ผู้คนกลุ่มนี้เต็มไปด้วยความฮึกเหิมและฉุดลากเฉินเสียนขึ้นไปบนภูเขา
เธออดไม่ได้ที่จะขัดขืน แต่สองมือถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาจนเธอทำอะไรไม่ได้เลย
เส้นทางขึ้นไปบนภูเขาขรุขระมากจนเฉินเสียนต้องเดินตามไปอย่างโซซัดโซเซ
ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่จวนแม่ทัพ และคู่ต่อสู้ที่เธอเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างหลิ่วเหมยอู่ แต่เป็นอะไรที่อันตรายยิ่งกว่า
เธอจะบุ่มบ่ามหรือทำอะไรตามใจชอบไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนที่จะลำบากก็คือตัวเธอกับลูกในท้อง
แค่ต้องทนกับแรงกระแทกมาตลอดทางเฉินเสียนก็เหนื่อยมากแล้ว เมื่อใดที่เธอหลับตา ภาพการนองเลือดก็ฉายขึ้นมาในความคิดของเธอทุกที
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอรู้สึกตื่นตระหนกและอารมณ์ไม่คงที่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกละก็อาการเจ็บท้องคงจะกำเริบ
เธอจำเป็นจะต้องทำใจให้สงบ
ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็แล่นปราดเข้ามาที่ฝ่ามือซึ่งถูกคมมีดและเลือดก็ไหลลงไปจนเปื้อนเชือกป่าน เฉินเสียนส่งเสียงร้องเบาๆ ขณะที่เธอเลื่อนลูกดอกที่ชอบพกติดตัวซึ่งซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา จากนั้นจึงใช้มือที่บาดเจ็บและเปื้อนเลือดค่อยๆ ตัดเชือกป่านเส้นนั้นอย่างยากลำบาก
ขอบคมของลูกดอกดูเหมือนจะสีไปถึงกระดูกใต้ผิวหนังของเฉินเสียนอย่างไรอย่างนั้น ในไม่ช้าความเจ็บปวดก็ทำให้เหงื่อกาฬไหลท่วมตัว
แต่นับว่าโชคดีที่เธอยังมีอาวุธที่พอจะใช้ประโยชน์ได้ เธอรู้สึกขอบคุณจากใจจริงที่ตอนนั้นมีคนยิงลูกดอกใส่จนทำให้เธอได้ลูกดอกนี้มา และตอนนี้เธอก็ยังเห่อมันอยู่จึงนำติดตัวไว้เล่นตลอดเวลา
หาไม่ตอนนี้เธอคงจะไร้อาวุธติดมือ
เมื่อขึ้นมาถึงข้างบน เธอก็ถูกส่งเข้าไปในห้องที่มีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจของหัวหน้าโจรภูเขา
ที่ด้านนอกมีแสงเพลิงสว่างไสว พวกโจรภูเขากำลังดื่มกินกันอย่างสำราญใจและทุกคนกำลังรอที่จะแบ่งเนื้อของเฉินเสียนคืนนี้
พวกมันกบดานอยู่ใกล้ๆ ชานเมืองหลวงและมักจะทำอะไรอย่างเงียบๆ น้อยครั้งนักที่จะฉุดหญิงสาวมาได้แบบนี้ ดังนั้นพวกมันจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
เจ้าหัวหน้าบอกแล้วว่าใครๆ ต่างก็รู้สึกเปรี้ยวปาก แม้ว่าเฉินเสียนเป็นหญิงท้องที่อัปลักษณ์แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี!
เฉินเสียนถูกมัดและนั่งลงที่ขอบเตียง เธอไม่สนใจความเจ็บปวดที่ฝ่ามือและยังคงใช้ลูกดอกตัดเชือกป่านที่ผูกข้อมือเอาไว้
เกลียวเชือกเริ่มคลาย แต่ยังไม่ขาด!
