บทที่ 516 มีเรื่องจะพูดกับนาย
ลู่เสี้ยงหยางดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ทำไมป้ายแขวนเอวของเขาถึงได้ไปอยู่ที่โอหยางรั่วสุ่ยได้
หลายวันก่อนเขาได้พบกับโอหยางรั่วสุ่ยถูกชายกลุ่มหนึ่งกลั่นแกล้งโดยบังเอิญ เขาไม่ลังเล ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโอหยางรั่วสุ่ย และพาเธอไปที่โรงแรม จัดการทำแผลที่ขาให้กับเธอ
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางพบหาป้ายแขวนเอวหายไป
เขาได้ย้อนกลับไปหา แต่ก็ไม่ค้นพบ ไม่นึกเลย ว่าป้ายแขวนเอวนี้จะตกไปอยู่ที่โอหยางรั่วสุ่ยได้
เมื่อคิดดูให้ดี ลู่เสี้ยงหยางก็ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
คงเป็นเพราะตอนที่เขาช่วยพาโอหยางรั่วสุ่ยไปที่โรงแรม ป้ายแขวนเอวของเขาก็ตกอยู่ที่โรงแรมด้วย โอหยางรั่วสุ่ยก็เลยเก็บเอาไว้
ตอนนี้ เพราะป้ายแขวนเอวอันนี้ โอหยางรั่วสุ่ยต้องรู้ความจริงแล้วเป็นแน่ ว่าผู้ชายคนที่ปิดหน้าช่วยเธอเอาไว้คือเขาเอง
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางสะดุ้งโหยง ให้ตายสิความแตกจนได้ ในตอนนั้นการที่เขาต้องปิดบังใบหน้าตัวเองช่วยเหลือเธอ ก็เพราะไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือเขาเอง
ซู๊ด!
เขาสูดลมหายใจเข้า ลู่เสี้ยงหยางควบคุมสติของตนเอง กล่าวขอบคุณโอหยางรั่วสุ่ย ก่อนที่จะรับป้ายแขวนเองมาไว้ แขวนเอาไว้ที่เอวใหม่
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางไม่หยุดอยู่กับที่ เขาเคลื่อนรถยนต์ออกจากที่
ผ่านเรื่องนักฆ่าในคืนนี้ โอหยางรั่วสุ่ยตกอกตกใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่กล้ากลับบ้านคนเดียว เย่สวนเป็นห่วงเธอ จึงให้พาเธอกลับมาที่บ้านพักบนยอดเขาหลงเสินด้วย
ระหว่างทาง เย่สวนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวถามลู่เสี้ยงหยาง “นายรู้ไหมว่าใครกันแน่ที่คิดไม่ซื่อต่อพี่สาวฉัน?”
ลู่เสี้ยงหยางนิ่งไปสักครู่ เขาเล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากชายหัวโล้นให้โอหยางรั่วสุ่ยฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เมื่อโอหยางรั่วสุ่ยรู้เข้า ราวกับว่าถูกฟ้าผ่า เธอแสดงใบหน้าแห่งความเจ็บปวดออกมาให้เห็น
ภายในตระกูลโอหยาง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแล้ว แทบทุกคนในตระกูลต่างก็คิดไม่ซื่อกันทั้งนั้น
โดยปกติในตระกูล โอหยางรั่วสุ่ยและพี่สาวต่างแม่ของเธอความสัมพันธ์ดีที่สุด ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ พี่สาวต่างแม่คนนี้มักจะปกป้องเธอเสมอ ยืนอยู่ข้างเธอทุกครั้ง ไม่นึกเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้ ลับหลังพี่สาวของเธอคนนี้กลับจ้างนักฆ่า เพื่อกำจัดเธอ
ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเธอยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพี่สาวต่างแม่คนนี้ดี
โอหยางรั่วสุ่ยเสียใจอย่างดี ร่างบางสั่นเทา น้ำตาไหลพรากอย่างควบคุมไม่ได้
เธอรับรู้ถึงความรู้สึกของการถูกทรยศหักหลัง ในใจเธอรู้สึกราวกับถูกมีดกรีดเฉือน
เย่สวนเข้าใจถึงความรู้สึกของโอหยางรั่วสุ่ยดี ในตระกูลของเธอ พี่น้องในตระกูลของเธอต่างก็ดูถูกเหยียดหยามเธอ คิดที่จะกำจัดเธอทิ้ง
“เฮ้อ” ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เย่สวนรั้งโอหยางรั่วสุ่ยเข้ามาในอ้อมกอด เพื่อปลอบโยนเธอ
ผ่านไปสักพัก โอหยางรั่วสุ่ยถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แม้ว่าเธอจะผิดหวังในการกระทำของพี่สาวเธอ แต่ก็ทำให้เธอได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอด้วย
กลับไปที่ตระกูลเมื่อไหร่ เรื่องในครั้งนี้ เธอจะคิดบัญชีกับพี่สาวของเธอเอง
โอหยางรั่วสุ่ยไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกต่อไป มีแต่จะเสียอารมณ์ เธอเหลือบไปสายไปข้างหน้า แอบสังเกตใบหน้าด้านข้างของลู่เสี้ยงหยางอย่างเงียบๆ
ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมา อย่างไม่รู้ตัว หัวใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง
แต่จะว่าไปผู้ชายคนนี้ที่เธอชอบก็หล่อดีแฮะ เพียงแต่ในอดีตเธออคติต่อเขา จึงไม่ได้ตั้งใจชื่นชมเขาจริงๆจังๆ
หัวใจของโอหยางรั่วสุ่ยเต้นอย่างบ้าระห่ำมากขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อนั่งจ้องใบหน้าของลู่เสี้ยงหยาง
เสียดาย ที่ลู่เสี้ยงหยางเป็นสามีของเย่สวน เธอคงไม่มีความเป็นไปได้อีกแล้ว
แต่ถ้าหากตัดใจจากลู่เสี้ยงหยางง่ายๆแบบนี้ โอหยางรั่วสุ่ยเองก็ไม่สามารถทำได้
ต่อมา โอหยางรั่วสุ่ยนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สายตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที
โดยปกติแล้วตอนที่เธอไปเดินเล่นกับเย่สวนมักจะพูดถึงลู่เสี้ยงหยางด้วย ระหว่างเธอกับลู่เสี้ยงหยางแม้ว่าจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยาต่อกัน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรที่คู่สามีภรรยาทำกันเลย
เช่นนี้โอหยางรั่วสุ่ยสามารถคาดเดาได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเย่สวนและลู่เสี้ยวหยางไม่ได้ดีอย่างที่คิดเอาไว้ ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของคู่สามีภรรยาเท่านั้น
ในเมื่อเย่สวนและลู่เสี้ยงหยางจะไม่ได้รักกันจริงๆ ถ้าอย่างนั้น บางทีเธออาจจะมีความรักกับลู่เสี้ยงหยางได้ แบบนี้ก็จะไม่มีอะไรที่ผิดต่อเย่สวน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น โอหยางรั่วสุ่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ลมหายใจถี่รัว รอคอยการเริ่มต้นระหว่างเธอและลู่เสี้ยงหยาง
เวลาผ่านไป สองชั่วโมงให้หลัง ทั้งสามมาถึงบ้านพักตากอากาศหมายเลข888บนยอดเขาหลงเสิน
แต่ก่อนโอหยางรั่วสุ่ยรู้แค่ว่าเย่สวนอาศัยอยู่ที่นี่ เธอเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก
เมื่อเข้ามาในบ้าน เย่สวนก็ไปล้างผลไม้ เพื่อต้อนรับแขกอย่างโอหยางรั่วสุ่ย
โอหยางรั่วสุ่ยกวาดสายตาไปทั่วบ้าน อยากจะเดินชมตัวบ้าน จึงกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง “พาฉันเดินชมตัวบ้านหน่อยได้ไหม?”
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”
ลู่เสี้ยงหยางพาโอหยางรั่วสุ่ยขึ้นไปยังชั้นบน เพื่อเดินชมรอบๆบ้าน
ไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางก็พาโอหยางรั่วสุ่ยเข้ามาในห้องนอนหลัก
ภายในห้อง โอหยางรั่วสุ่ยไม่พบภาพถ่ายแต่งงานของเย่สวนและลู่เสี้ยงหยาง
ในใจเธอเกิดตื่นเต้นที่เธอคิดไม่ผิด ความสัมพันธ์ระหว่างลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนไม่ได้ดีขนาดนั้นจริงๆด้วย
และแน่นอนว่า ไม่เพียงแต่ในห้องนอนที่โอหยางรั่วสุ่ยไม่เห็นภาพแต่งงานของลู่เสี้ยงหยางและเย่สวน แม้แต่ห้องขับแขกเองก็ไม่มีภาพแต่งงานของลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนสักใบ
ตามหลักแล้ว ของพวกเขาเป็นของที่คู่สามีภรรยาต้องมีทุกคู่
ถ้าเช่นนั้น โอหยางรั่วสุ่ยยิ่งมั่นใจข้อสันนิษฐานของตัวเองเข้าไปใหญ่
ความสัมพันธ์ของลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนไม่ค่อยจะดีนัก
ในเมื่อทั้งคู่ความสัมพันธ์ไม่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันอีกต่อไป
การที่เย่สวนกับลู่เสี้ยงหยางแยกทางกัน บางทีอาจจะเป็นการปลดปล่อยเย่สวนก็ได้
ซู๊ด!
เธอสูดหายใจเข้า โอหยางรั่วสุ่ยจับจ้องลู่เสี้ยงหยางก่อนกล่าว “ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน”
เมื่อลู่เสี้ยงหยางได้ยินอย่างนั้นเขาก็รู้แล้วว่าเรื่องของเขาถูกเปิดเผยเสียแล้ว เพราะงั้นจึงกล่าวอย่างประหม่า “ไม่ต้องเกรงใจหรอก คุณเป็นเพื่อนของเย่สวน ก็เป็นเพื่อนจองผมด้วยเหมือนกัน แล้วจะว่าไป การช่วยเหลือคนเดือดร้อนได้ทุกข์เป็นเรื่องที่นักบู๊อย่างเราสมควรที่จะทำ เพราะงั้นเรื่องนี้ไม่ต้องใส่ใจนัก”
“ได้ยังไงกัน?” โอหยางรั่วสั่ยส่ายหน้า “ฉันมองนายเป็นผู้มีพระคุณของฉันไปแล้ว ขอเพียงแค่ตอบแทนคุณได้ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้”
ซวย!
เมื่อพูดออกไปอย่างนั้น ใบหน้าของโอหยางรั่วสุ่ยแดงก่ำ ทีท่าเหนียมอายของเธอ ช่างมีเสน่ห์น่าดึงดูดเสียจริง
เอ่อ!
ลู่เสี้ยงหยางปวดขมับ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมอยู่ดีเขากับโอหยางรั่วสุยคุยกันได้แค่ไม่กี่ประโยค เธอจึงได้หน้าแดงแปร๊ดไปเสียอย่างนั้น
ไหนจะทีท่าเหนียมอายนั่นอีก ทำให้เขาอึดอัด จึงกล่าวขึ้น “เราไปห้องต่อไปกันเถอะ”
จบคำเขากลับหลังหันพสโอหยางรั่วสุ่ยไปที่ห้องถัดไป
แต่เพิ่งจะเดินได้เพียงแค่หน้าห้องนอนหลัก โอหยางรั่วสุ่ยก็เอื้อมมือปิดประตูห้อง ก่อนที่จะหันไปจับจ้องลู่เสี้ยงหยางด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”