Ark The Legend – ตอนที่ 399 : ชิ้นส่วนดวงจันทร์

ตอนที่ 399 : ชิ้นส่วนดวงจันทร์

ตอนที่ 399 : ชิ้นส่วนดวงจันทร์

“ว่าแต่นะครับ ทําไมถึงมีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์กันล่ะ?”

นี่ก็เป็นอีกส่วนที่อาร์คเป็นกังวล แม้ชาวบ้านจะดูแข็งแรง แต่พวกเขาไม่คล้ายสัตว์อสูรเลยสักนิด เขาคิดว่าอาจจะคล้ายคลึงกับความสามารถของคาราคุลที่แปลงกายให้ผู้ใต้บัญชาได้ แต่มันก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่ทําให้มีหมู่บ้านอยู่ในอาณาเขตของคาราคุล ดังนั้นแล้วอาร์คจึงต้องระแวดระวังไปด้วย

“หรือว่าเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรจะเป็นผู้ใต้บัญชาของคาราคุล?”

“เรื่องนั้น ไม่มีทาง! ผู้ใต้บัญชา? ย่อมไม่ใช่! แม้ร่างกาย พวกเราจะถูกเปลี่ยนแปลงเพราะคาราคุล แต่พวกเราไม่เคยสูญสิ้นจิตวิญญาณ”

ขณะที่สนทนากับอาร์ค ชาวบ้านที่รับชมเรื่องราวอยู่ภายนอกผ่านหน้าต่างก็ตะโกนขึ้นอย่างโกรธแค้น

“แล้วตามปกติเป็นอะไรกันล่ะครับ?”

“พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์หมาป่า ผู้สืบทอดสายเลือดจากเฟนริลผู้ซึ่งเป็นหมาป่าตัวแรก”

“เผ่าพันธุ์หมาป่า?”

“ถูกต้อง ท่ามกลางเผ่าพันธุ์หมาป่า พวกเราคือเผ่าวูล์แรง ผู้ซึ่งสืบทอดเชื้อสายจากนักรบผู้สูงศักดิ์”

ชายชราสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวต่อ

“ข้าคือผู้อาวุโสของเผ่าวูล์แรง เผ่าวูล์แรงติดอยู่ที่โลกมืด เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน” ชายชราเริ่มเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตระกูลให้ฟัง

แม้ว่าชาวเหมียวก็สืบทอดสายเลือดนักรบ แต่พวกเขาใกล้เคียงกับคําว่าโจรมากกว่า อีกทางหนึ่ง เผ่าพันธุ์หมาป่า นั้นคือนักรบโดยแท้จริง พวกเขามีอาชีพที่สมกับคําว่านักรบ และวูล์แรงก็เป็นเผ่าพันธุ์หมาป่าที่แข็งแกร่งที่สุด

“ในช่วงหนึ่งร้อยปีแห่งความมืดมิด วูล์แรงได้ต่อสู้ ในแนวหน้าร่วมกับผู้กล้ามาบันที่เผชิญหน้ากับกองทัพแห่งความมืด ครั้งนั้นนับเป็นการสู้รบอันมีเกียรติอย่างถึงที่สุด เครือญาติมากมายของพวกเราได้ตายจาก แต่พวกเราไม่เคยเสียดายชีวิต เวลานั้นคือยุคทองของเผ่าวูล์แรงอย่างแท้จริง ข้าอยากที่จะเกิดในช่วงเวลานั้นยิ่งนัก…”

