บทที่ 532 ตกใจจนตับแตก
ลู่เสี้ยงหยางรูม่านตาขยาย หมัดเมื่อสักครู่ ขุยกางแทบจะทำให้เขารับได้บาดเจ็บสาหัส หากถูกเขาอัดอีกสักหมัดต่อให้ไม่ตายก็คงสาหัส
ลู่เสี้ยงหยางถอยไปข้างหลัง กระตุ้นวิชานรกอมตะจนถึงขีดสุด ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ฝึกช่องว่างของวิชานรกอมตะจนถึงขีดสุดแล้วเช่นเดียวกัน
ความแข็งแกร่งของขุยกางและตัวเขานั้นแตกต่างกันมาก หากเขายังต่อกรกับเขาต่อไปจะไม่ส่งผลดีอะไรทั้งนั้น เพราะงั้นสำหรับเขาในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาชีวิตให้รอด แล้วค่อยหนีไปซะ
เมื่อขุยกางเห็นว่าคราวนี้ลู่เสี้ยงหยางไม่ต่อต้าน เขารู้สึกเหยียดหยาม ไอ้หมอนี่ใช้การไม่ได้ ก็หมัดเดียวก็กลัวเสียแล้ว
เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ พลังหมัดของเขาลดลงไปเล็กน้อย
ปัง!
หลังจากนั้น หมัดของขุยกางตกกระทบกับช่องว่างของวิชานรกอมตะ
ช่องว่างของวิชานรกอมตะเป็นพื้นที่โปร่งใสที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ภายใต้หมัดที่บดขยี้ของขุยกาง ช่องว่างที่โปร่งใสปรากฏขึ้นในทันที
มองจากที่ไกลๆ ราวกับช่องว่างนั้นสร้างด้วยน้ำตกที่ใสสะอาด
พึ่บพึ่บ!!
วิชานรกอมตะไม่สามารถต้านทานหมัดของขุยกางได้ เริ่มเขย่าสั่น รอยร้าวค่อยๆ ยาวขึ้นเรื่อยๆ
วิชานรกอมตะในตอนนี้ราวกับไข หมัดของขุยกางราวกับหมัดของมนุษย์โบราณ ที่ทุบไข่จนแตกเป็นหลายส่วน
และแน่นอนว่าพลังหมัดของขุยกางไม่เพียงเท่านี้ พลังหมัดที่เหลือตกไปอยู่ที่ร่างของลู่เสี้ยงหยางเต็มๆ
ร่างของลู่เสี้ยงหยางราวกับใบไม้ที่ร่วงโรย พุ่งออกไปไกลสิบกว่าเมตร
ขณะที่ร่างของเขารอยขึ้นกลางอากาศ พลังนรกอมตะก็ขาดสะบั้นออก
เมื่อร่างของเขากระแทกกับพื้น เรียกได้ว่าเนื้อกระทบกับพื้นอย่างจัง
ให้ตาย ลู่เสี้ยงหยางถูกเหวี่ยงจนเละไม่เป็นท่า จนในหัวอื้ออึงไปหมด
กระดูกกระเดี้ยวในร่างกายปวดแสบไม่หมด ราวกับหลุดกระจายออก
คราวนี้ลู่เสี้ยงหยางได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของพละกำลังของนักบู๊ระดับเก้าอีกครั้ง
เขารู้ดี ว่าขุยกางใช้พลังของร่างกาย ไม่ได้ใช้วิชาของนักบู๊แต่อย่างใด
หากว่าขุยกางใช้พลังของนักบู๊ เขาคงสิ้นใจภายในเสี้ยววินาที
ให้ตาย เก่งกาจเป็นบ้า นักบู๊ระดับเก้าแข็งแกร่งเกินไป ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ
ที่ดีเขาได้ฟื้นฟูดานเถียนก่อนหน้า ความสามารถก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงได้สิ้นใจภายในหมัดเดียวของขุยกางแน่
“เอ๋ น่าสนใจ” ขุยกางที่เห็นลู่เสี้ยงหยางถูกเขาอัดเข้าให้สองหมัดแต่กลับยังไม่ตาย จึงนึกสนใจ
โดยเฉพาะหมัดเมื่อสักครู่ รอบทิศของลู่เสี้ยงหยางเกิดช่องว่างที่น่าประหลาด กีดขวางพลังอันมหาศาลของเขาเอาไว้ ทำให้เขานึกประหลาดใจ
ขุยกางขยับฝีเท้าออก อย่างไร้ความลังเล ประชิดตัวลู่เสี้ยงหยางพร้อมจู่โจม
ลู่เสี้ยงหยางไม่โง่อยู่เฉยให้ขุยกางเล่นงานฝ่ายเดียวอยู่แล้ว
มือทั้งสองข้างของเขาประสานกัน ยันต์สีเหลืองปรากฏขึ้นในฝ่ามือ ก่อนที่จะหายลับเข้าไปในท่อนขาของเขา
บัดนี้ลู่เสี้ยงหยาบไม่ได้เป็นเพียงนักบู๊เท่านั้น เขายังเป็นนักเวทย์อีกด้วย เมื่อสักครู่เขาใช้วิชาล่องหนของพลังธาตุดิน
วิชาล่องหนถือเป็นวิชาทางร่างกาย ที่สามารถเพิ่มความเร็วมหาศาล เป็นวิชาที่ดีที่สุดในการหนี
ซึ่งลู่เสี้ยงหยางเรียนรู้มาจากหยกที่ได้มาจากผู้อาวุโสไฟนภา วิชามหัศจรรย์บ้อเก๊ก ร่างกายถูกเปลี่ยนเป็น5ธาตุทองไม้น้ำไฟดิน
เพราะงั้น ร่างกายของเขาจึงมีความคุ้นเคยกับธาตุทั้งห้าอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันภายใต้สภาพแวดล้อมของคุณลักษณะทั้งห้านี้ เขายังสามารถดูดซับพลังของคุณสมบัติทั้งห้านี้ได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งชั่วคราว
และในตอนนี้ ฝีเท้าของลู่เสี้ยงหยางยึดมั่นกับพื้นดิน เพื่อหยิบยืมพลังของธาตุดินในการหนีเอาชีวิตรอด
วิ้ง!
เมื่อยันต์สีเหลืองเหล่านั้นเข้าสู่ท่อนขา ขาทั้งสองข้างของลู่เสี้ยงหยาง ปกคลุมไปด้วยแสงออร่าสีทองอร่ามเป็นชั้นๆ
ลู่เสี้ยงหยางออกวิ่งอย่างไม่ลังเล
ในขณะเดียวกันขุยกางก้าวเท้าออกเพียงหนึ่งก้าว ก็มาถึงจุดเดิมที่ลู่เสี้ยงหยางอยู่เมื่อสักครู่ คิดที่จะเหวี่ยงหมัดแต่ลู่เสี้ยงหยางได้วิ่งออกไปไกลกว่าสิบเมตรแล้ว
อืม? ขุยกางขมวดคิ้วแน่น ลู่เสี้ยงหยางวิ่งเร็วเกินไปรึเปล่า
แต่เมื่อสังเกตให้ดี พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของลู่เสี้ยงหยางนั้นไม่ใช่ปราณ แต่เป็นพลังบางอย่างที่เขาไม่คุ้นเคย
แม้ว่าขุยกางจะไม่ใช่นักเวทย์ แต่เขามั่นใจว่าลู่เสี้ยงหยางใช้วิชาเวทย์
“เหอะ ดูไม่ออกเลย ว่าไอ้หมอนี่ฝึกควบคุมไปด้วย” ตอนนี้ ดวงตาของขุยกางแผ่ซ่านด้วยความอำมหิตแห่งการสังหาร
ในโลกแห่งการบำเพ็ญ การที่จะบำเพ็ญวิชาบู๊หรือวิชาเวทย์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ถือว่าอัจฉริยะแล้ว แต่ลู่เสี้ยงหยางสามารถบำเพ็ญวิชาบู๊และวิชาเวทย์ควบคู่ไปด้วย ถือว่าเป็นคนที่สวรรค์เอ็นดูอย่างมาก
คนแบบนี้หากเติบโตขึ้นมา จะเป็นคู่แข่งตัวฉกรรจ์ที่น่ากลัว
เพราะงั้นทุกคนจึงมีความรู้สึกเดียวกัน หากได้พบคนที่บำเพ็ญวิชาควบคู่จะต้องตาย
เมื่อคิดได้อย่างนั้นขุยกางไม่รอช้า ฝีเท้าขยับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว มุ่งไปทิศทางของลู่เสี้ยงหยางๆ
ภายใต้วิชามุดดินสายฟ้าแลบขุยกางเดินเพียงหนึ่งก้าว ร่างกายของเขาก็จะไปปรากฏในอีกห้าเมตรข้างหน้า ดูจากที่ไกลๆ ราวกับไทแรนโนซอรัส เดินเข้าไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ส่วนลู่เสี้ยงหยางแม้ว่าจะงค่อยเป็นค่อยไป ไม่สามารถเดินก้าวเดียวไปไกลได้ถึงสี่ห้าเมตร แต่ฝีเท้าของเขารวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
ในตอนนี้จะเห็นได้เพียงเงาแสงของลู่เสี้ยงหยางเท่านั้น เสมือนกับว่ามีเท้าอยู่หลายสิบคู่เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน
ขุยกางก้าวหนึ่งก้าว ลู่เสี้ยงหยางก็ได้ก้าวออกไปแล้วห้าหกก้าว
เช่นนี้ ความเร็วของลู่เสี้ยงหยางและขุยกางนั้นไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก
หลังจากนั้นลู่เสี้ยงหยางวิ่งอยู่ข้างหน้าขุยกางไล่ตามอยู่ข้างหลัง
เพราะความเร็วของทั้งคู่ห้างกันไม่มาก ร่างของขุยกางและลู่เสี้ยงหยางรักษาระยะห่างเอาไว้ที่10เมตรอยู่เสมอ
ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจออกมา ขอเพียงแค่เขามุ่งมั่นต่อไป ไม่มีทางที่ขุยกางจะไล่ตามเขาได้ทันแน่ ถึงตอนนั้นค่อยหาโอกาสสลัดขุยกางออกก็เป็นไปได้
ในขณะที่เขาตกอยู่ในความคิด ร่างของขุยกายเกิดแสงสีม่วงขึ้นมา
ภายใต้แสงสีม่วงห่อหุ้ม ความเร็วของขุยกางเพิ่มมากขึ้นกะทันหัน
เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ระยะห่างของขุยกางและลู่เสี้ยงหยางก็ทิ้งท้ายเพียงห้าเมตรเท่านั้น
บัดซบ!
ให้ตาย
ในชั่วพริบตา ลู่เสี้ยงหยางตกใจจนตับแตก