หนุ่มเศรษฐีลึกลับ – ตอนที่ 541

ตอนที่ 541

บทที่ 541 ดูหมิ่นห้าสำนักใหญ่

ฟังน้ำเสียงของจู๋หวิน ลู่เสี้ยงหยางรู้ได้ทันทีว่าเธอคงไม่ใช่คนของห้าสำนักใหญ่ ไม่เช่นนั้น เธอคงไมกล่าวดูหมิ่นห้าสำนักใหญ่ถึงขนาดนั้นหรอก

ในความเข้าใจของลู่เสี้ยงหยาง นอกจากสำนักใหญ่ทั้งห้า ก็มีแต่สำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโหยวที่เป็นสำนักมารที่ทุกคนกล่าวขาน

เพราะงั้นลู่เสี้ยงหยางจึงกล่าวถามอย่างใช้ความคิด “ถ้าอย่างนั้นคุณเป็นคนของสำนักกวางหมิงหรือสำนักจิ่วโหยว”

จู๋หวินยังคงส่ายหน้า “สำนักกวางหมิงกับสำนักจิ่วโหยวถือเป็นอะไรกัน? นายในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากกบในกะลา”

“…..”

ชายหนุ่มตกตะลึง ในใจเกิดคลื่นลมซัดกระหน่ำ

เขารู้สึกมาโดยตลอดในผืนแผ่นดินหวาเซี่ยที่กว้างใหญ่ไพศาล สำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโหยวเป็นผู้ครองเมือง คนที่เดินมาจากสถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น แต่ไม่คิดเลย ว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่แม้แต่จะแยแสด้วยซ้ำ

และเธอไม่ได้มาจากสำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงหรือสำนักจิ่วโหยว ที่เธอกลับมีความสามารถที่แข็งแกร่ง

นั่นก็พิสูจน์แล้วว่า ในหวาเซี่ยที่กว้างใหญ่ มีผู้ยิ่งใหญ่อีกมากที่สามารถเทียบชั้นสำนักใหญ่ทั้งห้าได้ หรือแม้แต่แข็งแกร่งกว่าสำนักใหญ่ทั้งห้า

เมื่อนึกได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางตกใจจนพูดไม่ออก หากความจริงเป็นอย่างนั้น คงเป็นอย่างที่หญิงงามได้ประเมินเขาไปก่อนหน้านี้ กบในกะลา

เธอจับจ้องสีหน้าที่นิ่งอึ้งไปของลู่เสี้ยงหยาง ก่อนกล่าวเสียงเรียบ “ความสามารถของนายในตอนนี้ ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้อะไรมากไปกว่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ นายต้องคิดหาวิธีล่อลวงเจ้าสำนักเทียนเหมินออกไป ฉันจะได้เปิดผนึก”

ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า “ผมเล่นเกมกับรองเจ้าสำนักเทียนเหมินมาสองวันแล้ว ชายหนุ่มพอจะคาดเดาความคิดของเขาได้อยู่บ้าง ในถ้ำที่เราอยู่ตอนนี้ เขาเพิ่งจะค้นหาไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงนี้เอง ในเวลาอันสั้นเขาคงจะไม่กลับมาอีก”

จู๋หวินพยักหน้า เธอเลือกที่จะเชื่อใจลู่เสี้ยงหยาง ก่อนหน้านี้ลู่เสี้ยงหยางพาเธอหนีรอดมาสองวันจริงๆ บางทีอาจจะมีโชคช่วยเหลือบ้าง แต่ที่มากที่สุดก็คือการวางแผน

ลู่เสี้ยงหยางมีความเชื่อมั่นถึงขนาดนั้น ถ้างั้นก็เชื่อเขาแล้วกัน

ไม่พูดพร่ำอีกต่อไป เธอหลับตาลง เริ่มเข้าสู่การเปิดผนึกอีกครั้ง

ลู่เสี้ยงหยางใจไม่ใหญ่พอเหมือนกับจู๋หวิน ที่ในสถานการณ์แบบนี้ยังจะฝึกวิชาได้ เขาคอยระวังตัวอยู่เสมอ เล่นเกมทายใจกับรองเจ้าสำนักเทียนเหมิน

มีเพียงแต่ต้องทายใจของรองเจ้าสำนักเทียนเหมินให้ได้ ภายในการหนีเอาชีวิตรอดหลายวันหลังจากนี้ เขาถึงจะได้เปรียบ

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ลู่เสี้ยงหยางคิดที่ในเวลานี้ไม่ดีนักหากจะอยู่แบบนี้ต่อไป เธอเรียกจู๋หวิน ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าสู่สนามรบ

ลู่เสี้ยงหยางและจู๋หวินจากไปไม่นาน ร่างของรองเจ้าสำนักเทียนเหมินก็มาเยือนในถ้ำ

หลายวันมานี้เองก็กำลังไตร่ตรอง ทำไมถึงได้ล่าตัวไอ้หมอนั่นกับอีนางนั่นไม่ได้เสียที ที่แท้มีคนเล่นเกมจิตวิทยากับเขานี่เอง

“ฮ่าฮ่า กล้ามากนะ ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่อันตรายที่สุดงั้นหรือ ถ้าอย่างั้นต่อจากนี้ฉันจะเดินทางตรงกันข้าม ต้องจับพวกแกสองคนได้แต่” รองเจ้าสำนักเทียนเหมินหัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ก่อนที่จะออกจากถ้ำอย่างเร่งรีบ

ทางด้านลู่เสี้ยงหยาง หลังจากที่เขาออกจากถ้ำ อันที่จริงไม่ได้ไปไกลนัก เขาซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาห่างจากถ้ำนี้หนึ่งกิโลเมตร ไม่นานเขาก็เห็นรองเจ้าสำนักเทียนเหมินเดินออกมา

รองเจ้าสำนักเทียนเหมินเหมือนว่าจะย้อนกลับไปทางเดิม คงจะค้นหาที่ที่พวกเขาเคยอยู่

ลู่เสี้ยงหยางรู้ดีว่ารองเจ้าสำนักเทียนเหมินคิดจะทำอะไร เพราะงั้นจึงหันไปกล่าวกับจู๋หวิน “ต่อจากนี้เราจะไปที่ที่ไม่เเคยไปก่อน มีแต่หลอกล่อแบบนี้ไปเรื่อยๆ รองเจ้าสำนักเทียนเหมินถึงจะจับทางเราไม่ถูก”

จู๋หวินกล่าว “เอาตามที่นายว่าเลย”

ใบหน้าของเธอมีสีสันขึ้นมาบ้าง ในขณะที่กล่าวประโยคนั้น เธอเริ่มมีความชื่นชมต่อลู่เสี้ยงหยางขึ้นมาบ้างแล้ว

แม้ว่าความสามารถของลู่เสี้ยงหยางจะอยู่ในระดับหนึ่ง แต่เขามีไหวพริบชาญฉลาด แม้แต่คนอย่างรองเจ้าสำนักเทียนเหมินเองก็เองเขาหลอกล่อให้วุ่น

คนแบบนี้ในอนาคตหากได้กลายเป็นยอดฝีมือละก็ จะต้องเป็นการมีอยู่ที่ทำให้ศัตรูต้องปวดเศียรแน่นอน

มีความสามารถแถมยังมีหัวสมองที่ดี คนแบบนี้น่ากลัวที่สุด แทบจะไร้จุดอ่อนเลย

ลู่เสี้ยหยางไม่มีกะจิตกะใจในการสังเกตความนึกความอ่านของจู๋หวิน ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่แผนการที่จะรับมือกับรองเจ้าสำนักเทียนเหมิน

เขาพาจู๋หวินเดินผ่านกลางป่า เมื่อถึงสถานที่ที่เหมาะสมจึงหยุดพักผ่อน

เวลาผ่านไป พริบตาหมดไปหนึ่งวัน

ในตอนนี้ ท้องฟ้าประดับไปด้วยดวงดาว และจันทราที่แขวนอยู่

ลู่เสี้ยวหยางใช้กิ่งไม้และใบไม้ในการตั้งเป็นแคมป์เพื่อกำบังกาย ลู่เสี้ยงหยางเหลือบมองจู๋หวิน ทันใดนั้นหัวใจของเขาเต้นระรัวไปชั่วครู่ ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามเหลือเกิน

นอกเสียจากเธอมีโฉมหน้าที่งดงามแล้ว แถมยังมีความสง่าราวกับจักรพรรดิหญิงอีกต่างหาก ทำให้เขาตกเข้าไปอยู่ในเสน่ห์อันน่าหลงใหลของเธอ

ในระหว่างนี้ จู๋หวินเองก็เหลือบมองลู่เสี้ยงหยางอยู่หลายต่อหลายครั้ง กล่าวอย่างเรียบเฉย “อายุแค่นี้กลับฝึกวิชาคู่ ถือว่าไม่ธรรมดาเลย”

เป็นครั้งแรกที่เธอกล่าวชื่นชมลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกไม่ค่อยชินนัก พลันส่ายหน้า “อันที่จริงผมก็คลำไปเรื่อย โชว์ความอับอายต่อหน้าท่านผู้อาวุโส”

จู๋หวินขมวดคิ้วแน่น “คลำไปเรื่อยแต่มาถึงจุดจุดนี้ได้ ฉันบอกได้แค่ว่านายมันอัจฉริยะ”

ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะอย่างประหม่า

จู๋หวินนึกอะไรออก จึงกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง “นายเป็นศิษย์สำนักอะไรล่ะ?”

ตามรากแก่นแล้ว ลู่เสี้ยงหยางถือเป็นศิษย์ของสำนักจิ่วโหยว แต่เขาไม่กล้าพูดความจริงกับจู๋หวิน จึงกล่าว “ผมไม่มีสำนัก เมื่อสักครู่ผมก็บอกไปแล้ว ผมแค่คลำไปเรื่อย”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น จู๋หวินไม่พูดอะไรอีก แต่ในดวงตาของเธอกลับเผยความแตกต่างออกไป

ลู่เสี้ยงหยางอ้าปากค้างจะพูดอะไรต่อ แต่ท้องกลับร้องด้วยความหิวโหย หลายวันมานี้มัวแต่หนีเอาชีวิตรอดไม่ได้ทานอะไรอย่างจริงจัง ทุกวันมีแต่ผลไม้เท่านั้นที่ประทังชีวิตเขาเอาไว้

ตอนนี้เขาอยู่ในความปลอดภัยมากกว่าแต่เดิม เขาจึงคิดที่จะออกไปล่าสัตว์สักหน่อย

ลู่เสี้ยงหยางบอกกล่าวแก่จู๋หวิน ก่อนที่จะออกไปจากแคมป์

จู๋หวินไร้ปฏิกิริยาใดๆ เธอจ้องมองแผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยางที่ไกลลับตาออกไป ด้วยความกังวลที่ฉาอยู่ในแววตา

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ลู่เสี้ยงหยางก็กลับมายังแคมป์ พร้อมกับกระต่ายหลายตัวที่อยู่ในมือ

ทีแรกคิดที่จะใช้ไฟย่างกระต่ายซะ แต่ลู่เสี้ยงหยางคำนึงถึงตอนนี้เขาอยู่กลางแจ้งไม่สามารถจุดไฟได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกรองเจ้าสำนักเทียนเหมินพบตัวเป็นแน่

ลู่เสี้ยงหยางพาจู๋หวินเปลี่ยนสถานที่พำนักอย่างที่ไหวพริบ เมื่อสักครู่ที่เขาล่ากระต่ายได้พบกับถ้ำหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างลับตา อยู่ใต้น้ำตก ปากถ้ำถูกแม่น้ำปกปิดเอาไว้ เขาและจู๋หวินเข้าไปซ่อนตัวในนั้น รองเจ้าสำนักเทียนเหมินไม่มีทางหาเจอแน่

เมื่อเข้ามายังถ้ำ ลู่เสี้ยงหยางไม่สามารถทนรอต่อไปได้ที่จะย่างกระต่ายในทันที

แต่ในเวลานี้เอง ในป่าไกลออกไปแล่นผ่านมาด้วยเสียงคำรามของสัตว์ป่า

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกได้ถึงอัตราย จึงยื่นกระต่ายให้กับจู๋หวิน เพื่อให้เธอย่างต่อไป ส่วนตัวเขาออกไปดูนอกถ้ำ

สัตว์ป่าค่อนข้างต่อต้านไฟ เขาไม่มสามารถให้สัตว์ป่าอยู่ตรงนี้นานได้ ต้องหาวิธีล่อมันออกไป

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ บ้างส่วนของนิยาย

บทนำ ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศ อดสู่การเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

เมืองปินเหอ ภายในคฤหาสน์หรูหรา

ลู่เสี้ยงหยางกำลังล้างมือ ชโลมน้ำมันนวดไปทั่วมือ

บนโซฟามีสาวงามรุ่นใหญ่คนหนึ่งกับสาวน้อยสองคนนอนอยู่

สาวงามรุ่นใหญ่คือหลิวจิ้งแม่ยายของลู่เสี้ยงหยาง ถึงแม้จะอายุได้ 30กว่าปีแล้ว แต่กลับดูผ่อนคลาย ราวกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทรวดทรงก็ผอมเพรียว

สาวน้อยผู้งดงามอีกสองคนคือเย่สวนภรรยาของลู่เสี้ยงหยางและไป๋สู้สู้เพื่อนสนิทของเธอ

“ไอ้ขยะ นานขนาดนี้แล้ว ยังเตรียมไม่เสร็จอีกหรอ?” ในเวลานี้เย่สวนพูดเร่งลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่อดทน

ลู่เสี้ยงหยางตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรนแผ่วเบา “เสร็จแล้วเสร็จแล้ว”

วิ่งถือผ้าขนหนูมายืนข้างเย่สวน

เย่สวนสวมชุดอยู่บ้าน นอนอยู่บนโซฟา สัดส่วนเว้าโค้งงามชดช้อย

ลู่เสี้ยงหยางเริ่มลงมือนวดให้เย่สวนอย่างชำนาญ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ่นของเย่สวนเซ็กซี่มากเหลือเกิน

อึก!

เสียงลู่เสี้ยงหยางกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

ไป๋สู้สู้เห็นลู่เสี้ยงหยางว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา “สวนจื่อ ผู้ชายของเธอชำนาญน่าดูเลยนะ แต่สายตาของเขาดูไม่จริงใจเท่าไหร่ แอบมองฉันหลายครั้งแล้ว!”

เย่สวนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คางคกอยากกินเนื้อหงส์ ขยะอย่างเขามานวดให้ฉัน ฉันยังรังเกียจมือสกปรกของเขาเลย”

ลู่เสี้ยงหยางก้มหัวลง ไม่กล้าพูดอะไร

เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ แต่งเข้าบ้านนี้มาสามปี ไม่มีใครในตระกูลเย่มองเขาเป็นคน ใช้ชีวิตอยู่ไม่ต่างกับสุนัขตัวหนึ่ง

แต่โชคชะตาก็ยังเล่นตลกกับเขา ยามเขาถูกคนในตระกูลเย่รังแก คนเหล่านั้นล้วนเป็นสาวงามทั้งสิ้น

“ผลั่ก!” คิ้วของเย่สวนก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยทันที ดูเหมือนว่าลู่เสี้ยงหยางจะใช้แรงเยอะเกินไป ไม่พูดไม่จา คำพูดทั้งหมดถูกใส่ลงบนหน้าของลู่เสี้ยงหยาง

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของลู่เสี้ยงหยางถูกทิ้งรอยฝ่ามือแดงก่ำไว้

“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ ถ้ากล้าทำให้ฉันเจ็บอีกครั้งเดียว ฉันทุบหน้านายเละแน่” เย่สวนจ้องตาเขม็งอย่างคุกคาม

ลู่เสี้ยงหยาง รีบร้อนขอโทษขอโพย เบาน้ำหนักมือลง

ไม่นาน หลังนวดให้เย่สวนเสร็จ เขาก็เริ่มนวดให้แม่ยายหลิวจิ้ง

ปัก!

