พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ – ตอนที่ 476

ตอนที่ 476

บทที่ 476 ลู่เฉินได้รับบาดเจ็บ

“ความเป็นไปได้ที่มันพุ่งมาที่ไททันมีอยู่ประมาณเท่าไหร่?” ลู่เฉินเอ่ยถาม

“100 เปอร์เซ็นต์ ไททันมีแรงดึงดูดจากมัน 12 ชั่วโมงหลังจากนี้ ก็จะพุ่งชนไททันทันที” ติงต้าเฉิงกล่าว

“เวรเอ๊ย งั้นก็หมายความว่า เราจะมีเวลาประมาณสิบชั่วโมงในการหลบหนีแยกย้ายกันนะสิ งั้นพวกอะไหล่อุปการณ์รถมากมายก็ไม่อาจจะเคลื่อนย้ายได้หมดนะสิ” ลู่เฉินสบถด่าออกมา จากความอัดอั้นตันใจ

เดิมทีเขายังวางแผนได้พัฒนาบนดาวไททันไปอีกปีหรือสองปี ไม่คิดเลยว่าจำต้องไปจากมันล่วงเวลาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ภาพนั้น รู้เดียวกันกับเวลาที่อยู่บนโลกเลย ถ้าให้โอกาสพวกเขาได้พัฒนาอีกสักหลายปี พวกเขาคงพอมีเวลาในการเก็บข้อมูลต่างๆ มากมาย จนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้ก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิม

แต่ว่าสุดท้ายแล้ว พวกเขาเพิ่งจะมีความสามารถในการออกจากโลก ตัวแอนติบอดีในซีรัมของไวรัส D ก็บีบบังคับให้พวกเขาจำต้องออกไปจากโลกใบนี้ก่อนเวลา เพื่อจะได้เข้าสู่ยุคสมัยการเดินทางในห้วงอวกาศ

ทว่าตอนนี้ มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะมาเจอดาวเทียมที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างไททันจนสามารถศึกษาค้นคว้าได้อย่างชำนาญทุกอย่าง พลันมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนไททัน เรื่องพรรค์นี้ มันไม่ต้องบังเอิญขนาดนั้นก็ได้มั้ง

“หวังว่าครั้งนี้มันจะแค่บังเอิญจริงๆ นะ!”

ลู่เฉินได้แต่ถอนหายใจในใจ ถ้ามันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันเหมือนมีคนได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นั่นก็หมายความว่าช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อนาคตของมนุษยชาติจะเป็นยังไงกันนะ?

เขาเองย่อมไม่รู้ และก็ไม่กล้าที่จะไปคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วย

“คำสั่งลงไปถึงทุกคน หยุดทำงานของตนเองซะ เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทุกอย่างกลับไปที่ยานอวกาศซี-หวั้ง พวกเรามีเวลาสิบชั่วโมง หลังจากสิบชั่วโมงผ่านไปแล้ว ก็ให้ละทิ้งไททันไปซะ” หลังจากที่ลู่เฉินได้ทำการติดต่อกับเซ่เว่ยเหาได้แล้ว พลันใช้น้ำเสียงเคร่งขรึมในการพูดกับเขา

เรื่องพวกนี้ รัฐบาลใหม่เป็นคนจัดการทั้งหมด ดังนั้นลู่เฉินจึงให้เซ่เว่ยเหาเป็นคนเข้าไปจัดการเรื่องนี้ต่อ

“จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นหรือไงกัน?” เซ่เว่ยเหาได้ฟังน้ำเสียงของลู่เฉินที่ไม่ค่อยปกติ จึงได้เอ่ยปากถาม

“อืม มีดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยี่สิบกิโลเมตรจะพุ่งเข้าชนกับไททันหลังจากนี้ไปสิบสองชั่วโมง ถึงเวลานั้นระบบของไททันทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจนพลิกฝ่ามือ ถ้าพวกเราไม่ยอมรีบเก็บของกลับให้ทันเวลา เกรงว่ายานอวกาศซี-หวั้งก็คงแหลกสลายเป็นผุยผงไปด้วย” ลู่เฉินกล่าวออกมา

“ได้ ฉันจะไปจัดการทันที” เซ่เว่ยเหาตอบรับจากนั้นก็ตัดสายทิ้งทันที

เวลานั้นเอง แผ่นดินใต้เท้าของทุกคนพลันสั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน ทุกคนล้มไปกองอยู่กับพื้น แถมยังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นหนักกว่าอีก ตัวยานอวกาศซี-หวั้งสั่นสะเทือนเหมือนจะแยกจากกันเป็นเสี่ยงๆ …

แผ่นดินไหวเหรอ?

