สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – บทที่ 1592 สาวใช้ของคุณชายเย่ 1432

บทที่ 1592 สาวใช้ของคุณชายเย่ 1432

” เรายังมีเวลาอีกมากที่จะคุยกันดีๆ นะครับ ” เขาพูดกับAlinเบาๆ นัยหนึ่งก็เหมือนเขากำลังพูดกับติงยียี

หลังจากฝีเท้าที่นิ่งและมั่นคงค่อยๆ เดินจากไป ติงยียีก็พูดด้วยความละอายใจ: ” อาจารย์คะ ทั้งหมดมันเป็นเพราะหนูเอง เราจะทำยังไงดี ธุรกิจของอาจารย์ที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ของประเทศจีนจะจัดการยังไงคะ? ”

Alin เหอะสองทีพร้อมพูดต่อ ” มันก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะที่จะเจอลูกศิษย์มีความสามารถแล้วยังถูกชะตากับเราอีก แค่เธอบอกว่าไม่อยากไป ก็ไม่มีใครพาเธอไปจากที่นี่ได้! ”

ภายในโรงแรม ขณะที่เย่เนี่ยนโม่กำลังนั่งอยู่ เย่ป๋อก็ลังเลและพูดขึ้นมา ” Alin มีอำนาจมากในประเทศฝรั่งเศส บุคคลชั้นสูงที่นี่ก็ต่างไว้หน้าเขาทั้งนั้น ในพื้นที่ของเราคงไม่มีแผนที่จะเอาชนะได้เลยแม้แต่นิดเดียว ”

เย่เนี่ยนโม่ยังคงนิ่งเงียบ นิ้วชี้ของเขาลูบไล้ลงบนผิวของเพชรเบาๆ แม้แต่สีหน้าก็ยังคงดูนิ่งเฉย แล้วในที่สุดเขาก็ยอมพูดออกมา ” พรุ่งนี้กลับประเทศ ”

เย่ป๋อรู้สึกแปลกใจในการตัดสินใจของคุณชาย แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าและอารมณ์ที่ดูเย็นสุขุมก็เข้าใจแล้วว่า คุณชายจะต้องคิดแผนอย่างดีแล้วแน่จึงจะตัดสินใจทำอะไร

ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ในมือของเย่ป๋อก็ดังขึ้น เขารับและตอบกลับไป ก่อนจะยื่นมันให้คุณชาย ” คุณอ้าวเสว่ต้องการคุยกับคุณชายครับ จะรับไหมครับ ”

เย่เนี่ยนโม่กำลังคิดจะปัดมือเป็นเชิงไม่รับ แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนความคิด จึงหยิบโทรศัพท์มาคุย น้ำเสียงของคุณอ้าวเสว่ ฟังดูหวานหยดย้อย ” เนี่ยนโม่ ฉันรบกวนคุณหรือเปล่าคะ? กี่วันมานี้คุณยายคิดถึงคุณมาก แกดูกินอาหารไม่ค่อยลงเลยค่ะ ”

” ลองให้หมอมาดูหน่อยแล้วกัน ” เย่เนี่ยนโม่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ อ้าวเสว่ที่อยู่ไปสายก็ตอบตกลงทันที แล้วจึงจะวางสายไป

ณ บ้านตระกูลเย่ อ้าวเสว่โยนโทรศัพท์ไว้บนพื้น จากนั้นก็ฉีกยิ้มและมองไปยังซางหัวที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ” พอละ แกได้ยินเสียงเนี่ยนโม่แล้ว รีบเก็บข้าวของเธอไสหัวไปซะ ”

” ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะรอให้คุณชายกลับมา! ฉันต้องรอเจอท่านนายก่อน! ” ซางหัวที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น สีหน้าดูดุร้าย เธอจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ไม่ยอม!

