ตอนที่ 414 : กล้องวิเศษฉบับปรับปรุง
ตึก ตึก ตึก ตึก!
ราดันตอนนี้กําลังก้าวเท้าอย่างเร็วรี่เพื่อก้าวผ่านท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ สภาพอากาศตอนนี้นับว่าดีมอนสเตอร์รบกวนก็ไม่ใช่ปัญหาต้องกังวล ทว่าสีหน้าของอาร์คขณะขี่ราดันอยู่นั้นกลับไม่แจ่มใสมากนัก
“เฮ้อ… เมาค้างแหง ๆ”
อาร์คขมวดคิ้วก่อนจะสันศีรษะ ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอร์กําลังเล่นงานเขาอยู่ ทั้งหมดนี้ต้องโทษความอิจฉาริษยาของทั้งกลุ่มทัณฑ์บนที่ทําเอาเขาเดือดร้อน อันที่จริง อาร์คไม่ใช่คนเมาง่ายขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ตื่นเช้า มายังรู้สึกวิงเวียน ตามปกติออกไปวิ่งให้ตาแจ้งกับเรียกเหงื่อเล็กน้อยก็หายดีแล้ว แต่เขาตื่นสายจึงไม่มีเวลา อาร์คต้องลากสังขารเข้าเครื่องเกมเพื่อเริ่มการผจญภัยครั้งใหม่
‘พวกปลาโลมา!’
ปลาโลมาที่เขาเรียกมาตอนอยู่โลกมืดนั่นก็เป็นปัญหา เขาเคยประสบพบเจอมาแล้วตอนช่วงมุ่งหน้าไปยังโลกมืดการขี่ปลาโลมานั้นนับว่าแย่อย่างถึงที่สุด นอกจากนั้นแล้ว มันต้องใช้ฝีมือไม่น้อยเพื่อให้รอดพ้นจากคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่ได้ตลอดรอดฝัง ทุกครั้งที่เกิดขึ้น ท้องของอาร์คจะประท้วง เพราะอาการหิวจนแทบกระโจนออกมาภายนอก แม้เขาจะไม่ได้เมาเรือหรืออะไรทํานองนั้น แต่ความรู้สึกเจ็บไข้ได้ป่วยจาก การขี่ปลาโลมาก็ทําเอาเขาต้องอดทนไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังมีปัญหาทําให้เขาหลังขดหลังแข็งเจ็บปวดอีกต่างหาก
‘ไม่ว่ามันจะฟรีหรือไม่ คราวหลังถ้าจะขี่มันต้องรู้ระยะทางที่แน่ชัดก่อนจะดีกว่า’
ด้วยเหตุนี้ อาร์คจึงได้ฝึกความอดทนประดุจยอดมนุษย์ตลอดสี่ชั่วโมงที่ขี่ปลาโลมา ความเป็นจริงแล้วมันมีเส้น ทางบนบกที่สามารถใช้เดินทางได้ เขาทราบเรื่องนี้ดีแต่ แรกก่อนออกจากโลกมืดเสียอีก ทว่าเส้นทางบกนั้นล้อมรอบไปด้วยหุบเขา มันคงต้องใช้เวลานานมาก กว่าเขาจะกลับมายังซอแทนดาลได้ เพราะงั้นเขาจึงเลือกยอมขี่ปลาโลมา
‘ไอ้นั่นก็พอแรง ยังมีเรื่องเมาค้างอีก ไม่ว่าเหล้าเบียร์จะแพงขนาดไหน ดื่มเยอะขนาดนี้ไม่ดีกับสุขภาพเราเลยจริง ๆ แถมยัง…’
ใบหน้าของเขายังต้องร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อนึกถึงสงครามโต้คารมระหว่างโรโค่และลาริเอ็ตเต้ ฮยอนอูไม่ใช่คนโง่ ถึงตอนนั้นเขาจะสับสนอยู่บ้าง แต่หลังสร่างเมาแล้วเขาก็ทราบแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิดของโรโค่
‘โรโค่…คิดอะไรอยู่กันนะ?’
อาร์คก็เข้าใจผิดเรื่องหนึ่ง อลันเป็นแฟนของลาริเอ็ตเต้ เรื่องนี้เขาทราบดี แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากจะเชื่อ แต่หากได้มองผ่านดวงตาของอาร์คหรือไม่ว่าชายคนไหนก็ย่อมต้องสังเกตเห็น แต่สําหรับอาร์คตอนนี้อลันไม่ต่างอะไรกับคนสูญหาย เขาไม่เคยเอ่ยถามแต่อาร์คก็เข้าใจดีเรื่องอลันกับ ลาริเอ็ตเต้ที่คบกันอยู่ตามปกติแล้วลาริเอ็ตเต้ที่สวยงามข นาดนั้นย่อมต้องมีแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาอยู่เคียงข้าง อีกทั้งยังมีเงิน จะมีเหตุผลอะไรที่เธอมาชอบคนอย่างอาร์ค? โรโค่นับว่าไม่เข้าใจเรื่องราวจนนําไปสู่ความอิจฉาที่เกินเลย แต่อาร์คก็ยังสงสัยอยู่ว่าสถานการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นจากความอิจฉาของเธอฝ่ายเดียวได้อย่างไร พอมาคิดดูถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มันก็ทําเอาเขาใบหน้าร้อนผ่าวได้ไม่น้อย
‘คงต้องหลบหน้าโรโค่กับลาริเอ็ตเต้นิมสักพักแล้วสิ’
เขายังไม่มีความกล้าพอเผชิญหน้ากับทั้งสองคน
“อา ไม่ชอบเลยขอรับ”
ขณะนั้นเอง เสียงของราคาร์ดพลันดังขึ้นจากไหล่ของอาร์ค
“หือ? หมายถึงอะไร?”
“ข้าไม่ชอบไอ้หมูนั่นเลยขอรับ!”
ราคาร์ดจ้องมองบุคซิลขณะพึมพําไปมาด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจ บุคซิลหันกลับมาก่อนจะยกยิ้มให้ราคาร์ด เหตุผลที่บุคซิลทําสีหน้าเช่นนั้นได้ก็เพราะมีสุนัขคู่ใจอย่างแบกิว
‘นับว่าเป็นส่วนผสมผสานที่เหลือเชื่อไม่น้อยเหมือนกัน’
ความจริงแล้วบุคซิลก็ไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ตอนที่แบกิวเพิ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของตน มีสัตว์เลี้ยงเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่กว่าเจ้าของสองเท่านี้น่ายินดีตรงไหน? กระทั่งว่าอีกฝ่าย โดนบังคับด้วยความรุนแรงมา แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาร์คเท่านั้น คําสาบานที่ว่าจะเชื่อฟังบุคซิลก็แค่ลมปาก บุคซิลก็ไม่ค่อยเชื่อใจคําพูดของอาร์คเท่าไหร่ ให้หมาป่ากับหมูมาอยู่ร่วมกัน โชคดีแค่ไหนแล้วที่จนถึงตอนนี้ยังไม่โดนเขมือบเข้าไป อย่างไรแล้วอาร์คก็มีเหตุผลแรงกล้าจนทําให้บุคซิลต้องยอมรับสถานะเจ้าของแบกิว
‘ตอนนี้เราก็เติมเต็มเรื่องที่หมอนี่ต้องการลูกน้องได้แล้ว หมอนี่คงไม่ถามหาลูกน้องเพิ่มอีกในอนาคตแน่ แล้วเรายังลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารของแบกิวโดยโยนภาระไปให้บุคซิลได้ด้วย’
แม้พวกเขาจะเดินทางร่วมกันอีกครั้ง แต่ความสัมพันธ์ของอาร์คและบุคซิลนั้นแตกต่างไปจากก่อนหน้า กระทั่งว่าก่อนหน้านี้อาร์คไม่ค่อยชอบบุคซิลเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ เขาจําเป็นต้องจ้างวานบุคซิล อาจกล่าวได้ว่าบุคซิลโดนยกระดับสถานะจากทาสไปเป็นบุคคลอิสระ ด้วยความที่เป็นตากล้องเฉพาะบุคคล บุคซิลจึงเผยคําร้องออกมา
“ผมไม่ขอทํางานจับฉ่ายอีก”
“ หมายความว่ายังไง? ฉันก็ให้เงินเดือนนายแล้วนี่นา”
“ใช่ครับ แต่นั่นมันเป็นค่าจ้างสําหรับถ่ายวิดีโอ ก็เท่านั้นแหละครับ สําหรับงานจับฉ่ายอื่น ๆ ที่เคยทําผมขอปฏิเสธ ถ้าอยากให้ทํางานพวกนั้นก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ”
คําเรียกร้องของบุคซิลนี้เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป แน่นอนว่าอาร์คย่อมต้องโกรธกับการที่ต้องจ่ายเงินกับสิ่งที่เคยได้รับมาฟรี แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาอาจข่มขู่อีกฝ่ายได้ แค่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะใช้ได้ตลอดรอดฝัง ท้ายที่สุดหลังผ่านการเจรจา อาร์คและบุคซิลก็ตกลงกันได้ในราคา ที่ทั้งคู่เห็นควรกับงานเก็บวัตถุดิบของ บุคซิล อาร์คตกลงยอมจ่ายที่ราคา 1-5 เหรียญเงินและจะรวบจ่ายในสามสิบวัน ทั้งหมดนี้ทําให้อาร์คต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 1 เหรียญทองต่อวัน แน่นอนว่าเขาจ่ายค่าแรงตรงส่วนนี้ได้ แต่พอนึกย้อนไปว่ามันคือสิ่งที่เขาเคยได้รับมาฟรีก็อดที่จะโมโห ไม่ได้ แต่วัตถุดิบที่บุคซิลรวบรวมมานั้นจําเป็นไม่น้อย อาร์คจําเป็นต้องให้อาหารกับทั้งราคาร์ดราดัน และบุคซิล เท่ากับว่าต้องการวัตถุดิบจํานวนไม่น้อย เพราะเหตุนั้นเหตุ การณ์ขาดแคลนวัตถุดิบจึงเกิดขึ้นได้ง่าย และหากมันเกิดขึ้นความเร็วการเดินทางของอาร์คก็จะต้องลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง
‘ไม่ใช่ว่ายังมีวิธีลดค่าใช้จ่ายได้สักหน่อยเหรอ?’
ด้วยเหตุนั้นเอง อาร์คจึงให้แบกิวเป็นสัตว์เลี้ยงของบุคซิล
“ถ้าหากนายเป็นคนที่ฉันต้องจ้างงานแล้ว อาหารของสัตว์เลี้ยงนายฉันก็ไม่จําเป็นต้องให้ฟรีสิ?”
อาร์คยกอ้างเหตุผลนี้กับบุคซิลเพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสําหรับมื้ออาหารของแบกิว สถานการณ์ก็พลิกกลับอีกครั้ง อาร์คเรียก 50 เหรียญเงินต่อวันสําหรับอาหารสามมื้อให้แบกิว อีกทางหนึ่ง บุคซิลจากรายได้ 1 เหรียญทองก็โดนลดลงเหลือแค่ 50 เหรียญเงินจากค่าจ้างรวบรวมวัตถุดิบที่เพิ่งเรียกร้องมาได้ ค่าใช้จ่ายอาหารสามมื้อนั้นทําให้อาร์คลดค่าใช้จ่ายสําหรับซื้อวัตถุดิบไปได้ครึ่งหนึ่ง
‘โดนหลอกอีกแล้ว บัดซบ นี่มันภาระแล้วไม่ใช่สัตว์เลี้ยง!’
เป็นปกติที่บุคซิลจะคิดแบบนั้น หลังเดินทางร่วมกับอาร์ค แนวความคิดของบุคซิลก็ต้องพลิกกลับถึงหนึ่งร้อยแปดสิบองศาเลยทีเดียว ความจริงนั้นบุคซิลก็เป็นกังวลอยู่ว่าแบกิวจะเชื่อฟังตนเองหรือไม่ แต่ไม่เหมือนกับที่กังวลไว้ แบกิว ทําตามคําสั่งของบุคซิลเป็นอย่างดีเยี่ยม อีกฝ่ายคิดว่าอย่างน้อยบุคซิลก็ดีกว่าอาร์คที่โหดเหี้ยมนึกอยากทุบตีตอน ไหนก็กระทํานอกจากนี้ แบกิวยังมีประโยชน์ไม่น้อย เพราะเป็นเผ่าวูล์แรงจึงมีความสามารถทางการต่อสู้ เพราะงั้นแล้วจึงได้เป็นบอดี้การ์ดให้บุคซิลไปด้วยในตัวหากเกิดการต่อสู้ขึ้น นอกจากนี้ สัมผัสทางด้านกลิ่นยังช่วยค้นหาวัตถุดิบง่ายดายขึ้น เพราะงั้นแล้วค่าใช้จ่ายด้านอาหารของแบกิวนับว่าคุ้มค่า พวกเขาได้รับวัตถุดิบเป็นมูลค่า 1 เหรียญทองในแทบทุกวัน และยังมีอีกเรื่องที่บุคซิลชื่นชอบไม่ น้อย เหมือนกับราดัน แบกิวสามารถเป็นพาหนะขับขี่ได้
ตึง ตึง ตึง!
ตอนนี้บุคซิลสามารถขี่แบกิวโดยไม่ต้องพึ่งราดันอีกต่อไป อาร์คไม่คิดเลยว่าการให้แบกิวกับอีกฝ่ายจะได้พาหนะไปด้วยเช่นนี้ เพราะเหตุนี้เองราดันจึงไม่ต้อง แบกรับน้ําหนักของบุคซิล ทําให้ความเร็วการเคลื่อนที่ เร็วขึ้นกว่าเดิม 30%
‘ผลจากการที่ฝากแบกิวไว้กับบุคซิลนับว่าดีไม่น้อย…’
‘แปลกไหมขอรับ? บุคซิลกลายเป็นคนดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ทําไมเห็นหน้ามันที่ไรแล้วข้ารู้สึกโกรธทุกทีเลยนะ?’
ราคาร์ดก้มเงยหน้าอย่างไม่อาจเข้าใจ เรื่องนี้อาร์คก็เข้าใจดี ความจริงแล้วอาร์คก็ไม่ค่อยชอบใจนัก เขาไม่อาจเข้าใจว่าทําไม แต่ความรู้สึกตอนนี้คืออาร์คคล้ายเสีย เปรียบขณะที่บุคซิลยินดีและสุขสันต์
“นายทําอะไรอยู่น่ะ?”
อาร์คเอ่ยถามด้วยสายตาไม่ใคร่ไว้ใจนัก จากนั้น บุคซิล เพียงหัวเราะและยกคริสตัลความทรงจําขึ้นมา
“หึหึหึ อยากเห็นหรือเปล่าล่ะครับ?”
“คริสตัลความทรงจํา? ไอ้นั่นมันมีอะไรผิดปกติหรือยังไง?”
“ไม่มีหรอกครับ แค่ลองดูก็พอ”
บุคซิลเปิดการทํางานของคริสตัลความทรงจําขณะเริ่มเล่นเนื้อหาที่เก็บบันทึกไว้ ภาพฉากที่ปรากฏ คือตอนพวกเขากําลังขี่ปลาโลมากันอยู่
“อะไรกัน?”
“รอดูเถอะครับ โอ้ ตรงนี้แหละ”
อาร์คหันกลับไปมองอีกครั้งตามคําของบุคซิล ทว่าก็ยังไม่เห็นจะมีอะไรผิดแผก หมอนี้อยากให้เขาดูอะไรกันแน่? อาร์คเผยสีหน้างงงันจนกระทั่งพบเห็นสิ่งที่ผิดปกติไป จากเดิม มันเป็นเรื่องที่หากไม่ตระหนักให้ดีคงไม่มีทางทราบ แต่ตามปกติแล้วบุคซิลจะถ่ายทําวิดีโอด้วยกล้องวิเศษ แน่นอนว่าเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายทําจากทางด้า นหลังของอาร์ค แต่วิดีโอนี้แตกต่างออกไป บางครั้งมันก็จะมีฉากที่ถ่ายทําด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านข วารวมอยู่ด้วย
“เป็นยังไงกันครับ? แตกต่างจากก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดเลยใช่ไหมล่ะ?”
“นี่นายทําได้ยังไงกันเนี่ย? ตอนขี่ปลาโลมาก็อยู่ด้านหลังฉันแท้ ๆ เลยนี่”
“ผมใช้เนตรแห่งแวมไพร์ครับ”
“เนตรแห่งแวมไพร์?”
“มันเป็นทักษะที่ผมได้มาตอนโดนคาราคุลดูดเลือด”
เรื่องนี้อาร์คก็ทราบดี มันคือทักษะที่สามารถใช้งานดวงตาให้ไปสอดแนมในพื้นที่ได้
“ฉันก็ยังไม่เข้าใจ แล้วนายถ่ายวิดีโอได้ยังไง?”
“ผมคิดว่าทักษะนี้น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย เพราะงั้นผมก็เลยหาวิธีใช้งานหลายทาง และก็บังเอิญได้เจอวิธีการใช้แบบใหม่เข้า”
“แบบใหม่?”
“นี่ไงครับ”
เมื่อบุคซิลยิ้มให้ก็พลันตบเข้าที่หลังศีรษะ ดวงตาข้างหนึ่งก็หลุดกระเด็นออก ภาพฉากนี้ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งมันก็ทําเอาคนรับชมอย่างเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ทว่าบุคซิลกลับ ทําเหมือนมันเป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรประหลาดอีกต่อไป จากนั้นคริสตัลความทรงจําขนาดเท่านิ้วโป้งถูกนําออ มาและติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของดวงตา
“อา มันก็จะเจ็บนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดวงตานี้สามารถใช้งานแทนกล้องวิเศษที่บันทึกลงไปในคริสตัลความทรงจําได้ครับ หึหึหึ วิเศษไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
นับว่าน่าทึ่ง แนวคิดการผสมผสานคริสตัลความทรงจํากับดวงตานั้นนับว่าเกินคาดจริง ๆ เพราะเนตรแห่งแวมไพร์ การถ่ายทําวิดีโอจึงถูกยกระดับขึ้นไม่น้อย บุคซิลนําดวงตา อีกข้างที่เหลือออกมาติดตั้งเข้ากับคริสตัล จากนั้น ดวงตา ทั้งสองกับคริสตัลก็จะหมุนวนรอบตัวอาร์ค เมื่อเก็บพวกมันกลับและนําวิดีโอที่ถ่ายทํามารวมเข้าด้วยกัน ภาพฉากที่ปรากฏให้เห็นก็ไม่ต่างอะไรกับการมีโดรนส่วนตัว มาถ่ายทําให้เลยทีเดียว