อยู่ๆ ก็มีเสียงกระแทกดังปึง
หัวหน้าโจรภูเขากระแทกประตูเข้ามาอย่างหยาบคาย เขาเดินเข้ามาพร้อมกับกลิ่นเหล้าคละคลุ้งและมองเฉินเสียนตาเป็นประกาย
พวกโจรภูเขาที่อยู่ด้านนอกพากันโห่ร้องและพ่นคำพูดที่ต่ำช้าหยาบคายออกมาจนทนฟังแทบไม่ได้
เฉินเสียนเป็นหญิงตั้งครรภ์ท้องป่อง ไหนจะยังถูกมัดมือไว้อีก พวกโจรภูเขาคิดว่าต่อให้มีฝีมือ แต่ตอนนี้เธอก็คงไม่มีแรงต้านทานอยู่ดี
มือที่พาดอยู่ด้านหลังของเฉินเสียนยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด หนำซ้ำยังขยับเร็วขึ้นกว่าเดิม เลือดบนฝ่ามือไหลลงมาจนแขนเสื้อของเธอเปียกชุ่ม พร้อมกันนั้นเธอก็เอ่ยด้วยสีหน้าที่คงเดิมว่า “เจ้ายังไม่บอกข้าเลยไม่ใช่หรือว่าคนที่ต้องการซื้อชีวิตของข้าคือใคร”
หัวหน้าโจรภูเขาลูบคาง เขาอวดยิ้มโชว์ฟันเหลืองๆ สองซี่และเอ่ยว่า “ข้าสนแค่ว่าเจ้าเป็นใคร รับเงินมาแล้วก็ต้องทำงานชดใช้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการลักพาตัวผู้หญิงเสียด้วย ดีจะตาย ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย”
เฉินเสียนกล่าวว่า “นับตั้งแต่ข้าแต่งงานเข้าไปอยู่ในจวนแม่ทัพ ผู้คนก็นึกขยะแขยงข้ามาตลอดเพราะใบหน้าที่อัปลักษณ์เช่นนี้ เจ้าไม่กลัวหรือว่าเมื่อเห็นหน้าข้า เจ้าจะตกใจกลัวไปตลอดชีวิต”
หัวหน้าโจรภูเขาถ่มน้ำลายลงพื้นแล้วพูดว่า “เจ้าก็ยังรู้ตัวนี่ว่าเจ้ามันอัปลักษณ์! ในเมื่ออัปลักษณ์แบบนี้เจ้าจะมีปัญญาแต่งงานไปอยู่ในจวนแม่ทัพได้ยังไง” เขาหัวเราะ “นังผู้หญิงน่ารังเกียจ อย่าขู่ข้าเสียให้ยาก คิดว่าข้าจะกลัวงั้นเรอะ? ถ้าเจ้าเป็นคนของจวนแม่ทัพจริงๆ เจ้าหายมานานขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังไม่มีใครออกมาตามหาอีก หือ? สงสัยจะเป็นแค่ขยะ ขนาดถูกลักพาตัวมาก็ยังไม่มีใครรู้!”
หัวหน้าโจรมองหน้าอกของเฉินเสียนอย่างหยาบช้าลามก ทั้งยังกล่าวอีกว่า “ข้าไม่ได้ลิ้มรสของสตรีมานานแล้ว หน้าตาของเจ้าอาจจะน่าเกลียด แต่ร่างกายของเจ้ายังใช้ได้ ถ้าอีกเดี๋ยวหมดอารมณ์ขึ้นมาจริงๆ ข้าค่อยปิดหน้าเจ้าแค่นั้นก็เป็นอันหมดปัญหา! เสียอย่างเดียวคือไม่รู้ว่ารสชาติของหญิงตั้งครรภ์มันเป็นยังไง!”
เขาพูดพลางเตะประตูให้ปิดลงและก้าวเข้ามาทีละก้าวๆ
เฉินเสียนขมวดคิ้วและจ้องมองหัวหน้าโจรเงียบๆ แววตาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
เมื่อเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “การบังคับขู่เข็ญเช่นนี้จะมีความหมายอะไร ให้เป็นดั่งน้ำกับปลา ที่ทั้งเจ้าและข้าต่างเต็มใจกันทั้งคู่ไม่ดีกว่าหรือ ในเมื่อเจ้าอยากนอนกับข้า ทำไมไม่แก้เชือกให้ข้าล่ะ เราจะได้สนุกไปด้วยกัน”
หัวหน้าโจรหรี่ตามองเธอแล้วหัวเราะลั่น “นี่เจ้ายังไม่รู้สถานการณ์อีกรึ ไม่ว่ายังไงเจ้าก็เดินลงไปจากภูเขาแห่งนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตไม่ได้ ผู้ว่าจ้างอยากให้พวกข้าข่มขืนเจ้าก่อนแล้วจึงฆ่าเจ้าทิ้ง จากนั้นก็ผ่าท้องแล้วควักเด็กออกมาซะ ปล่อยให้เจ้าตายโดยไม่มีแม้แต่ที่ฝังศพ คนผู้นี้คงจะเกลียดเจ้ามาก”
สีหน้าของเฉินเสียนเปลี่ยนไป เธอพูดว่า “ช่างเลวทรามต่ำช้าสิ้นดี เจ้าไม่กลัวกรรมตามสนองบ้างรึ”
“กรรมตามสนอง? ฮ่าๆๆ คิดว่ามือของข้าแปดเปื้อนมาแค่ไม่กี่ชีวิตงั้นรึ”
พูดจบเจ้าหัวหน้าก็สาวเท้าเข้ามาเรื่อยๆ
หนึ่งก้าว
สองก้าว
สามก้าว
จนในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าเฉินเสียนราวกับปีศาจร้าย
แขนทั้งสองข้างของเฉินเสียนที่ถูกมัดไว้ข้างหลังแทบจะหมดเรี่ยวแรงลงแล้ว ขณะที่กำลังตัดเชือกเธอก็ดิ้นรนไปด้วย เธอขบกรามแน่น แววตาเย็นเยียบราวกับน้ำที่อยู่ก้นบึ้งมหาสมุทร
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้น เจ้าหัวหน้าก็พลิกฝ่ามือตบหน้าเธอไปสองครั้งก่อนจะตะคอกอย่างหยาบคาย “จะตายห่าอยู่แล้วยังไม่รู้จักขอความเมตตา ยังมีหน้ามาทำอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ! ข้าละอยากเห็นจริงๆ ว่าอย่างเจ้าจะยังอวดดีได้นานสักแค่ไหน”
มีเสียงหวีดหวิวดังขึ้นในหูของเฉินเสียน เจ้าหัวหน้าคว้าผมของเธอด้วยมือข้างหนึ่งแล้วกระชากไปด้านหลัง บังคับให้เธอเงยหน้าที่อัปลักษณ์ขึ้นมา
มันจับเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็เริ่มปลดกางเกงออกพลางพูดว่า “ประพฤติตัวกับข้าดีๆ หน่อยละ รอจนเจ้าปรนนิบัติพวกพ้องข้างนอกจนสมใจ บางทีข้าอาจจะยอมให้เจ้าตายง่ายขึ้นหน่อยก็ได้!”