คิ้วที่ได้รูปสวยของอ้าวเสว่ขมวดแน่นขึ้น ” เธอก็อย่าลืมแล้วกันว่าเนี่ยนโม่จะขับไล่สายส่งเธอออกไปด้วยตัวเอง ”

” มันคือความยินยอมของท่านนายเย่ เพียงแค่ขอให้ฉันได้เจอคุณท่านฉันจึงจะยอมจากไปแต่โดยดี เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เธอก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะยอมออกไปจากที่นี่! ”

ซางหัวพยายามฝืนตัวเพื่อลุกขึ้นมา ในตอนแรกเธอนึกว่าตัวเองทำเป็นยอมแพ้เพื่อที่จะให้ผู้หญิงคนนั้นประมาทไม่ระวังตัว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอยังอยากจะให้ตัวเองออกไปจากที่นี่อีก ถ้างั้นตัวเธอก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำตัวอ่อนแออีกต่อไป

อ้าวเสว่จ้องเขม็งเงาหลังที่เดินจากไปของอ้าวเสว่ ด้วยสีหน้าที่ยังคงขมวดคิ้วแน่น ในตอนนี้มันไม่ง่ายเลยที่เธอกับเย่เนี่ยนโม่จะพัฒนาความสัมพันธ์กัน เย่เนี่ยนโม่ถึงขนาดยอมรับโทรศัพท์เธอ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ยอมให้ซางหัวมาก่อกวนในบ้านตระกูลเย่เป็นอันขาด อีกอย่างคำพูดของแม่ตัวเองทำให้เธอฉุกคิดมาโดยตลอด บางทีการที่ซางหัวไม่ยอมออกไป สุดท้ายเธอก็คงจะมีจุดจบที่ไม่ค่อยสวยนัก ถึงแม้ว่าเธอจะเลว แต่เธอก็ไม่อยากทำเรื่องโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนั้น

เธอลูบท้องของตัวเองเบาๆ อากัปกิริยาดูเชื่องช้า และทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวเธอ มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ที่ดูชั่วร้าย

ภายในห้องหนังสือ ฝู้เฟิ่งหยีกำลังคัดตำราอะไรบางอย่าง อ้าวเสว่ก็ยกชาเดินเข้ามา ” คุณยายคะ นี่คือชาปี้หลัวชุนชั้นดีเลยค่ะ หนูเลือกเฉพาะยอดชาของมันเลย คุณยายลองดื่มดูสิคะ ดื่มตอนนี้กำลังพอดีเลย ”

ฝู้เฟิ่งหยีมองเธอด้วยสายตาที่ดูพึงพอใจ ในช่วงนี้ไม่ว่าอ้าวเสว่จะทำอะไรเธอก็รู้สึกพอใจไปหมด แน่นอนว่าถ้าเหลนของเธอได้เกิดมาแล้วแล้วก็เธอก็คงจะพอใจมากกว่านี้

” ลูกในท้องของเธอก็สี่เดือนแล้ว ปกติก็ต้องประคบประหงมอย่างดี ร่างกายของเธอมันมีค่ามากนะ ” ฝู้เฟิ่งหยีดื่มชาไป ก็พูดกำชับอย่างละเอียด

” ได้ค่ะคุณยาย จริงสิ ช่วงนี้วัดแถบชานเมืองตงเจียงมีงานด้วยนะคะ ไม่งั้นเราไปไหว้ที่นั่นกันไหมคะ แวะเข้าไปขอพรให้คุณลุงคุณป้าด้วย แล้วก็เนี่ยนโม่อีกคน ”

ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้า ” ถ้าลูกหลานตั้งมั่นแล้ว คนแก่อย่างฉันก็คงต้องเรียกให้คนเตรียมการหน่อยล่ะ ”

” คุณยายคะ ที่นั่นคงพาคนไปเยอะไม่ค่อยได้หรอกค่ะ เดี๋ยวมันจะรู้ว่าเราไม่จริงใจ หนูคิดว่าซางหัวก็ไม่เลวเลยนะคะ แกดูเป็นคนฉลาดมีความคิดดี เราให้เธอไปด้วยก็น่าจะพอแล้วนะคะ ”

ฝู้เฟิ่งหยีคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดก็มีเหตุผลดี จากนั้นเธอก็ตะโกนเรียกให้พ่อบ้านจัดเตรียมเรื่องต่างๆ

ตอนบ่าย ในหน้าประตูวัด มือหนึ่งของซางหัวถือของใช้จำเป็นของคุณแม่ตั้งครรภ์ และอีกมือหนึ่งก็ถือเสื้อหนังสัตว์ที่อ้าวเสว่ไว้เตรียมใส่ตลอดเวลา แถมที่คอก็ยังขวดน้ำแขวนเอาไว้อีก

