ตอนที่ 443 : หลังการฝึก
คา!
กรงเล็บของซอมบี้เชื้อราตอนนี้เล็งที่ลําคอของเขา และด้วยความที่เป็นกรงเล็บของซากศพเน่าแค่คิดก็น่าสยอง! อาร์คตอบสนองโดยการหลบหลีกซอมบี้เชื้อรา เขาหลบกรงเล็บนั้นได้ก่อนจะหันร่างกลับแล้วหวดลูกเตะเข้าใส่ ซอมบี้เชื้อราผงะ ร่างพุ่งปะทะกําแพงจนสั่นเทิ้ม หลังรวมการใช้ดาบและลูกเตะเข้าด้วยกัน ฝีมือการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาตอนนี้ก็มีแต่ดีขึ้นและดีขึ้น ซอมบี้เชื้อรา เพราะโดนโจมตีเข้าไปจึงร่างแข็งค้างเพราะผลจากอาการ “มึนงง” กระทั่งว่าทักษะเรียกใช้ถูกห้ามใช้งาน แต่เขาก็สามารถใช้งาน “เนตรแห่งแมว” ก่อนที่พลังมานาจะหมด เพื่อตรวจสอบจุดอ่อนส่วนใหญ่ของซอมบี้ในถ้ําเอาไว้ได้ เพื่อให้การโจมตีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟบ ฟัน ฟัน ฟับ!
อาร์คเหวี่ยงดาบออกไปหลายครั้งประหนึ่งลูกกระสุนถูกยิงเข้าใส่ร่างของพวกซอมบี้เชื้อรา เลือดสีดําน่าขยะแขยงเริ่มไหลจากรูตามร่างกายของพวกซอมบี้
“เจ้านาย กําลังมาเพิ่มขอรับ!”
เมื่อได้ยินเสียงราคาร์ดจากทางด้านหลัง เขาหันกลับไปก็พบว่ามีซอมบี้เชื้อรากําลังมาทางนี้ห้าตัว
“ราซาค!”
เมื่ออาร์คตะโกนเสียงดัง ราซาคที่กําลังรับมือกับซอมบี้ตัวอื่นอยู่ก็วิ่งเข้ามา มันยกโล่ขึ้นพร้อมผลักปะทะซอมบี้เชื้อราไปอีกสอง ขณะเดียวกันนั้น อาร์คจะวิ่งเข้าไปรับมือกับที่เหลืออีกสามแล้วใช้ลูกเตะหวดเข้าใส่สีข้างของพวกมัน ซอมบี้เชื้อราตัวที่โดนเตะ ต่างก็ร่างกระเด็นไปไกลหลายเมตรจนร่างแทบฝังกับผนังถ้ํา ทว่า ซอมบี้พวกนี้กลับเปิดปากร้องออกขณะสลัดตัวหลุดพ้นจากผนังถ้ํา แล้ววิ่งเข้าหาอีกครั้งหนึ่ง
“น้ําลาย!”
ซอมบี้เชื้อราในดันเจี้ยนไม่ใช่แค่เลเวลสูงกว่า มันยังมีความแตกต่างจากซอมบี้ที่บึง ในถ้ําแห่งนี้พวกมันมีอาวุธพิเศษคือน้ําลายพิษ ซอมบี้เชื้อราจะพ่นน้ําลายออกมา อาร์คหันตัวหมุนกลับแล้วเตะเข้าใส่กรามของซอมบี้ถึงกับค้างไปขณะน้ําลายไม่สามารถพ่นออกมาได้ ยังไม่จบเท่านั้น คอของซอมบี้เชื้อราหันบิดเบี้ยวหลังโดนเตะ เมื่ อหัวบิดเบี้ยว พวกมันไม่อาจจับทิศทางเพื่อเคลื่อนไหวให้ดีได้อี กต่อไปจนต้องเดินเซไปเซมาชนผนังถ้ํา
เริ่มง่ายขึ้นเยอะ ร่างกายเราตอนนี้เคลื่อนไหวสะดวกขึ้นมาก
อาร์คหัวเราะในคอขณะมองไปยังซอมบี้เชื้อราที่เดินเตร่ไปมา ทั้งสภาพหัวหันผิดทิศทางและบิดเบี้ยว การเคลื่อนไหวร่างกายของอาร์คตอนนี้ไม่อาจเทียบกับเมื่อหลายวันก่อนได้เลย กล่าวได้ว่าการใช้ดาบผสานลูกเตะของเขาสามารถช่วยเพิ่มอัตราการตอบสนองได้ เขายังรู้สึกถึงความต่างภายในร่างกายขณะที่ความสามารถทางกายภาพเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์การฝึกฝนไม่ใช่แค่ฟื้นคืนศักยภาพร่างกายของเขา ในช่วงหลายวันมานี้ อาร์คได้ผนึกทักษะเรียกใช้งานทั้งหมดและฝึกแต่ความสามารถทางกายภาพล้วน ทั้งหมดนี้ก็เพราะเขาอยากพิชิตดันเจี้ยนแห่งนี้ และท้ายที่สุดการฝึกฝนของเขาก็จบลงด้วยความสามารถที่ดียิ่งขึ้นกว่าเก่าจนเป็นผลลัพธ์ในตอนนี้
“ไม่เคยคิดเลย ว่าปัญหาทั้งหมดนี่เกิดขึ้น เพราะเอาแต่พึ่งพาระบบทักษะของเกมมากจนเกินไป”
การต่อสู้โดยใช้ทักษะเป็นพื้นฐานคือกลยุทธ์อันตรงไปตรงมา และสะดวกสบาย มันไม่จําเป็นต้องอธิบายอะไรมาก หากเขาใช้งานทักษะย่อมสามารถจัดการซอมบี้เชื้อราได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ํา ทว่าเมื่อใดที่หันกลับไปต่อสู้ด้วยวิธีการธรรมดามันก็อาจต้องใช้เวลามากถึงสองหรือสามนาที การต่อสู้ที่ยาวนานขึ้นจะส่งผลให้พลังชีวิตลดน้อยลงและต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อฟื้นฟูกลับคืน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมอาร์คจึงเอาแต่พึ่งพาทักษะเรื่อยมา จึงส่งผลให้เขาลืมเลือนไปสิ่งหนึ่งขณะได้อีกสิ่งหนึ่งมาทดแทน
การโจมตีหลักของอาร์คคือการต่อสู้ด้วยดาบและมือ ในเมื่อเขาเปลี่ยนไปใช้ทักษะเป็นพื้นฐาน การต่อสู้ด้วยดาบและมือของเขาจึงไม่เคยมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกเลย และการต่อสู้ด้วยดาบและมือของอาร์คตอนนี้ก็ติดอยู่ที่ขั้นสูง หากเขาไม่เข้าถึงการรู้แจ้งแบบพิเศษโดยมีทักษะที่เกี่ยวข้องเพิ่มเข้ามาด้วย มันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปได้ไกลเกินกว่าขั้นสูง แต่เรื่องนั้นก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเขาเริ่มใช้การต่อสู้ด้วยดาบและมืออีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าช่วงแรกเขาจะเผชิญหน้าศัตรูได้สามถึงสี่ แต่ท้ายที่สุดตอนนี้เขาสามารถเผชิญหน้าศัตรูได้หกถึงเจ็ดตัว หากเผชิญหน้าเกินสิบตัว ชีวิตของเขาก็ยังพอสามารถรักษาเอาไว้ได้ และต่อให้บาดเจ็บจนเข้าอาการวิกฤต อาร์คก็ไม่เคยคิดใช้ทักษะ ต่อให้ต้องตาย เขาก็ต้องยึดการฝึกนี้เอาไว้ โดยจะไม่ยอมใช้ทักษะ หากเขาตกอยู่ในวิกฤต สิ่งที่ต้องทําคือหาทางหลบหนีอย่างรวดเร็ว นี่คือการฝึกฝนเพื่อตัดสินใจอีกทางหนึ่ง การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้นั้นดีกว่าร้อยเท่าหากเทียบกับฝึกการใช้ทักษะ นี่ไม่ใช่เทคนิคที่ใครก็สามารถเรียนได้โดยง่าย ท่ามกลางวิกฤต เขาต้องใช้ศิลปะการป้องกันตัวเพื่อหาทางรอดให้ได้
นักดาบในตํานานของญี่ปุ่นอย่างมิยาโมโตะ มุซาชิก็เป็นผู้ชี้นําให้เกิดวิชาเคนโด้สมัยใหม่ขึ้นมาโดยมีสามตั้งเป็นพื้นฐาน เคนโด้สมัยใหม่ที่เกิดขึ้นมีทั้งหมดเก้าดั้ง แต่ถึงกระนั้นต่อให้เป็นเก้าตั้งก็ไม่มีใครเทียบเคียงกับมุซาชิได้ เหตุผลก็ชัดเจน นักเรียนสมัยใหม่มักฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและไม่เคยผจญอันตรายที่ต้องเสี่ยงชีวิต คําอธิบายนี้ออกจะกระด้างเกินไป แต่อาร์คก็เข้าใจได้ด้วยตัวเอง เขาต้องฝึกตัดสินใจในช่วงวินาที่สําคัญให้ดี หากเขาไม่ทําเช่นนี้ก็จะไม่มีทางก้าวหน้าได้! นี่คือหลักการที่อาร์คยึดถือในตอนนี้ กระทั่งว่าต้องเผชิญหน้ากับภูเขาสูงใหญ่ เขาก็ต้องตั้งจิตแน่วแน่เอาไว้โดยใช้เพียงแค่ดาบและลูกเตะ หลังการต่อสู้ที่อีวิลซิลโออนอารีน่า การต่อสู้ด้วยดาบและมือของเขาก็ติดอยู่ที่ค่าประสบการณ์ 500 หน่วยมาโดยตลอด แต่แล้วตอนนี้เองที่มันได้ทะลวงไปอีกขั้น
ศักยภาพของการต่อสู้ด้วยดาบและมือเพิ่มขึ้นจากประสบการณ์อันมากมายของท่าน
ต่อสู้ด้วยดาบและมือ (ขั้นสุด, มีผลต่อเนื่อง, 503/1000) : ท่านคือผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ด้วยดาบและมือ
ท่านได้เข้าใจถึงความสําคัญการใช้ดาบและรู้จักวิธีการยับยั้งชั่งใจจึงสามารถนําประสิทธิภาพออกมาได้ 100% ท่านสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มเติมได้กรณีใช้สนับมือ และอัตราการหลบหลีกของท่านพร้อมโอกาสโจมตีคริติคอลจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอกาส 20% ที่จะสามารถเข้าใจคุณลักษณะของดาบได้อย่างเต็มที่
“ความสามารถพิเศษจากทักษะขั้นสุด
หน่วงการโจมตี : มีโอกาส 20% ที่สามารถสร้างความเสียหายสองครั้งได้ในการโจมตีครั้งเดียว ความเสียหายครั้งที่สองจะเท่า กับ 50% ของความเสียหายพื้นฐานที่สร้างในครั้งแรก
“ต่อสู้ด้วยดาบและมือเลื่อนระดับเป็นขั้นสุดแล้ว!”
อาร์คอ้าปากเหวอกว้างขณะอ่านหน้าต่างข้อมูลทวนซ้ําอีกครั้ง ความสามารถในการต่อสู้โดยรวมเพิ่มขึ้น 50%! นี่ไม่ใช่แค่อะไรเรียบง่ายอย่างเพิ่มความเสียหายที่สามารถทําได้ มันยังหมายถึงความสามารถทางการต่อสู้ทั้งหมดของเขาอย่างการป้องกัน ความเร็วการโจมตี อัตราการตอบสนอง ทั้งหมดล้วนเพิ่มขึ้น! นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาร์คก็รู้สึกได้ว่าร่างกายเคลื่อนไหวได้ง่ายกว่าครั้งใดที่เคยเป็น นอกจากนี้เขายังทําให้เกิดอาการผิดปกติได้บ่อยครั้งยิ่งขึ้น และเขายังรู้สึกได้อีกว่าการต่อสู้ด้วยดาบและมือนั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพราะหน่วงการโจมตีไม่น้อยเลยทีเดียว
ความสามารถเข้าใจในตัวตนของดาบจะทําให้เขาได้รับโอกาส สร้างความเสียหายสองครั้ง! ตอนอ่านผ่านหน้าต่างข้อมูลก็ไม่ใช่อะไรน่าฟังสักเท่าไหร่นัก การสร้างความเสียหายสองครั้งโดยครั้งที่สองจะสร้างความเสียหายได้ครึ่งหนึ่งจากครั้งแรก ใช้คมดาบแห่งความมืดดีกว่าเป็นไหนๆ ทว่า พอได้ใช้มันด้วยตัวเองแล้วก็ยากจะอธิบาย มันมีโอกาสเกิด 20% หรือก็คือหนึ่งในห้าของการโจมตี แต่นั่นก็แค่พูดในกรณีให้เข้าใจง่าย บางครั้งโจมตีออกไปสิบครั้ง มันไม่ออกเลยสักครั้งก็มีเหมือนกัน แต่ในกรณีโจมตีศัตรูหลายตัวมันก็จะกระจายโอกาสให้เกิดขึ้นได้ไม่น้อย
“ตอนนี้แหละ!”
อาร์ควิ่งพุ่งเข้าใส่ซอมบี้ที่คอบิดเบี้ยวพร้อมเหวี่ยงดาบเข้าใส่ เสียงดังขึ้นสองครั้งขณะพลังชีวิตของซอมบี้เดือดแห้ง แม้โอกาสจะมีแค่ 20% แต่ด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบ ครั้งนี้การหน่วงโจมตีถึงกับสําเร็จ หากการโจมตีแรกของเขาเป็นคริติคอลก็เท่ากับจะสร้างความเสียหายได้เพิ่มขึ้นอีก โดยการโจมตีแรกจะอยู่ที่ 150% ขณะที่การโจมตีที่สองจะเป็น 75% เท่ากับว่าสามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 225% โดยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
“ถ้าคอพวกมันหักแล้วก็ง่ายที่จะทําคริติคอล!” อาร์คเร่งจ้วงแทงเข้าใส่ซอมบี้เชื้อราและฉีกพวกมันออกเป็นชิ้นไม่ต่างกระดาษชําระที่เปื่อยยุ่ย ซอมบี้เหล่านี้ต่างโดนเฉือนหันจนสิ้นเพราะการโจมตีคริติคอลและหน่วงการโจมตี!
ซอมบี้เชื้อราที่ร่างแทบไม่เหลืออะไรเริ่มกระตุกก่อนจะล้มลงไป ระหว่างนั้น ราซาคและราคาร์ดที่เพิ่งพ้นจากการฝึกนรกก็เพิ่งจัดการซอมบี้ไปหนึ่งก่อนจะลากอีกหนึ่งให้เข้ามา
“ตอนนี้แหละ ใช้โล่ตบหน้ามันเลย!”
กรัก กรัก กรั่ก!