ผู้อาวุโสพึมพํากับขณะเผยดวงตาเศร้าโศกเมื่อนึกย้อนถึงอดีต เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นช่วงเกือบจะสิ้นสุดยุคหนึ่งร้อยปีแห่งความมืดมิด ผู้กล้าทั้งเจ็ดได้เข้าต่อสู้กับดาร์คลอร์ด ช่วงระหว่างนั้นเผ่าวูล์แรงได้รับภารกิจอื่น มันคือการมายังซอแทนดาลร่วมกับพันธมิตรเพื่อหยุดยั้งการบุกโจมตีของรือวิกเจนส์เบิร์ก เผ่าวูล์แรงได้รับภารกิจอันตรายเข้าชโลมเลือดในสงครามต่อต้านรือวิกเจนส์เบิร์ก เพราะการเสียสละของเหล่านักรบผู้กล้าหาญ ซอแทนดาลจึงรอดพ้นจากการรุกรานของรือวิกเจนส์เบิร์กมาได้

ในภายหลัง ผู้กล้าทั้งเจ็ดได้เข้าจัดการดาร์คลอร์ดจนเกิดการใช้มหาเวททําลายล้าง ซอแทนดาลติดอยู่ภายในพายุแห่งมิติ ดังนั้นแล้วเผ่าวูล์แรงจึงติดอยู่ที่ซอแทนดาลไปด้วย สถานที่ซึ่งเกิดการต่อสู้กับรือวิกเจนส์เบิร์กก็คือพื้นที่ซึ่งโดนภูเขาล้อมรอบเอาไว้ดังที่เบซอทิวเคยบอกเล่า มันคือสถานที่ซึ่งมีแต่หน้าผาสูงชันและมีพายุพัดผ่านตลอดเวลา

“วิถีชีวิตของพวกเรายังเป็นไปตามบรรพบุรุษ ทว่าน่าเวทนานัก ดินแดนแห่งนี้เริ่มตายลง พวกเราต้องเสี่ยงชีวิตกระทั่งหาผืนหญ้าหรือน้ําเพื่อดื่ม”

เผ่าวูล์แรงเผชิญความยากลําบากในแนวหน้าของการสู้รบ ทั้งยังต้องเผชิญกับความหิวโหยและหนาวเย็น เผ่าวูล์แรงที่รอดพ้นมาจากการศึกอันเหี้ยมโหดได้ต่างต้องเริ่มตายกันไปทีละน้อย

“ข้ารู้ถึงความรู้สึกนั้น ความตายที่สูญสิ้นไม่ได้สิ่งใดกลับคืนมา”

เดดริคพิมพ์ไปมาขณะน้ําตานองหน้าทั้งยังนั่งอยู่บนไหล่ของอาร์ค ทว่าผู้อาวุโสเผ่าวูล์แรงนั้นแตกต่างจากค้างคาวที่ไร้มารยาทผู้นี้นัก

“ไม่ใช่ พวกเราไม่ได้คาดหวังจะได้รับสิ่งใดกลับคืนกับการต่อสู้ความมืดมิด พวกเราเพียงต้องการต่อสู้เพื่อเกียรติยศจนชีวิตหาไม่ดังเช่นนักรบ ข้าคิดว่าการตายอย่างไร้เกียรตินั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าอื่นใดเหมือนบรรพบุรุษ มันคือความตายที่สูญเปล่า”

นับจากนั้น เผ่าวูล์แรงได้เดินทางในหุบเขามานานนับหนึ่งร้อยปี

“ท้ายที่สุดบรรพบุรุษของเราได้ค้นพบสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความมืดมิด สถานที่แห่งนี้ถูกปกครองโดยแวมไพร์ ทว่าบรรพบุรุษของพวกเราไม่มีทางเลือก ไม่สิ ข้าคิดว่าพวกเขาคาดหวังจะได้ต่อสู้กับแวมไพร์จนกระทั่งตัวตาย แต่เรื่องราวเช่นนั้นกลับไม่เกิด สถานที่ซึ่งมาถึงคืออาณาเขตของดันพิลที่รักสงบ”

“ว่าอะไร? ดันพิล? จริงเหรอเนี่ย สถานที่แห่งนี้เดิมที่เป็นของดันพิล?

ทั้งหมดคล้ายเชื่อมต่อถึงกัน หลังเผ่าวูล์แรงปรากฏตัว ดันพิลก็ขาดเขลาเกินไปจนมุ่งหาสันติสุข ทว่าเรื่องราวเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้า ดันพัลได้ส่งมอบอาณาเขตสู่คาราคุล และหนีหายคาราคุลไม่ได้อ่อนแอดังเช่นดันพิล

“คาราคุลพยายามทําให้พวกเราเป็นผู้ใต้บัญชา ทว่าแม้เผ่าวูล์แรงจะเสียความรุ่งโรจน์ในอดีต แต่พวกเรายอมตายเสียดีกว่าหากต้องเป็นลูกน้องให้กับแวมไพร์”

ดังนั้นแล้ว คาราคุลและเผ่าวูล์แรงจึงก่อสงครามขึ้น หลังผ่านการต่อสู้อันเหี้ยมโหดและเสียสละไปมาก เผ่าวูล์แรงในที่สุดก็สามารถสังหารปีศาจเลือดส่วนใหญ่ไปได้และเข้าถึงปราสาทคาราคุล

“อีกเพียงก้าวเดียวพวกเราจะตัดสินชะตากับคาราคุลได้ แต่แล้ว”

ผู้อาวุโสกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น

“ในช่วงศึกตัดสิน คนหนึ่งในเผ่าเราได้เลือกทรยศหักหลัง อัลเบิร์ต เขาได้ขโมยสมบัติของเผ่าเราส่งมอบให้คาราคุล มันได้ทําลายเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่บรรพบุรุษส่งมอบต่อกันมา!”

“ดะ-เดี่ยวนะครับ สมบัติของเผ่า? อย่าบอกนะว่า…?”

อาร์คเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงตื่นตระหนก และผู้อาวุโสก็พยักหน้ารับ

“ถูกต้อง มันคือชิ้นส่วนของสามสิ่งมหัศจรรย์ที่เจ้าตามหา”

อาร์คยิ่งสับสนกับคําตอบของผู้อาวุโส เขาคิดว่าเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรจะส่งมอบสามสิ่งมหัศจรรย์ให้เมื่อพบเจอ ดังนั้นแล้วเขาจึงคิดหาหนทางช่วยเหลือบุคซิลหลังได้รับพลังเพิ่ม แต่แล้วตอนนี้สามสิ่งมหัศจรรย์กลับตกอยู่ในมือของคาราคุล? ไม่ใช่หมายความว่าเขาต้องโค่นล้มคาราคุลก่อนเพื่อได้รับสามสิ่งมหัศจรรย์มาหรือยังไง?

“ปัญหาทําไมมันซับซ้อนขึ้นแบบนี้ได้เนี่ย?”

“ผู้กล้ามาบันหลงเหลือสมบัติเอาไว้ให้พวกเราก่อนออกไปสู้กับดาร์คลอร์ด เขาเชื่อมั่นในตัวพวกเรา พวกเราเป็นผู้สืบทอดมรดกของผู้กล้ามาบัน แต่แล้วมันกลับถูกนําไปให้แวมไพร์… นับเป็นความอัปยศอย่างถึงที่สุดของพวกเรา ผู้ค้นหาความจริง ท่านคงได้แต่หัวเราะเยาะพวกเราแล้ว แม้บรรพบุรุษเราจะมอบเขี้ยวและเล็บอันแหลมคม แต่จิตใจ ของพวกเราตอนนี้มืดมนนัก…. พวกเราถึงกับสูญเสียสมบัติของเผ่าไป”

ผู้อาวุโสพูดกล่าวอย่างอับอายเต็มกลืน ความหาญกล้าของเผ่าวูล์แรงต้องโดนพรากเอาไปเพราะสูญเสียซึ่งสมบัติ พวกเขาสูญเสียพลังที่จะต่อสู้จนต้องติดอยู่ที่นี่ และบ่อยครั้งคาราคุลก็จะมาที่นี่เพื่อดูดเลือดพวกเขา แม้ร่างกายของพวกเขาจะแปรเปลี่ยน แต่สายเลือดของพวกเขายังคงได้รับสืบทอดมาจากนักรบซึ่งครั้งหนึ่งเคยต่อสู้กับดาร์คลอร์ด มันต้องตาต้องใจคาราคุลแทบทุกวันที่เผ่าวล์แรงต้องโดนเหยียดหยามส่งมอบความอัปยศ

ถึงตอนนี้ อาร์คพลันพบเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดแผก

“งั้นรูปลักษณ์ของพวกท่านเปลี่ยนไปหลังสูญเสียสามสิ่งมหัศจรรย์ไปเหรอครับ?”

อาร์คคิดถึงเหตุผลที่เผ่าวูล์แรงแปรเปลี่ยนเพราะคาราคุลสาป ถ้าหากพวกเขาสูญสิ้นพละกําลังหลังเสียสามสิ่งมหัศจรรย์ไป แบบนั้นแล้วพวกเขาจะสามารถต่อสู้เคียงข้างผู้กล้ามาบันได้อย่างไร? ทว่าคําตอบนั้นง่ายดายเกินคาด

“แหล่งพลังของพวกเราคือพระจันทร์ ดังนั้นแล้วพวกเราจะยิ่งแข็งแกร่งหากเป็นยามค่ําคืนที่มีแสงจันทร์ พวกเราจะอ่อนแอในช่วงกลางวันเพราะไม่อาจมองเห็นพระจันทร์ ทว่า พระจันทร์ไม่เคยเลือนหาย ดังนั้นแล้วเผ่าวูล์แรงจึงสามารถคงสภาพเอาไว้ แต่เพราะพลังแห่งความมืดที่นี่ เผ่าวูล์แรงจึงยากคงสภาพ”

เผ่าวูล์แรงก็คล้ายกับมนุษย์หมาปาอะไรทํานองนั้น ทว่ามันมีข้อแตกต่างเล็กน้อย ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนพวกเขาก็สามารถคงสภาพร่างกายเอาไว้ได้ แต่ที่เผ่าวูล์แรงไม่อาจคงสภาพเอาไว้เพราะพลังจากพระจันทร์ถูกปิดกั้น ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงใช้พลังของสามสิ่งมหัศจรรย์แทน

“เผ่าเราถือครอง ชิ้นส่วนดวงจันทร์” สมบัติที่บรรจุเอา ไว้ซึ่งพลังแห่งดวงจันทร์ ดังนั้นแล้วพวกเราจึงสามารถได้รับการปกปักษ์จากดวงจันทร์แม้เป็นที่นี่ แต่พวกเราก็ต้องสูญสิ้นพลังไปหลังคาราคุลได้ครอบครองชิ้นส่วนดวงจันทร์”

“ชิ้นส่วนดวงจันทร์!”

จิตใจของอาร์คพลันกระจ่างขึ้นมา

“คําถามสุดท้ายได้รับคําตอบแล้ว!!

เขาก็สงสัยอยู่เช่นกันว่าเพราะอะไรคาราคุลจึงไม่คุมขัง เผ่าวูล์แรงในปราสาท ต่อให้เผ่าวูล์แรงถูกถอดเขี้ยวเล็บในสภาพมนุษย์ พวกเขาก็ยังสามารถอยู่ในคุกใต้ดินใช้แรงงานได้ เหตุผลที่เผ่าวูล์แรงไม่โดนกักขังก็เพราะ มันจะเปิดช่องให้พวกเขาได้ฟื้นคืนพละกําลังถูกต้อง คุกใต้ดินที่อาร์คโดนบีบบังคับไปใช้แรงงานนั้นชัดเจนว่าเป็นคาราวุลซุกซ่อนชิ้นส่วนดวงจันทร์เอาไว้ที่ไหนสักแห่ง เหตุผลที่เกิดหินดวงจันทร์ขึ้นมาก็เพราะมันดูดซับพลังจากชิ้นส่วนดวงจันทร์นั่นเอง

“ทุกคําถามได้รับคําตอบหมดแล้ว!”

มันเป็นความรู้สึกสําเร็จเมื่อไขเรื่องราวอันซับซ้อนได้ คาราคุลคือกุญแจของทุกปัญหา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจัดการคาราคุลเพื่อได้รับชิ้นส่วนสุดท้าย แม้เขาจะสา มารถใช้งานลอบเร้นเข้าไปยังคุกใต้ดิน แต่เขาก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าชิ้นส่วนดวงจันทร์ซ่อนเอาไว้ที่ไหน และจะเกิดอะไรขึ้นกัน หากลอบเร้นของเขาสิ้นระยะการทํางานขณะยังอยู่ในคุกใต้ดิน?

สําหรับเราแล้วไม่มีทางเลยที่จะโค่นล้มปีศาจเลือดและคาราคุลโดยคนเดียวได้ แต่ว่า

“เหมือนที่พวกท่านทราบ ผมต้องการชิ้นส่วนดวงจันทร์ แต่ลําพังเพียงแค่ผมไม่อาจเป็นไปได้ ผมต้องการความช่วยเหลือของเผ่าวูล์แรงผู้ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สามสิ่งมหัศจรรย์”

“แน่นอนว่าพวกเราอยากช่วยเหลือ แม้เผ่าเราจะสิ้นพวกเราก็หาได้หวาดเกรง”

ผู้อาวุโสถอนหายใจก่อนจะสายศีรษะให้

“แต่พวกเรานั้นไร้ซึ่งพลัง พวกเราสูญเสียเขี้ยวและเล็บ นั่นทําให้พวกเราสูญสิ้นความกล้าที่เคยมี”

“แต่มันจะเป็นอีกเรื่องถ้าหากพวกท่านได้รับพลังจากดวงจันทร์ ราดัน!”

ซื่อ ซื่อ ซื่อ!

ราดันแลบลิ้นออกขณะพ่นเอาหินจํานวนหนึ่งออกมา มันคือหินดวงจันทร์ที่เขาลักลอบเอาออกจากคุกใต้ดิน!

ผู้อาวุโสพลันส่งเสียงร้องออกด้วยความแตกตื่นเมื่อคว้าหินดวงจันทร์เอาไว้และพิจารณา

“นะ-นี่มัน ไม่จริงน่า!”

ฟื้บ ฟื้บ ฟื้บ

ขนสัตว์สีเงินพลันปรากฏจากมือที่กําลังถือหินดวงจันทร์ อยู่หลังผ่านไปชั่วครู่ เล็บเริ่มยาวขึ้น เขี้ยวเริ่มปรากฏออกจากปาก ผู้อาวุโสอุทานออกด้วยน้ําเสียงไม่อยากเชื่อขณะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าสีเงิน

“โอ้ พลังนี้ จิตวิญญาณข้าคล้ายได้ลุกไหม้อีกครั้งหนึ่ง นี่แหละคือตัวตนของเผ่าวูล์แรง…”

“ผมมีหินดวงจันทร์จํานวนมากพอที่จะแจกจ่ายให้กับชาวบ้านทุกคน ตอนนี้น่าจะพอช่วยได้แล้วใช่ไหมครับ?”

“แน่นอน ไม่ถูกต้อง ได้โปรดให้พวกเราช่วย! การเก็บกู้ชิ้นส่วนดวงจันทร์กลับคืนจะทําให้พวกเราชดใช้ความอัปยศครั้งเก่าก่อนได้ นอกจากนี้ เจ้ายังคือผู้ค้นหาความจริง เจ้าคือผู้สืบทอดของผู้กล้ามาบันที่ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่มีเกียรติใดจะเทียบเท่าได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้า ได้โปรดนําพวกเราเข้าต่อสู้กับคาราคุลและคนทรยศของตระกูลอย่างอัลเบิร์ตด้วย”

ขณะเดียวกันนั้น เสียงกระดิ่งพลันดังขึ้นสองครั้งพร้อมหน้าต่างภารกิจที่ปรากฏ

การแก้แค้นแห่งเผ่าวูล์แรง

ท่านได้พบเจอผู้สืบเชื้อสายของเผ่าวูล์แรงในโลกมืด ทว่า แวมไพร์คาราคุลได้ฉกชิงเอาสมบัติของพวกเขาไป จนเป็นผลให้เผ่าวล์แรงโดนเหยียดหยามอยู่ทุกคืนวัน จงช่วยเหลือเผ่าวล์แรงแก้แค้นคาราคุลและคนทรยศอัลเบิร์ต

“ผมทราบแล้วครับ แต่ผมต้องการเวลาเตรียมการ ได้โปรดรอสักสองถึงสามวัน เราจะต้องไม่ให้อัลเบิร์ตหรือว่าคาราคุลพบเห็น พวกท่านต้องลอบเตรียมการและตกลงกับชาวบ้านคนอื่นด้วย อา แล้วก็อย่าลืมกลบเกลื่อนรูปลักษณ์ด้วยนะครับ”

หมาป่าโดยพลันแปรเปลี่ยนกลับคืนเป็นชายชราหลัง อาร์คชี้แนะ อย่างกะทันหัน เดดริคพลันร้องอุทาน

“เดี๋ยวนะขอรับ คิดต่อสู้กับคาราคุลจริง?”

“นายไม่ได้ฟังที่คุยกันเมื่อกี้หรือไง?”

“ไม่ขอรับ ไม่ได้! เจ้านายยังไม่ทราบว่าคาราคุลแข็งแกร่ง เพียงใด และต่อให้เจ้านายฆ่าคาราคุลได้…”

“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว”

ถ้าหากเขาเป็นคนฆ่าแวมไพร์ แบบนั้นจะกลายเป็นเขากระตุ้นโทสะของแวมไพร์ที่แข็งแกร่งที่สุด อาร์คและเผ่าวูล์ แรงคงได้โดนกวาดล้างแทบจะทันที่เป็นแน่ กระทั่งว่าเขาสามารถเอาชนะการต่อสู้กับคาราคุลได้ แต่แบบนั้นโอกาสที่เขาจะตายหลังการศึกก็คือ 100% อย่างไรแล้วอาร์คกลับคว้าไหล่เดดริคเอาไว้อย่างแนบแน่นก่อนยิ้มกล่าว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง คนที่จะฆ่าคาราคุลคือนาย”

“โอ้ เป็นแบบนี้นี่เอง ข้า… ว่าอะไรนะ? เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะขอรับ!?”

“ได้ยินไม่ชัดเหรอ? เผ่าวูล์แรงจะทําให้นายได้ต่อสู้กับคาราคุล นายมีหน้าที่สําคัญที่สุดคือโค่นล้มตัวหัวหน้าให้จงได้ เพราะแวมไพร์ฆ่าแวมไพร์ด้วยกันไม่นับเป็นอะไรอยู่แล้ว”

“อย่าพูดบ้า ๆ นะขอรับ! ข้าจะไปมีปัญญาจัดการคาราคุลได้ยังไงกัน!”

เดดริคแตกตื่นจนสีหน้าซีดเผือดคล้ายจะเป็นบ้าเสียให้ได้

“ไม่ใช่นายบอกเหรอว่า ต่อให้ต้องกระโจนเข้าปากมังกร หากเป็นฉันสั่งนายก็จะทํานะ?”

“ตะ-แต่ว่า…”

“นายก็เป็นแวมไพร์ ไม่อยากแสดงความกล้าให้ลูกพี่ลูกน้องเห็นบ้างหรือไง?”

“แต่ข้าเอาชนะไม่ได้นะขอรับ!”

“อย่าได้ห่วง ฉันจะทําให้มั่นใจเองว่านายจะชนะ”

อาร์คตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มชั่วช้า

Ark The Legend

Ark The Legend

Status: Ongoing

คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา

เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท