Chapter
นักฆ่าที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองนั้นจะสามารถพุ่งไปข้างหน้า3 เมตรได้ในพริบตา!
ตอนนี้แอนนี่อยู่ห่างกับยูจินแค่ 3 ฟุตเท่านั้น
พูดอีกนัยนึงก็คือยูจินไม่มีเวลาตอบโต้กับการลอบโจมตีของเธอเลย เธอจะถูกฆ่าในพริบตา!
ยูจินมีความสุขมากในตอนที่เห็นอุกกาบาตขนาดใหญ่ทำลายกองทัพมนุษย์ในป้อมโอริด้ายังไงก็ตาม ความสุขที่เธอรู้สึกได้ไม่นานก็ตามมาด้วยความตกใจ ซึ่งมันทำให้เขาผิดหวัง หลังจากหลายศตวรรษที่เขาเที่ยวอาละวาดไปทั่วภพนี้ ทำไมช่วงนี้เรื่องมันถึงไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเลยหล่ะ?
ถ้าเกิดว่าร่างของเขาถูกทำลายเธอก็แค่ต้องไปหาตัวทดแทนใหม่ ยังไงก็ตามไม่ว่านักฆ่าจะเร็วแค่ไหน สถานการณ์ของยูจินก็ยังไม่สิ้นหวัง มันยังมีความช่วยเหลือจากนากานักบวชโมลิน่าอยู่
ห่างออกไป100 ฟุต โมลิน่าสัมผัสได้ถึงตัวตนของแอนนี่ก่อนยูจิน
ทุกคนในกองทัพแห่งการทำลายนั้นต่างก็อยู่ในสภาวะตื่นตัวเนื่องจากการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่สายตาของพวกเขากวาดไปมา เพื่อมองหาอันตรายที่อาจจะเข้ามาได้ในทุกทิศทาง แม้กระทั่งนักฆ่าระดับตำนาน, ก็ยังลอบเข้ามาในสถานที่แบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ ที่เจ้าหญิงแอนนี่สามารถมาได้ถึงขนาดนี้, มันมาจากการผสมผสานของดวงและพรสวรรค์
ในตอนที่ยูจินเหมือนจะหมดหวังแล้วแสงสีแดงเข้มก็ถูกยิงออกจากมือของโมลิน่าพุ่งไปทางยูจิน
วังวนทำลายล้าง!
แม้ว่ามันจะมีชื่อเหมือนกับเวทย์โจมตีแต่มันสามารถใช้ป้องกันได้ด้วย ในชั่วพริบตา แสงสีแดงก็ปกคลุมทั่วทั้งตัวของยูจิน จากนั้นมันก็หมุนอยู่ห่างจากตัวของยูจินครึ่งฟุตเหมือนกับพายุหมุนสีแดง
เจ้าหญิงแอนนี่สัมผัสถึงเวทย์ทำลายล้างนี้ได้ในทันทีที่มันถูกใช้งานเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอถูกพายุหมุนรอบๆยกขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เธอก็เห็นว่ามีรอยปริเกิดขึ้นบนชุดเกราะหนังของเธอ ผมของเธอถูกตัดออกไปทีละนิด และยังมีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนผิวหนังส่วนเปลือยเปล่าที่สัมผัสกับลมด้วย
ที่หางตาแอนนี่เห็นว่าหินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนพื้นนั้นถูกลมปั่นเป็นผุยผงในทันที ร่างกายของปีศาจธรรมดาที่ยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเองก็เช่นกัน พวกมันล้มลงกับพื้นก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
ดักแด้เงา!