ฝู้เฟิ่งหยีกับอ้าวเสว่ก็เข้าไปในวัดเพื่อกราบไหว้ ซางหัวก็ยังคงยืนอยู่หน้าประตูวัดเช่นเดิม วันนี้เธอระมัดระวังตัวตลอดเพราะกลัวอ้าวเสว่แกล้งเธอ แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีอะไร เพียงแต่ให้เธอถือของมากมายก็เท่านั้น

คิดเหรอว่าการที่ให้ทำแบบนี้จะทำให้เธอยอมถอยได้? ซางหัวยิ้มเย็น มือทั้งสองข้างที่ถือของเอาไว้ เมื่อผ่านไปสักพักใหญ่ มือของเธอก็เริ่มรู้สึกชาจนไร้ความรู้สึกใดๆแล้ว อ้าวเสว่ก็ประคองแขนของฝู้เฟิ่งหยีเดินออกมาช้าๆ

” คุณยายรอแป๊บหนึ่งนะคะ หนูจะเอาเงินไปใส่ตู้น้ำมันสักหน่อย มันถึงจะแสดงความจริงใจของพวกเราได้ค่ะ ” อ้าวเสว่หยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กและยิ้มเนิบๆ พร้อมเดินไปยังตู้บริจาคเงินน้ำมัน

” เสแสร้งล่ะสิไม่ว่า ” ซางหัวพูดพึมพำคนเดียวเงียบๆ

” ซางหัว มาประคองฉันหน่อยสิจ๊ะ ” อ้าวเสว่ที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็ตะโกนออกมา เธอจึงรีบตอบรับ และเดินสาวเท้าวิ่งตรงไปยังอ้าวเสว่

เพราะเธอยืนนานเกินไป และในมือก็ถือของไว้เยอะ มันจึงทำให้มือของเธอมีอาการชาจนแทบจะแบมือไม่ได้ ท่าทีในขณะที่ประคองอ้าวเสว่จึงดูเหมือนวางมือเบาๆ เท่านั้น

เมื่อบริจาคค่าน้ำมันเสร็จแล้ว ก็เขย่งเท้าเพื่อที่จะหยิบธูปบนกล่องทำบุญ แต่ในขณะที่เขายังเท่านั้น จู่ๆ เท้าของเธอก็ลื่น ทั้งร่างจึงโถมตัวไปยังกล่องบริจาค ทำให้ท้องฟาดเข้าไปตรงกล่องบริจาคเข้าอย่างจัง

” อ้าวเสว่! ” ฝู้เฟิ่งหยีไปประคองอ้าวเสว่ที่ล้มลงบนพื้นอย่างรีบร้อน ซางหัวลุกลี้ลุกลน จึงรีบอธิบายว่า: ” มือดิฉันชามาก แต่ก็ประคองคุณอ้าวเสว่ไปแล้วนะคะ เธอเอาตัวเองไปชนกับกล่องนั้นเองต่างหาก ”

ฝู้เฟิ่งหยีใช้หลังมือตบเข้าที่ใบหน้าเธอทันที และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: ” ถ้าหล่อนคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้หล่อนเข้ามาอยู่ในตระกูลเย่ได้ หล่อนคงคิดผิด หล่อนมันก็แค่คนที่ฉันจัดหาให้มาบำเรอกามเนี่ยนโม่ก็เท่านั้น ”

ซางหัวเอามือกุมที่แก้มแล้วถอยหลังไป เธอมองไปยังอ้าวเสว่ด้วยแววตาที่เคียดแค้น ทันใดนั้นก็ระเบิดอารมณ์ออกมาและเตรียมจะวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง คนขับรถที่มาด้วยจึงรีบเข้าไปรั้งตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว

อ้าวเสว่พยายามที่จะลุกขึ้นมา ฝู้เฟิ่งหยีก็รีบพูดว่า: ” อย่าลุกขึ้นมาสิ ตอนนี้อย่าขยับนะ รีบไปเรียกรถฉุกเฉินมาเร็ว! ”

คนขับรถใช้มือข้างหนึ่งล็อกตัวซางหัวเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็โทรศัพท์เรียกรถฉุกเฉิน อ้าวเสว่พยายามเกร็งตัวลุกขึ้นมาจนในที่สุดก็สามารถทำได้ ” คุณยายคะ หนูไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ หนูแค่ชนเข้าไปนิดหน่อยเอง ”

” เห็นไหมเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เพราะทั้งหมดเธอแสร้งทำยังไงล่ะ ไม่แน่เด็กในท้องนั้นน่าจะไม่ใช่ของเธอก็ได้ วันนั้นฉันยังเห็นเธอกับชายอื่นอยู่ด้วยกันอยู่เลย ” ซางหัวตะโกนออกมาอย่างไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น

อ้าวเสว่ตกใจจนสะดุ้ง สีหน้าโกรธแค้น เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าซางหัว และเงื้อมมือขึ้นตบเธออย่างจัง ” ระวังปากด้วย! เธอบอกเองว่าเธอชอบเนี่ยนโม่ ฉันได้ขอให้คุณยายเอาเธอไปไว้ข้างกายเขา ฉันให้โอกาสเธอแล้ว แต่ทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้! ”

มือที่เธอตกลงมามันแรงมาก ส่งผลให้แหวนบนนิ้วขูดใบหน้ารูปไข่ของซางหัวเข้า ผู้คนรอบข้างต่างที่ชี้นิ้วนินทา มองอ้าวเสว่ที่ตบหน้าหญิงสาวหน้าตาดีคนนั้น

อ้าวเสว่โค้งตัวลงแล้วประคองท้องของตัวเอง ฝู้เฟิ่งหยีจึงเข้ามาประคองเธอ ทั้งสองค่อยๆ เดินลงบันได ซางหัวมองตามหลังพวกเธอด้วยความโกรธแค้น

แต่เมื่อคนขับรถปล่อยตัวเธอ เธอจึงรีบตามท่านนายเย่ไปทันที ซางหัวสูดหายใจเข้า จากนั้นก็สาวเท้าแล้ววิ่งไป อ้าวเสว่หันกลับไปมองด้วยความหวาดระแวง พอคิดที่อยากจะหลีกออก มือทั้งสองข้างของซางหัวก็ผลักเข้าที่หลังเธออย่างแรง

” กรี๊ด! ” เสียงร้องด้วยความตกใจ อ้าวเสว่เท้าลอยขึ้นเหยียบบนอากาศจากนั้นก็ล้มลง จากนั้นก็กลิ้งลงบันไดวัดตกลงไปข้างล่าง ซางหัวมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ จนไม่รู้จะทำอะไรจึงหันตัวแล้ววิ่งหนีไป

” อ้าวเสว่เธอไม่เป็นไรนะ รถฉุกเฉินทำไมยังไม่ถึงอีกเนี่ย? ”

เสียงของฝู้เฟิ่งหยีที่ดังอยู่ข้างๆหู บางครั้งก็ฟังดูใกล้บางครั้งก็ไกล อ้าวเสว่เริ่มขมวดคิ้ว เธอรู้สึกถึงอะไรอุ่นๆที่ไหลออกมาตรงส่วนล่างของเธอ ในเวลานี้เธอเริ่มรู้สึกลนลานขึ้นมาเลย

” คุณยายคะ หนูกลัว! ” อ้าวเสว่ดึงแขนเสื้อของฝู้เฟิ่งหยีเพราะคุมสติไม่อยู่ พร้อมกลอกตามองไปรอบข้าง ภายในท้องรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาเป็นระยะ และในที่สุดเธอก็หมดสติไป

เย่เนี่ยนโม่ได้รับโทรศัพท์ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถ เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ความหนาวเย็นคืบคลานเข้ามาบนร่างกายของเขา ” เฝ้าดูตรงนี้ดีๆ ไม่อนุญาตให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรทั้งนั้น ”

ภายในห้องพักผู้ป่วย อ้าวเสว่ที่สลบไปหนึ่งวันเต็มก็สะลึมสะลือเพราะได้ยินเสียงก้าวเท้าของใครบางคนที่เข้ามาในห้อง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบว่า ” อาการเป็นไงบ้าง ”

” ทารกในครรภ์ปลอดภัยดีครับ แต่แม่เด็กอาจเสี่ยงกับการมีภาวะรกเกาะต่ำ ไม่สามารถเกิดเหตุการณ์สูญเสียเลือดได้อีก ไม่งั้นจะไม่สามารถรักษาชีวิตทารกในครรภ์ได้ และชีวิตแม่เด็กก็จะเป็นอันตรายเช่นกัน ”

หลังจากเสียงเงียบ ก็เป็นเสียงฝู้เฟิ่งหยีที่พูดขึ้นมา ” เนี่ยนโม่ ทำไมกลับมาแค่คนเดียว แล้วเลขาล่ะไปไหน? ”

อ้าวเสว่ที่ตอนนี้ได้ตื่นแล้ว ก็ยังคงหลับตาแกล้งหลับต่อไป ในใจก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เย่เนี่ยนโม่มักเอาเย่ป๋อติดตัวไปด้วยเสมอ นอกจากจะมีเรื่องสำคัญจึงจะใช้ให้ไปทำแทน

จากนั้นหูของเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่นิ่งและมั่นคงเดินเข้าใกล้มา เธอจึงรีบสงบจิตสงบใจ มือของใครบางคนเอื้อมมาเช็ดเหงื่อที่เป็นเม็ดจนเปียกผมสวยบนหน้าผากของเธอ มือนั้นมันหยุดชะงักไป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขยับไปไหน

เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา จึงเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของเขาด้วยแรงที่มีเพียงน้อยนิดอย่างสุดความสามารถ ” คุณจะไปแล้วเหรอคะ? ”

ฝู้เฟิ่งหยีได้พาหมอออกไปจากห้องนั้นเงียบๆ ภายในห้องจึงเหลือแค่สองคนนี้เท่านั้น เย่เนี่ยนโม่ปัดมือของเธอออกแล้วหันตัวโดยที่ไม่มีท่าทีที่ดูรักเธอเลยแม้แต่น้อย

สีหน้าอ้าวเสว่ดูเศร้าสุดหัวใจ ริมฝีปากขาวซีดสั่นเทิ้ม เธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะฉุดรั้งเขาเอาไว้ จนกระทั่งเธอเห็นว่าเขาถอดชุดสูทออก และนั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวตรงนั้น จากนั้นก็หยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะน้ำชาขึ้นมา

” คุณ ” อ้าวเสว่เปิดบทสนทนาด้วยความตกตะลึง จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาบนใบหน้าของเธออย่างหยุดไม่อยู่ เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้ว เขาวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วเดินมาตรงหน้าเธอ

อ้าวเสว่กอดเอวของเขาเอาไว้ การรอคอยของเธอเพียงหนึ่งวันมันก็นานมากพอแล้ว เหมือนกับเธอกำลังเคลื่อนตัวในหลุมโคลนอย่างยากลำบาก ตอนแรกนึกว่าตัวเองจะจมลงไปจนตายแล้ว แต่ในเวลานั้นเองกลับมีใครบางคนโยนเชือกเส้นหนึ่งลงมาให้เธออย่างเต็มใจ ทำให้เธอกลับมาหายใจได้อีกครั้ง

เย่เนี่ยนโม่ยังคงยืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และความรู้สึก เขาไม่ได้ผลักเธอออก แต่ในแววตานั้นมันไร้ซึ่งความรัก ในใจของเขามีเพียงแค่หญิงสาวอีกคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะยังไงติงยียีก็จะกลับมาแล้ว ความอ่อนโยนและความอบอุ่นในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นรางวัลที่เธอคลอดลูกด้วยความเต็มใจแล้วออกไปจากที่นี่ก็แล้วกัน

ติงยียี ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมาหลายวัน แต่เย่เนี่ยนโม่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย ทุกอย่างกลับมาเหมือนชีวิตเมื่อก่อน

ถ้าไม่ใช่เพราะสมองของเธอยังคงกลับไปฝันเห็นฉากพบเจอฉากนั้นตอนเที่ยงคืน เธอคงคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะตัวเธอที่คิดไปเอง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

Status: Ongoing

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท