บทที่ 502 จะเอาอะไรอีก
หลังจากที่เย่สวนเดินออกจากร้านอาหาร กงหยู่หนิงเป็นกังวลลู่เสี้ยงหยาง จึงมุ่งไปที่โรงพยาบาลทันที
ในโรงพยาบาล มีเพียงแค่ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่คนเดียวอย่างเดียวดายบนเตียง ภายใต้สถานการณ์ที่บีบบังคับ ทำให้เธอน้ำตาตกอย่างหักห้ามไม่ได้
แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลู่เสี้ยงหยาง เธอปาดน้ำตาทิ้งอย่างเงียบๆ เดินเข้าไปนั่งลงที่ข้างเตียงของลู่เสี้ยงหยางด้วยรอยยิ้ม
ลู่เสี้ยงหยางนึกประหลาดใจ ในเวลาแบบนี้เขาไม่คิดเลยว่ากงหยู่หนิงจะมาในเวลาแบบนี้
กงหยู่หนิงแสร้งทำเป็นไม่เคยเจอเย่สวนมาก่อน ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเย่สวนและเขา พลันลอบถามออกไป “เย่สวนล่ะ เธอไม่มาด้วยหรือ?”
ตอนนี้เธอต้องแน่ใจก่อน ว่าเรื่องราวที่เย่สวนบอกกับเธอ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากลู่เสี้ยงหยางยังถูกปิดบังเป็นกบในกะลา เธอก็จะไปคิดบัญชีกับเย่สวน เล่นตลกกับเธอเห็นๆ?
เมื่อกล่าวถึงเย่สวน ลู่เสี้ยงหยางเสมือนกับมีดคมกรีดเฉือน แต่เพื่อความสุขของเย่สวน จึงกล่าวอย่างใจแข็ง “ไม่รู้สิ ผมแยกทางกับเธอแล้ว ต่อจากนี้เราอยู่ใครอยู่มัน เธอจะไปที่ไหนไม่ใช่เรื่องของผม”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น กงหยู่หนิงเข้าใจทุกอย่างขึ้นมา ลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนเลิกรากันแล้วจริงๆ พวกเขาทั้งคู่ได้กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันแล้ว หลังจากนี้ทางใครทางมัน
ในตอนนี้เธออดเสียใจไม่ได้ เรื่องราวนี้ได้พิสูจน์คำโบราณที่ว่าไว้ สามีภรรยาไม่ต่างอะไรกับนกที่อยู่ในป่าเดียวกัน เมื่ออุปสรรคคืบคลานเข้ามาก็ต่างโบยบิน
แต่ เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ในเมื่อเธอเลือกแล้ว ต่อให้ต้องตาย เธอก็จะไม่ละทิ้ง
…..
เวลาผ่านไป
พริบตาเข้าสู่วันที่สาม ในสองวันนี้ ขอเพียงแค่มีเวลาว่าง กงหยู่หนิงก็จะไปดูแลลูเสี้ยงหยางที่โรงพยาบาล
ส่วนเย่สวนเธอไม่ปรากฏตัวอีกเลย เสมือนกับว่าตัดขาดกับลู่เสี้ยงหยางแล้วจริงๆ
สำหรับลู่เสี้ยงหยาง นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ แม้ว่าจะเจ็บปวดใจอยู่บ้าง
ช่วงบ่ายในวันเดียวกัน
ขณะที่เย่สวนนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน ก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง ที่มาจากเซี่ยงหยู่โม่
เมื่อเห็นว่าคือเขาเธอก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา แต่ก็ต้องรับสายอยู่ดี
ไม่ทันให้เย่สวนได้พูดอะไร เซี่ยงหยู่โม่ก็โพล่งขึ้นด้วยความตื่นเต้น “เย่สวน ผมได้ยาพลิกสวรรค์มาแล้ว บ่ายนี้เราเจอกันหน่อยไหม”
อะไรนะ?
เขาได้ยาพลิกสวรรค์มาแล้วงั้นเหรอ?
เย่สวนมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที สายตาของเธอเป็นประกาย ขอเพียงแค่เธอได้ยาพลิกสวรรค์มา เธอก็จะเอาไปให้กับลู่เสี้ยงหยางทันที
หากเป็นไปตามคาด ลู่เสี้ยงหยางจะได้ฟื้นฟูดานเถียนเป็นแน่แท้
“ได้ ถ้างั้นเรามาเจอกันที่ร้านน้ำชาชิงเฟิงเดี๋ยวนี้เลย” เย่สวนโพร่งขึ้นทันที เพราะความตื่นเต้น ทำให้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย
หลังจากที่ตัดสายทิ้ง เย่สวนเดินทางไปที่ร้านน้ำชาชิงเฟิงในทันที
สิบนาทีหลังจากนั้น เย่สวนก็มาถึงร้านน้ำชาชิงเฟิงจนได้ ไม่นาน เซี่ยงหยู่โม่เองก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อได้พบกับเซี่ยงหยู่โม่ เย่สวนก็โพล่งออกไปทันที “คุณเอายาพลิกสวรรค์มาได้แล้วจริงเหรอ? เอามาให้ฉันเร็วเข้า”
เมื่อเห็นทีท่ารีบร้อนของเย่สวน เซี่ยงหยู่โม่รู้สึกไม่ชอบใจ ให้ตาย ไอ้หน้าละอ่อนลู่เสี้ยงหยางที่เกาะผู้หญิงกินนั่น มีความสำคัญต่อเย่สวนขนาดนั้นเชียวหรือ? ถึงทำให้เธอเป็นเดือนเป็นร้อนถึงปานนี้
เขาหัวเราะออกมา ไม่ได้พูดอะไร เซี่ยงหยู่โม่หยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า
เมื่อเปิดกล่องออก ก็ได้พบกับยาเม็ดสีทองอร่ามนอนแน่นิ่งอยู่เม็ดหนึ่ง บนผิวยาเคลือบไปด้วยสีรุ้งที่พันเกี่ยวกัน
