บทที่ 304 หลานหลิงต้องการลักพาตัวหลินอี้จุน
เปรี๊ยะ!
หลานจัวตบหน้าหลานหลิง และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ฉันให้เวลาเธอกี่วันแล้ว เรื่องเล็กๆแค่นี้เธอยังจัดการไม่ได้ ครั้งนี้เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย ถ้ายังจัดการไม่ได้ เธอและพ่อของเธอคงต้องแขวนคอตายแล้วล่ะ
หลานจัวเป็นคนที่แข็งแกร่งในตระกูลหลาน พวกเขาชื่นชอบเทคโนโลยีอี้ฉีของลู่เฉิน ปล่อยให้หลานหลิงจัดการกับลู่เฉิน คิดไม่ถึงว่านานขนาดนี้แล้ว หลานหลิงยังไม่ชนะลู่เฉิน นี่ทำให้หลานจัวต้องมายวี่โจวด้วยตัวเอง
ในสายตาของหลานจัว ที่ราบภาคกลางตระกูลหลานไม่เพียงแต่เป็นม้าเท้าหน้าของตระกูลพวกเขา แต่เป็นเพียงเป้าปืนใหญ่ของพวกเขาเท่านั้น
ตระกูลหลานในที่ราบภาคกลางไม่ใช่ตระกูลหลานที่แท้จริง เป็นเพียงตระกูลที่ถูกแบ่งขึ้นจากตระกูลหลานในตอนนั้น
แต่ตระกูลหลานที่หลานจัวอยู่ ก็เป็นสายเลือดโดยตรงของตระกูลหลานเช่นกัน
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลานหลิงไม่กล้าต่อต้าน
แน่นอน เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดก็คือ
ตระกูลหลานมีอำนาจมาก และไม่ใช่ว่าตระกูลหลานที่เป็นฆราวาสของพวกเขาจะสามารถต่อต้านได้
“ใช่ ครั้งนี้จะไม่ทำให้ลุงจัวผิดหวัง!” หลานหลิงตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ฉันให้เวลาเธอสามวัน ถ้าสามวันนี้ยังจัดการไม่ได้เธอต้องมาพบฉันด้วยตัวเองแล้วล่ะ”หลานจัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ได้!”หลานหลิงพยักหน้าอย่างเคารพ
หลานจัวไม่เพียงแต่เป็นสายเลือดโดยตรงของตระกูลหลานเท่านั้น แต่ยังเป็นทายาทที่มีอำนาจของตระกูลหลานในอนาคต หลานหลิงไม่กล้าที่จะปล่อยเนื้อปล่อยตัวต่อหน้าเขา
หลานจัวส่งเสียงอย่างเย็นชา เขาออกจากบ้านพักของหลานหลิงพร้อมกับคนคุ้มกันสองสามคน
ในเวลานี้พวกคนรับใช้ของหลานหลิงค่อยกล้าหายใจขึ้นมาหน่อย
อำนาจของหลานจัวแข็งแกร่งเกินไป พวกเขากดดันจนหายใจไม่ออก
“คุณหนู ผมพูดกับคุณตั้งนานมาแล้ว ว่าตระกูลหลานต้องการเทคโนโลยีอี้ฉี ครั้งนี้อาจารย์หลานมายวี่โจวด้วยตัวเองเพื่อแสดงทัศนคติของพวกเขา”หลานจิงกล่าวหลังจากถอนหายใจ
หลานหลิงพยักหน้าแล้วถาม “ลุงจิง ทำไมพวกเขาถึงต้องการเทคโนโลยีอี้ฉี?พูดตามเหตุผล ด้วยความแข็งแกร่งและความมั่งคั่งของตระกูลหลาน เป็นไปไม่ได้ที่จะมาเสี่ยงขนาดนี้กับเทคโนโลยีอี้ฉีมูลค่าหลายหมื่นล้านใช่ไหม?
หลานหลิงมักจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอด แต่เธอไม่กล้าที่จะถามพ่อของเธอ นับประสาอะไรกับไปถามหลานจัว เธอจึงจำเป็นต้องระงับความอยากรู้อยากเห็นของเธอไว้
หลานจิงมองไปที่คนรับใช้คนอื่นๆในห้องและพูดกับพวกเขาว่า “พวกเธอลงไปก่อนไป”
“ค่ะ/ครับ”ทุกคนพยักหน้า และออกจากห้องไป
หลังจากที่รอทุกคนออกจากห้องหมดแล้ว หลานจิงถึงกล่าวขึ้น “กล่าวกันว่าตระกูลหลานนั้นมีลูกปัดวิเศษ พวกเขาศึกษามาแล้วหลายปีแต่พวกเขาไม่ได้ค้นคว้าอะไรเลย ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงนึกถึงวิทยาศาสตร์และจับนักวิทยาสาสตร์สิบกว่าคนไปค้นคว้าวิจัย”
ว่ากันว่าเป็นเทคโนโลยีชนิดหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ต้องมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแท้ๆถึงจะวิจัยได้อย่างสมบูรณ์ แต่หากมีการสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้วล่ะก็ จะต้องดึงดูดความสนใจของตระกูลอื่นๆเป็นแน่ หากเราร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตระกูลหลานก็จะไม่สบายใจ
เนื่องจากมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทรงพลังหลายแห่งอยู่ภายใต้ความควบคุมของรัฐบาลที่มีอำนาจหลายประเทศ
มีแค่เทคโนโลยีอี้ฉีของลู่เฉินเท่านั้นที่เป็นองค์กรเอกชน ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมที่จะชิงเอาเทคโนโลยีอี้ฉีมา
“ลูกปัดเม็ดนั้นเป็นแบบไหน คุณเคยเห็นมาก่อนหรือไม่?”หลานหลิงมองไปที่หลานจิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากเทคโนโลยีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจเป็นสิ่งของที่นักต่อสู้โบราณใช้ในการปราบมารหลงเหลือไว้อยู่?
หลานหลิงไม่ค่อยเชื่อเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างเป็นทางการในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา พูดอย่างถูกต้องคือในช่วงสี่สิบถึงห้าสิบปีที่ผ่านมามีความเป็นไปได้ในการพัฒนารูปแบบการระเบิด จะเป็นไปได้อย่างไรที่ลูกปัดวิเศษลูกหนึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี?
เธอเดาว่าลูกปัดวิเศษพวกนั้นเป็นสมบัติที่ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้โบราณทิ้งไว้ เพียงแค่คนของตระกูลหลานนั้นไม่สามารถที่จะทำให้ลูกปัดแตกได้แค่นั้น
หลานจิงส่ายหัวและพูด “ฉันเพียงแค่ได้ยินมาก็แค่นั้น ความจริงแล้วเป็นแบบนี้หรือไม่ฉันก็ไม่รู้”
หลานหลิงพยักหน้าแล้วพูด “อืม ลุงจิง คุณจัดการให้หน่อย ฉันวางแผนว่าจะไปคุยกับลู่เฉินก่อน”
หลานจิงครุ่นคิดอยู่พักนึงแล้วกล่าวว่า “คุณหนู ไม่จำเป็น เป็นไปไม่ได้ที่ลู่เฉินจะยกอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ตระกูลหลาน ฉันหมายความว่าลักพาตัวลูกสาวหรือภรรยาของเขาโดยตรง และให้เขามาหาพวกเรา ถึงเวลานั้น เขามีเพียงแค่สองตัวเลือก ถ้าไม่สู้กับเราก็คงต้องยกอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ตระกูลหลานแล้วล่ะ”
หลานหลิงดูดิ้นรนเล็กน้อย
ครั้งล่าสุดที่ลักพาตัวฉีฉี เธอรู้ได้เลยว่าเธอได้สัมผัสถึงข้อมูลลับของลู่เฉินแล้ว หากภรรยาหรือลูกสาวของลู่เฉินถูกลักพาตัวในครั้งนี้ ลู่เฉินจะต้องไม่ปล่อยเธอไปเป็นแน่
เมื่อเห็นหลานหลิงลังเลอีกครั้งหลานจิงก็ถอนหายใจและพูดว่า “คุณหนู คุณกับลู่เฉินไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะชอบคุณ และตอนนี้อาจารย์หลานก็จะมาที่ยวี่โจวด้วยตัวเองอีก หากเราไม่สามารถทำงานให้สำเร็จในครั้งนี้ อาจารย์จะต้องทอดทิ้งตระกูลหลานของเราเป็นแน่ อาจารย์ให้ความสำคัญกับลูกปัดวิเศษอย่างมาก และยังสำคัญยิ่งกว่าตระกูลหลานของเรา เธอคงไม่ต้องการให้อาจารย์ทำลายตระกูลหลานของพวกเราหรอกใช่ไหม?”
หลานหลิงตกใจ และยังไม่ได้ตัดสินใจ
“คุณหนู หากลู่เฉินจะร่วมมือกับเราล่ะก็ เราจะไม่ทำร้ายเขาอีก คุณถึงจะมีโอกาสเข้าใกล้เขาหากเขาไม่มีเทคโนโลยีอี้ฉี” หลานจิงเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
หลานหลิงกัดฟัน และในที่สุดก็พยักหน้า “ก็เป็นเหมือนครั้งที่แล้ว ทำร้ายเขาไม่ได้”
หลานหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวว่า “จากการตรวจสอบของเรา มีบอดี้การ์ดแปดคนอยู่รอบๆภรรยาของลู่เฉิน และพวกเขาเป็นทหารรับจ้างทั้งหมด พวกเขามีปืนและมีพละกำลังเป็นอย่างมาก การลักพาตัวหลินอี้จุนคงจะเป็นเรื่องยากแล้วล่ะ ลูกสาวของเขาฉีฉีมอดี้การ์ดเพียงคนเดียว โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากกว่าอยากเห็นได้ชัด”
หลานหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า“ ลุงหลานทำไมคุณไม่คิดว่าทำไมลู่เฉินถึงกล้าให้คนมาปกป้องลูกสาวของเขาแค่คนเดียวล่ะ?”
หลานจิงครุ่นคิดสักพักและถามว่า “คุณหนูหมายความว่าบอดี้การ์ดที่ปกป้องลูกสาวของเขาแข็งแกร่งกว่าแปดคนที่ปกป้องหลินอี้จุนอีกหรือ?”
หลานหลิงพยักหน้าและพูดว่า “ครั้งที่แล้วลูกสาวของเขาเคยถูกลักพาตัวไปครั้งหนึ่งแล้ว ฉันเชื่อว่าลู่เฉินจะต้องเพิ่มความสามารถในการป้องกันขึ้นแน่นอน และไม่ปล่อยให้ใครมาลักพาตัวคนในครอบครัวของเขาอีกเป็นครั้งที่สอง ดังนั้น ฉันคิดว่าบอดี้การ์ดที่ปกป้องลู่ฉีฉีคนนั้น คงจะเก่งกาจพอตัว”
แม้ว่าหลานหลิงจะพูดแบบนั้น แต่ในใจของเธอไม่ได้คิดเช่นนั้น
เขารู้ว่าคนที่ปกป้องฉีฉีคือเสี่ยวจิง ครั้งที่แล้วคนของโจวซุนเฟยต่อยเสี่ยวจิงจนได้รับบาดเจ็บและเขายังรู้วิธีที่จะเอาตัวฉีฉีออกมาจากเขาได้
ที่เธออยากให้หลานจิงลักพาตัวหลินอี้จุน เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของเธอเพียงแค่นั้น
หลานจิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและรู้สึกว่าความคิดของหลานหลิงนั้นสมเหตุสมผล เขาพยักหน้าและพูดว่า “โอเค ฉันจะจัดการลักพาตัวหลินอี้จุน อย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้ฉันจะลักพาตัวหลินอี้จุนมา”
หลานจิงพูดเสร็จก็ออกไปเลย หลานหลิงเดินไปที่ข้างหน้าต่างและมองวิวด้านนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่