หลิวจิ้งง้างมือขึ้นฝากรอยไว้บนหน้าอีกข้างของลู่เสี้ยงหยาง

“ไอ้เศษสวะ ไม่รู้จักการใช้ใจหน่อยรึไง?” หลิวจิ้งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ ชี้หน้าถามลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางไม่กล้าตอบกลับ ถัดจากนั้น เมื่อนวดให้หลิวจิ้งเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางก็เข้าไปซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดูจึงเห็นว่าเป็นแม่ของเขาโทรมาหา

ตั้งแต่เขาแต่งงานเข้ามา แม่ก็โทรหาเขาน้อยมาก เพราะกลัวจะถูกปฏิเสธและเป็นตัวถ่วง ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ในตอนนี้อยู่ๆกลับติดต่อมา

เขาเครียดนิดหน่อย คงไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?

ลู่เสี้ยงหยางรีบกดรับสาย ไม่รอเขาพูดก่อน น้ำเสียงตื่นเต้นของแม่ก็เอ่ยขึ้น “ลูกแม่ ลุงของลูกเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อของลูกออกมาจากคุกแล้ว ตอนนี้ได้สานต่อกิจการทั้งหมดของตระกูลลู่ อีกหน่อยลูกไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากแล้ว พ่อให้เงินลูกหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย จากนี้อยากใช้เงินยังไงก็ใช้ได้เลย”

พอได้ฟัง ภายในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็ส่งเสียงพึมพำ

ต่อจากนั้นเสียงของแม่ก็ไม่อาจฟังได้ชัดเจน ในสมองมีเพียงคำว่า “หนึ่งพันล้าน” ลอยไปลอยมา

น้ำตาเขาเริ่มคลอ หลังจากนั้นพักใหญ่ ถึงเช็ดน้ำออกจากตา

วันนี้ นานเกินไปแล้ว นานจนเมื่อมันมาถึงจริงๆ เขากลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

เดิมทีเขาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลลู่ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆในเมืองหลวง พ่อของเขาพ่ายแพ้ให้กับลุงในการแย่งชิงตำแหน่งทายาทในตระกูล สุดท้ายถูกคุมขัง แม่ของเขาก็ถูกขับไล่ออกจากบ้าน

ลิ้มลองสีหน้าของคนอื่น เนื่องจากอำนาจของลุง ทำให้เขาหางานที่มั่นคงทำไม่ได้สักงาน

แม้กระทั่งตอนนี้ แม่ของเขาก็ยังอยู่ในห้องใต้ดินเล็กๆ เพียงเพื่อให้เขาได้แต่งเข้าสำเร็จ ให้เขาได้มีที่ซุกหัวนอนหลบลมฝน

ในวันนี้พ่อของเขาได้รับการปล่อยตัว กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลลู่ ในที่สุดเขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ ยืดเส้นยืดสายได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า สองสามปีมานี้ ฉันต้องได้รับความยุติธรรม!” ลู่เสี้ยงหยางสาบานในใจเงียบๆ ในขณะเดียวกัน สามคนในห้องรับแขกกำลังพูดคุยกัน ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลู่เสี้ยงหยาง

ไป๋สู้สู้ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยขึ้น “สวนจื่อ บริษัทของเธอเกิดเรื่อง สายเงินทุนถูกทำลาย เรื่องนี้อาจมีทางหนีทีไล่ที่วนเวียนอยู่นะ”

“เอ๋ จริงหรอ?” เย่สวนตาเป็นประกาย เติมเต็มการรอคอยเธอได้ สายเงินทุนในบริษัทของเธอแย่ลงมาเดือนกว่าแล้ว เงินเดือนของพนักงานไม่สามารถออกให้ได้ ทุกวันนี้แทบจะล้มละลาย

“คืออย่างนี้ แฟนของฉันไม่ใช่ทำงานอยู่ที่หย่งหยวนกรุ๊ปหรอ? เขากับประธานจางเจ้าของหย่งหยวนกรุ๊ปมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พูดคุยสถานการณ์บริษัทของเธอให้เขาฟัง ประธานจางตกลงที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้กล่าว

“อะไรนะ? นี่…นี่เป็นเรื่องจริงหรอ?” เย่สวนร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ

หย่งหยวนกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปินเหอ ว่ากันว่าเจ้าของจางติ่งเทียนมีมูลค่าเกือบหนึ่งพันล้าน หากเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเงินทุนให้บริษัทของเย่สวน งั้นบริษัทของเย่สวนก็กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

“เป็นเรื่องจริงแน่นอนสิ พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด ฉันจะโกหกเธอได้ยังไงล่ะ” ไป๋สู้สู้พูดพร้อมยิ้มให้ แต่ในใจกลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ประธานจางจะช่วยเย่สวนฟรีๆได้ยังไง เงื่อนไขของประธานจางคือให้เย่สวนไปนอนกับเขาหนึ่งคืน

แต่เงื่อนไขนี้ไป๋สู้สู้ไม่ได้พูดออกไป

ช่วงนี้แฟนของเธอก็มีปัญหากวนใจที่บริษัท จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงแบบเย่สวนเข้าหากับประธานจาง ถึงได้ให้ไป๋สู้สู้มาหลอกล่อเย่สวน

“งั้นตกลง ฉันจะไปเจอประธานจาง” เย่สวนตอบตกลงทันที

“อืม งั้นฉันให้แฟนฉันเอาคำพูดของเธอไปบอกประธานจาง ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร พรุ่งนี้ประธานจางก็จะมาเจอเธอ อย่างช้าสุดมะรืนนี้เงินทุนสนับสนุนก็จะไปถึงบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้บอก

ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกพอดีก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ เดินไปสองสามก้าว ก็ถึงข้างกายเย่สวน พูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณต้องการความช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องไปขอร้องคนอื่น ตอนนี้คุณขาดเงินไม่ใช่หรอ ผมสามารถหาวิธีช่วยคุณได้…”

“คิกคิกคิก…”เขายังไม่ทันพูดจบ ไป๋สู้สู้ก็หัวเราะขึ้นมา มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น “ให้พึ่งนาย? ทั้งเนื้อทั้งตัวนายตอนนี้มีเงินถึง100ไหม? เหมือนตัวตลกเสียจริง ไปเอาความกล้าจากไหนมาคุยโม้ขนาดนี้?”

ใบหน้าสวยงามของเย่สวนก้มลงต่ำ พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น “นายกล้าดียังไงจะมาช่วยฉัน? ไสหัวไป เห็นหน้านายแล้วจะอ้วก”

คิ้วของหลิวจิ้งขมวดเป็นเส้นตรง ง้างมือขึ้นเตรียมจะฝากรอยไว้ที่หน้าของลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง

แต่ลู่เสี้ยงหยางไม่ขยับหนี พูดอย่างสงบว่า “ผมช่วยคุณได้จริงๆ”

ไป๋สู้สู้หัวเราะจนน้ำตาไหล มองลู่เสี้ยงหยางเหมือนกับมองคนโง่เง่า เอื้อมมือชี้ไปที่หน้าอกเขา แล้วพูดทีล่ะคำ “บริษัทของสวนจื่อต้องใช้เงินทุนอย่างน้อย10ล้านหยวนถึงรอดตาย 10ล้านหยวน! ขยะอย่างนายชั่วชีวิตนี้สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ไหม? ใครให้นายมาเสนอหน้าพูดวางท่าที่นี่”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มตอบ “ก็แค่10ล้านไม่ใช่หรอ?”

“โอ้โห น้ำเสียงโอหัง ก็แค่10ล้าน? ขยะอย่างนายหามาได้สักแสนนึง ฉันไป๋สู้สู้ยอมให้นายออกคำสั่งเลย!” ไป๋สู้สู้หัวเราะขึ้นมาอย่างดูถูก


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท