Advent of the Archmage – 670: ฆ่าเทพ 1

670: ฆ่าเทพ 1

Chapter

  ถ้าตอนนี้พวกเขาพร้อมที่จะเดิมพันชีวิตของตัวเอง,พวกเขาก็ควรที่จะลุยด้วยอุปกรณ์ครบครันทั้งชุดเกราะและอาวุธของพวกเขา

  ซึ่งจุดนี้เองที่เป็นปัญหาพวกเขาทั้งสามถูกชิงของต่างๆไปจนหมดในตอนที่ถูกโจรจับ แล้วพวกเขาจะต่อสู้ในสถานการณ์แบบนี้ยังไงหล่ะ? และนี่ก็คือจุดที่เวทย์มิติของลิงค์ได้ใช้ประโยชน์

  โดยไม่รีรอ,หลังจากที่กำจัดภาพหมอกสีขาวของมอร์เฟียสได้แล้ว, ลิงค์ก็จ้วงมือข้างนึงที่ตอนนี้กำลังเปล่งแสงสีเงินเข้าไปในมิติที่อยู่เบื้องหน้าเขา ในตอนที่เขาชักมือกลับมา, ก็มีแหวนมิติสามวงอยู่ที่มือของเขา

   รับไป! ทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่ในแหวนพวกนี้แล้ว

  ลิงค์เอาแหวนวงนึงมาสวมหลังจากนั้นเขาก็ดึงอุปกรณ์ที่มีตัวตนอยู่ในแหวนมิติออกมา ในช่วงเสี้ยววินาที, อุปกรณ์เหล่านั้นก็มาสวมใส่ตามร่างกายของลิงค์ด้วยตัวเอง

  พอหันกลับไป,ลิงค์ก็เห็นว่าทั้งเอเลียร์ดและดิโลเซ่นเองก็แต่งตัวพร้อมลุยแล้วเหมือนกัน

  พวกเขายังมีเวลาอีกเก้าวินาที

   ลุยกันเถอะ! ด้วยการเปิดใช้เดินอากาศ, ลิงค์ก็พุ่งไปทางหน้าผาฝั่งซ้ายสุดของหุบเขา เอเลียร์ดกับดิโลเซ่นตามเข้าไปติดๆ

  ในทันทีที่พวกเขาไปถึงหน้าผา,ลิงค์ก็หันกลับมาแล้วเห็นว่าหัวหน้าโจรกับกลุ่มของเขายังคงรออยู่ที่ทางเข้าหุบเขา พวกเขามองมาที่ลิงค์ด้วยความสับสน

  หัวหน้าโจรมีพลังเลเวล8 เขายังนับเป็นตัวปัญหาอยู่

  ด้วยการจ้องไปทางหัวหน้าโจร,ลิงค์ก็เหวี่ยงดาบลำนำจันทร์เต็มดวง ทันใดนั้นเอง, เขาก็ปล่อยพลังที่มีลักษณะเหมือนจันทร์เสี้ยวยาว 30 ฟุตออกไป, ซึ่งมันพุ่งผ่านหุบเขา3,000 ฟุตไปทางหัวหน้าโจรอย่างเงียบๆ

  ฟิ้ว…ฟิ้ว…ฟิ้ว…พวกโจรที่ทางเข้าหุบเขา, ซึ่งยังร่างกายติดกันดีอยู่เมื่อครู่ก่อนถูกพลังปริศนาผ่าเป็นชิ้นๆก่อนที่พวกเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรโจมตีพวกเขา

  พอหันกลับมาอีกครั้ง,ลิงค์ก็เห็นว่าที่ระยะห่างออกไปไม่กี่พันฟุต, มีควันหนากำลังลอยขึ้นไปบนฟ้า จากนั้น, ควันสีดำก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเหนือหัวพวกเขา, และค่อยๆบดบังแสงอาทิตย์ไปจนกระทั่งหุบเขามืดเหมือนตอนกลางคืน

   มันกำลังเปิดใช้เวทย์แห่งกฏภพเงามืดระวังตัวด้วย, นี่คือเทคนิคเลเวล 15! มันยังมีพลังเลเวล 15 อยู่!  ดิโลเซ่นตะโกน

  จันทราโกลาหลนั้นสามารถยับยั้งพลังลงไปได้5 เลเวล ถ้าอิงตามนี้, มอร์เฟียสควรจะมีเลเวลเหลือแค่ 14 อย่างไรก็ตาม, เขายังครอบครองชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์อยู่, และมันก็ทำให้เขาลดผลของจันทราโกลาหลลงไปได้เล็กน้อย

  นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย!   เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเวลา,ลิงค์จะอ่านหนังสือภพศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้มาจากห้องสมุดของเทพแห่งแสง ตอนนี้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับภพตำนานและเวทย์ที่สามารถใช้ได้ในแต่ละเลเวลลึกซึ้งขึ้น

  ในภพตำนานนั้น,ทุกระดับจะมีประตูขั้นอยู่ ประตูแรกที่ต้องข้ามไปก็คือระหว่างเลเวล 14 กับเลเวล 15

  ในหนังสือภพศักดิ์สิทธิ์บอกเอาไว้ว่า,ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเลเวล 14 และต่ำลงมาก็คล้ายกับเด็กทารกแรกเกิด ถ้าเด็กทารกคนไหนมีเลเวลสูงกว่าก็จะแข็งแกร่งกว่ากลุ่มที่มีเลเวลต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม, แก่นแท้พลังของพวกเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี

  ด้วยการร่ายเวทย์ที่รวดเร็วและเทคนิคต่อสู้ถึงตาย,ลิงค์อาจจะมีโอกาสจัดการคนที่มีเลเวลสูงกว่าได้ อย่างไรก็ตาม, ในทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานไปถึงเลเวล 15, พลังที่เขาใช้เวลาทั้งชีวิตสั่งสมมาจะได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก  ผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังระดับตำนานในขั้นนี้จะควบคุมแก่นแท้ของพลังตัวเองได้อย่างเต็มขั้นพูดอีกนัยนึงก็คือ, พวกเขาจะสามารถบิดเบือนกฏธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานขั้นต่ำนั้นอาจจะสามารถรวบรวมพลังเหล่านี้ได้ในส่วนเล็กๆ อย่างไรก็ตาม, พอพวกเขามาถึงเลเวล 15, พวกเขาก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างพรวดพราดในการควบคุมกฏที่ว่านี้

  ภพนั้นเกิดขึ้นมาได้ผ่านการผสมผสานและจับคู่กฏเหล่านี้กับพวกที่มีสิทธิปกครองภพฟิรุแมน

  เงาก็คือเขตแดนของผู้ติดตามเงามอร์เฟียสเขามีความสามารถที่คล้ายกันนี้ในตอนที่อยู่ในเกมส์ด้วย

  ภายในเกมส์,เหล่ามาสเตอร์ที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อไม่ว่าจะเป็นโนโซม่า, มอร์เฟียส, เอเลียร์ด, คาร์โนส, และเหล่าขุนศึกมนุษย์สัตว์นั้นต่างก็มีเขตแดนที่สุดยอดกันทั้งนั้น  ในทันทีที่พวกเขาเปิดใช้ความสามารถนี้,โลกรอบตัวพวกเขาจะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเขาในขณะที่ยับยั้งพลังของศัตรูที่อยู่ในเขตแดน

  ภายใต้สถานะนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานจะได้รับพลังในการต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

  พอเห็นว่าความมืดกำลังรุกคืบมาหาพวกเขาลิงค์ก็พูดกับเอเลียร์ดในทันที  ป้องกันตัวเองเอาไว้! ตอนนี้คิดแค่เรื่องเอาตัวรอดก็พอ! 

  มอร์เฟียสเป็นนักฆ่าครึ่งเทพเขาแข็งแกร่งที่สุดเมื่ออยู่ในเงา ถ้าเขาโจมตีอย่างเต็มกำลังจากในความมืดนั้นเขาคงจะฆ่าเอเลียร์ดได้ในทันที เนื่องจากเขามีเลเวลแค่ 11 และอ่อนแอที่สุดในทีมนี้

  เอเลียร์ดพยักหน้าสิ่งแรกที่เขาทำก็คือร่ายเวทย์ระดับตำนานเลเวล 11 ‘สุดยอดการป้องกัน’ ใส่ตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เอาคริสตัลแห่งความว่างเปล่าออกมา 3 ชิ้นและเปิดใช้งาน ชั้นแสงเริ่มก่อตัวขึ้นที่ร่างของเขา เกิดเป็นม่านคริสตัลหนา 1 ฟุตรอบๆตัว  ในเวลาเดียวกันนั้นเองลิงค์กับดิโลเซ่นก็เตรียมการป้องกันของตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสามคนลอยอยู่กลางอากาศ พวกเขาอยู่ห่างกัน 100 ฟุตในรูปแบบสามเหลี่ยม ด้วยวิธีนี้ ถ้าหนึ่งในพวกเขาตกอยู่ในอันตราย อีกสองคนที่เหลือก็จะให้ความช่วยเหลือได้ทันเวลา

  ณตอนนี้ ท้องฟ้าเหนือหัวพวกเขามืดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว แสงเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ในโลกแห่งความมืดนี้ก็คือแสงจากเวทย์ป้องกันที่ลิงค์และพรรคพวกใช้ใส่ตัวเอง

  แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าพวกเขาจะรออยู่ในความมืดนานแค่ไหน มอร์เฟียสก็ไม่ยอมเผยตัวออกมา!

  ถ้าเกิดว่าเขาตัดสินใจที่จะใช้เวลาอีก10 วินาทีในการซ่อนตัว เขาก็จะกลับมามีพลังเต็มที่ และในตอนนั้น ถ้าเกิดว่าลิงค์กับคนอื่นๆยังหาทางหนีออกจากเขตแดนเงาไม่ได้ พวกเขาก็จะถูกบังคับให้ต่อสู้กับครึ่งเทพเลเวล 19 ซึ่งการปะทะกันในเวลานั้นสิ่งเดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คงจะมีแค่ความตายเท่านั้น   ดิโลเซ่น,มันอยู่ตรงไหน?  ลิงค์ตะโกน ดิโลเซ่นเป็นคนเดียวที่สามารถตามหามอร์เฟียสในความมืดนี้ได้ด้วยการใช้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เลเวล 19

  หัวใจของดิโลเซ่นกำลังเต้นแรง1 วินาทีผ่านไป เขาก็ยังใช้จันทราโกลาหลหาตำแหน่งที่แน่นอนของมอร์เฟียสไม่เจอ

  เขาเริ่มใส่พลังลงไปในจันทราโกลาหลอย่างเต็มที่ตอนนี้มือของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาพึมพำ  ข้าพยายามตามหามันอยู่ แต่เขตแดนของมันทำให้สัมผัสของข้ายุ่งเหยิงมาก! 

  ลิงค์ใช้สมองอย่างเต็มที่ในการคาดเดาการลอบโจมตีของศัตรูจากเงามืด1 วินาที 2 วินาที 3 วินาที….หลายวินาทีผ่านไป แต่ดิโลเซ่นก็ยังหาที่อยู่ของศัตรูไม่เจอ

  ในหมู่พวกเขาไม่เคยมีใครเคยเจอกับคนที่น่ากลัวอย่างมอร์เฟียสมาก่อนเลยสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้เหมือนกับโดนโยนลงไปในบ่อเพลิงที่ไม่มีที่ให้หนี  ลิงค์รู้ว่าจะปล่อยให้ทั้งกลุ่มตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต่อไปไม่ได้การรอให้ดิโลเซ่นตามหาที่อยู่ของมอร์เฟียสนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับตอนนี้ เขาต้องหาวิธีออกจากที่นี่ แต่จะทำยังไงหล่ะ? พวกเขาควรหนีเอาตัวรอดรึเปล่า? ไม่สิ พวกเขายังมีเวลาเหลืออยู่ 6 วินาที ยังพอมีโอกาสอยู่ สิ่งเดียวที่พวกเขาควรจะกังวลสำหรับตอนนี้ก็คือการตามหาตัวมอร์เฟียสให้เจอก่อนที่มอร์เฟียสจะเจอพวกเขา!

  ทันใดนั้นเองลิงค์ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขานึกถึงตอนที่ใช้เวทย์เฉพาะบางอย่างในการปัดเป่าเขตแดนเงาของมอร์เฟียสตอนที่อยู่ในเกม แต่ก็โชคไม่ดีที่นั่นเป็นเวทย์เลเวล 18 ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เขาไม่มีทางที่จะใช้มันได้เลย

  ยังไงก็ตามการที่นึกถึงเวทย์นี้ขึ้นมาได้ก็เหมือนกับกุญแจที่ไปปลดล็อคความทรงจำบางส่วนของลิงค์ขึ้นมา ไม่สิ มันยังมีเวทย์อื่นด้วย มันมีเทคนิคอื่นที่สามารถช่วยให้พวกเราออกจากสถานการณ์นี้ได้…ใช่แล้ว ฉันทำได้แน่!

  ภายในเกมมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้เวทมนตร์ปัดเป่าเขตแดนเงาของมอร์เฟียสได้ ยังไงก็ตาม ด้วยความที่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังต้องจัดการกับเขาอยู่ดี ดังนั้นนักเวทย์บางคนจึงคิดวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงเขตแดนเงาของเขาขึ้นมาได้

  ด้วยความที่มันเป็นเทคนิคที่แยบยลมากๆดังนั้นในการที่จะใช้มัน, คนผู้นั้นจะต้องมีเลเวลอย่างน้อย 14 ซึ่งลิงค์ต้องใช้พลังของตัวเองทั้งหมดในการร่ายมัน

  แต่ลิงค์ก็ไม่ได้ห่วงเรื่องที่ต้องผลาญพลังที่ตัวเองมีอยู่ทั้งหมดไปกับการใช้เวทย์นี้เพราะเขายังคงมีหินเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งมากๆอยู่ในกระเป๋า: คริสตัลพลังงานที่สามารถเติมพลังงานของเขาได้หลังจากที่ใช้มัน!

  ในตอนนั้นเองเอเลียร์ดเห็นว่าดิโลเซ่นยังคงง่วนอยู่กับจันทราโกลาหล เขารู้ว่าชายคนนี้จนปัญญาแล้ว

   ลิงค์พวกเราควรถอยไหม?  เอเลียร์ดตะโกน

  ลิงค์ส่ายหัว ไม่, ยังพอมีโอกาสอยู่ ดูเวทย์ของฉันให้ดีๆหล่ะ! 

  ในทันที่เขาพูดจบลิงค์ก็ไล่ดูเมนูเวทมนตร์ที่โผล่ขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา หลังจากผ่านไปไม่นานเขาก็เลือกเวทย์ที่มีชื่อว่า  แสงอาทิตย์ 

  แสงอาทิตย์

  เวทย์ระดับตำนานเลเวล14

  พลังแก่นภพ:28,000 แต้ม

  รายละเอียด:เปลี่ยนพลังงานมหาศาลให้เป็นแสงอาทิตย์บริสุทธิ์ ถ้าเกิดร่ายเวทย์นี้ด้วยพลังเต็มที่ ผลของมันจะทำให้เกิดแสงที่สว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์ขึ้นจริงๆ

  (หมายเหตุ:แสงที่ไม่เหมือนกับแสงใดที่คุณเคยเห็น!)

  เวทย์แสงอาทิตย์นั้นอาจจะไม่มากพอที่จะเจาะทะลวงความมืดรอบตัวพวกเขาแม้ว่าพลังของมอร์เฟียสจะถูกพวกเขาจำกัด แต่เขาก็ยังคงมีเลเวล 15 และมีเขตแดนของตัวเอง

  ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเลเวล14 กับเลเวล 15 นั้น ทำให้มอร์เฟียสไม่สนใจผลของเวทย์แสงอาทิตย์เหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  และด้วยเหตุนี้เองลิงค์จึงต้องใช้เทคนิคอื่นพ่วงไปด้วย

  สำหรับนักเวทย์ธรรมดาเทคนิคนี้คงจะใช้ได้ยากมาก ยังไงก็ตาม สำหรับนักเวทย์มิติอย่างลิงค์นั้น มันง่ายเหมือนกับของเด็กเล่น ตอนนี้เขามีแต้มโอมนิอยู่ 190 แต้ม หลังจากที่ซื้อเวทย์เลเวล 14 ไป เขาก็ยังเหลือแต้มอยู่อีก 50 แต้ม ซึ่งเขาใช้มันในการเพิ่มพลังของตัวเอง

  แม้ว่าเขาจะสามารถเพิ่มพลังของตัวเองได้แค่50 แต้ม แต่ 50 แต้มนี้อาจใช้วัดความเป็นความตายของลิงค์ได้เลย  พอได้เวทย์มาแล้วเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา จากนั้นเขาก็หยิบดาบลำนำจันทร์เต็มดวงออกมาโดยไม่ลังเล ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็ใช้มือซ้ายหยิบคริสตัลพลังงานออกมา

  เขาเริ่มร่ายเวทย์แสงอาทิตย์ด้วยมือขวาในขณะที่ดูดพลังจากคริสตัลพลังงานด้วยมือซ้าย!

  ในชั่วพริบตาจุดแสงก็ปรากฏขึ้นที่ปลายดาบของเขาเหมือนกับท้องของหิ่งห้อย หลังจากนั้นจุดแสงนั้นก็ระเบิดออก!

  หึ่ม…เหมือนกับบิ๊กแบงระเบิดแสงได้กระจายไปทั่วทั้งหุบเขา มันกระจายไปทุกทิศทาง ปะทะกับความมืดที่อยู่รอบเหมือนกับคลื่นน้ำ

  ยังไงก็ตามลิงค์รู้ว่าเวทย์เลเวล 14 นั้นไม่สามารถลบความมืดทั้งหมดได้ แสงถูกความมืดกลืนกินในเวลาไม่นาน

  แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองมิติทับซ้อนก็ปรากฏขึ้นรอบๆแสงแสงนั้นติดอยู่ในมิติทับซ้อนและเริ่มที่จะขยายตัวก่อนที่จะระเบิดออกมาจากข้างในในที่สุด

  จากมุมมองของเอเลียร์ด,เขาเห็นดาบลำนำจันทร์เต็มดวงในมือของลิงค์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมันมีความยาวประมาณ 1000 ฟุตและกว้าง 100 ฟุต ทั่วทั้งตัวดาบนั้นเหมือนกับทำมาจากแสง ซึ่งบางครั้งมันก็เปล่งแสงออกมาเหมือนกับหิมะหรือบางทีมันก็เผาไหม้เหมือนกับเปลวเพลิง

   อ้ากก! ลิงค์คำราม เขาเหวี่ยงดาบแสงไปหลายทิศทาง และในชั่วพริบตา เขาก็ฟันดาบไปได้มากกว่า 100 ครั้ง ถ้ามองผ่านๆ มันจะเหมือนกับว่ามีลำแสงพุ่งออกมาจากตัวเขาเลย ในเวลาเดียวกันนั้นเอง แสงก็กระจายไปทั่วทั้งหุบเขา ซึ่งมันเกือบจะปัดเป่าความมืดทั้งหมดที่อยู่รอบๆตัวพวกเขา

  นี่คือความแตกต่างของเลเวล14 และเลเวล 15 การผสานเวทย์เลเวล 14 กับเทคนิคอื่นๆของลิงค์นั้นแทบที่จะสร้างรอยขีดข่วนให้กับเขตแดนเงาของมอร์เฟียสไม่ได้เลย  ในตอนแรกเขตแดนเงาเป็นม่านความมืดที่ไม่สามารถทะลวงได้ ยังไงก็ตาม ในตอนที่ลิงค์รำดาบขนาดใหญ่ขึ้นของเขา ความมืดก็ลดลงไปเยอะ ในตอนนี้ ใครก็ตามที่มีสายตาระดับตำนานจะสามารถเห็นขอบของสิ่งต่างๆที่อยู่ไกลออกไปได้ลางๆ

  ในการเผชิญหน้ากับความมืดที่มาจากทุกทิศทางนั้นพลังของลิงค์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ในทันทีที่ระเบิดแสงหายไป เขาก็จะถูกความมืดกลืนกินอีกครั้งในทันที ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้อยู่คนเดียว

  ด้วยความช่วยเหลือของลำแสงที่เจาะทะลวงความมืดดิโลเซ่นก็พยายามตามหามอร์เฟียสอีกครั้ง

   เจอแล้วข้าเจอตัวมันแล้ว! มันอยู่ทางขวา…ลิงค์ ระวังนะ!  ดิโลเซ่นตะโกน

  ผ่านแสงอ่อนๆดิโลเซ่นมองเห็นเงาดำกำลังพุ่งมาทางลิงค์ด้วยความเร็วที่สูงมากๆ เงานั้นเร็วมากจนเขามองตามแทบไม่ทัน เขาไม่สามารถร่ายเวทย์ป้องกันผู้ติดตามเงาให้ทันเวลาได้เลย!

  ในเขตแดนเงาพลังของมอร์เฟียสจะอยู่ในจุดสูงสุด ต่อให้เขาถูกพบตัวในเขตแดนของเขา ก็ไม่มีใครสามารถป้องกันการโจมตีที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าของเขาได้ นี่เป็นความจริงจากกรณีของดิโลเซ่น

  ในทันทีที่ดิโลเซ่นพูดจบเขาก็รู้สึกว่าร่างของเขาส่ายไปซ้ายไปขวาจากพลังที่มองไม่เห็น ไม่ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนยังไง มันก็เปล่าประโยชน์

  เขาตะโกนด้วยความสับสน มิติรอบตัวพวกเรากำลังสั่นไหว! 

  จากนั้นเขาก็หันไปมองหาที่มาของการสั่นสะเทือนมิติและเขาก็เห็นฉากที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น

“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”

ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์

“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ

“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”

และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท