5 วันต่อมา…
“ทำไมเธอถึงยังไม่โทรมากันนะ?!?” เบ็นที่นั่งอยู่บนเตียงนั้นปิดใบหน้าของเขาด้วยแขน เขานั้นคิดว่าเขาทำมันได้แล้วเชียว เขานั้นคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสในการมีชีวิตรอดแล้วเชียว ทว่าเขาก็พบว่าเขานั้นซื่อเกินไป!
“บัตรตกสาวระดับเทพนั่นมันประโยคสั่งตายชัดๆ!”
เขาถูกหลอกให้มีความสุข เบ็นนั้นคิดว่าตั้งแต่ตอนนั้นทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีกับเพเนโลพี แต่แท้จริงแล้วความตายต่างหากที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆเหมือนกับการวิ่งหนีรถไฟ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเขานั้นเริ่มชั้นเรียน ในสองวันแรกเขานั้นก็ปกติดี เขานั้นรอให้เพเนโลพี่โทรมาหาเขาและเขานั้นก็ตั้งใจกับการเรียน จากนั้นเมื่อหลายวันผ่านไปเรื่อยๆ เขานั้นก็อดนอนมากขึ้นมากขึ้นจนพร้อมกับความจริงที่ค่อยๆจมลง ขอบตาของเขานั้นกลายเป็นวงดำเขานั้นดูซีดมากขึ้นเรื่อยๆและเหงื่อตกด้วยความวิตกกังวลตลอดเวลา ใบหน้าของเขานั้นราวกับผีดิบ!
แม้ว่าจะถูกคาดหวังจากคนที่ขึ้นเขียงรอประหาร? แต่เธอก็ไม่ได้โทรมาเลยเขานั้นหมดท่าแล้ว มันไม่มีแต้ม PUA เหลือแล้วและมันก็ไร้ประโยชน์หากไร้มัน เขาเป็นคนไร้เสน่ห์ เขานั้นไม่สามารถพูดภาษากรีกได้ เมื่อเขาคุยกับผู้หญิงเขาแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ศัพท์ด้วยซ้ำ!
‘นี่มันถึงจุดจบแล้ว ฉันควรทำไงดี?’ ฉันไม่มีสูตรโกงจากระบบตกสาวอีกต่อไปแล้ว แล้วฉันจะกลายเป็นนักตกสาวได้ไงฟระเนี่ย? เขาจมกับความซึมเศร้า เบ็นนอนตัวลงไปบนเตียงของเขา
หลังจากนั้นไม่นานนัก เขาก็เด้งตัวขึ้นมา “เดี๋ยวนะ…ตกสาว ไม่เกี่ยวกับระบบนั่น หมายถึงของจริงๆน่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะเคยหัวเราะเยาะต่อหน้าเขามาก่อนก็เถอะ แต่ไม่ใช่ว่าลูกพี่ลูกน้องโง่ๆของเขาอันโตนิโอเรียกตัวเองว่านักตกสาวเมื่อครั้งสุดท้ายที่เขาเคยคุยกันหรอกเหรอ?”
เบ็นยืนขึ้นและเดินไปรอบห้องห้อง “ถึงมันจะดูโง่ที่ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าโง่นั่นก็เถอะ…แต่ว่าฉันมีตัวเลือกอื่นอีกที่ไหนกัน?” เบ็นนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนโทรไปหาลูกพี่ลูกน้องของเขา
*กริ้ง* *กริ้ง*
“เฮ้ไง มีไร?” อัลโตนิโด้ตอบเขามา
“อันโตนิโอ! นายต้องช่วยฉัน!”
ลูกพี่ลูกน้องของเขาตกใจไปในทันที “เกิดไรขึ้น? นายโดนลักพาตัวรึไงกัน?”
“แย่กว่านั้นอีก! ฟังนะมาเจอกันหน่อย! นายอยู่ไหนงั้นเหรอ?”
เมื่อเบ็นได้ตำแหน่งของอันโตนิโอเขาก็รีบคว้าบัตรรถไฟและรีบวิ่งออกจากหอพักไปในทันที
***
ภายในสตาร์บัคใจกลางเมือง ประตูทางเข้าถูกเปิดออก ใครบางคนก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเหล่าลูกค้าต่างก็พากันคิดว่าอาจจะเป็นเจ้าบี๊บบี๊บวิ่งเข้ามา ทว่าพวกเขาก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าเป็นเพียงแค่วัยรุ่นตัวเตี้ยคนหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็กลายเป็นกังวลอีกครั้งเมื่อเห็นผมสีน้ำตาลของเขา มันเป็นสไตล์การตัดผมที่โหดร้าย แต่เมื่อพวกเขาลองนึกดูพวกเขาก็โล่งใจเมื่อคิดว่านิยอร์คนั้นมีแต่คนที่มีเอกลักษณ์แปลกๆอยู่แล้ว
เบ็นนั้นค้นหาภายในร้านก่อนตรงเข้าไปนั่งบริเวณโต๊ะด้านในสุด มีชายหนุ่มผิวแทนและทรงโกนหัว เขานั้นตัวผอมและมีความสูงอยู่ในเกณฑ์มาตราฐาน เขาจ้องไปรอบๆด้วยความหยิ่งยโสราวกับว่าเขาเป็นขุนนางหนุ่มจากตระกูลโบราณ ในขณะเดียวกันเขานั้นดื่มเพียงน้ำเปล่าเนื่องจากไม่อยากเสียเงินถึง 2 ดอลล่าร์เป็นค่ากาแฟ
เมื่อมาถึงยังโต๊ะ เบ็นก็จับมือเขาทันที “อันโตนิโอ ฉันต้องการให้นายช่วย!”
“…มีไร ใจเย็นก่อน บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น”
เบ็นนั้นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี ‘ฉันควรจะบอกดีไหมว่ามีเสียงเข้ามาในหัวของฉันและบังคับให้ฉันล่อลวงผู้หญิง? หมอนี่ต้องโยนฉันเข้าซังเตแน่นอน’ เขานั้นมาที่นี่เพื่อบางสิ่ง เขาคิดอยู่พักหนึ่งก่อนรวบรวมความคิดและพูดออกมาว่า
“เอ่อคือ เหมือนว่าฉันจำเป็นต้องล่อลวงผู้หญิงน่ะ!” เบ็นนั้นไม่สามารถหาข้ออ้างที่ดีได้ ดังนั้นเขาเลยข้ามข้ออ้างมันไปซะเลย
อันโตนิโอมองดูเขา ดวงตาของเบ็นนั้นแดงก่ำแดงยิ่งกว่าแก้มก้นของปีศาจเสียอีก เขาเหงื่อไหลออกมาเป็นถัง , มือของเขาสั่น และหอบหายใจอย่างไม่สามารถควบคุมได้ อันโตนิโอหรี่ตาลงพร้อมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
‘นี่เป็นความหื่นกระหายในตำนานสินะ…’ อันโตนิโอเชื่อว่าเบ็นกำลังจะบ้าเนื่องจากเวอร์จิ้นของตัวเอง “โอเค เข้าใจแล้วๆ”
เบ็นพูดต่อทัน “นายบอกว่านายรู้จักเซียนตกสาวสินะ? พาฉันไปเจอเขาที!”
“…โว้วๆๆ ใจเย็นก่อนๆ นายต้องเริ่มอย่างช้าๆให้ฉันเริ่มสาธิตให้นายดูก่อน นายนี่เหมือนกับอิคารัสกับสิ่งห่วยแตกของเขา
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นในสระเด็กก่อนหรอกนะ! ฉันต้องการพูดกับเซียนที่แท้จริงนั่นในตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย!” เบ็นนั้นไม่ได้บอกว่าสิ่งที่อันโตนิโอทำนั้นเปล่าประโยชน์ทว่าเขานั้นต้องการเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
อันโตนิโอ้มองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขา เตี้ย , อ้วน , สวมชุดโง่ๆ , เสื้อผ้าที่โคตรโง่ ‘น่าจะต้องเป็นงานช้างนา เอาเถอะ…เจ้านั่นอาจจะเมตตาต่อพวกที่ดูสิ้นหวังแบบนี้ก็ได้’ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจ “โอเค รอเดี๋ยวขอโทรศัพท์ก่อน” เขานั้นลุกขึ้นพร้อมออกไปข้างนอก และโทรหาคนรู้จักของเขาทันที
ผ่านไปไม่นาน อันโตนิโอก็กลับมาพร้อมกับนั่งลง เบ็นจ้องไปที่เขาราวกับว่าเขานั้นเป็นหมอที่ออกมาพร้อมกับผลลัพท์การผ่าตัดของแม่เขา
“เขาบอกว่าเขาจะยอมพบนายก็ได้…แต่ก็มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“พูดออกมา!”
อันโตนิโอไม่ได้พูดออกมา *ค๊อก* *วา* *…*****” เขานั้นทำเพียงแค่พึมพัมออกมา
“มีไร? พูดสิ!”
อันโตนิโอ้กลืนน้ำลาย “เขาบอกว่า…นายต้องใส่…กางเกงในออกศึก”
…
“อะไรนะ” เบ็นถามซ้ำอีกที
“กางเกงในออกศึก…ใส่มันซะ ถ้านายอยากจะพบเขา”
“หมอนั่นเป็นเซียนนักตกสาวหรือพวกเกย์วิตถารกันแน่ว่ะ?!?”
…อันโตนิโอนั้นไม่แน่ใจว่าเขาควรแก้ตัวว่ายังไงดี “คือหมอนั่นบอกว่าเขาต้องการทดสอบความกล้าของคนที่จะมาเป็นศิษย์ของเขาในอนาคต หากนายไม่มีความกล้าพอที่จะใส่กางเกงในออกศึก ถ้านายทำมันไม่ได้แสดงว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลาที่จะออกมาพบนาย เขาพูดมาว่าอย่างนั้นน่ะ”
เบ็นขบกรามแน่นและทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองลงชักโครก ลุยแม้งเลยเว้ยยย! ถ้าเขาพลาดเขานั้นจะถูกโยนเข้าไปในโลงศพ พวกเขานั้นสามารถฝังเขาไปพร้อมกับกางเกงในออกศึกที่เขาอับอายได้ อย่างน้อยงานศพของเขาก็น่าจะเป็นที่จดจำ “แม้งเอ้ย! ฉันจะใส่มัน!”
พวกเขาทั้งสองนั้นเดินไปยังห้างสรรพสินค้าราคาถูก เบ็นนั้นเดินเข้าไปและทำการซื้อของเพื่อแก้เครียดซึ่งนั่นอาจจะนำไปสู่การที่เขาต้องรับการบำบัดจริงๆก็ได้
พนักงานของร้านค้านั้นเดินผ่านมาและเห็นเบ็นกำลังค้นหาของอยู่ภายในแผนกชุดชั้นในสตรี ‘เขาต้องมาหาของขวัญให้แฟนเขาแน่นอนเลย’ เธอนั้นคิดอยู่ในใจและเดินเข้าไปใกล้เขาเพื่อเสนอความช่วยเหลือ หลังจากก้าวไปก้าวหนึ่ง เธอก็หยุดเส้นทางมรณะของเธอลงในทันที เธอมองเบ็นที่ถือกางเกงในออกศึกเอาไว้และทาบเข้ากับสะโพกของตัวเอง เพื่อจะพิจารณาถึงขนาดของตัวเขาเอง…
มันชัดเจนแล้วตอนนี้ กางเกงในออกศึกนี่มันของเขา เบ็นสังเกตุเห็นถึงการจ้องมองของเธอจากนั้นพวกเขาก็สบตาเข้าหากัน…
อีกหนึ่งวินาทีให้หลัง พวกเขาทั้งคู่ต่างหันกลับไปและเดินจากไปกันคนทาง