บทที่ 405 ไอ้เด็กไร้สัมมาคารวะ
ลี่จิ่นมองแม่ตรงหน้าอย่างเย็นชา เขาเก็บกระบอกปืนของตนหันไปเปิดประตู ทางเดินยังคงร้างไร้ผู้คนเช่นเดิม
ลี่จิ่นนำหน้าชายชุดดำสองคนที่แบกฉินอีหลินกับหลงจิ่นเซวียนด้วยสีหน้าค่อนข้างประหม่าโดนไม่ทันได้คิดถึงเรื่องอื่น
ลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนรีบมาที่ทางเข้าโรงพยาบาล พอพวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้ก็เห็นพยาบาลคนหนึ่งนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลหลายคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเร่งรีบ
นางพยาบาลรู้จักลี่โม่อวี่ พอเธอเห็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ความเคารพกับชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนนี้ด้วยตาตัวเอง ดังนั้นเธอจึงจำผู้ชายคนนี้ได้
ลี่โม่อวี่ก้าวไปข้างหน้าแล้วถาม ขณะที่นางพยาบาลยังไม่ทันพูดอะไร “ขอโทษครับเกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาล?” เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับอีหลินและหมิงเจ๋อ ยังไงซะแม่กับหลงจิ่นเซวียนก็อยู่ที่นั่นด้วย
“คุณคะ เมื่อกี้ฉันเห็นคนท่าทางแปลกๆสามคนแอบขึ้นไปข้างบน ฉันเกรงว่า…” นางพยาบาลไม่กล้าพูดต่อ แล้วมองลี่โม่อวี่ด้วยความกังวล
ได้ฟังดังนั้นลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ สีหน้าเขาก็ดูเคร่งเครียดขึ้นทันที เขาบอกนางพยาบาลว่า “คุณพาคนเหล่านี้ไปเฝ้าประตูด้านหลังของโรงพยาบาล แต่ต้องระวังนะ พวกเขาอาจมีปืน”
ลี่โม่อวี่หันกลับมาส่งสัญญาณให้หลงอี้เซวียน หลงอี้เซวียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทั้งสองไม่รอช้ารีบเดินไปที่ลิฟต์ ลี่โม่อวี่หันกลับมาพูดกับนางพยาบาลว่า “แจ้งตำรวจก่อน ก่อนที่ตำรวจจะมาพวกคุณต้องเฝ้าประตูหลังไว้นะ” พูดจบเขาก็ขึ้นลิฟต์ไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของลี่โม่อวี่ นางพยาบาลก็รีบพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนวิ่งไปที่ประตูหลัง ระหว่างทางเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรแจ้งตำรวจ แต่มือของเธอกลับสั่นอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้านบนลี่จิ่นกับชายชุดดำสองคนเดินอย่างเร่งรีบ
เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะไปทางประตูหลัง แต่วันนี้เขามีลางสังหรณ์ไม่ดี ดังนั้นแทนที่จะไปที่ประตูหลัง เขาชักปืนไว้เดินไปทางที่เขามา เขาวางแผนที่จะออกทางประตูหน้า
พอทั้งสามคนเดินมาถึงประตูลิฟต์ พวกเขาเห็นว่าลิฟต์กำลังขึ้นมาจากด้านล่าง ตอนนี้พวกเขาอยู่ชั้น 5 ส่วนลิฟต์ก็มาถึงชั้น 3 แล้ว ลี่จิ่นรีบบอกลูกน้องทั้งสองคนอย่างไม่ลังเลว่า “มีสิ่งผิดปกติ เตรียมพร้อม!”
ลูกน้องทั้งสองคนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีรีบวางฉินอีหลินกับหลงจิ่นเซวียนที่โดนมัดไว้ไว้ข้างๆแล้วหยิบปืนพกออกมา ปากกระบอกปืนสีดำสามกระบอกเล็งไปที่ลิฟต์ หากประตูลิฟต์เปิดออก ไม่ว่าในนั้นเป็นใครพวกเขาจะยิงโดยไม่ลังเล
หลงจิ่นเซวียนอิงแม่ ไม่สามารถขยับได้ เพียงแต่ท่าทางโหดเหี้ยมของทั้งสามคนทำให้เธอรู้สึกกลัว เธอแนบชิดแม่ไว้แน่น แต่ใบหน้าฉินอีหลินก็ยังคงไร้ความรู้สึก
ส่วนในห้องพักผู้ป่วย หยางผิงไม่ได้ตามออกมา เธอรู้ว่าถึงตามไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาลี่อานโก๋
ชั้นสี่…ชั้นห้า เมื่อเห็นตัวเลขสีแดงบนลิฟต์ลี่จิ่นกับชายชุดดำสองคนจับปืนในมือแน่น พวกเขาไม่กะพริบตาราวกับกลัวว่าจะพลาดอะไรไป
พอสิ้นเสียง “ติ๊ง” ประตูลิฟต์เปิดออก แต่ในลิฟต์กลับว่างเปล่าไร้คน ลี่จิ่นแอบพูดในใจว่าไม่ดีแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมากๆดังจากทางเดินที่อยู่ไม่ไกล “ลี่จิ่นแกกล้ามาก”
เมื่อมองไปทางต้นเสียง เขาก็พบว่าคนคนนั้นคือลี่โม่อวี่ที่เขาคิดเรื่องทั้งวันทั้งคืน แต่ก็เป็นคนที่ทำให้เขาต้องกัดฟัน
เดิมทีลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนวางแผนที่จะขึ้นลิฟต์ แต่ลี่โม่อวี่ครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วดึงหลงอี้เซวียนออกจากลิฟต์ในขณะที่ลิฟต์กำลังจะปิด แล้วปล่อยให้ลิฟต์ขึ้นไปชั้น 5 เอง ส่วนทั้งสองคนรีบเดินขึ้นจากบันไดมา
พวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเมตร ในมือลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนไม่มีอาวุธใดๆ พวกเขาเพียงยืนอย่างสงบ ออร่าที่แผ่ออกมาทำให้ทั้งสามคนที่ถือปืนประหม่า
ลี่จิ่นรีบจัดการกับความกังวลในใจ หันหน้ามองลี่โม่อวี่ด้วยสายตาที่มืดมน เขาค่อยๆพูดว่า “ดูเหมือนว่าแกจะมั่นใจในทักษะของตัวเองจังนะ” พูดจบก็ยกปืนสีดำในมือชี้ไปทางลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาพร้อมกัน แต่สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นฉินอีหลินกับหลงจิ่นเซวียนที่ถูกมัดแน่นข้างๆพวกลี่จิ่น
หลงจิ่นเซวียนดูมีความสุขมากเมื่อเห็นพ่อ แต่เธอก็พูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงสะอื้น น้ำตาเอ่อคลอที่ดวงตาของเธอ
ตอนนี้ลี่จิ่นวางปืนพกลงแล้วขยิบตาให้ชายชุดดำสองคน ทั้งสองเข้าใจว่าให้ลากฉินอีหลินกับหลงจิ่นเซวียนมาไว้ข้างหน้า แล้วจ่อปืนข้างหลังพวกเขาไว้ ยิ้มให้ลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนอย่างเย็นชา
“ดูเหมือนว่าพวกแกจะไม่ลงมือแน่ๆ ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ?”
ลี่จิ่นพูดเยาะเย้ย เขาคิดในใจว่าตัวเองมีไพ่สองใบในมือ หากลี่โม่อวี่จะลงมือจะต้องกลัวไปทำร้ายตัวประกันแน่นอน ดังนั้นเขาจึงสลัดความกังวลในหัวทิ้งไปไว้แล้วทำท่าทีเหมือนตัวเองนั้นไม่กลัวอะไร
บรรยากาศในทางเดินดูเคร่งขรึมชั่วขณะราวกับว่าเวลาหยุดนิ่ง คนของทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันอย่างเย็นชา ไม่กล้าจะลงมือก่อน ลี่โม่อวี่กำมือแน่นกรอด แต่เขาก็ยังคงไม่วู่วาม
ห้องพักผู้ป่วยที่หยางผิงอยู่ อยู่ไม่ไกลจากปากทางเดินนัก ขณะที่เธอกำลังกดโทรหาลี่อานโก๋ มุมตาที่มีรอยน้ำตาของเธอทำให้ดูออกว่าเธอกำลังโทษตัวเองอยู่ พอโทรติดแล้ว หยางผิงก็ร้องไห้ออกมาด้วยความร้อนใจอย่างอดไม่ได้
ลี่อานโก๋ที่กำลังดื่มชาอาบแดดกับท่านปู่บนพื้นหญ้า พอเห็นสายจากหยางผิง เขาก็รีบรับ พอได้ยินเสียงสะอื้นของหยางผิงในสาย เขาคิดในใจทันทีว่าแย่แล้ว จากนั้นถามว่า “เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น?”
หยางผิงหยุดร้องไห้แล้วพูดด้วยเสียงสั่นว่า “เมื่อกี้ลี่จิ่นพาคนมาลักพาตัวอีหลินกับจิ่นเซวียนที่โรงพยาบาล รีบมาดูเร็ว”
น้ำเสียงโกรธของลี่อานโก๋ดังมาจากสาย “แม่งสิ ไอ้เด็กไร้สัมมาคารวะ เธอไม่ต้องกังวลนะฉันจะส่งคนไปที่นั่นทันที จริงสิ โม่อวี่กับอี้เซวียนไปโรงพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะถึงแล้วด้วย” พูดจบน้ำเสียงโกรธของท่านปู่ก็ดังขึ้นมาตามด้วยเสียงแก้วที่ถูกปาลงพื้น
หลังจากพูดจบหยางผิงก็วางสาย ตอนนั้นเองเธอได้ยินเสียงคุยกันดังมาจากทางเดิน เธอเดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวังก็เห็นลี่โม่อวี่กับหลงอี้เซวียนที่หน้าบันได สายตาของพวกเขาเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ หยางผิงไม่ได้ออกมา เธอเดาออกว่าพวกของลี่จิ่นอยู่อีกด้านหนึ่ง
บ้านตระกูลลี่ พอท่านปู่ได้ฟังที่ลี่อานโก๋พูดก็ลุกขึ้นยืนกะทันหันจนแก้วน้ำชาตกลงพื้น