ราคาร์ดและราชาคต่างทํางานร่วมกันโจมตีใส่ซอมบี้ นี่ก็เป็นผลของการฝึกโหดเช่นเดียวกัน สมุนอัญเชิญของอาร์คไม่สามารถใช้ทักษะได้ แต่ตอนนี้พวกมันสามารถร่วมกันรับมือซอมบี้เลเวล 400 ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก ความสามารถของพวกมันที่จริงก็เทียบเท่าเลเวล 280 แต่พอเป็นสองรุมหนึ่งก็สามารถสร้างโอกาสจัดการซอมบี้พวกนี้ ในสถานการณ์นี้ สมุนอัญเชิญของอาร์คนับว่าทําได้ดีจนเขาพึงพอใจไม่น้อย
ถ้ารับมือได้ดีขนาดนี้ เราคงไม่ต้องไปยุ่งแล้วสินะ
อาร์คผ่อนคลายขณะมองการต่อสู้ระหว่างสมุนอัญเชิญของเขากับซอมบี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไงล่ะ พวกเราชนะแล้ว!”
ราคาร์ดส่งเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อล้มซอมบี้เชื้อราได้หลังผ่านไปสี่นาที
“ยังเหลืออีกเยอะให้จัดการ เป้าหมายถัดไปคือล้มพวกมันตัวหนึ่งให้ได้ในสองนาที”
“เชอะ ชมข้ามันยากมากหรือขอรับ?”
“ถ้าจัดการเสร็จภายในสองนาที่เดี๋ยวจะชมให้หนําใจเลย”
อาร์คยิ้มให้ราคาร์ดที่บ่นกระปอดกระแปด อะไรก็ดี ตอนนี้ความกังวลเรื่องปัญหาในถ้ําของเขาก็คลี่คลายไม่น้อยแล้ว แม้จะยังมีซอมบี้เชื้อราอีกมากจนทําให้ความคืบหน้าไม่ค่อยรวดเร็วนัก แต่เป้าหมายของอาร์คก็ไม่ใช่เพื่อเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้ เป้าหมายแรกเริ่มของเขาคือการรวบรวมวัตถุดิบที่จําเป็นสําหรับแก่นเนโครแมนเซอร์ต่างหาก
“เกือบได้วัตถุดิบครบแล้ว”
นอกจากนี้ ซอมบี้เชื้อราภายในถ้ํายังเลเวล 400 กันถ้วนหน้า มันจึงทําให้เขาได้รับค่าประสบการณ์ถึง 200% ทุกครั้งที่จัดการพวกมัน จนเป็นผลให้ค่าประสบการณ์ของเขาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังผ่านไปไม่กี่วัน เขาถึงกับได้รับเลเวลเพิ่มมาอีก 8 ระดับจนเลเวล 357 เป็นที่เรียบร้อย นับว่ารวดเร็วกว่าการล่าในบึงนับสี่เท่าเลยทีเดียว ทว่าอัตราการเกิดใหม่ของซอมบี้เชื้อราภายในถ้ําค่อนข้างช้ากว่าบึงน้ํา ตรงส่วนนี้ออกจะน่าเสียดายไปบ้าง
“แต่การเคลียร์ดันเจี้ยนนี้จะยิ่งยากขึ้นถ้าหากอัตราเกิดใหม่ของซอมบี้เชื้อราภายในถ้ําเร็วจนเกินไป
กระทั่งว่าเขาสามารถรับมือซอมบี้เชื้อราสิบตัวโดยไม่ใช้ทักษะได้ แต่เขาก็ยังคงต้องมีการใช้ยาฆ่าเชื้อ และเพราะระยะเวลาสําหรับใช้งานยาฆ่าเชื้อนั้นเอง ทําให้การรุกคืบเข้าไปภายในถ้ําของเขา ต้องเว้นจังหวะถอยออกมาด้วย ถ้าหากอัตราการเกิดใหม่ของซอมบี้ พวกนี้เร็วเหมือนที่บึง มันคงต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเขาจะเข้าไปด้านในได้