ออร่าต่อสู้เงาเริ่มแผ่ออกมารอบตัวแอนนี่พริบตาต่อมา เธอก็แปลงร่างกลายเป็นเงา
ด้วยพลังของเทคนิคการต่อสู้นี้ผลของวังวนทำลายล้างก็ถูกทำให้ไร้ผลไปชั่วชณะแม้กระทั่งลมที่พัดผ่านเธอก็ยังไร้พิษสง ในที่สุดร่างกายของแอนนี่ก็กลับมาขยับได้เหมือนปกติ
แค่ดักแด้เงาอย่างเดียวอาจจะไม่พอที่จะทำให้แอนนี่ฝ่าไปถึงตัวยูจินได้เธอยังต้องป้องกันตัวเองจากการขัดขวางของใครก็ตามที่มาจากกองทัพแห่งการทำลายด้วย
ในขณะที่พุ่งไปหายูจินแอนนี่ก็ยกมือข้างซ้ายขึ้นมา ในชั่วพริบตา ปืนเวทมนตร์ขนาดใหญ่ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้น ด้วยหางตาของเธอ เธอเล็งเป้าและใช้งานผนึกของปืนเวทมนตร์ และรัวกระสุนใส่โมลิน่าโดยไม่ลังเล
ปังปัง ปัง ปัง ปัง ปัง! กระสุน 6 นัดพุ่งจากรังเพลิงไปหาโมลิน่าพร้อมกัน
ปืนเวทมนตร์นี้เป็นผลงานจากโรงงานอักขระทองคำมันเป็นรุ่นสั่งทำพิเศษสำหรับแอนนี่ เธอลงทุนกับมันไปมาก เนื่องจากสถานะเจ้าหญิงของเธอ นักเวทย์ระดับตำนานในเฟิร์ดจึงเป็นคนลงมือสร้างปืนนี้ขึ้นมาให้โดยเฉพาะ ปืนนี้มีชื่อว่า‘ประกายแสง’ ด้วยอัตราการยิงที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าแล็บ มันสามารถยิงกระสุนหมดแม็กกาซีนได้ในชั่วพริบตา ซึ่งกระสุนแต่ละนัดนั้นมีพลังทำลายเทียบเท่าเลเวล 9!
ในฐานะที่เป็นนักบวชของเทพแห่งการทำลายโมลิน่ามีหน้าที่แค่สนับสนุนกองทัพในการต่อสู้ ดังนั้นในการเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ เธอจึงตื่นตระหนกในทันที ตอนนี้เธอถูกบังคับให้ป้องกันการโจมตีของแอนนี่ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการปล่อยให้ยูจินต้องโดนการลอบโจมตีจากแอนนี่ก็ตาม
นี่เป็นแผนการขั้นแรกของเจ้าหญิงแอนนี่ยังไงก็ตาม มันยังไม่มากพอ ตอนนี้เธออยู่ในส่วนลึกของดินแดนศัตรู เธออาจจะถูกสมาชิกที่แข็งแกร่งของกองทัพแห่งการทำลายล้อมได้ทุกเมื่อ
ด้วยการดีดนิ้วแอนนี่ก็เก็บปืนเวทมนตร์ที่มือของเธอ จากนั้นบอลคริสตัลก็ปรากฏขึ้นมาแทนที่ ดูเหมือนว่ามันจะบรรจุไปด้วยของเหลวสีขาวนม ในขณะที่ภายนอกของมันถูกสลักด้วยรูนเวทมนตร์มากมาย
แอนนี่เอานิ้วไปสัมผัสหนึ่งในรูนพวกนี้เบาๆแล้วของเหลวสีขาวนมก็เริ่มเดือดข้างในบอลคริสตัล จากนั้นมันก็เริ่มเปล่งแสงออกมา
บอลคริสตัลนี้ก็เป็นของที่สั่งทำขึ้นมาเหมือนกันของเหลวที่อยู่ข้างในนั้นคือพลังแสงอรุณเลเวล 10 ที่สกัดเอาไว้อย่างเข้มข้น ซึ่งแอนนี่มีลูกบอลคริสตัลแบบนี้อยู่ในครอบครองถึง 3 ลูก
ตอนนี้แอนนี่อยู่ห่างจากยูจินแค่1 ฟุต เธอเห็นว่ายูจินพึ่งจะสัมผัสได้ถึงตัวตนของเธอและกำลังจะร่ายเวทย์ป้องกันตัวเอง ยังไงก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการร่ายเวทย์อะไรมันก็ต้องใช้เวลากันทั้งนั้น แต่ก็โชคไม่ดีที่ มันคือสิ่งที่ยูจินไม่มีในตอนนี้
แอนนี่อยู่ใกล้กับยูจินมาก,มันอยู่ในระยะที่แค่ยื่นมือออกไปก็แทงหัวใจของยูจินได้แล้ว
และโดยไม่สนสิ่งอื่นใดแอนนี่ก็โยนลูกบอลคริสตัลขึ้นฟ้า สิ่งที่อยู่ในใจเธอ ณ ตอนนี้มีแค่อย่างเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ:ปลิดชีวิตยูจิน
ด้วยเสียงฟู่ววบอลคริสตัลก็ระเบิดออก ในชั่วพริบตา แสงสีขาวแสบตาก็สว่างขึ้นกลางอากาศ เธอได้หลับตาเตรียมเอาไว้แล้ว เธอพุ่งไปหาเป้าหมาย, โดยพึ่งพาแค่ทักษะการฟังที่แม่นยำและการคาดเดาตำแหน่งของเป้าหมายโดยอิงจากตำแหน่งเดิม
อ้าก! ตาของข้า!
ไม่นะข้ามองไม่เห็นอะไรเลย!
เกิดอะไรขึ้น?
พอรู้สึกตัวว่ายูจินกำลังตกอยู่ในอันตรายนักรบทุกคนในกองทัพแห่งการทำลายก็มารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือเธอในทันที ยังไงก็ตาม ไม่มีพวกเขาคนไหนที่คิดว่าจะถูกโจมตีทางสายตาอย่างฉับพลันเช่นนี้
โดยปกติแล้วนากา,ปีศาจและดาร์กเอลฟ์จะชินกับแสงสลัวและแพ้แสงที่สว่างมากๆ ซึ่งผลก็คือ พวกเขาถูกทำให้ตาบอดไปชั่วคราวจากระเบิดกลางอากาศนี้ ภายในความวุ่นวายแอนนี่รู้สึกว่ามีดต้านทานเวทมนตร์ของเธอได้แทงทะลุเนื้อผ้าก่อนที่มันจะพุ่งไปถึงผิวหนังที่อยู่ข้างใน
ผิวหนังของยัยนี่บอบบางมีก้อนเนื้อหนาๆอยู่ถัดจากเนื้อผ้า มันหนามาก นี่จะต้องเป็นหน้าอกของมันแน่ๆ และถัดจากนั้นก็ต้องเป็นซี่โครง ข้าว่าหมุนมีดซักหน่อยน่าจะดีกว่า ข้าจะได้แทงให้มันทะลุช่องว่างระหว่างซี่โครงแล้วก็…นั่นแหละ ข้ามาถึงหัวใจของมันแล้ว
กระบวนการนี้ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเจ้าหญิงแอนนี่มีทักษะการแทงหน้าอกมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ตอนที่เธอได้เข้าร่วมเป็นนักฆ่าในหน่วย MI3 แล้ว เธอเคยฆ่าคนไปมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นดาร์กเอลฟ์ มือของเธอเคยฆ่าดาร์คเอลฟ์ไปมากกว่าพันคนแล้ว
เธอคุ้นเคยกับความรู้สึกในตอนที่ใบมีดแทงเข้าไปในเนื้อของดาร์กเอลฟ์และแรงต้านในขณะที่แทงเป็นอย่างมากต่อให้เธอหลับตาอยู่ เธอก็ยังสามารถบอกได้ว่าเป้าหมายของเธอนั้นได้รับความเสียหายจากคมมีดของเธอมากขนาดไหน
หัวใจของเธอถูกแทงแล้วมันน่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆอย่างแน่นอนถ้าข้าใส่พลังเพิ่มเข้าไปอีกซักเล็กน้อย นั่นแหล่ะ เสร็จงานแล้ว ตอนนี้ข้าควรถอยได้แล้ว!
ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้,เธอน่าจะโดนล้อมและไม่สามารถหนีออกไปได้อีก
แอนนี่ดึงมีดออกและลืมตาขึ้นแสงจากบอลคริสตัลยังคงสว่างทั่วทั้งพื้นที่ ความสว่างของมันไม่ได้ลดลงเลย ด้วยความที่เป็นมนุษย์ แอนนี่แค่ต้องหรี่ตาเพื่อทนรับแสงที่รุนแรงเช่นนี้
ออร่าต่อสู้เงาเริ่มพุ่งออกมาจากร่างของแอนนี่มันเริ่มมัวลงและกลายเป็นหมอก ในตอนที่แสงหายไป เธอก็ค่อยๆหายตัวเนียนไปกับสภาพแวดล้อมรอบๆอย่างเงียบเชียบ
แอนนี่ตัดสินใจที่จะอยู่ในป่าทมิฬต่อไปอีกซักพักแทนที่จะตรงกลับป้อมโอริด้าเลยซึ่งนี่เป็นเพราะการที่เธอตรงกลับเลยมันจะไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าศัตรูจะคาดการณ์เอาไว้แล้ว
ในตอนที่แสงสว่างจ้าบนท้องฟ้าหายไป,แอนนี่ก็ออกห่างจากกองทัพแห่งการทำลายมาได้ 300 ฟุตแล้ว
ตู้มตู้ม ตู้ม!
มีเวทมนตร์มากมายพุ่งออกมาจากกองทัพแห่งการทำลายก่อนที่จะตกลงไปยังช่องว่างระหว่างกองทัพและป้อมโอริด้าด้วยความที่ไม่เห็นตัวนักฆ่า เวทย์ขนาดใหญ่จึงถูกใช้เพื่อไล่ให้นักฆ่าออกมาจากเงามืด
ยังไงก็ตามแอนนี่คิดเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องทำแบบนี้ ตอนนี้เธอออกห่างจากระยะโจมตีของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว
หลังจากที่อ้อมผ่านป่ามาในที่สุดแอนนี่ก็กลับมาถึงป้อมปราการ ในตอนที่เข้ามาในกองบัญชาการของป้อม เธอก็รีบทักเหล่านายพลทั้งหลายในทันที
องค์หญิงเป็นยังไงบ้างครับ? นายพลคนนึงถามขึ้นมา
ความเย็นชาและความมุ่งมั่นในระหว่างที่เธอไปลอบสังหารยูจินนั้นยังไม่หายไปจากใบหน้าของเธอ ข้าแทงเข้าไปที่หัวใจของเจ้าหญิงดาร์กเอลฟ์ได้ หัวใจของเธอแหลกสลายอย่างสมบูรณ์แล้ว ต่อให้เธอรอดมาได้ เธอก็ยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี ในตอนนี้ เธอคงไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราแล้วหล่ะ
นี่ถือเป็นข่าวที่ดีสุดๆไปเลยครับ!
องค์หญิงท่านเป็นคนช่วยป้อมปราการแห่งนี้เอาไว้!
ทุกคนในกองบัญชาการต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจ้าหญิงดาร์กเอลฟ์นั้นอันตรายเกินกว่าที่จะปล่อยให้มีชีวิตอยู่ได้ พวกเขาอาจจะไม่รอดถ้าตอนนี้เธอร่ายเวทย์ระดับตำนานออกมาอีกครั้ง ทั่วทั้งตอนใต้ของภพนี้จะต้องปกคลุมไปด้วยเพลิงสงครามอย่างแน่นอนถ้าเกิดป้อมโอริด้าแตก
ในตอนนี้แอนนี่ไม่ได้ใจเย็นเหมือนปกติ เธอพูด มันยังเร็วเกินกว่าที่จะฉลองในตอนนี้อย่าลืมเรื่องอุกกาบาตสิ้นโลกก่อนหน้านี้สิ พวกเราไม่ได้ต่อสู้กับแค่กองทัพแห่งการทำลาย มันยังมีศัตรูที่น่ากลัวกว่ากำลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืดในขณะที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่นี้
รับทราบครับ บางคนขานรับและพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
แล้วตอนนี้พวกเขาจะเอายังไงต่อดี?อีกฝ่ายมีนักเวทย์ที่น่าเกรงขามมากมาย ซึ่งมนุษย์ในป้อมโอริด้าก็เช่นกัน แต่ตอนแรกพวกเขาค่อนข้างจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองว่าจะป้องกันกองทัพแห่งการทำลายได้, และเลือกที่จะไม่รับการสนับสนุนจากเวทมนตร์จากเฟิร์ด
สถานการณ์ของพวกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากพวกเราต้องขอความช่วยเหลือจากเฟิร์ดแล้วหล่ะ
ตอนนี้เฟิร์ดมีนักเวทย์ระดับตำนาน4 คน ซึ่งเป็นขุมพลังที่ยากจะต่อกรด้วย
แอนนี่ไม่สามารถคิดทบทวนในเรื่องนี้ได้อีกเธอเดินไปยังฐานที่มั่นใจกลางป้อมโอริด้า ที่ๆร่างของคาร์โนสนอนอยู่
เธอเห็นแพทย์ประจำป้อมปราการยืนแออัดกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของป้อมและพยายามรักษาผู้เสียสละ มีร่างถูกวางเอาไว้ที่ใจกลางห้องโถงใหญ่ 3 ร่าง
พวกเขาคือนักรบระดับตำนานที่พยายามรับแรงกระแทกจากอุกกาบาตสิ้นโลกสภาพของคาร์โนสนั้นสาหัสที่สุด แขนทั้งสองข้างได้รับความเสียหายอย่างมาก ส่วนต่างๆของร่างกายเขาบิดเบี้ยวจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง
ที่น่าแปลกคือกลุ่มแพทย์และนักบวชกำลังรวมตัวกันอยู่รอบๆร่างของคาร์โนส ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำการฟื้นคืนชีพอยู่ พวกเขาเย็บแผลและร่ายเวทย์รักษาใส่เขา
หรือว่าจริงๆแล้วคาร์โนสยังไม่ตาย?ตอนนี้แอนนี่ดีใจมาก อยู่ๆโลกทั้งใบของเธอก็สว่างสดใสขึ้น เธอรีบเดินไปทางนั้นในทันที แล้วถามขึ้น เป็นยังไงบ้าง?
แพทย์คนนึงที่กำลังยุ่งอยู่กับการเย็บแผลของคาร์โนสตอบกลับมาโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น ไม่ดีเลยครับ แต่ว่าท่านแม่ทัพมีร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้นมันยังพอมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตเขาได้อยู่ แต่มันก็ยังเร็วเกินกว่าที่จะบอกได้ว่าเขาจะรอดจริงๆรึเปล่า
พอได้ยินแบบนี้แอนนี่ก็ดีใจมากเธอยืนอยู่ที่มุมนึงของห้อง และเฝ้าดูแพทย์กับนักบวชทำการผ่าตัดคาร์โนสอย่างเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เธอถามหนึ่งในนักบวชแสงที่ยืนอยู่ตรงมุม ทำไมเจ้าไม่ใช้เวทย์รักษาใส่เขาหล่ะ? ที่แขนของแม่ทัพยังมีเลือดไหลอยู่เลยนะ
นักบวชแสงยิ้มอย่างอ่อนแรง ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าพลังของข้าจะถูกดูดไปอย่างรวดเร็วและตอนนี้มันก็ยังฟื้นฟูไม่เต็มเลยครับ
มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ทำไมพวกเจ้าถึงไม่บอกอะไรเลยหล่ะ? แอนนี่ตกใจ
มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่สงครามเริ่มขึ้นแล้วครับพวกเราไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้หัวหน้านักบวชกำลังทำการสวดอ้อนวอนขอคำตอบอยู่ในห้องอธิษฐาน นักบวชแห่งแสงพูดด้วยสีหน้าจนปัญญา
ในตอนนั้นเองหัวหน้านักบวชก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ในตอนที่แอนนี่เห็นเขา เธอก็สัมผัสได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สีหน้าของหัวหน้านักบวชซีดมากตอนนี้เขาเดินมาหาพวกเธออย่างไม่มั่นคง และดูเหมือนว่าเขาจะแก่ตัวลงอย่างมาก นักบวชที่หนุ่มที่สุดคนนึงรีบวิ่งไปพยุงเขาอย่างรวดเร็ว
ท่านหัวหน้านักบวชเกิดอะไรขึ้น? แอนนี่ถาม
สีหน้าของชายแก่นั้นแย่มาก ข้าสัมผัสถึงตัวตนของพระองค์ท่านไม่ได้เลย ไม่ว่าข้าจะสวดภาวนาไปมากแค่ไหน ทั้งหมดที่ข้าสัมผัสได้ก็คือความมืดและพลังอันน่ากลัว ทำไมกันนะ….มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?
มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง!? แอนนี่อุทาน