บทที่ 525 ไข่กระทบหิน
“น่าลองดูนะ!” ลู่เฉินสรุปผล
เขาออกคำสั่งทันที ระเบิดปืนกลความเร็วสูงทั้งหมดถูกจุดพร้อมกัน ระเบิดเป็นพันๆหมื่นๆลูกพุ่งไปหาหยดน้ำทั้งหมด
ตรงกลางยังมีคั่นด้วยขีปนาวุธบางส่วน เพิ่มแรงปะทะใส่มัน
แต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้พวกลู่เฉินผิดหวัง
นอกจากระเบิดในตอนแรกที่ระดมใส่เข้าไปทำให้ร่างมันโอนเอนเล็กหน่อยแล้ว ระเบิดอื่นไม่ได้ผลเลย
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย หยดน้ำที่สวยงามเหมือนงานฝีมือชิ้นหนึ่งนี้ ยังคงรักษาระดับความเร็วและการขับเคลื่อนของตัวเองอย่างสง่างามและสูงส่ง ค่อยๆเข้าใกล้ชั้นบรรยากาศมาเรื่อยๆ
เมื่อมันเริ่มเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ขีปนาวุธทุกชนิดก็หมดประโยชน์
“โจมตีมันด้วยอาวุธทั้งหมดเลย!”
ลู่เฉินของขึ้น สั่งการลงไปทันที!
หลายปีมานี้ไม่ว่าจะตอนอยู่บนพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb หรือที่นี่ มนุษย์เก็บวัตถุดิบมาได้มากเกินไป ลู่เฉินถึงไม่กลัวว่าจะไม่มีทรัพยากรให้ใช้อีก
ทั่วทั้งเอปไซลอนเอริดานี แอโดนปรับเปลี่ยนเป็นป้อมปราการสงคราม ยัดขีปนาวุธใส่ไม่หยุด
ระเบิดพลังงานที่เตรียมไว้ พลังทำลายล้างของมัน คงได้แต่ใช้คำว่าน่าสยดสยองมาอธิบาย
ลู่เฉินต้องการยิงระเบิดทั้งหมดออกมา พลังทำลายล้างเรียกได้ว่าเพียงพอที่จะทำลายดวงดาวที่มีขนาดเท่าโลกแล้ว
พอคำสั่งลงมา ทันใดนั้นแสงระเบิดสว่างวาบในพริบตา ความเร็วของระเบิดจำนวนมากในระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พุ่งไปที่หยดน้ำนั้น
หลังจาก 0.06วินาทีผ่านไป ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน!
แสงและความร้อนไร้ขีดจำกัดแผ่ซ่านออกมา เหมือนกับจะปรากฏดวงเคราะห์อีกดวงขึ้นมาที่นั่น
แสงกลุ่มนี้อย่างน้อยส่องประกายสว่างไปเป็นอาณาเขตหลายแสนกิโลเมตรเลยทีเดียว
พอแสงเริ่มจางไป ลู่เฉินพบว่า ตัวเองมองไม่เห็นร่องรอยของหยดน้ำหยดนี้ไปแล้ว
“หรือว่า…จะโดนระเบิดละลายไปแล้ว?” ตู้เฟยพูดอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
แต่วินาทีต่อมา การคาดเดาของตู้เฟยโดนหักล้างอย่างไม่ไว้หน้าเลย
หยดน้ำหยดนี้ปรากฏอีกด้านหนึ่ง ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิมพุ่งเข้ามา
มันยังคงสว่างไสวเหมือนเดิม ไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้แต่น้อย ไม่มีร่องรอยอะไรเลย
พลังทำลายล้างที่ระเบิดส่งออกมาเพียงพอจะทำลายโลกทั้งใบ
นอกจากจะทำมันกระเด็นไปจากที่เดิมประมาณหลายพันกิโลเมตรแล้ว ไม่มีผลอย่างอื่นกับมันเลย
วินาทีนี้ พวกลู่เฉินเริ่มหมดหวังแล้ว
หลังจากความเร็วของหยดน้ำเพิ่มไปเป็นสองพันกิโลเมตรต่อวินาทีแล้ว แทบจะพุ่งไปที่ตำแหน่งยานรบที่อยู่รอบนอกขั้นบรรยากาศในพริบตา
จากนั้นก็มุดเข้าไปทางหัวเครื่องบินรบอวกาศลำหนึ่งทะลุออกทางปลายเครื่องบิน
ภายในเวลาไม่ถึง0.01วินาที หยดน้ำหยดนี้ได้ทะลุผ่านเครื่องบินรบอวกาศลำหนึ่ง และทำให้ระบบปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นของมันไปเลย
วินาทีนั้น เครื่องบินรบอวกาศเหมือนเป็นกุ้งตัวใหญ่ที่ต้มสุกแล้ว ทั่วทั้งลำกลายเป็นสีแดง จากนั้นก็ระเบิดบึ้ม
ต่อมา ก็เป็นเครื่องบินรบอวกาศอีกลำหนึ่ง…
วินาทีเดียวทำลายเครื่องบินรบอวกาศไปห้าลำ!
มันทำให้ทุกคนตกอยู่อาการตะลึง
พริบตานั้นต่อให้เป็นลู่เฉิน ก็อึ้งไปสองวินาทีกว่าจะได้สติกลับมา
และหลังจากสองวินาทีนั้น หยดน้ำเข้าไปในชั้นบรรยากาศได้สำเร็จ
ใกล้จะมาถึงหน้ายานอวกาศซี-หวั้งอยู่แล้ว!
วินาทีนี้ในใจทุกคนมีแต่ความหมดหวัง
มนุษย์จะไม่มีทางรอดแล้วจริงหรอ?
ตอนนี้ลู่เฉินเสียใจถึงขีดสุด
เขารู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาดื้อรั้น มนุษย์คงไม่โดนทำลาย
ถ้าตอนแรกเขาเลือกยอม ถึงมนุษย์จะโดนกักบริเวณ แต่การยังมีชีวิตอยู่ก็เหนือกว่าอะไรทั้งหมดนะ
แต่ มนุษย์ที่เป็นแบบนั้น มีชีวิตอยู่ต่อไปจะมีความหมายอะไรล่ะ?
หลังจากโดนอารยธรรมระดับสูงพวกนั้นเอาสิทธิ์ทุกอย่างไปหมดแล้ว ยังจะมีโอกาสรอดอีกหรอ?
นี่มันอยู่ในอวกาศนะ มีอารยธรรมไหนบ้างที่ให้โอกาสรอดกับทาสหรือเชลยบ้างน่ะ?
วินาทีนี้ลู่เฉินคิดตกแล้ว
ต่อให้ต้องโดนล้างเผ่าพันธุ์ มนุษย์ก็ไม่ยอมโดนกักบริเวณหรอก
อีกอย่าง พวกเขาที่นี่เป็นแค่มนุษย์ส่วนน้อยเท่านั้น
ไม่แน่ผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆที่อพยพมนุษย์ส่วนใหญ่ไปก่อนหน้าอาจจะโชคดีกว่า หาดาวอยู่อาศัยใหม่ได้แล้ว
ถ้างั้นหลังจากที่พวกเขาตายลง ก็ไม่ได้แปลว่ามนุษย์จะสูญพันธุ์ซักหน่อย
ในเมื่อมนุษย์ยังมีความหวัง ถ้าอย่างนั้นพวกเราที่อยู่ที่นี่จะสู้จนตัวตายแล้วยังไงล่ะ?
“มาเลย มาเลย ไม่ระเบิดในสงคราม ก็ตายในการสู้รบละกัน!”
ลู่เฉินคำรามเสียงต่ำ ลุกจะเดินออกไปข้างนอก
“คุณจะไปไหน?” เฉินจือหรานถามอย่างกังวล
“ไปสู้กับมันให้รู้แล้วรู้รอด” ลู่เฉินพูด
“หา? คุณจะไปสู้กับหยดน้ำนั่นน่ะนะ? จะทำงั้นได้ไงล่ะ!” เฉินจือหรานพูดอย่างตะลึง
หยดน้ำนั่นแปลกสุดๆ ระเบิดมากมายขนาดนี้ยังทำอะไรมันไม่ได้เลย กำลังของคนจะไปทำอะไรมันได้?
แล้วนี่ลู่เฉินยังคิดจะไปสู้ตายกับมันอีก
“เป็นไปไม่ได้ก็ต้องไป!”
“ผู้นำมนุษย์อย่างผม จะมาตายหลังคนอื่นได้ยังไง?”
“ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้มนุษย์เราต้องพ่ายแพ้ งั้นผมต้องตายก่อนทุกคน!”
ลู่เฉินพูดอย่างหนักแน่น
เฉินจือหรานพูดไม่ออก ในใจสิ้นหวังถึงขีดสุด
เธออยากให้ลู่เฉินพาเธอไปด้วย เธออยากตายพร้อมกับลู่เฉิน
เธอขยับปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
“งั้นก็รอความตายละกัน!”
เฉินจือหรานยิ้มเศร้า น้ำตาค่อยๆไหลออกมา
“จะทำแบบนี้จริงๆหรอ?” ตู้เฟยกับพวกด้านหลังถามขึ้น
“หมดหนทางแล้ว พวกเราไม่มีหนทางไหนทำลายหยดน้ำหยดนี้ได้เลย เทคโนโลยีของพวกเราเทียบกับมันแล้ว ห่างชั้นกันเกินไป”
ลู่เฉินส่ายหัวพลางว่า
“งั้นผมไปกับคุณละกัน พวกเราสองคน ผู้นำมนุษย์หนึ่ง ผู้นำฝ่ายทหารหนึ่ง ไปตายด้วยกันละกัน” ตู้เฟยพยักหน้า จากสีหน้าสิ้นหวังกลายเป็นมั่นคง
“ช่างมัน ไปเถอะ” ลู่เฉินพยักหน้า
ยังมีเวลาอีกหลายนาที ที่หยดน้ำจะมาถึงตรงหน้ายานอวกาศซี-หวั้ง ถ้ามันเข้ามาในยานอวกาศซี-หวั้งได้ ทั่วทั้งยานอวกาศซี-หวั้งต้องโดนมันทำลายแน่
เขาเลิกดิ้นรนแล้ว
เขาอยากดิ้นรนขัดขืน
น่าเสียดาย เวลาอยู่ต่อหน้าความสามารถขั้นสุดนี่
มนุษย์
ยังเล็กน้อยเกินไป เล็กน้อยเกินไปจริงๆ!
พระเจ้า ท่านไม่ให้โอกาสมนุษย์เลยนี่นา!
ลู่เฉินเงยหน้ามองฟ้าด้วยความเคยชิน มองเห็นท้องฟ้าจำลองของยานอวกาศซี-หวั้ง
เขายิ้มเศร้าอย่างสิ้นหวัง จากนั้นเข้าไปนั่งในเครื่องบินรบอวกาศ
ตู้เฟยนั่งข้างเขา เป็นผู้ช่วยเขา
“พวกเราพี่น้องมาถึงวันนี้ ต่อให้ตายก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วนะ”
“น่าเสียดายอยู่อย่างคือ พวกเรายังไม่ได้นำพามนุษย์ยึดครองอวกาศเลย!” ตู้เฟยถอนหายใจยาว
“ไม่เป็นไร อย่างน้อยพวกเราก็ได้พยายามแล้วไม่ใช่หรอ”
ลู่เฉินยิ้มบาง จากนั้นสตาร์ทขับเคลื่อนเครื่องบินรบอวกาศบินออกจากยานอวกาศซี-หวั้ง
เครื่องบินรบอวกาศแปรเปลี่ยนเป็นแสงเส้นหนึ่งพุ่งตรงไปหาหยดน้ำด้วยความเร็วสูง