นของนาย”
“เข้าใจแล้ว” เสียงเยือกเย็นของลี่โม่อวี่ตอบกลับไป
“ขอให้นายโชคดี” เสียงซือเซี่ยส่งผ่านมาทางหูฟัง จากนั้นถูกลี่โม่อวี่วางลงข้างๆ
เขายกMK68ขึ้นมา สัมผัสความเร็วลมและความชื้น ขณะเดียวกันก็รอรถเป้าหมายเคลื่อนตัวเข้ามาในระยะสายตา
สิ่งสำคัญสำหรับนักแม่นปืนคือความอดทน ดังนั้นอย่าคิดว่ามันเป็นเพียงหนึ่งนาที ในการเล็ง หนึ่งนาทีก็เปลืองแรงมาก
เป้าหมายปรากฏ ในที่สุดลี่โม่อวี่ก็มองเห็นรถออฟโรดสามคันวิ่งใกล้เข้ามา ไม่มีเวลาให้ลังเล ลี่โม่อวี่ส่องผ่านลำกล้องค้นหาเป้าหมาย
จากนั้นอีกฝ่ายคล้ายสัมผัสได้ เมื่อเข้ามาอยู่ในสายตาของลี่โม่อวี่แล้ว ก็เร่งความเร็วขึ้น ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงอะไรขึ้นมา
ลี่โม่อวี่ยิ้มหยัน บนลำกล้องถูกเขาติดตั้งเครื่องถ่ายภาพจับความร้อน เขาสามารถมองเห็นเงาของคนบนรถได้อย่างชัดเจน รถสองคันหน้าหลังนั่งอยู่สี่คนนั่งตัวตรงระแวดระวัง ไม่มีการขยับแม้แต่น้อย มีเพียงรถคันกลางที่มีคนนั่งพิงอยู่หนึ่งคนตรงที่นั่งด้านหลัง
คิดถึงคำเตือนของซือเซี่ย ลี่โม่อวี่ก็คิดทบทวนอีกรอบ ยังคงเลือกรถคันกลางดังเดิม นี่คือสัญชาตญาณของเขา
ไม่มีเวลาให้เขาได้เลือก ความเร็วรถเร็วมาก มาถึงตอนกลางของถนนแล้ว
ลี่โม่อวี่สูดหายใจเข้าลึก มองเห็นแล้วว่ากระจกไม่ธรรมดา แต่ว่ากระสุนของMK60 ไม่เคยมีกระจกกันกระสุนที่ต้านทานได้มาก่อน