บทที่ 318 กองทัพต่านประกาศสงคราม
“ผู้บัญชาการกองทัพต่านได้ปราการสงครามแล้ว” เขาดูเนื้อหา แล้วเงยหน้าขึ้นมาหาลู่เฉินพร้อมพูด
“อืม ประกาศให้ทหารเราทายว่าเตรียมตัวให้พร้อมที่ตะเปิดสงคราม ใช่แล้ว เรียกเซียวจ้างกับชิจินมาพบฉัน” ลู่เฉินพยักหน้า ถึงแม้ว่ากองทัพต่านจะแจ้งเวลาเป็นเข้าวันพรุ่งนี้ แต่ไม่แน่ว่าตอนนี้พวกเขาอาจจะดำเนินการแล้ว
เหมือนกับเหตุการณ์หลิวฉางซานในครั้งก่อน
หลังจากสิบกว่านาที ตู้เฟยทั้งสามคนได้มาถึงศูนย์บัญชาการ และเห็นลู่เฉินกำลังยืนดูแผนที่อยู่ตรงหน้า
“พวกนานมาแล้วเหรอ” ลู่เฉินหันไปมองพวกเขาสามคน จากนั้นชิจินก็บอกพูด “หากกองทัพต่านส่งกำลังกองทัพมา ก็คงต้องมาหนึ่งในสามเส้นทางนี้แหละ กองทัพอากาศของนายต้องตรวจสอบพื้นที่ทั้งสามนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ”
เขาชี้แผนที่ที่ตั้งของกองทัพต่านให้ชิจินดู
เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ที่เขาซื้อมาติดตั้งระบบเรดาร์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เพียงพอที่จะตรวจสอบแผนที่ทั้งหมดของพม่าแล้ว
“ครับ!”ชิจินทำความเคารพ ตอบอย่างแน่วแน่
“แล้วรถถังและกองร้อยเกราะของเราจะขับรถไปที่สะพานหลีก่อนได้ไหม?”เซียวจ้างถาม
สะพานหลีอยู่ห่างออกจากโกดังหนึ่งร้อยกิโลเมตร เป็นเส้นทางเดียวที่ทหารกองทัพต่านต้องผ่านเมื่อจะเข้าโกกัง
พยายามทสงครามกันนอกโกกัง นี่คือข้อขอร้องของลู่เฉิน
แม้ว่าโกกังจะเป็นเขตพิเศษในกองทัพต่าน แต่ยังเป็นพื้นที่พิเศษอีกด้วย
เป็นพื้นที่ชายแดนระหว่างจีนและเมียนมาร์
ที่นี้ส่วนมากเป็นพื้นที่จีน ไม่ต้องจ่ายภาษีใด ๆ ให้กับรัฐบาลเมียนมาร์และกองทัพต่าน แม้แต่เงินที่ใช้ก็เป็นเงินหยวน ลู่เฉินมีความฝัน ก็คือแยกโกกังออกจากพม่าตลอดไป
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้สงครามเผาไหม้บนแผ่นดินนี้
ลู่เฉินเชื่อว่าเขายังมีโอกาสที่จะทำให้ความฝันนี้เป็นจริง
หัวหน้าได้ขายอาวุธขั้นสูงมากมายให้เขาจากกองทัพในราคาที่ต่ำมาก และก็เดาได้เลยว่าพวกเขาสนับสนุนลู่เฉิน
และนี่ก็เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ลู่เฉินไม่กลัวเนปิดอ
ลู่เฉินพยักหน้า แล้วสะบัดหน้า
“เกือบลืมตระกูลหลายไปเลย สถานการณ์ของพวกเขาในสองวันนี้เป็นอย่างไร?” ลู่เฉินมองตู้เฟย
สำหรับกองทัพต่าน ลู่เฉินแทบจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย แต่เขาวังกลนักรบหลายร้อยคนของตระกูลหลาน ถ้าไม่กำจัดนักรบนับร้อยคนเหล่านั้น ในใจเขาก็วังวลตลอด
“เพิ่งได้รับข่าว กำลังคนของพวกเขาเพิ่งถึงห้าร้อยคนแล้ว และยังได้ชุดอาวุธจากกองทัพต่าน ส่วนจำนวนเท่าไหร่อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ผมคิดว่ามันน่าจะใช้อาวุธมาเหล่านั้นมาประดับนักรบห้าร้อยคนนั่น” ตู้เฟยพูด
“อืม อย่าปล่อยให้เขาเตรียมตัวพร้อมออกมาเปิดสงครามกับเราก่อน เราต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน กำจัดสักฝ่ายก่อน” ลู่เฉินคร่ำครวญและกล่าว
นักรบติดอาวุธห้าร้อยคนทรงพลังเกินไป กองร้อยรถถังและกองร้อยเกราะเงอะงะเกินไป อาจไม่สามารถหยุดยั้งแรงกระทบของพวกเขาได้
วิธีที่ดีที่สุดคือหนีบเขาด้วยวิธีที่คาบจากพื้นดินและคาบลงจากอากาศ
แน่นอน ขั้นแรกต้องนำพวกเขาไปยังตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เจาะจงเฉพาะไว้ก่อน
“นายหมายความว่าจะสู้กับตระกูลหลานก่อนหรือ?”ตู้เฟยถาม
“ตระกูลหลานซ่อนตัวอยู่ในเมืองโกกัง เราจะเปิดสงครามในเมืองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประชากรเดือดร้อนแน่ เว้นแต่เราจะล่อเขาออกมา แต่นี่มันอันตรายมาก ต้องปล่อยให้พวกเขาริเริ่มก่อน หากเราเอาชนะกองทัพต่านก่อน งั้นช่วงเวลานี้กองทัพต่านก็จะไม่สามารถยั่วยุเรา หลังจากนั้นเราค่อยกำจัดตระกูลหลาน แล้วค่อยมากำจัดกองทัพต่าน” ลู่เฉินวิเคราะห์
“กองทัพอากาศหรือ?”เซียวจ้างถาม
“ใช่ ให้กองทัพอากาศไประเบิดกองทัพต่านวันนี้เลย พวกนายมาดูนี่”
ลู่เฉินชี้ไปที่สถานที่หลายแห่งบนแผ่นที่ที่มีเครื่องหมายสีแดงกำกับพร้อมกับพูด: “ นี่คือคลังแสงของพวกเขา นี่คือยุ้งฉางของพวกเขา ตรงนี้คือค่ายทหารหนึ่งของพวกเขา นี่คือค่ายทหารสอง นี่คือโพสต์คำสั่ง นี่คือโรงเก็บอาวุธ ชิจินอีกห้าชั่วโมงก่อนจะถึงกลางคืน นายต้องทำลายสถานที่เหล่านี้ทั้งหมด”
“ทราบ!” ชิจินยืนตรง
“อืม ไปเถอะ พวกนายไปเตรียมตัวเลย ทหารอากาศต้องออกเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมง” ลู่เฉินพยักหน้าแล้วพูด
“ครับ!”
หลังจากที่ได้รับมอบหมาย ชิจินก็เดินออกไป
“แล้วพวกเราหละ?” เซียวจ้าวและตู้เฟยมองลู่เฉินทั้งสองรู้สึกว่าพวกเขาอาจกลายเป็นผู้ชมในการต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้
“พวกนาย?” ลู่เฉินหันหน้ามา หัวเราะ “เตรียมเผชิญหน้ากับตระกูลหลาน”
เขามีลางสังหรณ์ ตระกูลหลานจะลงมือในวันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้
……
ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดกองทัพต่านได้ประกาศสงครามกับฆ่าวิหารสักที
ศึกครั้งนี้ ดึงดูดความสนใจของทุกคนในเมียนมาร์มาก อาจเป็นสาเหตุของโรคกลัวชาวต่างชาติ ทุกคนต่างรอคอยอยากให้กองทัพต้านกำจัดกองทัพฆ่าวิหาร
ด้วยเหตุนี้เมื่อขุนศึกอีกหกคนประกาศสงครามกับฆ่าวิหารกับกองทัพต่าน พวกเขาทั้งหมดจึงส่งจดหมายสนับสนุนมายังกองทัพต่านมากมาย
เนปิดอว์ยังเตรียมที่จะเริ่มการเจรจาสันติภาพอีกครั้งที่กับกองทัพต่าน
นี่คือสิ่งที่ทั้งสองภูมิภาคอยากเห็นมากที่สุด
แม้ว่าทุกคนจะรู้ดีว่าการเจรจาสันติภาพหนึ่งหรือสองครั้งนั้นมันไม่สามารถเปลี่ยความขัดแย้งระหว่างสองภูมิภาคที่มีมาหลายปีได้ แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นสัญญาณแห่งความหวัง เป็นสัญญาณที่ดี
และกองทัพต่านก็ได้ตอบรับอย่างรวดเร็วเช่นกัน อ้างว่าจะสังหารฆ่าวิหารภายในสิบวัน ให้พื้นที่โกกังกลับมาเก็บภาษีอีกครั้ง
กองทัพต่านมีทหารหนึ่งหมื่นเจ็ดพันนาย แต่ฆ่าวิหารมีคนไม่ถึงหกพันนาย ไม่มีใครเชื่อว่าภายใต้การปิดล้อมของกองทัพต่านอย่างเต็มรูปแบบนั้น ฆ่าวิหารจะอดทนสู้เกินสิบวันได้
“พ่อ เมื่อครู่ผมได้ยินกองทัพต่านได้ประกาศสงครามกับฆ่าวิหารในวันพรุ่งนี้เช้า” ในห้องหลิวจื่อซินได้พูดกับหลิวฉางซาน
ลู่เฉินไม่ได้ฆ่าครอบครัวหลิวฉางซาน แต่หลังจากที่เขาควบคุมทหารของหลิวฉางซานหมด ก็ได้ปล่อยครอบครัวเขาไป
หลังจากที่ไม่มีเงินและกองทัพทหาร หลิวฉางซานก็ได้กลายเป็นคนธรรมดา
“กองทัพต่านยิ่งใหญ่ ทางทาดีกำจัดไอ้เวรนั้นเลย” หลิวฉางซานพูดอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่ถูกฆ่าวิหารควบคุมกองทัพ หลิวฉางซานแค้นจนอยากจะฆ่าหั่นศพลู่เฉินทิ้ง ถึงแม้ลู่เฉินจะไม่ได้ฆ่าครอบครัวเขา แต่ความแค้นในใจเขาก็ไม่เคยลดหายเลยแม้แต่น้อยนิด
แน่นอน หลิวฉางซานยังคงฝันที่อยากจะยึดกองทัพกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แล้วแก้แค้น
“พ่อ หรือว่าเราไปเมืองหลวงกองทัพต่านดี รอพวกเขากำจัดฆ่าวิหารแล้วไปหาบัญชาการเกอดาน ดูว่าเขาสามารถเห็นความสัมพันธ์ในอดีต และมอบทหารให้เราอีกหน่อย” หลิวจื่อซินเสนอ
“อืม ออกเดินทางตอนนี้เลย” ตาหลิวฉางซานสว่างขึ้น และเห็นด้วยกับที่ลูกชายพูด หากเกอดานสามารถให้ทหารสักหน่อยกับเขาได้ เขาก็มีความมั่นใจในการพัฒนามหารให้ใหญ่โตขึ้นอีก