เขาใจร้อนและงุ่มง่ามอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะดื่มมากเกินไปจนทำให้กางเกงที่ใส่รัดแน่นขึ้น ยิ่งเขาพยายามถอดมันก็ยิ่งรัด
เจ้าหัวหน้าด่าทออย่างเกรี้ยวกราดและกำลังคิดจะฉีกกางเกงของตัวเองออก
แต่ในขณะนั้นมือทั้งสองข้างของเฉินเสียนก็คลายออกพอดี
เชือกขาดแล้ว พันธนาการถูกปลดออก และเธอก็รู้สึกถึงอิสระอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เฉินเสียนเริ่มขยับข้อมือพลางเลิกคิ้วช้าๆ เธอมองเจ้าหัวหน้าที่หยิบหย่งนั่นก่อนจะพูดว่า “ร้อนใจอะไรขนาดนั้น ให้ข้าช่วยไหม”
เสียงนั้นแผ่วเบาฟังแล้วจั๊กจี้หัวใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงลมเย็นๆ ที่พัดวูบเข้ามา
เจ้าหัวหน้าผงะและเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อเห็นเฉินเสียนลุกขึ้น เขาตกใจและเอื้อมมือออกไปตามสัญชาตญาณเพื่อรั้งเธอไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ก้าวเข้าไปเขาจะถูกเธอพลิกฝ่ามือและใช้เชือกป่านรัดแขน เธอพันอยู่อย่างนั้นหลายรอบจนในที่สุดก็รัดขึ้นมาจนถึงคอ จากนั้นจึงวนมาผูกติดไว้กับแขนอีกข้างหนึ่ง
เจ้าหัวหน้าดื่มเหล้าไปไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ระมัดระวังตัวเหมือนตอนที่ไปลักพาตัวเธอมา ยิ่งเมื่อเห็นว่าเฉินเสียนถูกมัดอย่างแน่นหนาเขาก็ยิ่งคิดว่าเธอคงไม่มีแรงจะต่อต้าน ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมป้องกันตัวจากเธอเลย
เฉินเสียนแข็งแกร่งและเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเหมือนจะเป็นกลไกการป้องกันตัวตามสัญชาตญาณ ราวกับว่าเธอเคยฝึกฝนทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในใจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อถึงเวลาลงมือจริงๆ ทุกอย่างจึงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
เฉินเสียนหายใจนิดหน่อยและตรงไปผูกเชือกไว้กับเสาข้างเตียงอย่างแน่นหนา
ขณะที่หัวหน้าโจรภูเขาคิดจะเอ่ยปากพูด เฉินเสียนก็กระตุกยิ้มอย่างเย็นชา ทันใดเชือกป่านก็รัดคอแน่นขึ้น เชือกนั้นแทบจะบีบอัดเข้าไปที่คอและมันกดทับคอของเขาไว้อย่างรุนแรง
แค่จะหายใจยังหายใจไม่ออก แล้วหัวหน้าโจรภูเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปร้องตะโกน แขนของเขาถูกผูกติดไว้กับคออีกครั้งโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้
หน้าอกของเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง ใบหน้าแดงก่ำ เส้นเลือดดำปูดโปนตั้งแต่คอขึ้นไปจรดใบหน้าจนดูอุบาทว์เหลือทน
เฉินเสียนมองดูเขาที่กำลังถลึงตามองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลูกตาสีขาวของเขาค่อยๆ กลายเป็นสีเลือด เขาจ้องมองไปที่ขาและพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้าย
เฉินเสียนเข้าไปกระซิบกับเขาว่า “ข้าบอกแล้วไงว่าชีวิตของข้าราคาแพงมาก แต่เจ้ากลับไม่ใส่ใจ”