เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 154 – เวลอัพแบบไม่น่าเชื่อ

ตอนที่ 154 - เวลอัพแบบไม่น่าเชื่อ
เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 154 – เวลอัพแบบไม่น่าเชื่อ
(TLขอโทษนะครับ อาจจะสับสนมาบ้างตอนที่กินเหล้าเมาแล้วแปล ถังจิ่วหรือเทียนเจว๋ เป็นคนคนเดียวกันนะครับ กราบแทบเท้าขออภัยทุกๆท่านครับ)
การบ่มเพาะของหยินซางสูงเกินไป
มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะฆ่าเขาได้ นั่นก็คือเพิ่มการบ่มเพาะของตัวเอง!
นี่เป็นความคิดที่บ้าและเป็นไปไม่ได้สําหรับคนปกติ
ทะลวงการบ่มเพาะจาก ขั้น 5 ไป ขั้น9?
เจ้าเพิ่งเอาหัวโขกประตูมาใช่ไหม??
หรือว่าเจ้าคนนี้เพิ่งหลบหนีออกมาจากโรงบาลบ้า?
นี่มันเป็นไปไม่ได้ หากทะลวงคอขวดไปอย่างรวดเร็วขนาดนั้นได้ง่ายๆ มันคงไม่มีใครในโลกนี้ที่จะมาจมจ่ออยู่กับปราณเชียวชาญตลอดชีวิตหรอก.
แต่ลั่วเทียนแตกต่าง
วิธีการเพิ่มพลังบ่มเพาะของเขาแตกต่างจากคนในโลกนี้อย่างสิ้นเชิง เขามีระบบไร้พ่ายและการที่จะทะลวงคอขวดนั้นจําเป็นต้องใช้แต้มประสบการณ์ที่มากพอเท่านั้น ไม่มีอะไรที่เป็นการติดคอขวดหรือทําความเข้าใจความลับของสวรรค์หรือปฐพี วิธีการของเขาง่ายมาก แค่ฆ่าต่อไป!
ยิ่งกว่านั้น
เมืองภูเขาซากศพทมิฬยังเป็นสถานที่ตรงกับเงื่อนไขของเขาอย่างยอดเยี่ยม
ตอนนี้มีทหารอมตะกว่า 36,000 คนและแต่ละคนก็เป็นแต้มประสบการณ์ให้กับลั่วเทียนเยอะมาก! หากลั่วเทียนสังหารพวกเขาได้ทั้งหมด มันก็เป็นไปได้ที่เขาจะทะลวงไปยังปราณวิญญาณขั้น 9 นี่คือความคิดบ้าๆที่เขามี!
ระเบิดทหารอมตะทั้ง 36,000 ให้กลายเป็นได้แค่ขยะ!
ถังจิ่วมองไปที่ลั่วเทียนอย่างจริงจัง
ฉินหยู่เอ๋อร์กําลังมองมาที่ลั่วเทียนด้วยเหมือนกัน
ไปเม่ยก็เหมือนกัน
การจ้องมองของพวกเขานั้นไม่ต่างจากมองสัตว์ประหลาดแปลกๆดั่งคนที่อยู่ด้านหน้าของเขา
ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน: “ไอ้บ้า!”
ถังจิ่ว หัวเราะเบาๆอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะพูดว่า: “ไม่เป็นไร แม้ว่าข้าจะต้องดาย ข้าก็จะยื้อให้เจ้าครึ่งชั่วโมง.”
เขาเชื่อในตัวของลั่วเทียนอย่างไม่มีข้อแม้
เขาเดิมพันด้วยชีวิตของเขากับลั่วเทียน.
องค์ชายเก้าของตระกูลถังที่ยิ่งใหญ่ เป็นศิษย์สายตรงของสํานักเมฆคราม เขาได้เชื่อคนบ้านๆอย่างสนิทใจ?
ไม่มีเหตุผลใดที่ถังจิ่วจะเชื่อในตัวผู้เชียวชาญคนอื่น ยกเว่นลั่วเทียน.
แค่ได้ยินชื่อก็เพียงพอแล้ว!
ฉินหยู่เอ๋อร์ เช็ดน้ำตาที่หางตาก่อนที่นางจะหัวเราะคิกคักอย่างเจ้าเล่ห์ “เจ้าสารเลว พี่สาวคนนี้จะช่วยขวางพวกเขาให้ หากครึ่งชั่วโมงมันไม่พอ พี่สาวจะถ่วงเวลาให้เป็นชั่วโมง หากว่าหนึ่งชั่วโมงยังไม่เพียงพอและมันอาจจะเป็นเวลาที่ยาวนานจนไม่สิ้นสุด ฮี่ฮี่….”
ยังคงก็ตามประโยคสุดท้ายของนางดูเหมือนว่านางจะไม่ได้พูดถึงการถ่วงเวลาศัตรูให้กับลั่วเทียนอีกต่อไป
การแสดงออกของนางเขินอายและทําให้ลั่วเทียนไม่อาจระงับความต้องการทางเพศของเขาได้
จากนั้นไปเม่ยกระแอ่มไออออกมาก่อนที่จะตะโกน: “กระดูกผุๆของข้าคงไม่อาจถ่วงเวลาได้นาน ดังนั้นเจ้าจงสู้ตามที่เจ้าต้องการ!”
ทันทีหลังจากนั้น
ทั้งสี่เริ่มหัวเราะพร้อมกัน
เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นผิดปกติ
ลั่วเทียนกระโจนเข้าหาเหล่าทหารอมตะที่อยู่รวมกันมากที่สุด จากนั้นเขาก็ถ่ายทอดพลังวิญญาณให้กับทั้งสามคน: “พวกท่านระวังด้วย เมื่อข้าทะลวงปราณวิญญาณขั้น 6 หยินซางจะสังเกตเห็นมันได้แน่นอนและจากนั้นเขาจะเข้ามาหาข้า ทุกท่านต้องดูแลตัวเองให้ดีๆเป็นอย่างแรกและอย่าต่อสู้กับเขาตรงๆ”
ถังจิ่วยิ้มเบาๆและพูด: “นี่คุณเอ้ย ไปทําสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วข้าจะจัดการส่วนที่เหลือ!”
“ได้”
ลั่วเทียนไม่ได้พูดมากความ เวลานี้เวลาสําคัญกับเขาอย่างมาก
สายตาของเขาจ้องมองหยินซางที่ยืนอยู่เหนือวังราชาทมิฬ ความคิดของลั่วเทียนพลันเป็นมาดร้ายขณะที่เขาพูดพึมพําะ “ไอ้สุนัขบัดซบ รอให้บิดาระเบิดร่างของเจ้าเสียก่อน!”
ทันทีหลังจากนั้น
ลั่วเทียนกางแขนตะโกน: “Level 2 Berserk!”
“วูมมม !”
ความสามารถสี่เท่าก็ระเบิดออกมา
“เด็กนั้นต้องการทําอะไร?”
“บางทีเขาอาจจะสมองเสื่อมก็ได้?”
“เขาถูกราชาทมิฬทุบตีจนปัญญาอ่อนเลย? เขาต้องการฆ่าตัวตายหรือเปล่า?”
หยินซางยังคงแสดงสีหน้าเย็นชาและเหยียดหยาม ดวงตาของเขาสั่นไหวขณะที่มองสิ่งที่ยั่วเทียนทําอย่างเยาะเย้ย! “มาดูกันว่ามดมันจะทําอะไรได้เ”
“ หมื่นฟ้าคําราม!”
“Level 3!”
“ตูม !”
เหนือหัวของลั่วเทียนมีกลุ่มเมฆปรากฏตัวเป็นวงกว้าง สายฟ้าเริ่มแล่บไปมาพร้อมกับเสียงที่ดัง ครึ่นๆ ภายใต้พลังเพิ่มขึ้นสี่เท่าเมฆพายุนี้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
“ฝ่ามันให้วาดวายเลยซ้าาา!”
“ตูม~… ตูม~…”
ฟ้าผ่านับไม่ถ้วนเริ่มผ่าลงมาอย่างบ้าคลั่งภายในรัศมีหนึ่งร้อนเมตรจากตัวของเขา
มีเพียงขี้เถ้าเท่านั้นที่เหลืออยู่หลังจากที่สายฟ้าผ่าลงมา.
หมื่นฟ้าคํารามเลเวล 3 นั้นทรงพลังอย่างมากและเมื่อใช้มันทําลายทหารอมตะเหล่านี้ก็เหมือนกับการเติมน้ำมันลงกองไฟ
“ติ้ง!”
“ติ้ง!”
เสียงแจ้งเตือนดังอย่างต่อเนื่อง!
ค่าประสบการณ์ของเขาพุ่งสูงเสียดฟ้า! เมื่อลั่วเทียนมองไปที่แถบExpของเขา ความตื่นเต้นก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้งขณะที่เขาตะโกน: “หมื่นฟ้าคําราม!”
“ตูม~ !”
“ทําไมเด็กคนนี้ดูบ้าคลั่งจัง? เขาไม่อาจเอาชนะราชาทมิฬได้ เขาจึงใช้พลังเพื่อสังหารทหารตัวน้อยๆ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าข้าจะขําตายแล้ว! เด็กคนนี้ตลกจริงๆ!
“ราชาทมิฬ ข้าคิดว่าเด็กคนนี้ดูเสียสติไปแล้วจากการถูกท่านชกไปหมัดเดียว เป็นไปได้ไหมที่เขาไม่ได้รู้ว่าทหารอมตะนั้นเป็นเพียงแมลงกู่? ราชาทมิฬสามารถสร้างแมลงกู่ได้มากมายตราบที่ท่านต้องการ.”
หยินซางยิ้มน้อยๆ การแสดงออกของเขาบ่งบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องตลกสําหรับเขา จากนั้นเขาก็พูดอย่างเยือกเย็น: “เขาต้องการที่จะฆ่าทหารอมตะของข้า?หากเข้าชอบ ข้าจะปล่อยให้เขาทําตามใจ!”
หยินซางโบกมือเบาๆ
เสียงที่เยือกเย็นของเขาก็ดังทั่วทั้งเมือง: “ฆ่าเขาซะ!”
ทันใดนั้น…
ทหารอมตะทั้งหมดรีบพุ่งเข้าหาลั่วเทียน
มันเป็นเหมือนกับคลื่นมนุษย์
ลั่วเทียนเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งภายในใจ, 5555+ หยินซาง บิดาคนนี้ยอมรับของขวัญของเจ้า! 5555..”
