บทที่ 220 หลินตงผู้เหี้ยมโหด
“พี่สี่ พี่กลับมาแล้วจริงๆเหรอนี่” ดวงตาของตู้เมิงเต็มไปด้วยน้ำตาและเขาตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก คนในหมู่บ้านแสดงอารมณ์และท่าทีไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก พวกเขาหันกลับมาและตะโกนลั่นว่า “เฮ้ย!ไอ้สี่กลับมาแล้ว!”
ไม่นานเสี่ยวเจิ้งยี่และ เสี่ยวหรง ก็ออกมาดูและเห็นเสี่ยวจิงยืนอยู่ข้างนอก พวกเขาพากันตื่นเต้นจนแทบพูดอะไรไม่ออก
“กลับมาก็ดีแล้ว ๆ” เสี่ยวเจิ้งยี่พูดเสียงแข็งเล็กน้อย
เสี่ยวหรงถอดแว่นออกอย่างเงียบ ๆ และเช็ดน้ำตาจากมุมตาของเขา
ในขณะนั้นเองหลิวผิงอันหยิบประทัดสองสามเส้นออกจากด้านหลังของรถ และจุดมันขึ้น
นี่คือประเพณีของคนในหมู่บ้านที่เรียกกันว่าสะเดาะเคราะห์
แล้วพวกเขาก็พากันเข้ามาในห้อง ใบหน้าของครอบครัวเสี่ยว เต็มไปด้วยความสุข และตู้เมิงก็กล่าวประกาศให้ทุกคนเริ่มรับประทานอาหาร
เมื่อเขาเห็นว่าไก่ตัวหนึ่งไม่พอกิน เสี่ยวเจิ้งยี่จึงขอให้ตู้เมิงฆ่าไก่อีกตัวเพื่อเอามาตุ๋นเพิ่ม
ทางนี้มีการรับประทานอาหารและดื่มกันอย่างคึกคัก แต่ก็สร้างความรำคาญให้กับตระกูลตันที่อยู่ติดกัน และทันใดนั้นก็มีคนมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากที่รู้ว่าเสี่ยวจิงได้รับการปล่อยตัวแล้ว พี่น้องตระกูลก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และเตรียมที่จะใช้กลอุบายเดิมอีกครั้ง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพวกอันธพาล แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าถ้าพวกเขาต้องสู้กันจริงๆสี่พี่น้องก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสี่ยวจิง
หัวหน้าของตระกูลตัน รีบโทรศัพท์ไปหาตันไท่หลุน จากนั้นสี่พี่น้องก็ตรงมาที่บ้านของครอบครัวเสี่ยว
“เสี่ยวจิง ไอ่ลูกเต่าแกแอบหนีออกมาละสินะ นี่มันไม่ต่างอะไรกับการแหกคุกเลยนี่หว่า?” ลูกพี่ เตะเปิดประตูบ้านของครอบครัวเสี่ยว ชี้ไปที่เสี่ยวจิง พูดขึ้นด้วยหน้าตาดุดัน
เมื่อสีหน้าของเสี่ยวจิงเปลี่ยนไป เขากำลังจะลุกแล้ว แต่ลู่เฉินขยิบตาส่งสัญญาณให้ซ่งไห่ ซ่งไห่เข้าใจและลุกขึ้นคว้าคอเสื้อของลูกพี่ตันแล้วก็ลากออกไปไว้ที่ลานด้านนอก
“โอ้ แย่แล้วๆ ครอบครัวเสี่ยวทำร้ายคนอีกแล้ว!” ลูกพี่ตันตะโกนขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้พี่น้องอีกสามคนของตระกูลตันที่ไม่ได้มาช่วยตั้งแต่แรก ก็รีบตามเสียงนั้นออกมา
“แย่แล้วๆ ครอบครัวเสี่ยว กำลังจะฆ่าคนอีกแล้ว รีบไปช่วยเร็วเข้า!”
สีหน้าของครอบครัว เปลี่ยนไปอย่างมาก และพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าสี่พี่น้องตระกูลตันจะไร้ยางอายได้มากขนาดนี้และยังใช้กลอุบายเดิมแบบนี้อีก
เมื่อเห็นเสี่ยวเจิ้งยี่ และคนอื่น ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร ลู่เฉินจึงพูดกับซ่งไห่ว่า “หักขาของเขาซ่ะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่เฉินสีหน้าของ เสี่ยวเจิ้งยี่และคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง นี่ยังไม่ทันได้ทำอะไรสี่พี่น้องตระกูลตัน ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วจริงๆถ้าหักขาของลูกพี่ตันจริงๆ งั้นก็ไม่เท่ากับว่าครอบครัวเสี่ยวต้องเผชิญกับโชคชะตาเดิมอีกหรือ
แต่เมื่อเขากำลังจะเกลี้ยกล่อมลู่เฉินนั้น เขาก็เห็นซ่งไห่เตะที่ข้อของลูกพี่ตันเสียงดังอย่างรุนแรง
ใครที่มีความรู้หน่อยก็จะรู้ว่านั่นคือเสียงของข้อต่อที่โดนเตะจนหัก
เมื่อเห็นเช่นนี้พี่น้องอีกสามคนของตระกูลตันก็ถึงกับตกใจเบิกตากว้าง พวกเขาไม่เชื่อเลยจริงๆว่าตระกูลเสี่ยวกล้าที่จะทำจริงๆ
เสี่ยวเจิ้งยี่และคนอื่น ๆ ก็เบิกตากว้างและจิตใจของพวกเขาก็จมลงสู่ก้นบึ้ง
หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีลูกพี่ตันก็ส่งสียงโหยโหนเหมือนกับหมูที่ถูกเชือด เขาก็ล้มลงกับพื้นด้วยน้ำมือของซ่งไห่ เข้าจับเข่าซ้ายแล้วกลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด
ลู่เฉินมองชิจินและหลินตงด้วยสายตานั้นอีกครั้งและทั้งสองคนเข้าใจสิ่งที่ลู่เฉินต้องการจะบอก จึงรีบหยิบเก้าอี้ไม้เล็กๆ แล้วรีบวิ่งออกไป
เมื่อเห็นเช่นนั้นพี่น้องอีกสามคนของตระกูลตันก็รู้สึกใจไม่ดี ตุ้มๆต่อมๆและหันหลังกลับเตรียมตัวที่จะวิ่งหนี
แต่ Three Heroes of the Water ผู้ชายที่ต่อสู้ในยุโรปตั้งแต่ฉันยังเด็ก เขาเป็นหัวหน้าของกองกำลังใต้ดินที่แท้จริง และเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะปล่อยให้สามคนนั้นหนีไปได้
ภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที พวกเขาทั้งสามก็โดนจับได้แล้ว เสียงดังบูมบูมบูมสามทีก็ทำเอาสามพี่น้องตระกูลตันล้มฟุ่บลงกองกับพื้น แต่ก็ไม่ปล่อยไป มิหนำซ้ำยังหักกระดูกขาไปอีกหนึ่งข้าง
เมื่อถึงจุดนี้แล้ว พี่น้องทั้งสี่ของตระกูลตันที่เข้ามาเหมือนนักฆ่าแต่ภายในหนึ่งนาทีพวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็นแค่เศษขยะที่กรีดร้องกองอยู่บนพื้นเท่านั้น
นอกจากเสี่ยวจิง ทุกคนในครอบครัวเสี่ยวดูกังวลและเกิดความกลัว
“หัวหน้าลู่ รีบไปเถอะครับ เมื่อคนจากสถานีตำรวจมาคุณจะไม่สามารถหนีออกไปได้อีก จริงด้วยเสี่ยวจิง คุณรีบพาหัวหน้าลู่กลับเข้าเมืองไป สองสามวันนี้อย่าเพิ่งกลับมา!” เสี่ยวเจิ้งยี่ พูดขึ้นพร้อมผลักเสี่ยวจิงไปดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและความกลัว
“ลุงเสี่ยวไม่ต้องกังวลไปครับ คนจากสถานีตำรวจจะไม่มาที่นี่แน่นอน แล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะมา แต่ถ้าฉันอยู่ ก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องห่วงครับ ” ลู่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
ตาลไทหลุนไม่กล้ามาที่นี่อีกแน่นอน และสำหรับเขาก็คิดแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรและส่วนบนกำลังจะลงมาเพื่อรองรับเขา แล้วเขาก็ไม่คิดจะมาดูแลกิจการแผลงลอยอะไรของตระกูล ตันนี้ด้วยซ้ำไป จะเป็นหรือตายยังไงเขาก็ไปอยากจะยุ่ง
และไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งด้วย
ดังนั้นที่ลูกพี่ตันโทรหาเขาก่อนหน้านี้ เขาก็แค่พูดแบบขอไปทีเท่านั้น แต่พี่น้องตระกูลตันเข้าใจความหมายของเขาผิดเองและคิดว่าเขาจะมาสายหน่อย ดังนั้นพวกเขาจึงคำนวณเวลาไว้ก่อนที่พวกเขาจะมาหาตระกูลเสี่ยวเพื่อสร้างปัญหานี้ขึ้น
ตอนนี้พี่น้องทั้งสี่ของตระกูลตันเจ็บปวดใจมาก เหงื่อออกเต็มไปหมด
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ครอบครัวเสี่ยวฆ่าไก่นั้นทำให้บริเวณลานกว้างนั้นเต็มไปด้วยน้ำสกปรก แต่ก็ถูกพี่น้องทั้งสี่ของตระกูลตันทำให้เละเทะไปหมดด้วยเนื้อตัวของพวกเขานั้นเอง
ผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันตื่นตระหนก มีคนค่อยเข้ามามุงดูเรื่อยๆ
เมื่อเห็นว่าสี่พี่น้องของตระกูลตันขาหักจริง ๆพวกเขาทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจ
แต่ไหนแต่ไรสี่พี่น้องตระกูลตันจะเป็นฝ่ายทุบตีผู้คนมาโดยตลอด แต่ไม่คาดคิดเลยว่าในที่สุดวันนี้พวกเขาจะได้รับผลกรรมและถูกทำร้ายจนพิการแบบนี้
คนส่วนใหญ่ที่เห็นต่างก็แอบรู้สึกดีใจเล็กๆและไม่มีใครออกมาพูดแทนหรืออยู่ข้างสี่พี่น้องคนตระกูลตันแม้แต่คนเดียว
ขณะนั้นก็มีหญิงวัยกลางคนรีบวิ่งแหวกฝูงชนเข้ามา เมื่อเธอเห็นทั้งสี่คนล้มลงบนพื้นและร้องโหยหวนเธอก็ถึงกับทรุดลงที่ลานบ้านครอบครัวเสี่ยวร้องไห้อย่างหนัก
เสี่ยวเจิ้งยี่และคนอื่น ๆ ต่างก็ขมวดคิ้วสงสัย แต่ลู่เฉิ่นได้จัดการสี่พี่น้องตระกูลตันจนพิการไปแล้ว เวลานี้แม่ของสี่พี่น้องมาร่ำไห้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี
“พี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันครับ?” ซ่งไห่ถาม
“แม่ของสี่พี่น้อง” เสี่ยวจิวยังขมวดคิ้วอยู่ พวกเขากล้าที่ทำร้ายสี่พี่น้องตระกูลตัน แต่พวกเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลย และเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่แม่ของพี่น้องตระกูลตันเอะอะในลานกว้างนั้น พวกเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเช่นกัน
“เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับฉัน” หลินตงพูดพร้อมกับเดินออกไปและรีบหยิบมีดสั้นออกมาจากรถ
เมื่อเห็นมีดสั้นที่อยู่ในมือ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป และพวกเขาก็ค่อยๆถอยออกไป และไม่มีใครกล้าออกมาแม้แต่คนเดียว
แม่ของสี่พี่น้องตระกูลตันเห็นมีดสั้นในมือของหลินตง เธอก็ถึงกับผงะแล้วก็ยังร้องไห้อย่างหนัก
หลินตงเดินไปที่ด้านข้างของลูกพี่ตันและนั่งยองๆลงข้างๆเขา
ลูกพี่ตันเห็นมีดสั้นในมือของหลินตงก็เกิดความตกใจมาก เพียงเสียงเล็กน้อยก็ไม่กล้าเปล่งออกมา พี่น้องอีกสามคนก็ทนต่อความเจ็บปวดและปิดปากเงียบ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นอัธพาลใหญ่ของหมู่บ้าน แต่เมื่อเจอคนที่โหดเหี้ยมเช่น Three Heroes of the Waterที่หักขาพวกเขาอย่างง่ายดาย และก็ไม่รู้ว่าจะรักษาหายหรือไม่หรืออาจต้องเดินบนไม้ค้ำตลอดชีวิต
“แก แกจะทำอะไร?” ลูกพี่ตันตัวสั่นด้วยความตกใจ เมื่อหลินตงดึกคอเสื้อของเขาไว้
ขณะนั้นเองแม่ของพี่น้องตระกูลตันก็หยุดร้องไห้และมองไปที่หลินตงพร้อมสาปแช่งเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ยายแก่ ฉันจะนับถึงสาม ถ้าแกยังไม่ลุกออกไป ฉันจะเอามีดเฉือนลูกแกทุกๆห้าวินาที” หลินตงพูดพร้อมกับเขย่ามีดสั้นในมือ