กลิ่นยาที่รุนแรง แผ่ซ่านออกมาจากเม็ดยา ทำให้ผู้ที่สูดดมมีชีวิตชีวา รู้สึกสบายไปทั้งตัว
ตอนนี้เย่สวนเป็นนักเรียนของสถาบันหลงเสินแล้ว เธอเองก็ผ่านการเรียนวิชากลั่นยามาแล้ว
ตามตำราในวิชากลั่นยาว่าเอาไว้ ยาที่อยู่ในฝ่ามือของเซี่ยงหยู่โม่นั้น ไม่ว่าจะจากภายนอกหรือกลิ่น ก็มั่นใจได้เลยว่าเป็นยาพลิกสวรรค์แน่นอน
เย่สวนสายตาเป็นประกายขึ้นมาทันที พลันยื่นไปรับกล่องยาพลิกสวรรค์ด้วยมือที่สั่นเทา
“ฮ่าฮ่า เย่สวน อย่ารีบร้อนสิ มีเรื่องที่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องเสียก่อน” เซี่ยงหยู่โม่หัวเราะอย่างมีนัย
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่สวนจางลง พลันจับจ้องเซี่ยงหยู่โม่นิ่ง “มีอะไรก็ว่ามาสิ”
เซี่ยงหยู่โม่พยักหน้ารับ กล่าวอย่างตั้งใจ “ผมจะมอบยาพลิกสวรรค์ให้กับคุณก็ได้ แต่คุณต้องสัญญากับผมเรื่องหนึ่ง”
“อะไร?” เย่สวนกล่าวถาม หากเป็นข้อเรียกร้องที่เกินไป เธอไม่มีทางตอบตกลงแน่
รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยงหยู่โม่ฉีกกว้างกว่าเก่า กล่าวตอบเย่สวนด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว คุณต้องแต่งงานกับผม ผมถึงจะมองยาพลิกสวรรค์ให้คุณ”
เย่สวนพยักหน้า “เรื่องนี้เราคุยไปแล้ว และตกลงกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เซี่ยงหยู่โม่ส่ายหน้า “ผมกลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจนี่? กันไว้ดีกว่าแก้ ตอนนี้คุณเล่าเรื่องนี้ให้กับครองครัวญาติพี่น้องของคุณฟังก่อน จะเข้าพิธีแต่งงานกับผมในอีกสามวันให้หลัง ตอนนี้คุณเชิญเขามาอย่างเป็นทางการ”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่สวนขมวดคิ้วเป็นเส้นตรง อย่างไม่สบอารมณ์
เซี่ยงหยู่โม่จะมากเกินไปแล้ว เธอสัญญากับเขาแล้วแท้ๆ ยังจะกลัวเธอเปลี่ยนใจอีกงั้นเหรอ?
ในตอนนี้เองเซี่ยงหยู่โม่กล่าวเสริม “แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องลำบากอะไร สามวันให้หลัง ผมจะจัดงานทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย เราจะเข้าพิธีแต่งงานกันอย่างราบรื่น จะไม่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอะไรทั้งสิ้น”
เมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว เย่สวนไม่มีทางเลือกอื่นอีก เธอได้แต่พยักหน้ารับ
เซี่ยงหยู่โม่จึงเร่งเธออย่างอดใจรอไม่ไหว “ถ้างั้นคุณเริ่มเลยสิ”
เย่สวนถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ
ในระหว่างนั้น เซี่ยงหยู่โม่จ้องไปที่โทรศัพท์ของเย่สวนนิ่ง เพื่อที่จะรอดูว่าข้อความที่เธอพิมพ์นั้นเขาพอใจหรือไม่
ไม่นาน เย่สวนก็พิมพ์ข้อความเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และก็ได้รับการอนุญาตจากเซี่ยงหยู่โม่ เธอจึงกดส่งไป
“ฮ่าฮ่า” เซี่ยงหยู่โม่หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ ด้วยความสุขสันต์อย่างมาก เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เย่สวนก็ได้เชิญทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ก็เท่ากับว่าเรื่องนี้สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง หากเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ สามวันให้หลังเย่สวนก็จะเป็นผู้หญิงของเขา
“โอเค ตอนนี้ก็เอายาพลิกสวรรค์ให้ฉันสิ” ในที่สุดเซี่ยงหยู่โม่มอบยาพลิกสวรรค์ให้กับเย่สวน
เย่สวนยื่นมือออกไปรับมาไว้อย่างทนรอไม่ไหว เธอกล่าวคำขอบคุณ ก่อนที่จะออกไปจากร้านน้ำชาชิงเฟิงทันที เพื่อมุ่งไปที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
หลังจากนั้น เซี่ยงหยู่โม่ก็เดินออกไปติดๆ เพื่อไปเตรียมงานแต่ง
ฮ่าฮ่า การที่เขาแต่งงานในครั้งนี้ ได้เย่สวนมาครอบครอง จะต้องจัดงานให้ใหญ่โต เพื่อให้ผู้ชายทั้งปินเหออิจฉาเขา
ทางด้านเย่สวน หลังผ่านไปยี่สิบนาที เธอก็มาถึงหน้าห้องพักของลู่เสี้ยงหยาง เธอไม่ได้เข้าไปในห้อง แต่เลือกที่จะส่งข้อความให้กงหยู่หนิงแทน เพื่อให้เธอออกมา
กงหยู่หนิงเดินออกมาจากห้อง พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอไปแล้วไม่ใช่หรือ? ยังจะกลับมาอีกทำไม จะเอาอะไรอีก?”