เขาไม่คิดว่าหยินซางจะให้ทหารอมตะพุ่งเข้าหาเขาเพียงคนเดียว
มันไม่ใช่ว่าข้าจะเลเวลอัพได้รวดเร็วหรอกเหรอ?
ลั่วเทียนแทบอดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะ เขายังคงมุ่งไปด้านที่ปลอดภัยและต่อสู้กับทหารอมตะและทุกที่ที่เขาผ่านมันจะกลายเป็นทุ่งฟ้าผ่า ไม่ว่าทุ่งฟ้าผ่าจะเกิดขึ้นที่ไหนก็สามารถบอกได้ว่า แม้แต่หญ้าก็ยังไม่อาจงอกใหม่ได้ สิ่งที่ไม่กลายเป็นเถ้าเพราะพวกมันไม่มีนอกจากความว่างเปล่า!
เวลาที่น้อยเวลา 5 นาที
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน ที่อัพเลเวล เลเวลของท่านปัจจุบันคือ ปราณวิญญาณ ขั้น 6!”
“ข้าเวลอัพแล้ว!”
ลั่วเทียนรู้สึกตื่นเต้นอย่างลับๆขณะที่เขาพูดกับตัวเอง: “ข้าต้องการอีกแค่ 3 เลเวลก็จะไปถึงปราณวิญญาณขั้น 6 ยังมีเวลาเหลืออีก 25 นาที ข้าต้องรีบอัพเวลไวๆ หยินซางรอก่อนเถอะ เวลาที่เจ้าตะตายเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว 5555+…”
เมื่อเขาเลเวลอัพ..
กลิ่นอายรอบๆลั่วเทียนก็แตกต่างกันทันที
ปราณวิญญาณขั้น 6 นั้นทรงพลังว่าปราณวิญญาณขั้น 5 อย่างมาก.
“โห๋?”
“เด็นนั้นทะลวงระดับได้จากการฆ่า? การบ่มเพาะของเขาได้เลื่อนขั้นมาเป็นปราณวิญญาณขั้น 6 แล้ว…เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเลื่อนการบ่มเพาะได้ผ่านการต่อสู้? นี่ไม่ใช่การถามมากไปใช่ไหม?”
“มันเป็นเรื่องบังเอิญ.”
“แล้วถ้าเขามาถึงปราณวิญญาณขั้น 6 แล้วไง เขาก็ยังไม่ดีพอที่จะมาขัดรองเท้าราชาหรอก!”
“ถูกต้อง เขาแค่ทะลวงได้เพราะเรื่องบังเอิญ.”
หยินซางหนี่ตามอง เขามองเห็นลั่วเทียนกําลังทําเรื่องอะไรบางอย่างที่มันไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่เขาก็ยังไม่อาจชี้ว่ามีสิ่งใดผิดไป
ดังนั้น
ในเวลานี้เขาไม่ได้สนใจคนอื่นๆ ทหารอมตะของเขานั้นเป็นแค่แมลงกู่ระดับต่ำ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจชีวิตของพวกมันมากนัก
10 นาทีผ่านไป.
“ติ้ง”
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน ที่อัพเลเวล เลเวลของท่านปัจจุบันคือ ปราณวิญญาณ ขั้น 7!”
“บ้าอะไรวะ?!”
“เกิดอะไรขึ้น? เด็กคนนั้นทะลวงได้อีกครั้ง?”
“เขาทะลวงไปสองระดับในเวลาสิบนาที การทะลวงคอขวดของเขามันง่ายเหมือนกับการซื้อผักข้างทางตามตลาดนัด? เขาสามารถซื้อมันได้เท่าไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ?!”
อึ้ง!
ตะลึงอย่างมาก!
สายตาของทุกคนเปลี่ยนไป มันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อมากก่อน.
เด็กนี่มันบ้าอะไร? เขาสามารถทะลวงระดับได้ในเวลาสั้นๆ?
พวกเขาทั้งหมดไม่เข้าใจเลย!
แต่…
ในเวลานี้หยินซางนึกย้อนกลับไปยังทะเลซากศพของเขาที่ถูกทําลายในนรกชั้น 19 คิ้วของเขาขมวดขณะที่ตาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความโกรธ ร่างกายของเขาแผ่กลิ่นอายของเจตนาฆ่าออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ!
ใบหน้าของถังซิ่วจ้องมองไปที่ฉินหยู่เอ่อร์อย่างสงบพร้อมรอยยิ้ม. “ข้าจะไปก่อน!”
เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย

เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย

Status: Ongoing

เมื่อสิ่งที่นำพาเขามาพร้อมกับระบบเลเวลอัพและนวนิยายหลายร้อยเรื่องมาพร้อมกับเขามาเกิดใหม่ในตระกูลลั่วด้วยสถานะนายน้อยที่เป็นขยะของตระกูลลั่วที่คอยดูแลคอกม้า

ตันเถียนพิการและไม่สามารถบ่อเพาะได้งั้นหรอ?

พี่ใหญ่คนนี้มีระบบเลเวลอัพ การเพิ่มการบ่มเพาะด้วยการฆ่าสัตว์อสูรและเควสบางอย่างและบางครั้งก็ฆ่าคน มันง่ายเกิดไปแล้ว! ไม่มีทักษะการต่อสู้งั้นหรอ?

พี่ใหญ่คนนี้มีนวนิยายกว่าร้อยเรื่อง ตราบเท่าที่ข้าเลเวลอัพ ข้าก็จะได้ทักษะของตัวละครหลัก สิ่งเดียวที่ทำให้พี่ใหญ่คนนี้มีปัญหาคือการเลือกทักษะการต่อสู้แบบนั้นดี ทักษะการผันแปรดวงดางหรือจากเรื่องอนิเมะสักเรื่อง? มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆ!

บ้า? ข้าจะกลายเป็นคนบ้ามากกว่านี้! ข้า ลั่วเทียนมาที่นี่เพื่อให้พวกเจ้าคุกเข่าลงและถูกเอาชนะโดยตัวข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท