Chapter
ป้อมโอริด้า
บนกำแพงเมืองสูงแม่ทัพคาร์โนสกำลังถือกล้องส่องทางไกลอยู่ เขากำลังส่องไปทางป่าทมิฬที่อยู่ข้างหน้าอย่างละเอียด ภายในป่าที่มีพื้นที่หลายพันฟุต เขาเห็นเต็นท์ของพวกดาร์คเอลฟ์ตั้งอยู่มากมาย ค่ายพวกนี้ขยายออกไปหลายไมล์ และเขาก็เห็นประชากรเยอะเลยด้วย
กล้องส่องทางไกลนี้เป็นนวัตกรรมของยับบ้ามันมีคุณภาพยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าจะอยู่ในระยะไกล คาร์โนสก็ยังมองเห็นความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ได้อย่างชัดเจน ที่นั่นมีพวกดาร์กเอลฟ์ นากา ปีศาจ มนุษย์สัตว์ปีศาจ คนแคระมืดและอื่นๆอีกมากมาย ถ้าตัดสินจากข้อมูลของหน่วยสอดแนมแล้ว ในครั้งนี้ กองทัพแห่งการทำลายล้างนั้นมีกองกำลังประมาณ 200,000 นาย หลังจากนั้นไม่นานคาร์โนสก็ส่งกล้องส่องทางไกลให้กับชายตัวสูงร่างกายกำยำที่สวมชุดเกราะสีเทาเข้มข้างๆเขา
หน่วยสอดแนมของเราบอกว่าแม่ทัพของกองทัพแห่งการทำลายก็คือเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ที่มีชื่อว่าเอลลี่ ดาร์นาส เธอเป็นนักเวทย์แห่งความมืดเลเวล14 พวกเราต้องระวังตัวให้ดีนะ
ชายร่างกำยำคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแจ็คเกอร์เขาเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังแสงอรุณ เขาฝึกฝนอย่างหนักในทุกๆวันเพื่อพัฒนาตัวเอง และความพยายามของเขาก็ส่งผล ตอนนี้เขามีเลเวล 10 และเป็นนักรบระดับตำนานคนแรกของเฟิร์ด
ด้วยพลังระดับตำนานของเขาและสถานะผู้บัญชาการของกองกำลังแสงอรุณที่มีอุปกรณ์เพียบพร้อมที่สุดในป้อมโอริด้าเขาจึงเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามมากในป้อมแห่งนี้
นอกจากนี้ที่ป้อมโอริด้ายังมีกองกำลังของมนุษย์สัตว์อยู่ด้วยพวกเขาเป็นพันธมิตรกัน แต่คาร์โนสก็ยังคงลำเอียงไปทางแจ็คเกอร์ที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน ซึ่งนี่ทำให้แจ็คเกอร์เป็นบุคคลที่มีอำนาจเป็นอันดับ 2 ของป้อมปราการแห่งนี้
เขาศึกษากองทัพแห่งการทำลายที่อยู่ในป่าคิ้วหนาๆบนใบหน้าเหลี่ยมๆของเขาขมวดแน่น มันดูเหมือนกับภูเขาที่ขรุขระเลย ปีศาจที่แห่กันมาในครั้งนี้แข็งแกร่งจริงๆ พวกมันเป็นปีศาจระดับสูงทั้งหมดเลย แถมยังมีพวกนากาอีก ข้าเห็น 8 ตัวที่มีเลเวล 10 แล้วก็มีพวกเลเวล 7 กับ 8 อีกเพียบเลย พลังของพวกมันช่างน่ากลัวจริงๆ
นั่นสินะแต่ก็ต้องขอบคุณที่ยัยเจ้าหญิงนั่นเลือกที่จะแตกหักกับพวกไฮเอลฟ์ ถ้าเกิดมีพวกไฮเอลฟ์ผสมโรงเข้าไปด้วย พวกเราคงจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน คาร์โนสรู้สึกโชคดี
แจ็คเกอร์ส่องต่ออีกซักพักแล้วเก็บกล้องส่องทางไกล แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พวกเราก็ยังต้องระวังพวกไฮเอลฟ์อยู่ดี พวกมันอาจจะคอยมองจากเงามืดและออกมาในตอนท้ายเพื่อจัดการจบเรื่องต่างๆก็ได้
นี่ฟังดูมีเหตุผลคาร์โนสพยักหน้า ข้ามั่นใจว่าหน่วยสอดแนมจาก MI3 จะไม่ทำให้พวกเราผิดหวังหรอก
ตุบตุบ! มีเสียงก้าวเดินอย่างหนักดังมาจากข้างหลังพวกเขา แม่ทัพทั้งสองหันกลับไปและเห็นมนุษย์สัตว์ที่สวมชุดเกราะน่ากลัวพร้อมกับมีโซ่ห้อยเขี้ยวหมาป่าคล้องอยู่ที่คอของเขา
ในตอนที่เห็นเขาคาร์โนสกับแจ็คเกอร์ต่างก็พยักหน้าพร้อมกับในขณะที่อีกฝ่ายกำมือแนบอก
เป็นยังไงบ้าง?ไอบ้าพวกนั่นพร้อมจะตายกันรึยัง? มนุษย์สัตว์เดินมาที่กำแพงเมืองและมองลงไปข้างล่าง เขาเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอวาตาร์ ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์และราชากับหัวหน้าของกองทัพมนุษย์สัตว์
ในตอนที่เขาพูดเขาก็มองไปที่มนุษย์สัตว์แห่งความมืดที่เดินป้วนเปี้ยนในป่า พาร์มีสได้พาพวกเขาไปที่ป่าทมิฬ แต่ตอนนี้พาร์มีสตายไปแล้ว พวกมนุษย์สัตว์จึงไม่ได้มีสถานะที่ยิ่งใหญ่ในกองทัพ บางครั้งเขาก็เห็นนากากับปีศาจตะโกนหรือทุบตีพวกมนุษย์สัตว์
อวาตาร์มองภาพพวกนี้พร้อมกับเขม่นตามันส่องแสงสีแดงเลือดออกมาด้วย เขากำลังโกรธ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะไอ้โง่พาร์มีสนั่น!
หลังจากนั้นไม่นานความโกรธของเขาก็ทุเลาลง เขามองมาที่คาร์โนสกับแจ็คเกอร์ ความกังวลถูกส่งผ่านออกมาทางดวงตาของเขา เขาทำได้แค่คร่ำรวญด้วยความเสียใจ โชคไม่ดีเอาซะเลยที่ตอนนี้ลอร์ดเฟิร์ดไม่ได้อยู่ที่นี่!
นักรบชาวมนุษย์ทั้งสองคนนี้มีพรสวรรค์แต่ว่าทักษะการต่อสู้ของพวกเขายังไม่มากพอ แม่ทัพของศัตรูเป็นนักเวทย์เลเวล 14 แถมยังมีนาการะดับตำนานมากมายที่มีความสามารถอันแข็งแกร่ง พวกเขานั้นอยู่คนละระดับกันเลย
แต่ก็ต้องขอบคุณที่พวกเขามีป้อมปราการคอยสนับสนุนไม่อย่างนั้น พวกเขาคงจะไม่สามารถสู้ได้เลย
ในตอนที่พูดถึงลิงค์แจ็คเกอร์ก็พูดออกมา เจ้านายของข้าได้เข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่า แต่ว่าทางหอคอยเวทมนตร์ได้ทำการอัญเชิญเขาแล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาจะกลับมาในอีกไม่นานนี้ แถมสถานการณ์ในตอนนี้ก็ค่อนข้างจะไปในทางที่ดีด้วย พวกเรามีพลังที่ใกล้เคียงกับกองทัพแห่งการทำลาย ครั้งนี้มันดีกว่าครั้งที่แล้วมาก
คาร์โนสเองก็พยักหน้า แจ็คเกอร์พูดถูก พูดตามตรงนะ ครั้งนี้เรามีโอกาสชนะมากกว่า พวกเราอาจจะอ่อนแอกว่า แต่ว่าการสนับสนุนของพวกเรานั้นเป็นข้อได้เปรียบที่พวกมันไม่มี ถ้าเกิดว่าพวกเราสามารถป้องกันการโจมตีระลอกแรกของพวกมันได้ พวกเราก็จะชนะ!
ถ้าเกิดว่าพวกเขาสามารถป้อมกันระลอกแรกได้พวกเขาก็จะสามารถป้องกันระลอกที่สองและสามได้ และยิ่งสงครามยืดเยื้อออกไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น
นี่ฟังดูมีเหตุสมผล,อวาตาร์พยักหน้า
เขามองดูพวกศัตรูเป็นครั้งสุดท้ายและพูดออกมา ดูพวกมันตอนนี้สิ พวกมันดูพร้อมจะโจมตีเข้ามาได้ทุกเมื่อเลย ข้าขอไปตรวจสอบทหารของข้าอีกรอบนึงนะ
ข้าเองก็จะไปเหมือนกัน แจ็คเกอร์พูด
ทั้งสองคนเดินออกไปในขณะที่คาร์โนสสอดแนมอยู่บนกำแพงเขาให้กำลังใจพวกทหารในขณะที่ตรวจสอบอาวุธบนกำแพงไปด้วย ในการต่อสู้ระหว่างกองกำลังขนาดใหญ่ทั้งสองนั้น ต่อให้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็ไม่สามารถละเลยได้ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะช่วยให้ศัตรูนำพาปัญหาอันน่ากลัวหรืออาจจะทำให้ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์เลยก็ได้
ในขณะที่ป้อมโอริด้าเตรียมพร้อมแล้วกองทัพแห่งการทำลายเองก็ไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนกัน นากานักบวชเดินไปรอบๆ ให้พรพวกนักรบ, พวกปีศาจตะโกนโหวกเหวกด้วยภาษาของพวกเขาวางแผนเส้นทางที่เฉพาะเจาะจงในการโจมตีป้อมปราการ ส่วนนักเวทย์กับนักธนูดาร์กเอลฟ์เองเก็บออมเรี่ยวแรงของพวกเขาเอาไว้สำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง
มีเต็นท์ขนาดใหญ่อยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่มันเป็นของเจ้าหญิงเอลลี่ ดาร์นาส
ตอนนี้มีคนเข้าออกจากเต็นท์อยู่เรื่อยๆ มีแบบจำลองของป้อมโอริด้าอยู่ที่กลางเต็นท์ ปีศาจ ดาร์กเอลฟ์และนากายืนล้อมรอบมันอยู่ และกำลังพูดคุยเกี่ยวกับกลยุทธ์
การพูดคุยนั้นฮึกเหิมมากมันฟังดูเหมือนกับการเถียงกันเลย ยูจิน ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงเอลลี่ไปแล้ว นั่งอยู่ที่ด้านข้าง เธอกำลังรออย่างอดทนเพื่อให้พวกเขาได้แผนการที่แน่นอนออกมา
ประมาณครั้งชั่วโมงต่อมานักบวชโมลิน่าก็เดินมาหา องค์หญิง วันนี้เป็นวันที่อากาศหนาวที่สุดของเดือน และในตอนเที่ยงคืนจะเป็นช่วงที่มืดและหนาวที่สุดของวันค่ะ พวกเราจะโจมตีกันตอนเที่ยงคืน กองกำลังของพวกเราจะใช้พลังได้อย่างเต็มที่ที่สุดในขณะที่พลังของศัตรูจะลดลงต่ำที่สุด มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเรา
ยูจีนพยักหน้า ได้สิ แล้วแผนการหล่ะ? แสดงให้ข้าดูหน่อยซิ
โมลิน่ารีบเอาคัมภีร์ออกมาในทันทียูจินตรวจดูรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น, คำสั่งโจมตี แผนสำรอง และอื่นๆ เขาพิจารณาพวกมันอย่างละเอียด ประมาณ 10 นาทีต่อมา เขาก็พูด กองทัพนักเวทย์ออกมาเร็วเกินไป มันอาจจะดึงดูดความสนใจของพวกนั้นได้ และมันก็เสี่ยงเกินไปด้วย มันควรจะช้าลงกว่านี้
แต่ว่าองค์หญิงถ้าทำแบบนั้นอัตราการสูญเสียของพวกเราจะเพิ่มสูงขึ้นเยอะเลยนะคะ มันจะทำให้มีคนตายไม่ต่ำกว่า 10,000 คน โมลิน่ายอมรับไม่ได้
ข้ารู้เพราะงั้นไปบอกให้พวกมนุษย์สัตว์โจมตีก่อนซะสิ มีอะไรจะแย้งอีกมั้ย?
มนุษย์สัตว์นั้นกล้าหาญแต่หลังจากที่พาร์มีสตาย พวกเขาก็ไม่มีหัวหน้า พวกเขาหลายคนอยากจะกลับไปที่ทุ่งหญ้าสีทองและติดตามราชามนุษย์สัตว์ นี่เป็นกองกำลังที่อาจจะทรยศพวกเขาได้ตลอดเวลา พวกเขานั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้
พวกเขาไม่สามารถฝากความเชื่อใจให้พวกมนุษย์สัตว์ชิงเอาชัยชนะมาได้ดังนั้นพวกเขาจึงเหมาะสำหรับใช้เป็นหน่วยกล้าตาย ในที่นี้ ดาร์กเอลฟ์ นากา และปีศาจพากันเงียบไปหมด พวกเขายอมรับไปโดยปริยาย
จากนั้นยูจินก็พูดต่อ แล้วพวกคนที่ถูกส่งไปที่เกาะรุ่งอรุณกลับมารึยัง?
โมลิน่าส่ายหัว ยังไม่ได้ข่าวจากพวกเขาเลยค่ะ
ยูจินกุมขมับเธอรู้สึกโกรธ แต่ว่าตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว หลังจากที่ได้เป็นหัวหน้ามานาน เธอจึงได้เรียนรู้ที่จะใจเย็นลง พวกนั้นน่าจะเอาข่าวคราวมาให้ตั้งนานแล้วและควรจะกลับมาถึงแล้วด้วย นี่พวกไฮเอลฟ์ไม่ยอมรับค่าชดเชยของพวกเราหรือว่าไม่อยากจะตอบรับกันแน่?
ไม่มีใครสามารถตอบได้เจ้าหญิงเอลลี่นั้นเป็นคนที่ตัดความสัมพันธ์กับไฮเอลฟ์เอง ตอนนี้เธอรู้สึกขาดพลังและส่งคนไปเพื่อขอพันธมิตรเพิ่ม ครั้งที่แล้ว เธอเกือบจะฆ่าราชาไฮเอลฟ์ด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกไฮเอลฟ์จะไม่สนใจพวกเขา
ยูจินโกรธมากกว่าเดิมเธอโยนคัมภีร์ลงพื้นแล้วพูด ช่างมัน, ทำตามแผนต่อไปก็พอ ถึงเที่ยงคืนเมื่อไหร่ก็เริ่มโจมตีได้เลย!
ครับ/ค่ะองค์หญิง! ทุกคนพูด
ยูจินไม่ได้พูดอะไรต่อและกลับไปที่เต็นท์ของเธอ
ในขณะที่มนุษย์และกองกำลังแห่งการทำลายกำลังเตรียมตัวลิงค์ก็กำลังเร่งรีบอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่า ในเทือกเขาเฮงดวนที่อยู่ทางทิศตะวันตกของป่าทมิฬ ที่นั่นมีหุบเขาอยู่ และอยู่ๆก็มีหมอกหนาสีขาวปรากฏขึ้นที่นั่น มันหนามากจนไม่มีใครเห็นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในหุบเขา