Chapter
ท้องฟ้าอันมืดมิด
มีร่างอยู่สองร่าง—ร่างนึงเป็นแสงสว่างอีกร่างเป็นความมืด—กำลังพัวพันกันด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่ออาวุธของพวกเขาปะทะกันด้วยความถี่ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ในทุกๆครั้งที่พวกเขาชนกัน, อากาศจะสั่นสะเทือน บรรยากาศนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับพื้นผิวทะเลที่อยู่ท่ามกลางพายุ
การต่อสู้ที่รุนแรงนี้ไม่มีเสียงเลยมันมีแค่อากาศสั่นสะเทือน, กับมีแสงวาบเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง
เดี๋ยวช่วยนะ! เอเลียร์ดตะโกน เขามองสถานการณ์ได้ชัดเจนกว่าดิโลเซ่น ลิงค์สามารถขัดขวางการโจมตีของมอร์เฟียสได้, แต่ครึ่งเทพคนนี้ถือไพ่เหนือกว่าเขา ตอนนี้ลิงค์กำลังดิ้นรนอยู่ที่สุดเขตแห่งความตาย
แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าการโจมตีไม่ได้เล็งไปที่ลิงค์เป้าหมายเดิมก็คือดิโลเซ่น, แต่ลิงค์ได้เปลี่ยนทิศทางการโจมตีและขวางมอร์เฟียสเอาไว้
ในบรรดาพวกเขาสามคน,มีแค่ลิงค์คนเดียวที่เชี่ยวชาญทั้งเวทมนตร์และศิลปะการต่อสู้ในระดับที่สามารถขวางมอร์เฟียสได้ ถ้าเอเลียร์ดหรือดิโลเซ่นเข้าใกล้มอร์เฟียส, พวกเขาก็คงจะถูกฆ่าในทันที!
ตอนนี้,ลิงค์กำลังยื้อมอร์เฟียสเอาไว้ให้อยู่ มันเป็นโอกาสที่เหมาะเหม็งที่สุดในการที่พวกเขาจะเอาชนะมอร์เฟียส—และเป็นแค่โอกาสเดียวด้วย!
ในขณะที่ตะโกน,เอเลีย์ดก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล
คทาสีทองเข้มปรากฎขึ้นที่มือขวาของเขามันคืออุปกรณ์เวทมนตร์ระดับตำนานจากโรงงานอักขระทองคำ, มันมีชื่อว่าเทวทูตปีกหัก เขาออกแบบมันด้วยตัวเองและเขาได้ใช้ทรัพยากรส่วนของตัวเองทั้งหมด เขาถึงกับยอมใช้เครดิตของตัวเองด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือของลิงค์และเอวิเลน่าด้วย ตอนนี้, คทานี้ยังไม่สมบูรณ์, แต่มันก็มีเลเวล 12 แล้ว
มีประกายแสงสว่างขึ้นที่มือซ้ายของเขาจากนั้นหินรูนสองชิ้นก็ปรากฎขึ้น โดยชิ้นนึงเป็นคริสตัลไร้กายในขณะที่อีกชิ้นเป็นหินเวทมนตร์บริสุทธิ์ ลิงค์ได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อการเดินทางครั้งนี้โดยเฉพาะ
บ่วงวิญญาณ! ในชั่วพริบตา, หินรูนก็สว่างวาบ มีลำแสงสีเหลืองทองถูกยิงออกมาแล้วเลื้อยไปทางมอร์เฟียส
บ่วงวิญญาณ
เวทย์วิญญาณเลเวล14
พลังงานที่ใช้:29,000 แต้ม (ตอนนี้อยู่ในโหมดจัดเก็บพลังงาน)
ผล:หลังจากที่เปิดใช้, พลังงานลึกลับจะปกคลุมรอบวิญญาณของเป้าหมายและยับยั้งการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้ อาการเฉพาะเลยก็คือวิญญาณจะไม่สามารถหนีได้, เป้าหมายจะตอบสนองได้ช้าลง, ความทรงจำของพวกเขาจะเสื่อมสภาพ, และตกอยู่ในสภาพสับสนในที่สุด
(หมายเหตุ:มันจะพันธนาการวิญญาณของเจ้า)
ในตอนที่บ่วงวิญญาณปรากฎขึ้น,มอร์เฟียสกำลังใช้พลังทั้งหมดในการยับยั้งลิงค์เอาไว้ ในความเป็นจริงนั้น, เขาอยากจะฆ่าลิงค์, แต่หลังจากผ่านไปสองวินาที, เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาทำไม่ได้จริงๆ
เขารวดเร็วและแข็งแกร่งกว่าลิงค์,แต่เทคนิคการต่อสู้และความอดทนของลิงค์สูงกว่า ดาบของลิงค์นั้นเปรียบเสมือนกับมังกร กัน, จ้วง, ฟัน, เฉือน, และกวาดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการเคลื่อนไหวที่พื้นฐานที่สุดและชัดเจนที่สุด แต่เมื่อนำพวกมันมารวมกัน, มันก็จะเกิดเป็นลำดับการโจมตีที่มากมายจนน่าเหลือเชื่อ
บางช่วงของการเคลื่อนไหวนั้นได้ปลดพลังของเขาออก,ทำให้มอร์เฟียสรู้สึกว่ามีดของเขาแทงเข้ากับบอลฝ้าย
ส่วนการเคลื่อนไหวอื่นๆนั้นได้ผ่านการคาดการเอาไว้,ทำให้มอร์เฟียสรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในป่ากับดักที่มีงูพิษพร้อมออกมาฉกได้ทุกเวลา เขาไม่กล้าที่จะเปลี่ยนไปสนใจอย่างอื่นเลย
ถ้าศัตรูของเขามีแค่ลิงค์คนเดียวเขาก็น่าจะยังเอาตัวรอดจนครบสิบวินาทีได้ ถึงเขาจะรีบฆ่าลิงค์ไม่ได้ แต่พอพลังกลับมา, เขาก็สามารถจัดการลิงค์ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ได้อยู่ดี
แต่ว่าเขามีศัตรูอยู่สามคน!
แสงสีทองปรากฎขึ้นข้างหลังมอร์เฟียสอย่างกระทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว, มันก็ปกคลุมรอบตัวเขา เขารู้สึกว่าจิตใจของเขากำลังสั่นระรัวและจากนั้นมันก็เหมือนกับมีบอลนุ่นยัดอยู่ข้างใน การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงด้วย ซึ่งมันทำให้ป้องกันการโจมตีของลิงค์อยากขึ้นไปอีก และความอันตรายก็เพิ่มสูงขึ้น
เขาเป็นครึ่งเทพแต่พอตอนนี้ถูกลดพลังจนกลายเป็นนักฆ่าเลเวล 15 ธรรมดาแบบนี้,เขาคงจะตายจากการโจมตีของลิงค์อย่างแน่นอน
ไอ้นักเวทย์บัดซบ!เห็นได้ชัดว่าเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขา เขาอยากจะฆ่านักเวทย์ที่ลอบโจมตีเขาจริงๆ, แต่ในตอนนั้นเองลิงค์ก็โจมตีเข้ามาด้วยพละกำลังที่ฟื้นฟูกลับมาใหม่ เขาไม่สามารถหนีได้เลย
อย่างไรก็ตาม,มอร์เฟียสยังมีลูกไม้อื่นอยู่
หมอก! แสงสีดำสั่นสะเทือนรอบตัวเขา ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, หมอกดำก็พุ่งมาจากฟ้าตรงมาทางเขา พวกเขาเชื่อมต่อกันและสะบั้นลำแสงสีทองที่อยู่รอบตัวเขา!
ในตอนนั้นเอง,การแจ้งเตือนในตัวมอร์เฟียสก็ดังขึ้น ด้วยการใช้ประสบการณ์ต่อสู้ที่สั่งสมมานานของเขา, เขาก็ขยับออกด้านข้าง, แล้วหันศรีษะหลบ ในเวลาแทบจะพร้อมกันนั้น, แสงสีเงินอันคมกริบก็แฉลบผ่านใบหน้าของเขา, พร้อมกับเลือดสีทองเข้มที่เปล่งแสงสีดำออกมา มันคือคมดาบของลิงค์!
การเคลื่อนไหวนี้อันตรายสุดๆถ้าเขาช้าไปกว่านี้แค่นิดเดียว, ศรีษะของเขาคงจะไปอยู่ที่อื่นแล้ว
หลังจากที่อันตรายนี้ผ่านพ้นไป,อันตรายอีกระลอกก็เข้ามา
สนามพลังยับยั้ง! นี่คือเวทย์ไร้กายจากเอเลียร์ด!
กระชากวิญญาณ! นี่มาจากดิโลเซ่น เขาใช้เวทย์วิญญาณ ตอนนี้มันชัดเจนแล้ว—ถ้าพวกเขาสามารถรบกวนสมาธิของมอร์เฟียสได้, ลิงค์ก็จะฆ่าเขาได้ ดังนั้น, การโจมตีใส่วิญญาณจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตอนนี้
เวทย์ของผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานทั้งสองคนได้โจมตีใส่มอร์เฟียสทั้งจากภายในและภายนอกพร้อมกัน
เขาตัวสั่นอย่างรุนแรงการเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอีกครั้ง มันช้าลงไปแค่หนึ่งส่วนสิบของวินาที, แต่ถ้ามันเป็นการเผชิญหน้ากับลิงค์, ก็เชิญรอรับความตายได้เลย ผลลัพธ์ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
ครืนดาบส่งเสียงครืนอย่างนุ่มนวล ลำนำจันทร์เต็มดวงเปล่งแสงอันหนาวเหน็บออกมา ริ้วของ ‘แสงจันทร์’ วนรอบร่างของมอร์เฟียส หลังจากนั้น, ลิงค์ก็พุ่งผ่านมอร์เฟียสไปแล้วหันกลับมามองแผ่นหลังของมอร์เฟียส
ตอนนี้มอร์เฟียสขยับตัวไม่ได้แล้วมีแสงสีเงินอ่อนพันรอบตัวเขาเอาไว้อยู่ จากที่ไกลๆ, มันดูเหมือนกับรอยแตกในกระจก หลังจากผ่านไปสองวินาที, เขาก็หันมาหาลิงค์อย่างช้าๆและพูดออกมาในที่สุด น้ำเสียงของเขาแหบแห้งและอ่อนแรง
ในตอนที่ข้าเห็นเจ้าเป็นครั้งแรก,ข้าก็รู้สึกได้ถึงอันตรายแล้ว, แต่ข้าไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตายด้วยน้ำมือเจ้า
ครืด!ลิงค์เก็บดาบเข้าฝัก การเคลื่อนไหวนี้ได้ทำลายความหวังในการมีชีวิตอยู่ทั้งหมดของมอร์เฟียส ที่ตอนนี้เขายังพูดได้อยู่ก็เพราะผลสะท้อนของการโจมตียังไม่เกิดขึ้นเท่านั้น ฉันกลัวแค่ชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ที่แกมีเท่านั้นหล่ะฉันไม่เคยมองแกเป็นศัตรูมาตั้งแต่แรกแล้ว ลิงค์มองมอร์เฟียสแค่ในฐานะคนที่โชคดีมากๆคนนึงเท่านั้น, และความคิดนี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนไป มอร์เฟียสไม่ใช่ผู้ปกครองชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์—เขาเป็นทาสของมันต่างหาก!
มอร์เฟียสถอนหายใจน้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนร้องไห้และหัวเราะออกมาพร้อมกัน ในตอนที่ข้าได้รับชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์มา ข้าคิดว่ามันคือพร แต่ 100 ปีต่อมา, ข้าก็ตระหนักได้ว่ามันคือคำสาปต่างหาก ใครก็ตามที่ได้มันไปจะต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน ตอนที่ได้ยินครั้งแรกข้าไม่เชื่อหรอก ข้าคิดว่าข้าเป็นคนพิเศษและหลุดพ้นจากห่วงโซ่ของชะตากรรมแล้ว หึหึ, มนุษย์เอ๋ย, ขอให้โชคดีหล่ะ
พอพูดจบ,รอยยิ้มแปลกๆก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา รอยแยกสีเงินที่เหมือนกับใยแมงมุมบนร่างของเขาขยายออก ด้วยเสียงตูม, พลังที่อยู่ในตัวเขาก็สูญเสียการควบคุม, และตัวเขาก็ระเบิด ผู้ติดตามแห่งความมืดมอร์เฟียสที่สร้างความหวาดกลัวไปทุกแว่นแคว้นมาเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีได้ตายไปทั้งแบบนั้น
ในตอนที่ร่างเนื้อของเขาถูกทำลาย,เขตแดนของเขาก็หายไปด้วย เงาที่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหายไป, และแสงอาทิตย์ก็เล็ดรอดเข้ามา
ภายใต้แสงอาทิตย์,ลิงค์, เอเลียร์ด, แล้วก็ดิโลเซ่นกำลังลอยอยู่บนฟ้า พวกเขาต่างก็รู้สึกโล่งอก
การต่อสู้ใช้เวลาแค่ประมาณหกวินาที,แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะถูกฆ่าตายทุกวินาที มันเหมือนกับระบำมรณะ
มันตายแล้วจริงๆใช่ไหม? เอเลียร์ดไม่อยากจะเชื่อ
คงงั้น ดิโลเซ่นยืนยัน จันทราโกลาหลบอกว่าเป้าหมายหายไปแล้ว
ดูสิ,นั่นน่าจะเป็นชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์นะ ลิงค์ชี้ไปที่ปลายสุดของหุบเขา เพราะการต่อสู้นี้,หมอกจึงสลายไปหมด กำแพงที่มีปราสาทอยู่ข้างในปรากฎขึ้นที่ปลายหุบเขา นี่คือรังของมอร์เฟียส: ป้อมเงา