หรือว่า….

การสั่นสะเทือนติดต่อกันนาน3-5นาที ความจริงแล้ว แค่1-2นาทีแรกเท่านั้นแหละที่สั่นสะเทือนอย่างหนัก จากนั้นอาการสั่นค่อยๆ ผ่อนลงเรื่อย จนถึงเวลาที่มันหยุดสั่น รวมเวลาในการสั่นสะเทือนแล้ว 5 นาที

เมื่อการสั่นสะเทือนได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนสังเกตบริเวณโดยรอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้งหมด เวลานี้พื้นผิวของไททัน มันแยกจากกันเป็นแถวแนวยาวหลายอันแถมมีขนาดใหญ่มาก

ทั้งหมดนี่คือแผ่นดินไหวบนตัวไททัน

ต้องรู้ว่า พื้นผิวของตำแหน่งนี้มันเป็นที่ก่อสร้างที่สร้างอยู่บนพื้นผิวเปลือกน้ำแข็ง และยังไม่ได้เป็นพื้นที่เปราะบางของไททันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกทั้งยังเคยผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดของนักวิชาการมาโดยเฉพาะ ไม่มีทางที่ว่าฝนถล่มดินทลายแล้วการก่อสร้างมันจะเละเป็นหน้ากองเหมือนเต้าหู้ได้ แต่ว่ามันกลับแยกออกจากกันเป็นรอย นั่นย่อมจินตนาการได้ว่าแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้มีความรุนแรงมากมายขนาดไหน

โชคไม่เข้าข้างเหมืองแร่ Oxidized oreเอาซะเลย ดันมาเกิดขึ้นตอนที่มีแผ่นดินไหวด้วย จนปากทางเหมืองถูกถล่มจนปิดทางไปแล้ว

คนงานที่ยังทำงานอยู่ด้านในติดแหง็กอยู่ภายในนั้นทั้งหมด

อีกทั้งลู่เฉินก็โชคไม่เข้าข้างอีก ตอนที่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับเซ่เว่ยเหาอยู่นั้น แทบไม่รู้เลยว่ากำลังมีแผ่นดินไหวอยู่ หลังจากที่ยานอวกาศซี-หวั้งกำลังสั่นสะเทือนจนเอียงกระเท่เร่อยู่อย่างฉับพลันนั้นจนทำให้ศีรษะของเขาโขกเข้ากับวัตถุโลหะผสม

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีเทียบเคียงได้ก็ตาม แต่ ณ วินาทีนั้นก็ไม่สามารถหลบหลีกได้ทันเวลา

ถึงแม้ว่าเขาจะคาดการณ์ถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาเลยมึนงงผ่านหลายนาทีนั้นมา หลังจากที่แผ่นดินได้หยุดการสั่นสะเทือนแล้วนั้น สมองของเขายังไม่กลับมาตื่นตัวสักเท่าไหร่ บนศีรษะมีแต่เลือดสดๆ ไหลอาบไปทั่ว ดูเหมือนเมื่อใครมาเห็นเข้าต้องทำให้คนตกอกตกใจแน่ๆ

เวลานั้นเอง คนที่อยู่รอบตัวเริ่มเข้ามาเรียกให้ตื่นทันที

เสี่ยวจิงเป็นคนเห็นว่าลู่เฉินได้รับบาดเจ็บเป็นคนแรก เขาตะโกนโหวกเหวกและพุ่งเข้ามาหาแต่ไกล เมื่อมาถึงตัวก็จับลู่เฉินประคองให้ลุก พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังลั่นเบ้าตาแดงแจ๋ “หมอ! รีบเรียกหมอเร็ว! หมออยู่ที่ไหน? ไม่เห็นหรือไงว่ามีเรื่องเกิดขึ้น?”

“ฉันไม่เป็นไร” ลู่เฉินได้แต่ส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็มองมาที่ติงต้าเฉิงและคนอื่นๆ ติงต้าเฉิงและคนอื่นๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่เป็นแค่ผิวหนังถลอกเล็กน้อย

“รีบไปตรวจยานอวกาศซี-หวั้งเร็ว ดูว่ามีตรงไหนเสียหายไหม แม่งเอ๊ย แผ่นดินไหวนี่มันมาแบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ!” ลู่เฉินพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม

“อืม” ติงต้าเฉิงพยักหน้าให้ จากนั้นก็จัดพนักงานให้ไปตรวจสอบตัวยานอวกาศซี-หวั้งด้วยตนเอง

ถ้าเกิดว่ายานอวกาศซี-หวั้งก็มีอะไรที่แตกหักไป งั้นก็จบเห่แล้ว

พวกเขาเพิ่งใช้เวลาเพียงแค่สิบกว่าชั่วโมงเอง เวลานี้ไม่สามารถให้เกิดข้อผิดพลาดเพียงน้อยนิดได้ ไม่งั้นพวกเขาที่เป็นมนุษย์ในจำนวนหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคนที่เป็นกลุ่มสุดท้ายแล้ว ก็คงตายอยู่ในไททันนี่แหละ

“คุณชาย!” หลินตงรีบเอาผ้าก๊อซพันแผลมาให้ จากนั้นก็ทำการพันศีรษะของลู่เฉิน ไม่นาน ผ้าก๊อซเส้นยาวก็เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสด

ดีที่ว่าผ่านไปไม่กี่นาที หมอก็มา พวกเขารีบเร่งในการรักษาลู่เฉินแบบง่ายๆ เอาไว้ก่อน

“กัปตัน บาดแผลที่อยู่บนศีรษะของคุณมันค่อนข้างยาว ต้องเย็บแผล ไปที่หน่วยแพทย์เถอะ” หมอหญิงคนหนึ่งเป็นคนพูด

“ไม่ต้อง เย็บที่นี่แหละ” ลู่เฉินกล่าว

“เอ่อ ได้สิ งั้นพวกเราฉีดยาชาให้คุณก่อน” หมอสาวพูด

“ไม่ต้องหรอก เย็บแบบนี้ไปนั่นแหละ” ลู่เฉินส่ายหน้าไปมา เวลาที่สำคัญเช่นนี้ จิตใจสนใจแต่ยานอวกาศซี-หวั้ง พร้อมทั้งคอยวนเวียนกับความหวังครั้งสุดท้าย เขาไม่สามารถนอนสลบได้

ยังมีอีกสิบชั่วโมงสุดท้าย เขาต้องมั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแล้ว เขาถึงจะวางใจได้

ดังนั้น เขาเลยไม่อยากฉีดยาชา เลยไม่สามารถฉีดยาได้

“กัปตัน บาดแผลของคุณมันยาวมาก แถมยังลึกด้วย ถ้าไม่ฉีดยาชา ตอนที่พวกเราล้างทำความสะอาดคุณจะเจ็บปวดมาก…” หมอสาวเป็นคนกล่าว

“อย่าพูดมากเลย แค่มึนชาๆ ความเจ็บปวดแค่นี้มันมีอะไร” ลู่เฉินเบิกตาโต พูดอย่างเสียงดัง

หมอสาวตกใจ จนไม่กล้าพูดอะไรต่อ พร้อมทั้งให้บรรดาผู้ช่วยรีบช่วยล้างทำความสะอาดบาดแผลของลู่เฉิน

เหล่านางพยาบาลเห็นว่าลู่เฉินไม่ยอมฉีดยาชาก็ให้พวกเขาทำความสะอาดบาดแผล ก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจิตใจห่อเหี่ยวเช่นไหน แถมยังรู้สึกหวาดกลัวกับลู่เฉินอีก จนมือสั่นเล็กน้อย

ลู่เฉินกัดฟันเอาไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไร เขามองไปทางเสี่ยวจิงแล้วเอ่ยว่า “ขอบุหรี่ให้ฉันสักมวน”

เสี่ยวจิงพยักหน้าให้ พร้อมทั้งรีบจุดบุหรี่ให้ลู่เฉินทันที

ลู่เฉินเขยิบตัวนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมทั้งสูบบุหรี่เข้าปอด ดวงตาเพ่งสายตาไปทางด้านหน้า แทบไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ

พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้เหล่าพยาบาลหลายคนตกใจเป็นอย่างมาก

พวกเธอเพิ่งเคยเห็นคนป่วยที่ให้พวกเธอทำความสะอาดแถมยังไม่ยอมฉีดยาชาอย่างลู่เฉินแบบนี้เป็นครั้งแรก

อีกอย่าง ผู้ฝืนทนความเจ็บปวดเช่นนี้ เขายังไม่ยอมส่งเสียงอื้ออึงออกมาสักนิด

เวลานั้นเอง วิทยุสื่อสารที่อยู่ด้านหน้าของเขาพลันส่งเสียงดังขึ้น

ไม่รอให้ทุกคนได้ตั้งตุว เขาก็รีบรับสายทันที เซ่เว่ยเหาเป็นคนโทรศัพท์เข้ามา

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

Status: Ongoing

บทนํา ประสบการณ์ชีวิตซุปเปอร์ริชรุ่นที่สองที่ไม่อยากกลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่อนิจจาภรรยาของเขาดันคิดว่าเขาไม่มีเงิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท